Employee’s Choices

1. MasterFund SingleFunds Employee’s Choices Pooled Funds

2. Employee’s Choice เป็นหลักการที่เปิดโอกาสให้สมาชิกกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเลือกนโยบายการลงทุนที่เหมาะสมกับตนเองได้โดยอาจผ่านรูปแบบของMaster Fund,Pooled FundหรือSingle Fund Master Fund เป็นรูปแบบการลงทุนที่ พ.ร.บ. ฉบับใหม่กำหนดให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพสามารถจัดให้มี นโยบายการลงทุนเพิ่มขึ้นในกองทุน โดยไม่จำเป็นต้องจดทะเบียนจัดตั้งกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ขึ้นมาใหม่

3. เปิดโอกาสให้สมาชิกกองทุนสามารถเลือกประเภทการลงทุนและระดับความเสี่ยง ที่รับได้ที่เหมาะสม และ/หรือ ตรงตามวัตถุประสงค์ของตนเอง เพิ่มความยืดหยุ่นแก่สมาชิก โดยสามารถเปลี่ยนกองทุน/นโยบายการลงทุนได้ เปิดโอกาสให้สมาชิกกองทุนสามารถเลือกการลงทุนในลักษณะกระจายความเสี่ยง (Diversification) ในกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนที่แตกต่าง และหลากหลายมากขึ้น ส่งเสริมให้สมาชิกมีความรู้ความเข้าใจ และมีความรับผิดชอบในการลงทุนของตนเองมากขึ้น ส่งเสริมให้มีการลงทุนในตราสารทุนในตลาดหลักทรัพย์มากขึ้น เพื่อเป็นการพัฒนาตลาดทุนของประเทศ ข้อดีสำหรับการจัดตั้ง Employee’s Choice

4. ข้อดีสำหรับการจัดตั้ง Employee’s ChoiceในรูปแบบของMaster Fund • ลดขั้นตอนในการบริหารจัดการกองทุน เช่น กองทุนที่มีหลายนโยบายสามารถมีคณะกรรมการกองทุนเพียงคณะเดียวเพื่อทำหน้าที่เป็นตัวแทนของสมาชิกกองทุนทั้งหมด (รวมถึงข้อบังคับกองทุน) • ค่าใช้จ่ายในการจัดการกองทุนอาจลดลง เช่น ค่าสอบบัญชี เนื่องจากกองทุนที่มีหลายนโยบายจะจ้างผู้สอบบัญชีเพียงรายเดียว ซึ่งแตกต่างจากสมัยก่อนที่ต้องจ้างผู้สอบบัญชีตามจำนวนกองที่มี • คณะกรรมการกองทุนสามารถคัดเลือกบริษัทจัดการเพื่อบริหารกองทุนได้มากกว่า 1ราย ขึ้นอยู่กับความเชี่ยวชาญการลงทุนในแต่ละนโยบาย

5. ลักษณะของ employee’s choice พ.ร.บ. เดิม นายจ้าง A กองทุน 4 กองทุน 1 กองทุน 2 กองทุน 3 นโยบาย ตราสารทุน นโยบาย ตราสารหนี้ ภาคเอกชน นโยบาย ตราสารหนี้ ภาครัฐ นโยบาย ตลาดเงิน กองทุน 1-4 อาจเป็น pooled fund หรือ single fund ก็ได้ 5

6. ลักษณะของ employee’s choice (ต่อ) พ.ร.บ. ใหม่ นายจ้าง A กองทุน 1 นโยบาย ตราสารทุน นโยบาย ตราสารหนี้ ภาคเอกชน นโยบาย ตราสารหนี้ ภาครัฐ นโยบาย ตลาดเงิน กองทุน 1 เป็น single fund ของนายจ้าง A 6

7. ลักษณะของ employee’s choice (ต่อ) พ.ร.บ. ใหม่ นายจ้าง A นายจ้าง B นายจ้าง C กองทุน 1 นโยบาย ตราสารทุน นโยบาย ตราสารหนี้ ภาคเอกชน นโยบาย ตราสารหนี้ ภาครัฐ นโยบาย ตลาดเงิน 7 กองทุน 1 เป็น pooled fund

8. รายละเอียด พ.ร.บ.ใหม่ ที่เกี่ยวข้องกับEmployee’s choice ในกรณีของMaster fund กองทุนหนึ่งสามารถมีนโยบายการลงทุนหลาย ๆ นโยบายได้ (ม.5) ให้ผู้จัดการกองทุนนำเงินไปลงทุนตามนโยบายที่ลูกจ้างได้แสดงเจตนาไว้(ม.16) ในกรณีที่สมาชิกไม่เลือก ให้ลงทุนตามนโยบายเดิมหรือนโยบายที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด แล้วแต่กรณี (ม.16) ให้จัดทำบัญชีแยกทรัพย์สินของแต่ละนโยบายออกจากกัน (ม.17) เมื่อลูกจ้างสิ้นสมาชิกภาพให้คำนวณผลประโยชน์จากทรัพย์สินในบัญชีของนโยบายที่ลูกจ้างมีส่วนได้เสีย(ม.23/1) 8

9. กองทุนหนึ่งสามารถมีนโยบายการลงทุนหลาย ๆ นโยบายได้ (ม.5) • กองทุนที่จัดตั้งอยู่เดิม สามารถเปลี่ยนเป็นหลายนโยบายการลงทุนได้ โดยไม่ต้องเลิกกองทุนแล้วจัดตั้งกองทุนใหม่ • ข้อบังคับกองทุนควรเป็นชุดเดียวสำหรับทุกนโยบาย 9

10. ให้ผู้จัดการกองทุนนำเงินไปลงทุนตามนโยบายที่ลูกจ้างได้แสดงเจตนาไว้(ม.16)ให้ผู้จัดการกองทุนนำเงินไปลงทุนตามนโยบายที่ลูกจ้างได้แสดงเจตนาไว้(ม.16) • ในการลงทุนหรือหาผลประโยชน์ของกองทุน บลจ. มีหน้าที่นำเงินทั้งหมดที่ลูกจ้างมีส่วนได้เสียอยู่ในกองทุน ได้แก่ เงินสะสม เงินสมทบ และผลประโยชน์เงินสะสมเงินสมทบไปลงทุนตามนโยบายที่ลูกจ้างแสดงเจตนาเลือก • นายจ้างไม่สามารถกำหนดแยกเงินสมทบโดยให้ลงทุนในนโยบายที่แตกต่างจากเงินสะสมได้ เนื่องจากกฎหมายกำหนดให้นำเงินทั้งหมดที่ลูกจ้างมีส่วนได้เสียไปลงทุนตามนโยบายที่ลูกจ้างเลือก 10

11. ในกรณีที่สมาชิกไม่เลือก ให้ลงทุนตามนโยบายเดิมหรือนโยบายที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุด แล้วแต่กรณี (ม.16) • สมาชิกเก่าไม่แสดงเจตนาเลือกนโยบายการลงทุน ให้ถือว่าสมาชิกรายนั้นเลือกนโยบายเดิม หรือนโยบายที่มีเสี่ยงน้อยที่สุดที่กองทุนมีในขณะนั้น • สมาชิกใหม่ไม่แสดงเจตนาเลือกนโยบายการลงทุน ให้ถือว่าสมาชิกเลือกนโยบายที่มีความเสี่ยงน้อยที่สุดที่กองทุนมีในขณะนั้น • นโยบายเสี่ยงน้อยที่สุด หมายถึง นโยบายที่มีระดับความเสี่ยงน้อยที่สุดในจำนวนนโยบายการลงทุนทั้งหมดของกองทุนที่มีให้สมาชิกเลือกในขณะนั้น 11

12. ให้จัดทำบัญชีแยกทรัพย์สินของแต่ละนโยบายออกจากกัน (ม.17) • กรณี master fund (1 กองทุน หลายนโยบาย) - รายได้/ค่าใช้จ่ายที่เกิดจากการลงทุน ให้บันทึกเป็นรายได้/ค่าใช้จ่าย ของนโยบายนั้น - รายได้/ค่าใช้จ่ายที่ไม่ได้เกิดจากการลงทุน ให้บันทึกเป็นรายได้ ค่าใช้จ่ายของทุกนโยบาย โดยกระจายตามสัดส่วน NAV ของแต่ละ นโยบาย ทั้งนี้ การจำแนกประเภทรายได้/ค่าใช้จ่ายว่าเกิดจากการลงทุนหรือไม่ ให้เป็นไปตามที่ AIMC กำหนด 12

13. ความเสี่ยงสูง Aggressive ความเสี่ยงปานกลาง Balanced ความเสี่ยงต่ำ Conservative วัยหนุ่มสาว วัยกลางคน วัยใกล้เกษียณ EMPLOYEE’S CHOICE ให้สมาชิกเลือกนโยบายการลงทุนแทนคณะกรรมการ - สิ่งที่ควรคำนึงถึงก่อนการตัดสินใจ • อายุการทำงาน & ระยะเวลาในการลงทุน • ความเสี่ยงที่ยอมรับได้- ความมั่นคงของเงินต้น- อัตราผลตอบแทนที่คาดหวัง - ขนาดเงินก้อนที่ได้รับเมื่อออกจากงาน

14. ปัจจัยในการเลือกนโยบายการลงทุนปัจจัยในการเลือกนโยบายการลงทุน อายุ วัยหนุ่มสาว ยังไม่มีภาระมากนัก วัยกลางคน มีภาระค่าใช้จ่ายมากขึ้น (ค่าเทอม ผ่อนบ้าน/รถ) วัยใกล้เกษียณ ต้องการค่ารักษาพยาบาลและใช้ในการดำรงชีวิต ความเสี่ยงที่ยอมรับได้ สูง ปานกลาง ต่ำ ผลตอบแทนที่ต้องการ • ต้องการผลตอบแทนสูง และมีช่วงเวลาลงทุนยาวนาน หากขาดทุนก็สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ • ต้องการผลตอบแทนคงที่ส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งนำไปลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนสูงขึ้น • ต้องการผลตอบแทนที่สม่ำเสมอ เพราะอาจไม่มีรายได้จากด้านอื่นๆ แล้ว 14

15. เปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนของตราสารทางการเงินระหว่างปี พ.ศ. 2518 –พ.ศ. 2549 • อัตราผลตอบแทนสูงสุดอยู่ที่ร้อยละ 129 ในปี 2532 • อัตราผลตอบแทนต่ำสุดอยู่ที่ร้อยละ -55 ในปี 2540 Source: SET analysis as of end-December 2006

16. อัตราผลตอบแทนเฉลี่ยย้อนหลัง 4 ปี (พ.ศ. 2547 –พ.ศ. 2550) ทางเลือกในการลงทุน ความเสี่ยงต่ำ ความเสี่ยงสูง (Gov. Bond) (Stock) 3.89%6.09% ต่อปี ต่อปี ที่มา: SET และ ThaiBMA 16