1 / 46

บทที่2 แนวการดำเนินการในการเข้าสู่ธุรกิจ E-Commerce

บทที่2 แนวการดำเนินการในการเข้าสู่ธุรกิจ E-Commerce. 1. เนื้อหา. เริ่มต้นทำ e-Commerce อย่างไร ทำอย่างไรจึงจะเอาชนะคู่แข่งได้ พฤติกรรมของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต เตรียมพื้นฐานก่อนเข้าสู่การสร้างเว็บไซต์ ภัยคุกคามและโอกาสทางการตลาด การคัดเลือก การจัดเตรียมสินค้าและการตั้งราคาสินค้า.

ondrea
Download Presentation

บทที่2 แนวการดำเนินการในการเข้าสู่ธุรกิจ E-Commerce

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. บทที่2แนวการดำเนินการในการเข้าสู่ธุรกิจ E-Commerce 1

  2. เนื้อหา • เริ่มต้นทำ e-Commerce อย่างไร • ทำอย่างไรจึงจะเอาชนะคู่แข่งได้ • พฤติกรรมของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต • เตรียมพื้นฐานก่อนเข้าสู่การสร้างเว็บไซต์ • ภัยคุกคามและโอกาสทางการตลาด • การคัดเลือก การจัดเตรียมสินค้าและการตั้งราคาสินค้า • Electronic Commerce Concepts • ความสำเร็จของ EC • ความรู้ที่ต้องมีในการทำ EC • Framework for EC • Pure E-commerce and Partial E-commerce • Business model • Organizational Responses 2

  3. Electronic Commerce Concepts • ที่มาของ E-Commerce เกิดจากการนำอินเทอร์เน็ตเข้า มาใช้ทำให้สามารถเชื่อมโยงกันได้ทั่วโลก มีช่องทางการจำหน่ายสินค้า และบริการ การจัดการในแต่ละงาน • เศรษฐกิจที่เปลี่ยนไป การตลาด และโครงสร้างอุตสาหกรรม การผลิตสินค้าและบริการ ส่วนแบ่งการตลาด พฤติกรรมผู้บริโภค งานและตลาดแรงงาน • ผลกระทบของสังคม และการเมืองที่พบเห็น 3

  4. Electronic Commerce Concepts(Cont) • Communications : การส่งสินค้า บริหาร ข้อมูล การจ่ายเงินโดยผ่านระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ • Commercial (trading): การค้า รวมทั้งการซื้อ-ขายสินค้า หรือบริการ และข้อมูลข่าวสารโดยผ่านระบบ Internet หรือบริการออนไลน์อื่นๆ 4

  5. Electronic CommerceConcepts(Cont) • Business process : กระบวนการทางธุรกิจที่มีการแข่งขันทางอิเล็กทรอนิกส์ การใช้ระบบเครือข่าย มีการแบ่งข้อมูลสำหรับจัดการธุรกิจ • Service: การปรับปรุงต้นทุนการบริการ คุณภาพการบริการ และเพิ่มความรวดเร็วในการจัดส่งสินค้าหรือบริการภายใต้การบริหารจัดการที่ดี 5

  6. Electronic Commerce Concepts(Cont) • Learning: การเรียนออนไลน์ เป็นรูปแบบการอบรม หรือการศึกษาในโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย และองค์กรทางธุรกิจอื่นๆสามารถนำไปใช้ได้ • Collaborative: การทำงานร่วมกัน ซึ่งมีความร่วมมือกันระหว่างองค์กรธุรกิจที่ทำงานร่วมกัน • Community: มีการรวมกลุ่มกัน มีสถานที่ทำให้สมาชิกสามารถทำกิจกรรม หรือทำธุรกรรมร่วมกัน หรือร่วมมือกันระหว่างองค์กร 6

  7. ความสำเร็จของ E-Commerce • Click-and-mortar • - Cisco • - General Electric • - IBM • - Intel • - Schwab • Virtual EC companies • eBay • VeriSign • AOL • Checkpoint 7

  8. ความรู้/ความเชี่ยวชาญที่ต้องมีในการทำ EC • Major EC disciplines • Computer science : วิทยาการคอมพิวเตอร์ • Marketing: การตลาด • Consumer behavior: พฤติกรรมผู้บริโภค • Finance: การเงิน • Economics: เศรษฐศาสตร์ • Management information systems :การจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ 8

  9. Framework for EC • คน (People)หมายถึง ผู้ขาย ผู้ซื้อ คนกลาง พนักงาน ITและอื่น ๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง • นโยบายสาธารณชน(Public policy)หมายถึง กฎหมาย ภาษี และนโยบายหลักๆ ที่สำคัญ เช่น สิทธิส่วนบุคคล ที่ถูกกำหนดด้วยรัฐบาล ในที่นี้นโยบายจะรวมถึงมาตรฐานด้านเทคนิค และ โปรโตคอล (Protocol) • การตลาด และการโฆษณาประชาสัมพันธ์ (Marketing & advertising) เว็บไซต์เป็นสิ่งสำคัญเพื่อใช้ติดต่อกับลูกค้า และทำธุรกิจค้าขาย รวมถึงการมองหาตลาดแหล่งใหม่ ๆ และกลยุทธ์ในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ • พันธมิตรธุรกิจ (Business partnerships)E-commerceถูกนำมาใช้ในการบริหาร Supply Chain หรือ ระหว่างคู่ค้า และพันธมิตรทางการค้า • บริการสนับสนุนอื่น (Support services)สิ่งสำคัญ คือการวิจัยตลาด การสร้างเนื้อหาและการบริการอื่น ๆ เพิ่มเติม ไม่ว่าจะเป็น ระบบการชำระ การขนส่ง เทคโนโลยีสารสนเทศ และระบบรักษาความปลอดภัย 9

  10. Pure E-commerce and Partial E-commerce Pure E-commerceคือ การทำธุรกรรม E-commerce ในรูปแบบดิจิตอล Digital ทุกขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นขั้นตอนที่เริ่มจาก 1. การสั่งซื้อสินค้า หรือ บริการ 2. กระบวนการชำระเงิน 3. การส่งมอบ ตัวอย่างเช่น การซื้อขาย โปรแกรม เพลง หรือ เกมส์ ผ่านอินเทอร์เน็ตด้วยบัตรเครดิต 10

  11. Partial E-commerceคือ การทำธุรกรรม E-commerceที่บางขั้นตอนยังอยู่ในรูปแบบกายภาพ (Physical) เช่น การสั่งซื้อตำรา ต้องมีการขนส่งผ่านระบบขนส่งปกติทั่วไป หรือ การชำระเงินโดยใช้วิธีโอนผ่านธนาคาร หรือ ATM เป็นต้น Brick and Mortar Organization คือ องค์กรที่มีกระบวนการซื้อขายสินค้าแบบทั่วไปขององค์กรธุรกิจ (Pure Physical) เช่น การซื้อสินค้าด้วยตนเอง หรือสั่งซื้อผ่านพนักงาน (Sales) Click and Mortar Organizationคือ องค์กรที่มีกระบวนการซื้อขายสินค้าแบบ EC ในบางขั้นตอน หรือ บางส่วนของกระบวนการทั้งหมด Pure E-commerce and Partial E-commerce 11

  12. Internet vs. Non-Internet EC Click and Mortar Organization .com + 12

  13. Pure E-commerce and Partial E-commerce • Electronic market (E-marketplace) เป็นสถานที่ซึ่งผู้ซื้อ-ผู้ขาย จะมาแลกเปลี่ยนสินค้า/บริการ/เงิน หรือข้อมูลซึ่งกันและกัน เช่นเป็นร้านค้าเล็กๆ หรือ Shopping mall • Interorganizational informationsystems (IOSs) : ในลักษณะของงานประจำมีการทำรายการ และมีการติดต่อกันของข้อมูลข่าวสารระหว่างองค์กร • Intraorganizational information systems เป็นการกระทำในแต่ละองค์กร หรือภายในองค์กร 13

  14. Business models,Business plan,Business case • Business models: วิธีการทางธุรกิจที่จะทำให้ธุรกิจสามารถสร้างรายได้ • Examples: • Name your own price : เป็นบริการกำหนดราคาที่คุณต้องการ • Find the best price : ราคาที่ดี เช่นจองตั๋วช่วงเวลาเช้า • Dynamic brokering : มีการประมูล • Affiliate marketing : มีเบรนเนอร์แล้วส่งต่อลูกค้าให้ • Business plan: แผนธุรกิจ เป็นเอกสารที่เขียนเกี่ยวกับเป้าหมายของธุรกิจ ขั้นตอนวิธีการดำเนินการของธุรกิจ • Business case: เอกสารที่ผู้จัดการใช้ในการตั้งงบประมาณการเงินพิเศษขึ้นมาใช้เฉพาะแต่ละโครงการ 14

  15. Revenue model • Revenue model: รูปแบบของรายได้ของบริษัทมาจาก • Sales : ขายสินค้า • Transaction fees : ค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรม • Subscription fees : ค่าธรรมเนียมจากการสมัครสมาชิก • Advertising : ค่าโฆษณา • Affiliate fees : ค่าธรรมเนียมในการแนะนำลูกค้า ,link • Other revenue sources: รายได้ในรูปแบบอื่นๆ 15

  16. Value proposition • Value proposition: การเพิ่มมูลค่าให้กับธุรกิจโดย EC • search and transaction cost efficiency : มี web • search ที่รวดเร็ว สามารถสร้างรายได้จากการโฆษณา • Complementarities : เสริมในบริการอื่นเข้าไป เช่นขายรถ+ ไฟแนนซ์ • lock-in : การดึงลูกค้าไว้กับตน • Novelty : สร้างนวตกรรม • aggregation and interfirm collaboration : ความร่วมมือระหว่างองค์กร ร่วมมือดี สร้างภาพพจน์ที่ดีให้กับองค์กร 16

  17. Typical Business Models in E-Commerce 1. Online direct marketing : ธุรกิจขายตรง 2. Electronic tendering systems : ธุรกิจการประมูล 3. Name your own price: เป็นรูปแบบที่ผู้ซื้อตั้งราคาไว้ว่าต้องการซื้อในราคาที่เขาเต็มใจจ่าย และผู้ขายจะหาสินค้า/บริการตามราคา 4. Affiliate marketing: มีการส่งลูกค้าต่อไปให้กับบริษัทอื่น ในเว็บไซต์ที่ลิงค์ 5. Viral marketing: เป็นรูปแบบการทำตลาดที่มีการบอกต่อกัน แบบปากต่อปาก 17

  18. Typical Business Models in E-Commerce 6. Group purchasing: การซื้อสินค้าเป็นจำนวนมากจะได้ส่วนลด 7. SMEs: ผ่านช่องทางธุรกิจ SMEs 8. Online auctions : การประมูลสินค้าออนไลน์ 9. Product and service customization : การสร้างสินค้า/บริการ ตามที่ผู้ซื้อต้องการ 10. Electronic marketplaces and exchanges : ทำการตลาดเพื่อให้ผู้ซื้อ-ผู้ขาย พบปะแลกเปลี่ยนสินค้า/บริการ 11. Value-chain integrators : สร้างมูลค่าเพิ่ม 18

  19. Typical Business Models in E-Commerce 12. Value-chain service providers : สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับการบริการ เช่น link bank 13. Information brokers: เป็นนายหน้าในการจัดข้อมูลข่าวสารให้ 14. Bartering : การแลกเปลี่ยนสินค้า/บริการกัน 15. Deep discounting : นำสินค้าลดราคามาขาย 16. Membership : จัดทำสมาชิก 17. Supply chain improvers : ปรับปรุงกระบวนการ 19

  20. Organizational Responses การตอบสนองต่อองค์กร • Strategic systems :ต้องปรับกลยุทธ์องค์กร • Continuous improvement efforts and business process reengineering—including business process reengineering (BPR): ต้องปรับปรุงรูปแบบและกระบวนการทางธุรกิจ • Customer relationship management (CRM) ต้องสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า • Operational CRM : เก็บข้อมูลลูกค้า • Analytical CRM : วิเคราะห์กลุ่มลูกค้า • Collaborative CRM: ทำธุรกิจร่วมกันกับลูกค้า 20

  21. Organizational Responses(Cont) • Business alliances : หาพันธมิตรทางธุรกิจ • Electronic markets : ทำการตลาด • Reductions in cycle time and time-to market • Cycle time reduction: ลดระยะเวลาในกระบวนการผลิตสินค้าก่อนที่จำนำมาสู่ตลาดให้สั้นลง 21

  22. Organizational Responses(Cont) • Empowerment of employees: กระจายอำนาจให้หน่วยงานต่างๆ • Supply chain improvements : ปรับปรุงสายการผลิต • Mass customization: make-to-order ผลิตสินค้าตามความต้องการของลูกค้า ในจำนวนมากๆ • Intrabusiness: from sales force • automation to inventory มีการปรับปรุงระหว่างธุรกิจเดียวกัน จากระบบสินค้าคงคลังอัตโนมัติ • Knowledge management (KM): การบริหารจัดการในองค์ความรู้ที่ดี มีการอัพเดตข้อมูล มีการอบรมการใช้งาน 22

  23. ลักษณะพิเศษของการค้าบนเว็บลักษณะพิเศษของการค้าบนเว็บ 23

  24. เริ่มต้นทำ e-Commerce อย่างไร 1. สำรวจตัวเอง 24

  25. เริ่มต้นทำ e-Commerce อย่างไร 2. สำรวจตลาด 25

  26. เริ่มต้นทำ e-Commerce อย่างไร 3. สำรวจคู่แข่ง 26

  27. เริ่มต้นทำ e-Commerce อย่างไร 4. สำรวจเทคโนโลยี 27

  28. วิธีสำรวจทำอย่างไร • ค้นหาจากเครื่องมือค้นหา • ทดลองเป็นลูกค้า • เฝ้าดูอย่างต่อเนื่อง 28

  29. ทำอย่างไรจึงจะเอาชนะคู่แข่งได้ทำอย่างไรจึงจะเอาชนะคู่แข่งได้ 1. สนองความต้องการที่แท้จริง 2. ปรับราคาให้ตรงความต้องการ 3. สู้ด้วยจุดแข็งของเราเป็นหลัก 4. ปรับตัวให้รวดเร็ว 29

  30. องค์ประกอบของร้านค้าบนเว็บไซต์องค์ประกอบของร้านค้าบนเว็บไซต์ มี 6 องค์ประกอบที่สำคัญ ดังนี้ • ส่วนหน้าร้าน • ส่วนแคตาล๊อค • ส่วนระบบการสั่งซื้อ (ตะกร้า,รถเข็น) • ส่วนระบบการชำระเงิน • ส่วนติดตามผลการซื้อ-ขาย • ส่วนหลังร้าน 30

  31. เคล็ดลับความสำเร็จ 1. ยึดลูกค้าเป็นหลัก 2. เน้นการสนองตอบที่สินค้าและราคา 3. ปรับปรุงตลอดเวลา 4. รวดเร็วต่อการตอบสนอง 5. ตั้งใจจริงและอดทน 31

  32. พฤติกรรมของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตพฤติกรรมของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต • ชอบศึกษาค้นคว้า • ชอบลองของใหม่ • ชอบใช้ของฟรีก่อน (ขอทดลองใช้งานก่อน) • ชอบบริโภคข้อมูลข่าวสาร • ตื่นตัว • ใจร้อนและรีบเร่ง ชอบความรวดเร็ว 32

  33. พฤติกรรมของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตพฤติกรรมของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต • ชอบความกระชับ เข้าถึงสิ่งที่ต้องการได้โดยง่าย และทำความเข้าใจกับเนื้อหาและสิ่งที่ต้องการสื่อได้อย่างรวดเร็ว • ชอบเสี่ยงแต่ต้องมั่นใจว่าเสี่ยงแล้วไม่เสียหาย • มีการตัดสินใจอย่างเป็นระบบ เปรียบเทียบ วิเคราะห์อย่างละเอียดก่อนตัดสินใจ • การตัดสินใจซื้อสินค้าขึ้นอยู่กับข้อมูลข่าวสาร • ไม่ชอบความจำเจ ชอบติดตามข่าวสารและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ฉะนั้นการปรับปรุงข้อมูลบนเว็บไซต์จึงเป็นกุญแจแห่งความสำเร็จข้อหนึ่ง 33

  34. เตรียมพื้นฐานก่อนเข้าสู่การสร้างเว็บไซต์เตรียมพื้นฐานก่อนเข้าสู่การสร้างเว็บไซต์ • เตรียมอุปกรณ์ ซอฟแวร์ • คอมพิวเตอร์ กล้องดิจิตอล ซอฟแวร์ อินเทอร์เน็ต • เรียนรู้การใช้จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ • การรับส่งจดหมาย • เรียนรู้ขั้นตอนการสั่งซื้อสินค้า 34

  35. การเรียนรู้ขั้นตอนการสั่งซื้อสินค้าการเรียนรู้ขั้นตอนการสั่งซื้อสินค้า • ใช้ชื่อประเภทสินค้าค้นหาบนเว็บไซต์ seach engine เช่น google, yahoo • เมื่อได้รายชื่อเว็บไซต์แล้ว จึงเข้าไปยังเว็บไซต์เพื่อเลือกชมสินค้า • สิ่งที่ผู้ซื้อจะต้องพิจารณาก่อนสั่งซื้อคือ : • สินค้า และรูปแบบความหลากหลายของตัวสินค้า • About us • วิธีการขนส่ง • วิธีการชำระเงิน 35

  36. การเรียนรู้ขั้นตอนการสั่งซื้อสินค้าการเรียนรู้ขั้นตอนการสั่งซื้อสินค้า • เมื่อพิจารณาข้อมูลต่างๆ แล้วจึงทำการสั่งซื้อ • คลิกเลือกสินค้าใส่ตะกร้าสินค้า • เลือกวิธีการขนส่ง ซึ่งจะส่งผลถึงยอดเงินที่ต้องชำระ • ชำระเงิน • บัตรเครดิต กรอกรายละเอียดบัตรที่ทางธนาคารเจ้าของบัตรต้องการ • โอนเงินเข้าบัญชี • พัสดุเก็บเงินปลายทาง 36

  37. คำถามง่ายๆ ก่อนทำ e-Commerce ใครคือลูกค้าของคุณ? WHO คุณจะเข้าถึงลูกค้าของคุณได้ยังไง ? อะไรคือสิ่งที่ลูกค้าต้องการ? HOW WHAT 6? ทำไมเค้าต้องมาซื้อของคุณ ? ลูกค้าของคุณอยู่ที่ไหน ? WHY WHERE WHEN เมื่อใดที่ลูกค้าต้องการคุณ ? 37

  38. การประยุกต์ใช้ในเชิงธุรกิจการประยุกต์ใช้ในเชิงธุรกิจ • สำรวจโอกาสทางการตลาดด้วย search engines • วางแผนการตลาดและพัฒนาเว็บเพจ • นำเว็บเพจเข้าสู่อินเทอร์เน็ตและจัดตั้งเว็บไซต์ • โฆษณาประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ • ติดตามผล ปรับปรุง และบำรุงรักษา 38

  39. เคล็ดลับการทำธุรกิจอิเล็คทรอนิกส์เคล็ดลับการทำธุรกิจอิเล็คทรอนิกส์ • ส่วนที่หนึ่ง เป็นขั้นตอนการเตรียมการ จัดตั้งทีมงาน กำหนดเป้าหมาย การสำรวจตลาด กำหนดตลาดเป้าหมาย เลือกสินค้า รวมถึงกลยุทธ์ด้านการขาย • ส่วนที่สอง เป็นขั้นตอนของการนำแผนกลยุทธ์และยุทธวิธีมาจัดทำเว็บเพจ เลือกระบบตะกร้า จดทะเบียนเว็บไซต์และนำเข้าสู่ระบบอินเทอร์เน็ต • ส่วนที่สาม เป็นขั้นตอนการทำประชาสัมพันธ์ ลงระบบการค้นหา ติดตามประเมินผล รวมทั้งปรับกลยุทธ์เพื่อสนองตอบต่อความต้องการของตลาดอย่างรวดเร็ว 39

  40. การสำรวจตลาดและการวิเคราะห์หาโอกาสทางการตลาดการสำรวจตลาดและการวิเคราะห์หาโอกาสทางการตลาด • สำรวจโอกาสบนเว็บโดยใช้เครื่องมือค้นหา • วิธีค้นหาให้ใช้คีย์เวิร์ดที่เป็นปัจจัยในการตัดสินใจซื้อของกลุ่มเป้าหมายในการค้นหา (word tracker) • เมื่อได้รายชื่อของคู่แข่งออกมาแล้ว ให้ไล่ดู 30-50 อันดับแรก • สำรวจดูจำนวนผู้เยี่ยมชม 40

  41. การสำรวจตลาดและการวิเคราะห์หาโอกาสทางการตลาดการสำรวจตลาดและการวิเคราะห์หาโอกาสทางการตลาด • ให้เฝ้าดูอัตราการเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้เยี่ยมชมติดต่อกันอย่างน้อย 30 วัน เพื่อดูความเคลื่อนไหวในวงการ การดูการทำกลยุทธ์ส่งเสริมการตลาดว่าเข้มแข็งเพียงใด • พยายามมองหาความต้องการตลาดของกลุ่มเป้าหมายจากกลุ่มข่าว • นำข้อมูลทั้งหมดมาวิเคราะห์และวางแผนกลยุทธ์ในจุดที่เราได้เปรียบคู่แข่ง 41

  42. กำหนดตลาดเป้าหมาย • เป็นกลุ่มหรือตลาดที่อยู่ยงคงกระพัน • เป็นกลุ่มที่ขนาดตลาดใหญ่เพียงพอที่จะลงทุน • เป็นกลุ่มที่เติบโตได้ • ต้องมีสื่อที่สามารถเข้าถึงคนกลุ่มนี้ได้ 42

  43. ลักษณะของสินค้าต่อความสนใจของลูกค้าลักษณะของสินค้าต่อความสนใจของลูกค้า • ทำให้ลูกค้ารู้สึกอย่างไรต่อสินค้าของท่าน • ของดี ราคาถูก • สินค้าคุณภาพ ราคาแพง • หรือมีทัศนคติอย่างไรต่อสินค้าของท่าน • สินค้ารับประกันความพึงพอใจ • สินค้ามีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร 43

  44. การคัดเลือกและจัดเตรียมสินค้าการคัดเลือกและจัดเตรียมสินค้า • ถ้าคุณขายสินค้าที่ตลาดไม่ต้องการ ต่อให้คุณโฆษณา ลด แลก แจก แถม หรือแจกฟรี ก็ยังไม่มีคนซื้อ • ถ้าคุณขายสินค้าที่ตลาดต้องการ แม้ไม่มีการโฆษณาก็ยังมีคนวิ่งเข้ามาเสาะหา และขอซื้อจนได้ • พึงระวังว่า สินค้าชนิดเดียวกันแต่จุดประสงค์การใช้งานของผู้บริโภคอาจแตกต่างกันได้ ถ้าอยู่คนละประเทศ • พึงระวัง มาตรฐานความปลอดภัยต่าง ๆ ซึ่งแต่ละประเทศจะแตกต่างกัน • เราต้องมี concept ที่แน่นอน สินค้าต้องโดดเด่น และมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจน • พัฒนาให้สอดคล้องกับปัจจัยในการพิจารณาการซื้อของกลุ่มเป้าหมาย 44

  45. เคล็ดลับการตั้งราคา • การตั้งราคาต้องคำนึงถึงตลาดเป็นหลัก • สินค้าที่ตั้งราคาถูกที่สุด ไม่จำเป็นว่าจะต้องขายได้เสมอไป • ราคาที่ถูกกว่าคู่แข่งไม่จำเป็นว่าต้องขายได้เสมอได้ • ราคาควรจะมีทั้งต่ำและสูงเพื่อให้เกิดการทดลองซื้อ • สินค้าที่มีราคาถูกเกินไปควรมีชุดขายเป็นแพ็ค • ราคาแพงบางครั้งอาจบ่งบอกถึงคุณภาพ 45

  46. กำหนดนโยบายให้แน่ชัด • การกำหนดนโยบายต้องชัดเจนว่า ขายปลีก ขายส่งหรือส่งออก • การกำหนดราคาต่อปริมาณการสั่งซื้อต้องชัดเจน • การตั้งราคาต้องคำนึงถึงภาษีขาเข้าที่ประเทศเป้าหมายด้วย • ควรกำหนดนโยบายการส่งมอบ การประกันสินค้า การรับคืนให้ชัดเจน • ควรจัดให้มีการ “รับประกันความพึงพอใจ” • สินค้าที่มีความซับซ้อนในการใช้หรือบริการหลังการขาย อาจต้องมีเพจที่แสดงถึงวิธีใช้ บำรุงรักษาหรือซ่อมแซม 46

More Related