1 / 22

Design of Drill Jigs

Design of Drill Jigs . JIG. เดิมทีเดียว jig เป็นคำที่ใช้เรียกเพื่อให้แตกต่างจาก fixture เพราะ fixture ส่วนมากต้องยึดให้ติดแน่นกับโต๊ะ หรือหัวจับ ของเครื่องจักร Fixture ยึดติดกับโต๊ะเพื่อจุดประสงค์ในการต้านแรงตัด

pooky
Download Presentation

Design of Drill Jigs

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. Design of Drill Jigs

  2. JIG • เดิมทีเดียว jig เป็นคำที่ใช้เรียกเพื่อให้แตกต่างจาก fixture เพราะ fixture ส่วนมากต้องยึดให้ติดแน่นกับโต๊ะ หรือหัวจับ ของเครื่องจักร • Fixture ยึดติดกับโต๊ะเพื่อจุดประสงค์ในการต้านแรงตัด • Jig เป็นเครื่องมือกลที่โดยทั่วไปจะไม่ยึดติดแน่นกับโต๊ะด้วยวัตถุประสงค์เพื่อต้านแรงตัดหรือต้านอาการเคลื่อนไหวของเครื่องจักร • บางครั้ง jig ก็สามารถยึดติดกับโต๊ะเหมือนกัน แต่ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อการตั้งตำแหน่ง

  3. ขาของ Jig • Jig ที่ดีต้องมีขามากพอที่จะตั้งอยู่บนโต๊ะเครื่องเจาะได้อย่างถูกต้อง คือ ได้ระดับ ส่วนมากมันมี 4 ขา • การใช้ 4 ขา ทำให้ทราบได้ว่า jig เอียงหรือไม่ได้ระดับเมื่อมีสิ่งสกปรกหรือเศษโลหะเข้าไปหนุนขาใดขาหนึ่ง • ขาแบบ 3 ขา ไม่ควรนำมาใช้อย่างยิ่ง เพราะมันจะไม่แสดงอาการเมื่อไม่ได้ระดับให้เห็น • ขาที่ออกแบบก็ควรประกันได้ว่าแกนของ bushing เจาะตั้งตรงและฉากกับพื้นโต๊ะ

  4. ข้อสังเกตเกี่ยวกับขา jig • ขนาดของขา jig ต้องใหญ่กว่าร่องใดๆ บนโต๊ะเจาะและขาต่างๆ ต้องอยู่ห่างกันมากจนกระทั้งเมื่อลากเส้นโยงขาทั้งหมดแล้ว แรงตัดอยู่ภายในกรอบของเส้นโยงต่อกันนี้ • ขาของ jig มีใช้กันหลายแบบ เช่น แบบทำจากงานหล่อ, แบบแยกส่วนแล้วนำมาประกอบอัดเข้ากับฐานของตัว jig และแบบที่นำฐานมาตัดร่องเป็นรูปกากะบาด

  5. ขา jig

  6. ข้อสังเกตเกี่ยวกับขา jig • ในกรณีที่ต้องออกแบบ jig ให้มีขายาว จำเป็นต้องพลิกคว่ำพลิกหงายขณะทำงาน ดังรูป • อาศัยเกลียวตัวผู้คู่กับเกลียวตัวเมีย และมีข้อควรจำ คือ หัวหกเหลี่ยมทั้งสองควรอยู่ด้านในหรือใกล้ฐานให้มากที่สุด จะได้ไม่ยืด-หด ขณะขันแน่น

  7. วิธีการควบคุมความลึกของงานเจาะวิธีการควบคุมความลึกของงานเจาะ • การเจาะสามารถควบคุมให้มีความลึกเท่าใดได้โดยใช้อุปกรณ์ตั้งระยะความลึก ลักษณะดังรูปเป็นการคั้งความลึกแบบหนึ่งซึ่งง่ายมากและประหยัดด้วย • ในกรณีที่เจาะทะลุตลอดชิ้นงาน ดอกสว่านจะเลยจากชิ้นงานไปตัดเอาบางส่วนของตัว jig ได้ เพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งนี้ • ควรเว้นช่องว่างบริเวณให้รูเจาะไว้ด้วย และช่องว่างดังกล่าวต้องมีสัมพันธ์กับระบบตั้งตำแหน่งด้วย

  8. รอยเยินและร่อง • รอยเยินมักเป็นเหตุให้ชิ้นงานติดแน่นกับตัวตั้งตำแหน่งและเอาออกยาก จึงจำเป็นต้องทำร่องเผื่อไว้สำหรับป้องกันการติดแน่น

  9. Plate Jigs • ตัวตั้งตำแหน่งและการยึดจับทำแบบง่ายๆ เหมาะที่จะใช้กับงานชิ้นใหญ่ น้ำหนักมาก

  10. Angle Plate Jig • ชิ้นงานขนาดใหญ่จำเป็นต้องติดตั้งบนฐานพิเศษ ซึ่งปรับให้อยู่ในลักษณะต่างๆ ได้ • เอา plate jig ไปจับยึดอยู่เฉพาะบริเวณที่จะเจาะเท่านั้น

  11. Angle Plate Jig • ใช้เสาแบบนอนเป็นตัวตั้งตำแหน่ง ตัวตั้งตำแหน่งไม่ต้องยาวมาก • เพื่อสะดวกแก่การถอด-ใส่ชิ้นงาน และยังทำหน้าที่เป็นช่องว่างให้กับรอยเยินไปในตัว และให้ดอกสว่านเจาะเลยไปได้ด้วย

  12. Modified Angle –Plate Jig • เป็น jig ที่สร้างขึ้รนด้วยวิธีเชื่อมและนำเอา มือหมุนเกลียวอย่างเร็วมาใช้ • ชิ้นงานมีรูคว้านเล็ก จึงออกแบบให้ bushing ยื่นยาวลงมากดชิ้นงานด้วย • Bushing เจาะนี้เลื่อนขึ้น ลงเพื่อหลีกให้นำชิ้นงานผ่านเข้า ออก ได้

  13. Solid Jigs • ส่วนมากใช้กับงานชิ้นเล็ก ตัว jig ทำจากแท่งโลหะตัน แล้วนำมาแปรรูปตามลักษณะของชิ้นงาน

  14. Post Jigs • แบบเสา เป็นแบบที่ตั้งตำแหน่งโดยใช้เสา ควรออกแบบให้สั้นที่สุดเท่าที่จะสั้นได้ • แต่บางกรณีต้องใช้เสายาวก็ควรลดขนาดกลางลำตัวให้เล็กลงเหลือไว้ให้ต้ำตำแหน่งเฉพาะปลายทั้งสองของเสาเท่านั้น • ถ้ารูคว้านของชิ้นงานใหญ่มาก เสาที่ใช้ก็ใหญ่ตามไปด้วย

  15. Post Jigs • เป็น jig แบบเสาที่ใช้ปลายเสาตั้งตำแหน่งชิ้นงานและตั้งตำแหน่งแผ่นเจาะด้วย นอกจากนั้นการจับยึดอาศัยปีกของชิ้นงานรองรับและทำช่องว่างไว้ตรงรอยเจาะด้วย

  16. Pot Jigs • เป็น jig เจาะงานชนิดถ้วย ในรูปเป็น jig ที่ตั้งตำแหน่งจากผิวภายนอกของชิ้นงานและจับยึดที่ปีกของชิ้นงาน • เนื่องจากงานถูกเจาะที่ปีก จึงได้ทำเว้าที่ตัว jig เพื่อหลบให้สว่านผ่านไปได้ และเป็นช่องว่างให้เศษโลหะจากการตัดออกได้สะดวก

  17. Pot Jigs • ลักษณะแตกต่างกับรูปแรก คือ แผ่นเจาะตั้งตำแหน่งเจาะภายในรูคว้านของชิ้นงานและเสาทำหน้าที่จับยึดอย่างเดียวไม่ได้ทำหน้าที่ตั้งตำแหน่งแผ่นเจาะ

  18. Sandwich Jigs • ประกอบด้วยแผ่นฐานอยู่ข้างล่าง และมีแผ่นเจาะอยู่ข้างบนส่วนชิ้นงานอยู่ตรงกลาง การจับยึดใช้สลักเกลียวเหวี่ยงได้ 2 ตัว • ตัวตั้งตำแหน่งชิ้นงานและตัวตั้งตำแหน่งแผ่นเจาะเป็นคนละตัวแต่สัมพันธ์กัน

  19. Leaf Jigs • แบบฝาบานพับ ลักษณะเหมือนบานพับโดยชิ้นงานอยู่ในกล่องที่ฝาเปิด-ปิดได้ • ข้อควรระวังในการออกแบบ คือ ต้องทำตำแหน่ง x กับตำแหน่ง y ให้ประกอบกันแล้วรูของ bushing อยู่ในแนวดิ่ง • ฝาบานพับปิดลงและอยู่ได้ด้วยมือหมุนเกลียว ก. ส่วนสลัก ข. ทำหน้าที่จับยึดชิ้นงาน • ถ้าออกแบบให้ฝาบานพับจับยึดงานโดยตรง รูของ bushing ก็อาจจะไม่ได้แนวดิ่งและแปรเปลี่ยนไปตามขนาดของชิ้นงานที่แตกต่างกันด้วย

  20. Leaf Jigs

  21. Box Jigs • เหมาะสมที่จะใช้กับงานชิ้นเล็กๆ และจำเป็นต้องเจาะรูในแนวแกนที่ต่างกันหลายรู โดยตั้งตำแหน่งและจับยึดครั้งเดียว • ข้อควรระวังในการออกแบบ คือ ต้องแน่ใจว่ามีช่องว่างมากพอให้มือช่างทำงานได้สะดวกขณะเอางานเข้า-ออก • จัดเตรียมช่องทางเอาเศษโลหะออก ภายใน jig ไม่ควรมีเว้าหรือลดระดับใดๆ เพราะจะเป็นที่สะสมของเศษโลหะและสิ่งสกปรก

  22. Box Jigs

More Related