260 likes | 632 Views
วิชาสังคมและการเมือง Social and Politics. อ . มานิตา หนูสวัสดิ์. สัปดาห์ที่ 5: วัฒนธรรมทางการเมือง Political Culture. วัฒนธรรมทางการเมือง (Political Culture). ความหมาย
E N D
วิชาสังคมและการเมือง Social and Politics อ.มานิตา หนูสวัสดิ์
สัปดาห์ที่ 5: วัฒนธรรมทางการเมืองPolitical Culture
วัฒนธรรมทางการเมือง (Political Culture) • ความหมาย • วัฒนธรรมทางการเมือง คือ รูปแบบของการกำหนดทิศทางสู่เป้าหมายทางการเมือง ส่วนใหญ่แสดงออกในรูปแบบของความเชื่อ, สัญลักษณ์ และคุณค่า (Heywood 2002: 206) • วัฒนธรรมทางการเมือง คือ แบบอย่างของทัศนคติและความโน้มเอียงซึ่งบุคคลในฐานะสมาชิกของระบบการเมืองมีต่อการเมือง (Almond and Powell1966) • วัฒนธรรมทางการเมือง หมายถึง ความคิดและความเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางสังคม โดยเฉพาะความคิดและความเข้าใจต่อการจัดสรรแบ่งปันทรัพยากรในสังคม (นิธิ เอียวศรีวงศ์ 2554: 51)
ความสำคัญและบทบาทของวัฒนธรรมทางการเมือง • สำหรับบุคคล วัฒนธรรมทางการเมืองทำหน้าที่เป็นเครื่องชี้แนะแนวทางการประพฤติทางการเมืองให้แก่บุคคล โดยการช่วยตีความสิ่งที่เป็นการเมือง • สำหรับสังคมโดยรวม วัฒนธรรมทางการเมืองเปรียบเสมือนแบบแผนของค่านิยมและบรรทัดฐานทางการเมือง ซึ่งช่วยให้การทำงานของสถาบันและองค์กรทางการเมืองต่างๆมีความสอดคล้องกันพอสมควร • บทบาทที่สำคัญของวัฒนธรรมทางการเมือง คือ มีส่วนสนับสนุนให้ความชอบธรรมกับระบอบการเมืองในสังคมนั้นๆดำรงอยู่และมีความมั่นคง และในขณะเดียวกันอาจเป็นอุปสรรคขัดขวางต่อการดำเนินงานของระบบการเมือง
ความสำคัญและบทบาทของวัฒนธรรมทางการเมือง • การศึกษาวัฒนธรรมทางการเมือง ไม่ได้มุ่งเน้นแต่การศึกษาโครงสร้างทางการเมืองเท่านั้น แต่มุ่งเน้นตีความว่าคนมีความเชื่ออย่างไรเกี่ยวกับโครงสร้างและพฤติกรรมดังกล่าว ทั้งนี้เพราะความเชื่อเหล่านี้เองที่ให้ความหมายต่อพฤติกรรมของคนทั้งสำหรับตัวเขาเอง และสำหรับคนอื่น การศึกษาความเชื่อเหล่านี้จึงเป็นแนวทางในการอธิบายว่า ทำไมคนจึงมีพฤติกรรมทางการเมืองออกมาในรูปแบบอื่นๆ (พฤทธิสาร ชุมพล 2550: 97) • วัฒนธรรมทางการเมืองมีผลต่อคุณค่า ความเชื่อ ความคิดและความเห็นต่อระบอบการเมืองที่เราอาศัยอยู่
รูปแบบของวัฒนธรรมทางการเมือง • 1. วัฒนธรรมทางการเมืองแบบคับแคบ (Parochial political culture) • 2. วัฒนธรรมทางการเมืองแบบไพร่ฟ้า (Subject political culture) • 3. วัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีส่วนร่วม (Participant political culture)
รูปแบบของวัฒนธรรมทางการเมือง • 1. วัฒนธรรมทางการเมืองแบบคับแคบ (Parochial political culture) • วัฒนธรรมทางการเมืองแบบนี้ ประชาชนแทบไม่มีความสัมพันธ์กับระบบการเมืองและขาดสำนึกความเป็นพลเมืองของรัฐ เขาไม่คิดว่าการเมืองระดับชาติจะกระทบเข้าได้ และเขาไม่หวังว่าระบบการเมืองระดับชาติจะตอบสนองความต้องการอะไรของเขาได้
รูปแบบของวัฒนธรรมทางการเมือง • 2. วัฒนธรรมทางการเมืองแบบไพร่ฟ้า (Subject political culture) • วัฒนธรรมทางการเมืองในรูปแบบนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ในสังคมรู้จักสถาบันทางการเมืองและมีความรู้สึกต่อมันไม่ว่าในแง่บวกหรือลบ ประชาชนเริ่มมีสนใจและความสัมพันธ์กับระบบการเมือง คือ เขารู้ว่าระบบการเมืองสามารถจัดสรรและจัดการผลประโยชน์ให้เขาได้ แต่เขาไม่สามารถบทบาทหรืออิทธิพลต่อระบบการเมืองนั้นได้ เขารู้เรื่องราวเกี่ยวกับอำนาจรัฐและการเมืองและยอมรับกับระบบนั้นๆ แต่ไม่รู้ว่าตนจะสามารถเข้าไปมีส่วนร่วมผ่านช่องทางหรือกลไกใด
รูปแบบของวัฒนธรรมทางการเมือง • 3. วัฒนธรรมทางการเมืองแบบมีส่วนร่วม (Participant political culture) • วัฒนธรรมการเมืองแบบนี้ ประชาชนมีความรู้เกี่ยวกับระบบการเมืองและรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของการเมืองไม่ว่าจะเป็นทางบวกหรือลบ ประชาชนมีสำนึกและตระหนักถึงบทบาทของตนในการเข้าไปมีส่วนร่วมทางการเมือง พวกเขาเชื่อมั่นว่าตนเองสามารถมีอิทธิพลต่อการเมืองได้และมีอำนาจที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้
รูปแบบของวัฒนธรรมทางการเมือง • อย่างไรก็ดีจากการศึกษาพบว่าในสังคมหรือประเทศหนึ่งๆไม่ได้มีวัฒนธรรมทางการเมืองเพียงตัวแบบหรือประเภทเดียว แต่มักเป็นในรูปแบบการผสมผสานของ 3 ประเภทของวัฒนธรรมทางการเมืองเหล่านี้ • แบบคับแคบ-ไพร่ฟ้า, แบบไพร่ฟ้า-มีส่วนร่วม, แบบคับแคบ-มีส่วนร่วม
ความสัมพันธ์ • การกล่อมเกลาทางการเมือง (Political Socialization) วัฒนธรรมทางการเมือง (Political Culture) การมีส่วนร่วมทางการเมือง (Political Participation) ผลกระทบต่อระบบการเมือง (Effects of Political System)
ข้อสังเกตเกี่ยวกับความคิดเรื่องวัฒนธรรมทางการเมือง • 1. แนวทางการศึกษาวัฒนธรรมทางการเมืองในแบบพลเมือง (Civic culture) เน้นการศึกษาทัศนคติและคุณค่าที่ประชาชนมีต่อการเมือง (เป็นการศึกษาในเชิงจิตวิทยา) ซึ่งเชื่อว่าทัศนคติหรือวัฒนธรรมทางการเมืองแบบพลเมืองมีส่วนในการเสริมสร้างความมั่นคงของระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย • เสถียรภาพหรือความมั่นคงของประชาธิปไตยต้องมีพื้นฐานจากวัฒนธรรมทางการเมืองที่ผสมผสานระหว่างความพอดีของการบังคับ การยินยอมให้ปกครอง และการแสดงออกการมีส่วนร่วมทางการเมือง
ข้อสังเกตเกี่ยวกับความคิดเรื่องวัฒนธรรมทางการเมืองข้อสังเกตเกี่ยวกับความคิดเรื่องวัฒนธรรมทางการเมือง • 2. วัฒนธรรมทางการเมืองแบบพลเมืองเป็นสาเหตุหรือผลต่อประชาธิปไตยวัฒนธรรมทางการเมืองจะเป็นชี้วัดคุณภาพของประชาธิปไตยได้หรือไม่ หรือ วัฒนธรรมทางการเมืองเป็นเงื่อนไขที่สนับสนุนให้เกิดความเป็นประชาธิปไตยได้หรือไม่ • 3. วัฒนธรรมทางการเมืองย่อย – กลุ่มเชิงชนชั้น ชาติพันธุ์ ศาสนา ฯลฯ ในสังคมมันมีความซับซ้อนของวัฒนธรรมทางการเมืองหลักและย่อย และแต่ละส่วนมีพลวัตต่อกันและกันอย่างมาก วัฒนธรรมทางการเมืองย่อยอาจมีผลกระทบในแง่เสถียรภาพของระบบการเมืองการปกครอง
ข้อสังเกตเกี่ยวกับความคิดเรื่องวัฒนธรรมทางการเมืองข้อสังเกตเกี่ยวกับความคิดเรื่องวัฒนธรรมทางการเมือง • 3. แนวทางการศึกษาวัฒนธรรมทางการเมืองในฐานะเป็นอุดมการณ์หรืออำนาจ (Hegemony) – การอธิบายที่ชัดเจนมากที่สุดคือการอธิบายของ Marxist ที่มองว่า วัฒนธรรมเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างส่วนบน เป็นส่วนที่สำคัญของลักษณะชนชั้นเพื่อใช้บอกตำแหน่ง ฐานะ ผลประโยชน์ วัฒนธรรมในแบบที่สองเป็นรูปแบบของความคิดของชนชั้นปกครอง (อุดมการณ์) ในความหมายนี้วัฒนธรรมทางการเมือง คือ สิ่งที่เรียกว่าอุดมการณ์ของชนชั้นนำเป็นพลังอำนาจทางวัฒนธรรม คุณค่า และความเชื่อ ทำหน้าที่สำคัญ คือ การประนีประนอมและเป็นกันชนกับชนชั้นใต้ปกครองซึ่งทำให้ชนชั้นนายทุนยังสามารถครองอำนาจทางเศรษฐกิจและการเมืองได้ โดยผ่านเครื่องมือ เช่น การโฆษณาชวนเชื่อ ตำนาน
วัฒนธรรมทางการเมืองไทยวัฒนธรรมทางการเมืองไทย • การศึกษาวัฒนธรรมการเมืองไทยในช่วงหนึ่งมุ่งศึกษาที่จะตอบคำถามว่า วัฒนธรรมการเมืองของผู้ที่ถูกศึกษาเป็นเช่นไร เป็นประชาธิปไตยมากน้อยเพียงใด และที่เป็นเช่นนั้นมีสาเหตุจากการกล่อมเกลาในสถาบันการเมืองใด แต่ไม่ค่อยศึกษาเชื่อมโยงความสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมทางการเมืองกับระบอบการปกครองในการศึกษาว่าวัฒนธรรมทางการเมืองมันตีกรอบกำหนดความเป็นไปของระบอบการปกครองได้อย่างไร (พฤทธิสาร ชุมพล 2550: 113)
วัฒนธรรมทางการเมืองไทยวัฒนธรรมทางการเมืองไทย • จากบทความ “วัฒนธรรมทางการเมืองไทย” อ.นิธิ เอียวศรีวงศ์ • การอธิบายลักษณะของวัฒนธรรมทางการเมืองของชนชั้นกลางไทย เพื่อสามารถทำความเข้าใจพฤติกรรมทางการเมืองที่ผ่านมา เช่น คำถามว่าทำไมคนชนชั้นกลางในเมือง (กทม.) ถึงสนับสนุนหรือให้ความชอบธรรมต่อการใช้ความรุนแรงของรัฐในการสลายการชุมนุม เมษา- พฤษภา 2553, ทำไมชนชั้นกลางในเมืองสนับสนุนการทำรัฐประหาร แต่ไม่สนับสนุนรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง, ทำไมเรื่องการเมืองสำหรับคนบางกลุ่มเป็นเรื่องสำคัญและแลกมาด้วยการต่อสู้ ในขณะที่คนบางกลุ่มกลับไม่เดือดร้อนไม่เห็นใจเหตุการณ์ทางการเมืองที่มันรุนแรงหรือปัญหาความเดือดร้อนของกลุ่มคนที่อยู่ห่างไกลออกไป
วัฒนธรรมทางการเมืองไทยวัฒนธรรมทางการเมืองไทย • วัฒนธรรมทางการเมือง ของอ.นิธิ คือ ความคิดและความเข้าใจเกี่ยวกับการเมือง – เกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางสังคมและการจัดสรรและแบ่งปันทรัพยากร สิ่งที่เกิดจากวัฒนธรรมทางการเมืองเป็นผลต่อพฤติกรรมการเมืองของกลุ่มคนต่างๆและส่งผลต่อระบบการเมืองด้วย • วัฒนธรรมทางการเมืองของไทยเกิดขึ้นและมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับวัฒนธรรมการเมืองที่มีมาก่อน วัฒนธรรมทางการเมืองมีลักษณะไม่หยุดนิ่งและลักษณะวัฒนธรรมทางการเมืองบางอย่างก็สืบทอดถึงปัจจุบัน ผ่านการศึกษา สื่อ ปฏิสัมพันธ์ระหว่างรัฐกับประชาชน
วัฒนธรรมทางการเมืองไทยวัฒนธรรมทางการเมืองไทย • วัฒนธรรมทางการเมืองไทยใน 3 ยุค 1. ไทยโบราณ (ก่อน ร.5) • สังคมสมัยนั้นอำนาจกระจายอยู่ในชนชั้นปกครอง มีการต่อรองและเล่นการเมืองระหว่างขุนนาง – เกิดลักษณะความสัมพันธ์แบบพึ่งพาหรือระบบอุปถัมภ์ เป็นความสัมพันธ์เชิงอำนาจที่พึ่งพากันและกัน 2. สมบูรณาญาสิทธิราชย์ • วัฒนธรรมการเมืองแบบรวมศูนย์ หลังร.5 สถาปนารัฐสมบูรณาญาสิทธิราชย์โดยรวมอำนาจทั้งหลายอยู่ภายใต้การกำกับควบคุมของกษัตริย์
วัฒนธรรมทางการเมืองไทยวัฒนธรรมทางการเมืองไทย 2. สมบูรณาญาสิทธิราชย์ • การเมืองเป็นเรื่องของชนชั้นนำเท่านั้น – เป็นเรื่องเฉพาะของชนชั้นนำ ที่มีความรู้และฐานะทางเศรษฐกิจ มองว่าการเมืองเป็นเรื่องของความรู้และการใช้เทคนิคขั้นสูงในการบริหาร (กีดกันประชาชนจากพื้นที่การเมือง) ให้คุณค่ากับการเมืองที่มีความสงบเรียบร้อย ฉะนั้นความหวาดกลัวต่อความไม่มั่นคงของชนชั้นตนเองจึงมีอยู่ เป็นเหตุให้การจัดการทางการเมืองมีแนวโน้มในการใช้ความรุนแรงอย่างมาก (เช่น รัฐใช้ความรุนแรงในการปราบปรามกลุ่มกบฏ กลุ่มที่คิดต่าง) • พัฒนาการของชนชั้นกลางไทยมาตั้งแต่ช่วงสมัยสมบูรณาญาสิทธิราชย์ – พวกพ่อค้า, ข้าราชการ
วัฒนธรรมทางการเมืองไทยวัฒนธรรมทางการเมืองไทย 3. ในระบอบการเลือกตั้งและรัฐประหาร • วัฒนธรรมการเมืองที่ใช้ความรุนแรงเป็นเครื่องมือยังมีอยู่ แต่อาจมีสมรรถภาพในการใช้ความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น, วัฒนธรรมทางการเมืองของระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ยังคงอยู่ (ภายใต้สถาบันกษัตริย์ที่เคารพยกย่อง) ในขณะเดียวกันชนชั้นกลางยังสามารถควบคุมอำนาจสมบูรณาญาสิทธิราชย์ได้ผ่านอำนาจทางกฎหมายและสื่อ • คนชนชั้นกลางนอกระบบราชการมีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งพัฒนาวัฒนธรรมของสังคมใหม่ๆขึ้นและสถาปนาวัฒนธรรมทางการเมืองใหม่ผ่านการวางกฎเกณฑ์มาตรฐานวิถีชีวิตแทนชนชั้นสูงในระบบเก่า
อ้างอิงและเรียบเรียง • นิธิ เอียวศรีวงศ์. (2554) วัฒนธรรมทางการเมืองไทย. วารสารสถาบันวัฒนธรรมและศิลปะ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. 12, 49-63. • บูฆอรี ยีหมะ. (2554) ความรู้เบื้องต้นทางรัฐศาสตร์. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ: คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา. • พฤทธิสาณ ชุมพล. (2550) ระบบการเมือง: ความรู้เบื้องต้น. พิมพ์ครั้งที่ 9. กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. • Heywood, A. (2002) Politics. 2nd edition. New York: Palgrave Macmillan.