1 / 23

11.3 โพลาไรเซชัน

11.3 โพลาไรเซชัน. จะเกิดขึ้นได้กับคลื่น ตาม ขวาง. ทิศทางการสั่นของ สนามไฟฟ้า เรียกว่า เป็นทิศการสั่น ของ โพลาไรเซชัน (Direction of Polarization). คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นคลื่นตามขวาง เกิดจากการแกว่งกวัดของสนามแม่เหล็ก และสนามไฟฟ้ าในทิศที่ตั้งฉากกันและตั้ง ฉากกับทิศการเคลื่อนที่คลื่น.

paul2
Download Presentation

11.3 โพลาไรเซชัน

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. 11.3 โพลาไรเซชัน • จะเกิดขึ้นได้กับคลื่น ตามขวาง ทิศทางการสั่นของ สนามไฟฟ้า เรียกว่า เป็นทิศการสั่น ของ โพลาไรเซชัน (Direction of Polarization)

  2. คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นคลื่นตามขวาง เกิดจากการแกว่งกวัดของสนามแม่เหล็ก และสนามไฟฟ้ าในทิศที่ตั้งฉากกันและตั้ง ฉากกับทิศการเคลื่อนที่คลื่น

  3. แสงธรรมดาเป็นแสงไม่โพลาไรซ์ จะมีเวกเตอร์ ที่สั่นหลายทิศ • ซึ่งสามารถ แแตก เป็น องค์ประกอบ ในแนว X และ Y ได้

  4. 11.3.1 การโพลาไรเซซันโดยวิธีการไดโครอิก • วิธีการไดโครอิก (dichroism) เป็นการท ำ ให้ เกิดการโพลาไรซ์ โดยใช้วัสดุหรือสารบางอย่าง มาดูดกลืนองค์ประกอบหนึ่ง ของเวกเตอร์ • ผลึกบางชนิด เช่น ผลึกทัวร์มาลีน (tourmaline) ผลึกเฮอราพาไทต์ (herapathite) ซึ่งใช้ทำ แผ่นโพลารอยด์

  5. กฏของมาลุส (Malus's law) คือความเข้มสูงสุดของแสงที่ผ่านตัววิเคราะห์

  6. ข้อควรระวังในการใช้กฎของมาลุสข้อควรระวังในการใช้กฎของมาลุส • แสงที่จะนำมาคำนวณ ตามกฎ นี้ ต้อง เป็นแสง โพลาไรซ์ เท่านั้น • หากเป็น แสงปกติ ก็ต้องทำ ให้เป็นแสง โพลาไรซ์ ก่อน โดยใช้ แผ่นโพลารอยด์ ซึ่ง ความเข้มแสงจะลดลงครึ่งหนึ่ง

  7. เปอร์เซ็นต์ของการโพลาไรซ์เปอร์เซ็นต์ของการโพลาไรซ์ • เป็นการตรวจวัด โดยหมุนตัววิเคราะห์ หาความเข้มสูงสุด และความเข้มตำ่ สุด แล้ว นำมา คำนวณ

  8. P = 100% เป็นแสงโพลาไรซ์เชิงเส้น • P =0 ไม่เป็นแสงโพลาไรซ์

  9. 11.3.2 การโพลาไรเซซันโดยการสะท้อน • มุมบริวสเตอร์(Brewster’s angle) คือ มุม ตกกระทบ มุมหนึ่งที่ทำ ให้แสงสะท้อน เป็นแสงโพลาไรซ์ เชิงเส้น 100% • โดยมีเงื่อนไขว่า

  10. เมื่อ • คือ มุมโพลาไรซ์ (polarizing angle) หรือมุมบริวสเตอร์ (Brewster' angle) • คือ มุมที่แสงหักเห และจากกฏของสเนล เงื่อนไขนี้ นำ ไปสู่

  11. ตัวอย่าง 15) ถ้าต้องการให้แสงปกติผ ่ า น เข้ามาใน รถได้เพียง 30% จะต้องเคลือบ กระจกรถด้วย ฟิลม ์โพลารอยด์อย่างน้อย ที่สุดกี่ชั้น และแต่ละชั้นจะต้องทำมุมกันเท่ าไร

  12. 16) แผ่นโพลารอยด์ 3 แผ่น วางซ้อนกันอยู่โดย แผ่นแรกทำมุม 45o กับ แผ่นที่ 2 และแผ่นที่ 2 ทำมุม 45o กับแผ่นที่ 3 จงหาว่า แสงที่ทะลุ ผ่านไปได้ มีความเข้มเป็นสัดส่วน เท่า ไร ของแสงตก

  13. 17) จงคำนวณหามุมตกที่ทำให้แสงสะท้อนบน ผ ิวแก้วที่มี n = 1.54 เป็นแสงโพลาไรซ์ 18) ถ ้าแสงสะท้อนเป็นแสงโพลาไรซ์ เมื่อแสง ปกติท ำมุมจาก 60o องศา จงหาดัชนีหักเหและมุมหักเห ของแก้ว

  14. 11.3.3 การหักเหสองแนว (birefringence) • เกิดในสารพวกอสมลักษณ์ (anisotropic) • ความเร็วของแสงในทิศทางต่างๆ กันในผลึกนั้นไม่เท่ากัน • ทิศทางซึ่งคลื่นทั้งสองชุดนี้สัมผัสกัน เรียกว่า แกนทัศน์ (optic axis) (นั่นคือเมื่อคลื่นทั้งสองมีความเร็วเท่ากัน)

  15. คลื่นที่เคลื่อนที่ไป 2 ชุด 1 . รังสีธรรมดา (ordinary ray) • เป็นคลื่น ทรงกลม • หน้าคลื่นของรังสี o คือเส้นที่ลากสัมผัส กับ คลื่นทรงกลม • มีการหักเหเป็นไปตามกฏของสเนล • ขึ้นกับno

  16. 2. รังสีผิดธรรมดา (extraordinary ray) • เป็นคลื่นทรงรี (extraodinary ray) • หน้าคลื่นของรังสี e คือ เส้นที่ลากสัมผัสกับ คลื่นทรงรี • ไม่เป็นไปตามกฏของสเนล • ขึ้นกับne

  17. รังสี o และรังสี e ในผลึกหักเหสองแนว ต่างเป็นแสงโพลาไรซ์เชิงเส้น

  18. การโพลาไรซ์แบบวงกลมและวงรีการโพลาไรซ์แบบวงกลมและวงรี • เกิด จากการรวมแสงโพลาไรซ์ แบบเส้นตรง 2 ลำ • โดยที่แต่ละ ล ำมีการสั่นของเวกเตอร์ ในทิศทางตั้งฉากกัน

  19. แสงโพลาไรซ์แบบวงกลม • ผลต่างเฟสของแสงโพลาไรซ์ แบบเส้นตรง 2 ลำ ที่มารวมกัน มีค่า เป็น • เมื่อ n เป็น เลขคี่

  20. แสงโพลาไรซ์แบบวงรี • ผลต่างเฟสของแสงโพลาไรซ์ แบบเส้นตรง 2 ลำ ที่มารวมกัน มีค่า อื่นๆ ที่ไม่ใช่ จำนวนเท่าที่เป็นเลขคู่ของ

  21. แสงโพลาไรซ์ แบบ เส้นตรง • ถ้า ผลต่างเฟสของแสงโพลาไรซ์ เป็น จำนวนเท่าของ จะเป็น โพลาไรซ์ แบบเส้นตรง เท่านั้น

  22. แผ่นเสี้ยวคลื่น(quarter-wave plate) คือ ผลึกมีความหนาพอดีกับทำ ให้ผลต่างเฟส ของแสงที่ผ่านออกมาเป็นโพลาไรซ์ แบบวงกลม ( ผลต่างของเฟสของรังสี o และรังสี e เป็น )

  23. แผ่นครึ่งคลื่น (half-wave plate) คือ ผลึกมีความหนาพอดีที่ทำ ให้ผลต่างเฟส ของ แสง (ความถี่ ค่าหนึ่ง) ที่ผ่านผลึก ออกมาเป็นโพลาไรซ์ แ บบเส้นตรง

More Related