1 / 22

บทที่ 4 ทฤษฎีพฤติกรรมผู้บริโภค (Theory of Consumer Behavior)

บทที่ 4 ทฤษฎีพฤติกรรมผู้บริโภค (Theory of Consumer Behavior). ทฤษฎีอธิบายพฤติกรรมผู้บริโภค. ทฤษฎีอรรถประโยชน์ (Utility Theory) เป็นทฤษฎีที่ถือว่าความพอใจของผู้บริโภคสามารถวัดได้ ถือเป็น Cardinal Theory. ทฤษฎีเส้นความพอใจเท่ากัน (Indifference Curve Theory)

Thomas
Download Presentation

บทที่ 4 ทฤษฎีพฤติกรรมผู้บริโภค (Theory of Consumer Behavior)

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. บทที่ 4 ทฤษฎีพฤติกรรมผู้บริโภค(Theory of Consumer Behavior)

  2. ทฤษฎีอธิบายพฤติกรรมผู้บริโภคทฤษฎีอธิบายพฤติกรรมผู้บริโภค • ทฤษฎีอรรถประโยชน์ (Utility Theory) เป็นทฤษฎีที่ถือว่าความพอใจของผู้บริโภคสามารถวัดได้ ถือเป็น Cardinal Theory • ทฤษฎีเส้นความพอใจเท่ากัน (Indifference Curve Theory) • เป็นทฤษฎีที่ถือว่าความพอใจของผู้บริโภคไม่สามารถวัดได้ จะบอกได้เพียงว่ามีความพอใจมากกว่าหรือน้อยกว่า ถือเป็น Ordinary Theory

  3. ทฤษฎีอรรถประโยชน์ • อรรถประโยชน์ (Utility) : ความพอใจที่ผู้บริโภคได้รับจากการอุปโภคบริโภคสินค้าและบริการ • ความพอใจที่ได้รับจากการบริโภคสินค้าและบริการสามารถวัดเป็นหน่วยได้เรียกว่า util • เศรษฐทรัพย์ (Economic goods) ทุกชนิดย่อมมีอรรถประโยชน์ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการในสินค้า • สินค้าชนิดเดียวกันจำนวนเท่ากันอาจให้ประโยชน์ต่างกันได้ กรณีเวลาต่างกัน หรือผู้บริโภคต่างกัน

  4. ความหมายของอรรถประโยชน์เพิ่ม(MU)และอรรถประโยชน์รวม (TU) • อรรถประโยชน์เพิ่ม (Marginal Utility :MU) ความพอใจที่ผู้บริโภคได้รับเพิ่มขึ้นจากการบริโภคสินค้าเพิ่มขึ้น 1 หน่วย • อรรถประโยชน์รวม(Total Utility : TU) ผลรวมของอรรถประโยชน์ส่วนเพิ่ม (MU) ที่ผู้บริโภคได้รับจากการบริโภคสินค้า ตั้งแต่หน่วยแรกจนถึงหน่วยที่กำลังพิจารณา TU = MUi MUn = TUn – TUn-1 N i=1

  5. ความสัมพันธ์ระหว่าง TU และ MU

  6. Relationship of Total and Marginal Utility (continued) • MU > 0 , TU • MU = 0 , max TU • MU < 0 , TU • กฏการลดน้อยลงอรรถประโยชน์ส่วนเพิ่ม • เมื่อผู้บริโภคได้รับสินค้าหรือบริการเพิ่มขึ้นๆที่ละหน่วยอรรถประโยชน์ ส่วนเพิ่มของสินค้าและบริการหน่วยที่เพิ่มนั้นจะลดลงตามลำดับ

  7. ดุลยภาพของผู้บริโภค (Consumer Equilibrium) • เป็นการพิจารณาว่าผู้บริโภคจะใช้จ่ายเงินรายได้ที่มีอยู่จำกัดในการซื้อสินค้าและบริการชนิดต่างๆ อย่างไร จึงจะได้รับความพอใจสูงสุด (Maximize Utility)

  8. ดุลยภาพผู้บริโภค • กรณีที่ผู้บริโภคมีรายได้ไม่จำกัด และสินค้าทุกชนิดมีราคาเท่ากัน max TU เมื่อ MUa = MUb = ………= 0 • กรณีที่ผู้บริโภคมีรายได้จำกัดและสินค้าทุกชนิดราคาเท่ากัน max TU เมื่อ MUa = MUb = ……… = MUn = k • กรณีที่ผู้บริโภคมีรายได้จำกัดและสินค้าทุกชนิดราคาไม่เท่ากัน max TU เมื่อ MUa/Pa = MUb/Pb = ……… = MUn / Pn = k

  9. เงื่อนไขการบริโภคที่เหมาะสมที่สุดภายใต้รายได้จำกัดเงื่อนไขการบริโภคที่เหมาะสมที่สุดภายใต้รายได้จำกัด MU , TU Mub Mua Q3 Q2 Q1 Q3 Q2 Q1 0 สัดส่วนการบริโภคสินค้า a จำนวน Q1หน่วย และ b จำนวน Q1 หน่วย ดีที่สุด เงื่อนไขนี้คือ Mua = Mub

  10. ข้อโต้แย้งทฤษฎีอรรถประโยชน์ข้อโต้แย้งทฤษฎีอรรถประโยชน์ • ในการซื้อสินค้าและบริการผู้บริโภคไม่ได้สนใจถึง MU ของสินค้าแต่ละชนิด ทำให้ไม่เกิดดุลยภาพ • ผู้บริโภคมักซื้อสินค้าตามความเคยชิน ไม่ได้คำนึงถึง MU • ความพอใจของผู้บริโภคไม่สามารถวัดเป็นหน่วยได้

  11. ทฤษฎีเส้นความพอใจเท่ากัน(Indifference Curve Theory) • เส้นความพอใจเท่ากัน (เส้นIC ) คือ • เส้นที่แสดงสัดส่วนของสินค้าสองชนิดที่แตกต่างกันแต่ให้ความพอใจแก่ผู้บริโภคเท่ากัน

  12. แผนภาพเส้นความพอใจเท่ากันแผนภาพเส้นความพอใจเท่ากัน • เส้น IC ของผู้บริโภคคนหนึ่งๆ มีได้หลายเส้นเพราะความพอใจของผู้บริโภคมีหลายระดับ โดยเส้นที่อยู่เหนือกว่าย่อมให้ความพอใจมากกว่า IC3 > IC2 > IC1

  13. คุณสมบัติของเส้นความพอใจเท่ากันคุณสมบัติของเส้นความพอใจเท่ากัน • เป็นเส้นโค้งทอดลงจากซ้ายมาขวา • เป็นเส้นโค้งเว้าเข้าหาจุดกำเนิด (origin) • เส้นความพอใจเท่ากันตัดกันไม่ได้ • เป็นเส้นที่ต่อเนื่องไม่ขาดตอน

  14. อัตราส่วนเพิ่มของการทดแทนกันของสินค้า 2 ชนิด(Marginal Rate of Substitution : MRS) • MRS: การลดลงของสินค้าชนิดหนึ่ง เมื่อผู้บริโภคได้รับสินค้าอีกชนิดหนึ่งเพิ่มขึ้นหนึ่งหน่วย โดยรักษาระดับความพอใจให้คงเดิม • สมมุติให้ x และ y เป็นสินค้า 2 ชนิดนั้น ถ้าผู้บริโภคได้รับสินค้า x เพิ่มขึ้น 1 หน่วย โดยได้รับสินค้า y ลดลง ค่าMRSxy = -dY/dX คือค่า slope ของเส้น IC • ถ้าผู้บริโภคได้รับสินค้า y เพิ่มขึ้น 1 หน่วย โดยบริโภคสินค้า x ลดลง ค่า MRSyx= -dX/dY

  15. กฎการลดน้อยถอยลงของอัตราส่วนเพิ่มของการทดแทนกันของสินค้า 2 ชนิด(Law of Diminishing Marginal Rate of Substitution) • เมื่อผู้บริโภคได้รับสินค้าชนิดใดชนิดหนึ่งเพิ่มขึ้นที่ละหน่วย (สินค้า x) ค่า MRSxy จะมีค่าลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากสินค้าทั้งสองชนิดทดแทนกันได้ไม่สมบูรณ์ ซึ่งเป็นเหตุผลที่อธิบายว่าทำไมเส้น IC จึงโค้งเข้าหาจุดกำเนิด

  16. 1. กรณี 2 ชนิดทดแทนกันได้สมบูรณ์ 2. สินค้า 2 ชนิดใช้ประกอบกัน y y IC IC 0 x 0 x ค่า MRSx = ∞ในช่วง IC ตั้งฉาก ค่า MRSx = 0 ในช่วง IC ขนานกับ แกนนอน ค่า MRSxy , MRSyxมีค่าคงที่ตลอดทั้งเส้น ข้อยกเว้น

  17. เส้นงบประมาณ (Budget Line) • เส้นงบประมาณ (Budget Line) : เส้นที่แสดงให้เห็นถึงจำนวนต่างๆของสินค้า 2 ชนิด ซึ่งสามารถซื้อได้ด้วยเงินจำนวนหนึ่งที่กำหนดให้ ณ ราคาตลาดขณะนั้น สินค้า y เส้นงบประมาณ slope = -Px/Py สินค้า x 0

  18. การเปลี่ยนแปลงเส้นงบประมาณการเปลี่ยนแปลงเส้นงบประมาณ y 1. รายได้เปลี่ยน , ราคาสินค้า x และ y คงที่ x 0 2. รายได้คงที่ , ราคาเปลี่ยน 2.2 รายได้คงที่ , ราคาสินค้า y เปลี่ยน , ราคา x คงที่ 2.1 รายได้คงที่ , ราคาสินค้า x เปลี่ยน , ราคา y คงที่ y y x x 0 0

  19. ดุลยภาพของผู้บริโภค • ดุลยภาพของผู้บริโภคจะเกิดขึ้นเมื่อผู้บริโภคใช้เงินที่มีอยู่จำกัดซื้อสินค้า 2 ชนิด โดยทำให้เขาได้รับความพอใจสูงสุด

  20. การเปลี่ยนแปลงภาวะดุลยภาพการเปลี่ยนแปลงภาวะดุลยภาพ • ดุลยภาพเปลี่ยนแปลงเมื่อรายได้ที่แท้จริงเปลี่ยน

  21. การเปลี่ยนแปลงภาวะดุลยภาพการเปลี่ยนแปลงภาวะดุลยภาพ • ดุลยภาพเปลี่ยนแปลงเมื่อราคาสินค้าชนิดหนึ่งเปลี่ยน อีกชนิดหนึ่งคงที่

  22. การสร้างเส้นอุปสงค์จากการวิเคราะห์เส้น IC • Price demand : See page 79, 81 • Income demand : See page page 81 • Substitution Effect and Income Effect • See page 82-84

More Related