1 / 23

การปรับปรุงการมัธยมศึกษา

การปรับปรุงการมัธยมศึกษา. สำหรับประกอบการทำแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10 26 ตุลาคม 2549 กรุงเทพ. ภาพรวม การเข้าเรียนและความเท่าเทียม คุณภาพ ประสิทธิภาพ ประเด็นความท้าทายในยุคต่อไป. ภาพรวม. บทบาทของการมัธยมศึกษา.

maris
Download Presentation

การปรับปรุงการมัธยมศึกษา

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การปรับปรุงการมัธยมศึกษาการปรับปรุงการมัธยมศึกษา สำหรับประกอบการทำแผนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 10 26 ตุลาคม 2549 กรุงเทพ

  2. ภาพรวม • การเข้าเรียนและความเท่าเทียม • คุณภาพ • ประสิทธิภาพ • ประเด็นความท้าทายในยุคต่อไป

  3. ภาพรวม บทบาทของการมัธยมศึกษา • เป็นตัวเชื่อมโยงการศึกษาขั้นพื้นฐาน การอุดมศึกษา และตลาดแรงงาน • เป็นเครื่องมือหลักในการลดความยากจนในประเทศไทย ซึ่งนำไปสู่ความเท่าเทียมกันทางด้านรายได้ที่ดีขึ้น รวมถึงความเสมอภาคทางด้านสังคม • นำไปสู่ผลตอบแทนทางสังคมที่สูงขึ้น (เช่น ด้านสุขภาพ) • นำไปสู่ผลตอบแทนสาธารณะที่ไม่ใช่การตลาด (เช่น อัตราการใช้สิทธิ ความข้องเกี่ยวกับอาชญากรรม)

  4. ภาพรวม ภูมิหลังของการศึกษาในประเทศไทย • พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542 “สิทธิเท่าเทียมกันในการได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีคุณภาพ 12 ปีโดยไม่มีค่าใช้จ่าย” • การปฏิรูปที่สำคัญในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง • การปฏิรูปด้านการเรียน  ให้ผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง หลักสูตร • การปฏิรูปครู  การอบรมครู, มาตรฐานระดับวิชาชีพ • การประกันคุณภาพการศึกษา  กลไกการควบคุมคุณภาพภายในและภายนอก • รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 • ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีส่วนร่วมทางด้านการศึกษา

  5. ภาพรวม รูปแบบการเปลี่ยนแปลงของการศึกษาไทย

  6. การเข้าเรียน จำนวนปีการศึกษาที่จบ • จำนวนปีการศึกษาที่จบโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะเวลาที่ผ่านมา • สำหรับประชากรอายุ 15-21 จำนวนปีการศึกษาที่จบโดยเฉลี่ยคือประมาณ 10 ปี แสดงให้เห็นถึงการจัดการศึกษาภาคบังคับที่ประสบความสำเร็จ

  7. การเข้าเรียน จำนวนปีการศึกษาที่จบ • 95 % ของจำนวนประชากรอายุ 16-19 ปีสำเร็จการศึกษาระดับประถมศึกษา และ80% สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาในปี 2545 • ในปี 2537 มีเพียง 50 % ของประชากรอายุ 16-19 ปี ที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษา • การเรียนซ้ำชั้นมีไม่มากนัก (1-2 %) และการออกกลางคันมักเกิดในช่วงต่อของช่วงชั้นเรียน

  8. การเข้าเรียน ความเสมอภาคของชายและหญิง • ช่องว่างระหว่างชายและหญิงมีมากขึ้น โดยนักเรียนหญิงจะได้ประโยชน์มากกว่า • ในปี 2537 อัตราการเข้าเรียนสุทธิสำหรับนักเรียนหญิงอยู่ที่ 63 % และนักเรียนชายอยู่ที่ 61 % • ในปี 2545 อัตราการเข้าเรียนสุทธิสำหรับนักเรียนหญิงอยู่ที่ 72 % และนักเรียนชายอยู่ที่ 64 %

  9. การเข้าเรียน ความเท่าเทียมระหว่างชุมชนเมืองและชนบท • อัตราการมีส่วนร่วมในการมัธยมศึกษาครอบคลุมถึงพื้นที่ชนบท • ช่องว่างระหว่างชุมชนเมืองและชนบทในการสำเร็จการศึกษาลดลงจาก 25 % ในปี 2537 เหลือเพียง 8 % ในปี 2545

  10. การเข้าเรียน อัตราการเข้าเรียนโดยรวม: การเปรียบเทียบระดับสากล

  11. การเข้าเรียน การเข้าถึงกลุ่มที่ยังไม่ได้รับการศึกษา • ข้อมูลของเด็กที่ไม่ได้อยู่ในระบบโรงเรียนมีอยู่จำกัด • ผู้อพยพ เด็กด้อยโอกาส และชนกลุ่มน้อยไม่ได้ถูกรวมอยู่ในกลุ่มผู้ได้รับการศึกษาระดับมัธยมศึกษา • ในปี 2547 มีเด็กด้อยโอกาสจำนวน 175000 คนที่เข้าเรียนในระดับก่อนชั้นประถมศึกษาถึงชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (1.27 % ของประชากรอายุ 3-17 ปี) • อุปสรรคสำคัญในการออกจากการศึกษาของนักเรียนคือข้อจำกัดด้านการเงิน

  12. คุณภาพ การวัดคุณภาพโดยเปรียบเทียบ… • จากการเปรียบเทียบในระดับสากล ประเทศไทยยังคงตามหลังญี่ปุ่น ฮ่องกง และเกาหลีอย่างมาก • แต่ถ้าเปรียบเทียบกับประเทศรายได้ปานกลางขั้นต่ำอื่น ๆ ประเทศไทยมีคุณภาพการศึกษาที่ดีกว่าทั้งในด้านคะแนนและการกระจายของความรู้ทั่วประเทศ • อย่างไรก็ตาม มีเด็กไทยจำนวนน้อยมากที่ได้คะแนนอยู่ในกลุ่มความสามารถระดับสูง (เช่น มีนักเรียนประมาณ 40 % อยู่ที่ระดับหนึ่งหรือต่ำกว่าในโครงการประเมินนักเรียนระหว่างประเทศ (PISA) และนักเรียนมากกว่า 50 % ทำคะแนนทางคณิตศาสตร์อยู่ในระดับหนึ่งหรือต่ำกว่าในโครงการประเมินเดียวกัน

  13. คุณภาพ ประจัยที่มีผลกระทบต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ครูผู้สอน • 87 % ของครูโรงเรียนระดับมัธยมของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจบการศึกษาระดับปริญญาตรี • ความมั่นใจของครูที่สูงขึ้นมีความสัมพันธ์กับคะแนนที่ดีขึ้นของนักเรียน(TIMSS 2542) … 55%ของนักเรียนเรียนกับครูที่รู้สึกว่าตนเองเตรียมการสอนไม่เพียงพอในวิชาคณิตศาสตร์ และ58%สำหรับวิชาวิทยาศาสตร์ • รูปแบบการเรียนการสอนแบบครูสอนหน้าชั้น นักเรียนมีโอกาสจำกัดในการประยุกต์ความรู้สู่สถานการณ์ใหม่ๆ หรือการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในระหว่างวันเรียน

  14. คุณภาพ ประจัยที่มีผลกระทบต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน โรงเรียน • จำนวนนักเรียนต่อห้องในเอเชียมีแนวโน้มที่ใหญ่ แต่ดูเหมือนจะไม่มีผลกระทบด้านลบต่อคะแนนของนักเรียนในประเทศไทย • อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนนักเรียนต่อห้องและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก็เป็นสิ่งที่อธิบายได้ยาก • คุณภาพของอุปกรณ์การศึกษาของโรงเรียนอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับค่าเฉลี่ยของประเทศในกลุ่มองค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) แต่ความเพียงพอของอุปกรณ์กลับต่ำกว่ามาก (-0.82) รวมทั้งยังไม่สามารถกระจายได้อย่างทั่วถึงอีกด้วย • มีจำนวนนักเรียนไม่ถึง 40 % ที่มีเครื่องคิดเลขใช้

  15. คุณภาพ ประจัยที่มีผลกระทบต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ครอบครัวและตัวเด็กนักเรียนเอง • การกระจายของความรู้ระหว่างกลุ่มผู้มีรายได้ต่าง ๆ มีความเท่าเทียมกัน • สถานะทางเศรษฐกิจและสังคมไม่มีผลต่อความต้องการของนักเรียนในการศึกษาต่อระดับอุดมศึกษา • ครอบครัวที่มีรายได้สูงกว่ายินดีที่จะจ่ายเงินเพื่อสนับสนุนการศึกษาของบุตรหลานมากกว่า (กลุ่มผู้มีรายได้สูงสุด – 7878 บาท เทียบกับ กลุ่มผู้มีรายได้ต่ำสุด – 840 บาทต่อปี)

  16. ประสิทธิภาพ งบประมาณทางการศึกษา • รัฐบาลจัดสรรงบประมาณทางการศึกษาคิดเป็น 20 % ของงบประมาณทั้งหมด (4 % ของGDP) • การมัธยมศึกษาได้รับ 28 % ของงบประมาณทางการศึกษาทั้งหมด (1.13 % ของ GDP)

  17. ประสิทธิภาพ งบประมาณทางการศึกษาต่อกลุ่มรายได้ต่างๆ • งบประมาณได้ถูกจัดสรรให้กลุ่มผู้มีรายได้ต่ำสุดในระดับประถมศึกษา • การกระจายทรัพยากรสำหรับระดับการมัธยมศึกษาในกลุ่มรายได้ทั้ง 5 กลุ่มค่อนข้างเท่าเทียกัน • งบประมาณค่าใช้จ่ายสำหรับการอุดมศึกษาเป็นไปในทางตรงข้าม

  18. ประสิทธิภาพ งบประมาณรัฐทางด้านการมัธยมศึกษา • โดยเปรียบเทียบแล้ว ประเทศไทยใช้จ่ายด้านการมัธยมศึกษาต่ำกว่าที่ควร (1.13 % ของ GDP): • ประเทศในกลุ่มองค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ มีงบประมาณทางด้านมัธยมศึกษา 2.1 % ของ GDP • ประเทศที่มีรายได้ปานกลางขั้นต่ำมีงบประมาณทางด้านมัธยมศึกษา 1.86 % ของ GDP • งบประมาณทางด้านมัธยมศึกษาต่อหัวมีสัดส่วนต่ำกว่าระดับประถมศึกษา 24 % • สำหรับกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก : รายจ่ายต่อหน่วยของการศึกษาระดับมัธยมสูงกว่าระดับประถมศึกษา 74 % • สำหรับประเทศในกลุ่มองค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ : รายจ่ายต่อหน่วยของการศึกษาระดับมัธยมสูงกว่าระดับประถมศึกษา 39 % • สัดส่วนของการจัดสรรงบประมาณของรัฐบาลท้องถิ่นยังคงต่ำ ส่วนใหญ่ยังคงต้องพึ่งจากทางรัฐบาลกลาง

  19. ประสิทธิภาพ การใช้จ่ายด้านการศึกษาของครัวเรือน • ภาคเอกชนมีส่วนสนับสนุนการมัธยมศึกษาเพียง 5 % • ค่าใช้จ่ายครัวเรือนโดยเฉลี่ยมีความแตกต่างกันมากเมื่อเปรียบเทียบในระดับภูมิภาคและกลุ่มรายได้

  20. ประสิทธิภาพ การเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดสรรงบประมาณสู่การมัธยมศึกษา • งบประมาณการเงินมีผลต่อผลสัมฤทธิ์ของโรงเรียนหรือไม่ • “สถานภาพทางเศรษฐกิจและสังคมที่ดีกว่าจะนำไปสู่ผลการเรียนของนักเรียนที่ดีกว่าด้วย” (องค์การเพื่อความร่วมมือและพัฒนาทางเศรษฐกิจ 2547) • การปรับปรุงคุณภาพของการมัธยมศึกษาจะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่าระดับประถมศึกษา • ต้องมีการประเมินประสิทธิภาพในการจัดสรรงบประมาณให้แก่ภาคส่วนต่างๆ รวมถึงผลประโยชน์ของการลงทุนภาครัฐ • อาจมีการประหยัดทรัพยากรได้จากการปรับอัตราส่วนนักเรียนต่อครู หรือการรวมโรงเรียน จุดสมดุลย์ที่เหมาะสม • จากการวิจัยอัตราครู/นักเรียนและเวลาที่ใช้โรงเรียนพบว่าครูไม่มีประสิทธิภาพในการทำงาน • เปรียบเทียบจากต้นทุนที่ต่ำลงและความเอาใจใส่ต่อนักเรียนรายบุคคล • สถานที่ของโรงเรียนตั้งอยู่ในระยะทางที่สมเหตุสมผล

  21. ประเด็นความท้าทาย การเพิ่มการเข้าเรียนและความเสมอภาค • ปรับปรุงการเก็บและการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อให้เข้าถึงเด็กที่ยังอยู่นอกระบบโรงเรียนได้ดีขึ้น • สร้างความแข็งแกร่งต่อรูปแบบการให้บริการด้านการศึกษาทางเลือก เพิ่มความยืดหยุ่นในด้านสถานที่เรียน ตารางเรียนและหลักสูตร • ลดช่องว่างด้านการเงินระหว่างจังหวัดและกลุ่มรายได้ต่าง ๆ โดยการใช้สูตรการให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน โดยคำนึงถึงเงื่อนไขและความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละจังหวัดและกลุ่มรายได้

  22. ประเด็นความท้าทาย การปรับปรุงคุณภาพ • ส่งเสริมการพัฒนาครูทั้งก่อนและระหว่างการสอน • พัฒนากฎเกณฑ์และวิธีการเพื่อเพิ่มคุณภาพและมาตรฐานของครู รวมทั้งการเพิ่มความสามารถให้ทั้งครูผู้สอนและผู้บริหารโรงเรียน • สร้างความแข็งแกร่งให้แก่กลไกประกันคุณภาพทั้งในด้านความเกี่ยวเนื่องและการติดตามผล • สร้างความแข็งแกร่งต่อโรงเรียนในความรับผิดชอบต่อชุมชนเพื่อเป็นแรงจูงใจในการพัฒนาคุณภาพของระบบการศึกษา • บังคับใช้แผนปฏิบัติงานที่เป็นขั้นตอนในการกระจายอำนาจการให้บริการและการบริหารการศึกษาสู่ระดับท้องถิ่น

  23. ประเด็นความท้าทาย การรับรองประสิทธิภาพ • ปรับการกระจายทรัพยากรจากระดับการศึกษาอื่น ๆ สู่ระดับมัธยมศึกษา • ทบทวนสัดส่วนครูต่อนักเรียน และจำนวนนักเรียนต่อห้อง • กระตุ้นให้ภาคเอกชนเพิ่มระดับการให้ความช่วยเหลือด้านการเงิน

More Related