320 likes | 1.95k Views
กลุ่มในองค์การ. Group in Organization. ความหมาย. กลุ่ม ( Group ) กลุ่มประกอบด้วยบุคคลสองคนหรือมากกว่า โดยบุคคลเหล่านั้นจะมีการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน มีปฏิสัมพันธ์กัน และต้องพึ่งพาอาศัยกัน เพื่อให้การทำงานเป็นไปตาม เป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ร่วมกัน. การเกิดของกลุ่ม.
E N D
กลุ่มในองค์การ Group in Organization group in org.
ความหมาย กลุ่ม ( Group ) กลุ่มประกอบด้วยบุคคลสองคนหรือมากกว่า โดยบุคคลเหล่านั้นจะมีการติดต่อสื่อสารระหว่างกัน มีปฏิสัมพันธ์กัน และต้องพึ่งพาอาศัยกัน เพื่อให้การทำงานเป็นไปตาม เป้าหมายหรือวัตถุประสงค์ร่วมกัน group in org.
การเกิดของกลุ่ม 1. ทฤษฎีความใกล้ชิด ( Propinquity Theory ) เชื่อว่า คนมารวมกลุ่มเพราะ มีความรักชอบพอสนิทสนมกัน ( affiliation ) มีความใกล้ชิดกันทางกายภาพ group in org.
2. ทฤษฎีของโฮแมนส George Homans เชื่อว่าปัจจัยที่ทำให้คนมารวมกลุ่มคือ มีกิจกรรม ( activities ) มีปฏิกิริยาตอบโต้กัน ( interaction ) มีความรู้สึกในใจร่วมกัน ( sentiments ) group in org.
3. ทฤษฎีสมดุล ( Balance Theory ) เชื่อว่าบุคคลมารวมกลุ่มกันเพราะ มีแรงดึงดูดซึ่งกันและกัน มีเจตคติที่คล้ายคลึงกัน มีความใกล้ชิดกัน group in org.
ประเภทของกลุ่ม 1. กลุ่มปฐมภูมิและกลุ่มทุติยภูมิ กลุ่มปฐมภูมิ ( primary group ) ขนาดค่อนข้างเล็ก ใช้การสื่อสารแบบเผชิญหน้า มีความสัมพันธ์ใกล้ชิด กลุ่มทุติยภูมิ ( secondary group ) ขนาดใหญ่ มีความเป็นกันเองน้อยกว่า การสื่อสารมักเป็นเรื่องของงาน group in org.
2. กลุ่มรูปนัยและกลุ่มอรูปนัย กลุ่มรูปนัย ( formal group ) มีวัตถุประสงค์หรือเป้าหมาย มีการกำหนดตำแหน่งและภาระหน้าที่ กลุ่มอรูปนัย ( informal group ) สมาชิกอยู่ร่วมกันเพื่อตอบสนองความสนใจ เกิดขึ้นโดยสมัครใจ / เป็นธรรมชาติ group in org.
ลักษณะสำคัญของกลุ่มรูปนัยและกลุ่มอรูปนัยลักษณะสำคัญของกลุ่มรูปนัยและกลุ่มอรูปนัย ลักษณะ กลุ่มรูปนัย กลุ่มอรูปนัย 1. วัตถุประสงค์หลัก . 2. ที่มา 3. อิทธิพลที่มีต่อสมาชิก 4. การติดต่อสื่อสาร . . …. 5. ผู้นำ 6. ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ประสิทธิผล ,ประสิทธิภาพ การบริการ วางแผนโดยองค์การ อำนาจหน้าที่ตามตำแหน่ง รางวัลเป็นตัวเงิน จากระดับการบังคับบัญชาบนลงล่าง ใชช่องทางการสื่อสารเป็นทางการ แต่งตั้งโดยองค์การ เกิดจากงานหรือแบบแผนการไหลของงาน ความพึงพอใจของสมาชิก, ความปลอดภัยของสมาชิก เป็นไปโดยธรรมชาติ บุคลิกภาพ . แบบเถาองุ่น การสื่อสารใช้ทุกช่องทาง. เกิดขึ้นโดยกลุ่ม เกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ………. group in org.
พัฒนาการของกลุ่ม ขั้นตอนที่ 1 การรวมตัว ขั้นตอนที่ 2 การระดมความคิด ขั้นตอนที่ 3 การกำหนดบรรทัดฐาน ขั้นตอนที่ 4 การดำเนินงาน ขั้นตอนที่ 5 การสลายตัว group in org.
หน้าที่ของกลุ่ม 1. หน้าที่ที่เป็นทางการ 2. หน้าที่ทางจิตวิทยา ความมั่นคง ความเป็นพวกพ้อง การยกย่อง ความรู้สึกมีอำนาจ ทำให้เป้าหมายบรรลุผล 3. หน้าที่ผสม group in org.
โครงสร้างของกลุ่ม 1. สถานภาพ ( status ) ความมีอาวุโส ( seniority ) ทักษะ / ความเชี่ยวชาญ (skill / expert ) 2. บทบาท ( role ) การบรรยายลักษณะงาน ( job description ) กฎระเบียบขัอบังคับ ( regulations ) เกณฑ์ ( criteria ) group in org.
3. ปทัสถาน ( norm ) สรุปกระบวนการอิทธิพลของกลุ่ม ปรับใช้กับพฤติกรรมมากว่าความคิดเห็น ปรับใช้กับพฤติกรรมที่สมาชิกส่วนใหญ่เห็นว่า สำคัญ มีบางปทัสถานที่นำมาปรับใช้อย่างเท่าเทียมกัน ปทัสถานมีการพัฒนาอย่างช้า ๆ เป็นไปอย่าง ละเอียดอ่อน group in org.
พฤติกรรมภายในกลุ่ม 1. พฤติกรรมแบบมุ่งงาน 2. พฤติกรรมแบบมุ่งบำรุงรักษา 3. พฤติกรรมแบบมุ่งตนเอง group in org.
ปัจจัยที่กระทบพฤติกรรมกลุ่มปัจจัยที่กระทบพฤติกรรมกลุ่ม 1. บุคลิกลักษณะของบุคคล 2. ภาวะการเป็นผู้นำ 3. ขนาดของกลุ่ม 4. ความสามัคคีรวมกันของกลุ่ม 5. การตัดสินใจของกลุ่ม 6. ความล้มเหลวที่อาจเกิดขึ้นจากกลุ่ม 7. การปฏิบัติของนักบริหารต่อกลุ่ม group in org.
แรงยึดเหนี่ยวของกลุ่มแรงยึดเหนี่ยวของกลุ่ม แรงยึดเหนี่ยวของกลุ่ม ( group cohesiveness ) เป็นระดับความจงรักภักดีและความผูกพันของสมาชิกที่มีต่อกลุ่ม / เป้าหมายกลุ่ม มีปัจจัยที่มีอิทธิพล 4 ประเภท คือ 1. ภัยคุกคามจากภายนอก 2. ประวัติความเป็นมาของกลุ่ม 3. เป้าหมายที่เกี่ยวข้องกัน 4. การบรรลุเป้าหมาย group in org.