กลุ่มที่ 1 Knowledge Management

1. กลุ่มที่ 1Knowledge Management รุ่นที่ 3 18-21 มิ.ย. 2549

2. น.ส. วิไล ว่องพูลสิน ประธาน • นายกมล ธิฉลาด ผู้นำเสนอ • น.ส.มินธิรา ภูภัทรพงศ์ เลขานุการ • นายพรประสิทธิ อิสริยะมงคล • นางศศิพินทุ์ สุดสาย • นางเยาวรัตน์ อาษาวัง • น.ส.วรรณดี คีตะนิธิพันท์ • นายมังกร ประทุมแก้ว • นายประเสริฐ ฉลอม • นายฤหัส ไชยศักดิ์ • นายอุทัย สาธรรม • นายธงชัยนิคม • นายประพันธ์ ขันธ์พระแสง • นายบำรุง ชูเวทย์ ผู้ร่วมงาน

3. สภาพปัญหา • หน่วยงานมีลักษณะแตกต่างในวิธีการจัดทำแผน KM เช่นการจ้างที่ปรึกษาจัดทำ ดำเนินการเอง สถาบันการศึกษาเป็นพี่เลี้ยง • ระยะเวลาที่กพร. กำหนดไม่เพียงพอ ทำให้เจ้าหน้าที่ได้รับความกดดันสูง • ผู้ที่รับนโยบายไม่ได้เป็นผู้ที่ปฏิบัติโดยตรงในการจัดทำแผน KM • ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบขาดความต่อเนื่องในการปฏิบัติงาน • ขาดความเชื่อมต่อของข้อมูลระหว่างหน่วยงานภายใน (กรม กอง)

4. สภาพปัญหา (ต่อ) • KM Team และ จนท.ปฏิบัติยังขาดความเข้าใจในการจัดการองค์ความรู้ • ประสบปัญหาในการกำหนดตัวชี้วัดที่เหมาะสมกับงาน (ในกรณีที่ผลงานเป็นนามธรรม) • ไม่มีเจ้าภาพที่จะรับผิดชอบการจัดทำ KM เนื่องจากโครงสร้างภายในไม่ชัดเจน • การติดต่อเพื่อปรึกษาหารือหรือขอความช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ ก.พ.ร. เป็นไปด้วยความยากลำบากต้องช่วยเหลือตัวเอง

5. ข้อดีในการจัดทำ KM • สร้างคู่มือที่เป็นระบบและเอื้อประโยชน์ให้หน่วยงานต่างๆ สามารถประสานงาน ร่วมมือกันได้โดยอิง KM • เป็นเครื่องมือกระตุ้นให้ผู้บริหารสนใจ การจัดระบบข้อมูลและองค์ความรู้ • ส่งเสริมการประสานงานระหว่างหน่วยงาน

6. ส่วนเสีย • จนท.ปฏิบัติขาดความเข้าใจและความรู้สึกเป็นเจ้าของในโครงการ • คนไม่พอ / ไม่มีผู้รับผิดชอบที่ชัดเจน • ภาระงานที่เพิ่มขึ้นจากงานประจำ

7. ปัจจัยที่เอื้อต่อความสำเร็จปัจจัยที่เอื้อต่อความสำเร็จ • การสร้าง KM team ควรเป็นบุคคลที่ปฏิบัติจริง • ผู้บริหารต้องดูคนออก บอกคนได้ ใช้คนเป็น เห็นผลงาน มีการประชาสัมพันธ์ • ผู้บริหาร (CKO) ผลักดันและพร้อมที่จะแก้ไขปัญหา และให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง • ควรจะมีที่ปรึกษาเพื่อแลกเปลี่ยนความรู้

8. ปัจจัยที่เอื้อต่อความสำเร็จปัจจัยที่เอื้อต่อความสำเร็จ • การนำข้อมูลสารสนเทศเข้ามาใช้ อาทิ การประชาสัมพันธ์ • บทบาทผู้ว่า CEO เป็นเจ้าภาพทุกด้าน เป็นประธานทุกฝ่าย เป็นผู้รู้ได้ทุกปัญหา เป็นผู้กล้าในทุกที่ เป็นผู้มีภาวะผู้นำ (เวรกรรมตกอยู่ที่ลูกน้อง) • ศึกษาเก็บข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเปรียบเทียบ

9. หน่วยงานตัวอย่างของ การจัดการความรู้ความรู้ด้านการพัฒนาเกษตรกรผู้ผลิตและผู้ประกอบการแบบมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่อง จังหวัดลำปาง

10. กระบวนการจัดการความรู้กระบวนการจัดการความรู้ • การบ่งชี้ความรู้ 1.1 KM Team ดำเนินการตรวจสอบความรู้ด้านการพัฒนาเกษตรกรกลุ่มเป้าหมายแบบมีส่วนร่วมอย่างต่อเนื่องในการผลิตพืชที่ปลอดภัย 1.2 จัดทำทะเบียนรายการความรู้เกี่ยวกับการเพิ่มคุณภาพผลผลิตพืช

11. กระบวนการจัดการความรู้กระบวนการจัดการความรู้ 2. การสร้างและแสวงหาความรู้ 2.1 KM Team จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเพื่อสร้างและแสวงหาความรู้ 2.2 จัดหาและรวบรวมหนังสือ เอกสาร งานวิจัย 2.3 ศึกษา ดูงาน อบรม/สัมมนา

12. เป้าหมาย 3. การจัดความรู้ให้เป็นระบบโดยรวบรวมความรู้เป็นหมวดหมู่ และจัดทำฐานข้อมูลความรู้ 4. ประมวลและกลั่นกรองความรู้โดยจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อกลั่นกรองความรู้ 5. การเข้าถึงความรู้โดยจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ความรู้ 6. การแบ่งปันแลกเปลี่ยนความรู้โดยจัดทำเอกสารเผยแผ่ด้านการเพิ่มคุณภาพผลผลิต 7. การเรียนรู้โดยการอบรมให้ความรู้เกี่ยวกับ KM จัดเสวนาในด้านการเพิ่มคุณภาพผลิตผลพืช

13. แผนงานและกิจกรรม • การเตรียมการและปรับเปลี่ยนพฤติกรรม โดยส่งเสริมการมีส่วนร่วมของบุคลากรทุกฝ่าย • การสื่อสาร ประชุมทำความเข้าใจกับข้าราชการผู้เกี่ยวข้อง • กระบวนการและเครื่องมือ อบรมให้ความรู้เกี่ยวกับการเข้าถึงสารสนเทศ • การเรียนรู้ ส่งเสริมให้ข้าราชการเห็นความสำคัญของการจัดการความรู้

14. แผนงานและกิจกรรม • การวัดผล จัดตั้งคณะกรรมการประเมินแผนการจัดการความรู้โดยมีผู้ว่าฯ หรือ CKO เป็นประธาน • การยกย่องชมเชยและการให้รางวัล คัดเลือกหน่วยงานดีเด่นด้านการจัดการความรู้ของหน่วยงานโดยคณะกรรมการประเมินแผนการจัดการความรู้

15. แนวทางการดำเนินงาน • CKO (รองผู้ว่าฯ ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้นำในการดำเนินงาน โดยจัดประชุมและติดตามผลการดำเนินงานและให้ข้อเสนอแนะ) • ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบ (CKO)มีความรับผิดชอบ และร่วมดำเนินการกับ KMTeam ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในพื้นที่เป็นประจำและต่อเนื่อง • สถาบันการศึกษา เป็นที่ปรึกษาในการดำเนินงาน

16. แนวทางการดำเนินงาน • กรณีไม่มีงบประมาณดำเนินงานผู้บริหารระดับสูง (ผู้ว่าฯ) จะพิจารณาจัดสรรงบประมาณผู้ว่าซีอีโอให้ดำเนินงาน • สำนักงานจังหวัดเป็นหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนการดำเนินงาน KM

17. แนวทางการพัฒนาเครือข่ายการพัฒนาระบบราชการแนวทางการพัฒนาเครือข่ายการพัฒนาระบบราชการ • สกพร. ควรมีการจัดโครงการให้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น/พบปะหรือศึกษาดูงานจากหน่วยงาน best practice อื่นๆ เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง (อาทิ ทุก 3 เดือน) • จัดทำจม.ข่าวก.พ.ร.น้อย และทำเนียบก.พ.ร.น้อย

18. แนวทางการพัฒนาเครือข่ายการพัฒนาระบบราชการแนวทางการพัฒนาเครือข่ายการพัฒนาระบบราชการ ก.พ.ร.ควรให้หน่วยงานกำหนดเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบโดยตรง และควรมีความต่อเนื่องเป็นระยะเวลาพอสมควร การประสานงานกับก.พ.ร. น้อย ควรมีการประสานอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการเพื่อให้รวดเร็ว ควรมีช่องทางแลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้และติดต่อประสานงานได้อย่างรวดเร็ว (อาทิ e-mail)