350 likes | 1k Views
นิติปรัชญา : แนวคิดกฎหมายธรรมชาติสมัยใหม่. อาจารย์อิทธิพล ปรีติประสงค์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเซีย. เหตุ ผล แห่ง พระ เจ้า. เหตุ ผล ทาง สติ ปัญ ญา. สมัยกลาง. สมัยใหม่. การใช้เหตุผล. การแบ่งยุคของกฎหมายธรรมชาติ. ยุคแห่งการจัดระบบ ( Systemmatiker).
E N D
นิติปรัชญา : แนวคิดกฎหมายธรรมชาติสมัยใหม่ อาจารย์อิทธิพล ปรีติประสงค์ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอีสเทิร์นเอเซีย
เหตุ ผล แห่ง พระ เจ้า เหตุ ผล ทาง สติ ปัญ ญา สมัยกลาง สมัยใหม่ การใช้เหตุผล
การแบ่งยุคของกฎหมายธรรมชาติการแบ่งยุคของกฎหมายธรรมชาติ ยุคแห่งการจัดระบบ(Systemmatiker) ยุคแห่งแยกแยะวิจารณ์(Analytiker) ยุคแห่งสรุปผล(Synthetiker)
ยุคแห่งการจัดระบบ (Systemmatiker) กฎหมายมีรากฐานมาจากเหตุผลตามธรรมชาติของมนุษย์ ไม่ได้อ้างอิงจากพระผู้เป็นเจ้า อธิบายกฎหมายบ้านเมืองด้วยระบบเหตุผล และพยายามจัดหมวดหมู่ของกฎหมายโดยไม่ได้ยึดติดกับแต่เฉพาะกฎหมายโรมัน การเกิดขึ้นของรัฐประชาชาติ ลัทธิปัจเจกชนนิยม(Individualism) สู่ทฤษฎีสัญญาประชาคม Samuel Purendoff Hugo Grotius Thomus Hobbes
“Natural Law is a dictate of right reason which points out that an act,according as it is or not in conformity with rational nature, has in it a quality of moral baseness or moral necessity” HUGO GROTIUS กฎหมายธรรมชาติคือบัญชาของเหตุผลอันถูกต้องที่ชี้ว่าการกระทำอันหนึ่งว่ามีความต่ำทรามทางศีลธรรม หรือมีความจำเป็นในทางศีลธรรมทั้งนี้โดยดูจากว่าคุณภาพของการกระทำนั้นเป็นไปตามธรรมชาติ หรือขัดแย้งกับธรรมชาติที่มีเหตุผลของมนุษย์
“The Law of nature would obtain even if we should concede that which cannot be concede without the utmost wickedness ,that there is no God, or that the affairs of men are of no concern to him HUGO GROTIUS กฎหมายธรรมชาติย่อมจะคงมีอยู่ แม้หากเราจะยอมรับในสิ่งที่เราไม่อาจยอมรับได้เป็นอันขาด เพราะหากยอมรับเช่นนั้นก็นับเป็นความชั่วอย่างยิ่ง คือรับว่าไม่มีพระผู้เป็นเจ้า หรือถ้ารับว่ามีพระผู้เป็นเจ้า แต่พระองค์มิได้ใส่ใจต่อกิจการของมนุษย์เลยก็ตาม
“The Law of Nature is unchangeable even God himself HUGO GROTIUS กฎหมายธรรมชาตินั้นย่อมเปลี่ยนแปลงมิได้แม้โดยพระผู้เป็นเจ้า แยกกฎหมายธรรมชาติออกจาก ความเชื่อทางศาสนา ความเชื่อทางเทววิทยา
การงดเว้นไม่เอาของผู้อื่นมาเป็นของเรา การส่งสิ่งที่เราเอามาจากเขามาคืนให้แก่เจ้าของ การรักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้แก่ผู้อื่น การชดใช้ค่าเสียหายแก่การที่ได้กระทำต่อผู้อื่นโดยมิชอบ การลงโทษบุคคลที่ควรลงโทษ รัฐนั้นเกิดจากการที่อิสระชนทั้งหลายได้มาเข้ากัน เป็นสมาคมอันบริบูรณ์ที่อิสระชนทั้งหลายเหล่านั้นจะได้อยู่ร่วมกัน เพื่อการใช้สิทธิทั้งหลายของตน และเพื่อผลประโยชน์ร่วมกันของคนเหล่านั้น Social Contract
วิธีค้นหากฎเกณฑ์ตามธรรมชาติวิธีค้นหากฎเกณฑ์ตามธรรมชาติ คิดจากหลัก หรือ Prior สรุปจากผล หรือ Posterior
บิดาแห่ง กฎหมาย ระหว่าง ประเทศ กฎหมายว่าด้วยสงครามและสันติภาพ การทำสงครามใดๆต้องมีเหตุอันชอบ(just cause)จึงจะเรียกได้ว่าเป็นสงครามที่ชอบธรรม การป้องกันสิทธิของตนเอง เมื่อรัฐใดรัฐหนึ่งถูกล่วงละเมิด ไม่ว่าการล่วงละเมิดเป็นการกระทำต่อพลเมืองของรัฐ ทั้งทรัพย์สิน ร่างกาย เสรีภาพ เขตแดน ผลประโยชน์ ก็มีอำนาจอันชอบธรรมที่จะประกาศสงครามและใช้กำลังบังคับตามสิทธิของตนเองได้ และต้องเป็นการกระทำที่พอสมควรแก่เหตุ
“อำนาจอธิปไตย” ของรัฐเกิดจากการที่ราษฎรเข้ามาทำสัญญากันตั้งขึ้นไว้ และเหตุนี้ประชาชนจึงต้องเชื่อฟังกฎหมายของรัฐ Thomas Hobbes สัญญาสวามิภักดิ์ ราษฎรทำสัญญายอมโอนสิทธิและอำนาจทั้งปวงของตนที่มีอยู่ตามธรรมชาติให้กับรัฐาธิปัตย์ ยอมให้รัฐาธิปัตย์มีอำนาจเด็กขาดและราษฎรทุกคนยอมอยู่ภายใต้บังคับแก่รัฐาธิปัตย์โดยปราศจากเงื่อนไข โดยมีเครื่องมือก็คือ กฎหมายบ้านเมือง ซึ่งยุติธรรมเสมอ กฎหมายธรรมชาติ และกฎหมายบ้านเมือง
Samuel Purendoff “Appetitus socialis” หรือHuman being เกิดจากความไม่สมบูรณ์ในตัวเอง เห็นแก่ตัว มนุษย์ อยากมีเพื่อน ป้องกัน จำเป็น ทฤษฎีความเป็น ความเป็นทางกายภาพ (Entia Physica) ความเป็นทางศีลธรรม (Entia Moralia)
Samuel Purendoff ไม่ทำร้ายผู้อื่น ค่าสินไหมทดแทน ความเท่าเทียม เสมอภาคตามหลักประชาธิปไตย ทำประโยชน์ เมตตา กรุณา ปฎิบัติหน้าที่ตามที่ได้สัญญา สัญญาต้องเป็นสัญญา(Pacta sunt survanda)
กฎหมาย Samuel Purendoff เนื้อหา บทบังคับ กฎหมายที่บริบูรณ์ในตัวเอง กฎหมายที่ไม่บริบูรณ์ในตัวเอง กฎหมายธรรมชาติ สัญญาสวามิภักดิ์
เป็นยุคแห่งการใช้เหตุผลธรรมชาติวิเคราะห์กฎหมายเป็นยุคแห่งการใช้เหตุผลธรรมชาติวิเคราะห์กฎหมาย เน้นแนวคิดเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพ ยุคแห่งแยกแยะวิจารณ์(Analytiker) สิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ สิทธิทางเศรษฐกิจ สิทธิทางการเมือง ยุคอหังการ์ทางปัญญา เข้าใจ เข้าถึง บัญญัติ Montesquieu Jean Jacques Rousseau John Locke Christian Thomasius
“สภาพตามธรรมชาติของมนุษย์เป็นสภาวะแห่งสันติสุขและความเสมอภาค และในสภาวะตามธรรมชาตินี้ มนุษย์รู้จักกฎหมายธรรมชาติ “ John Locke1632-1704 เคารพความเสมอภาคและความเป็นอิสระต่อกัน ไม่ควรละเมิดชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน เสรีภาพของกันและกัน และเมื่อเกิดข้อขัดแย้งขึ้นมนุษย์แต่ละคนมีอำนาจที่จะบังคับการตามสิทธิที่ตนมีตามธรรมชาติและลงโทษผู้กระทำความผิด สัญญาประชาคม ราษฎรเพียงแต่โอนอำนาจบังคับการตามกฎหมายธรรมชาติให้แก่รัฐที่ได้ตั้งขึ้นไว้ตามสัญญา และธำรงไว้ซึ่งความดีงามร่วมกัน รัฐมีอำนาจจำกัด หลักการถ่วงดุลอำนาจ
“ อธิบายการถ่วงดุลอำนาจต่อจาก John Locke“ Montesquieu1689-1755 หลักประกันแก่งเสรีภาพนั้นไม่ได้อยู่ที่การปกครองแบบประชาธิปไตย แต่อยู่ที่รูปแบบรัฐบาลมีอำนาจจำกัด Checks & Balances The rule of law หลักการแบ่งแยกอำนาจ หลักการถ่วงดุลอำนาจแบบเคลื่อนไหวยืดหยุ่นแนวเดียวกับโพลิบิอุส
“ กฎหมาย“ Montesquieu กฎหมายทั้งหลายนั้นในส่วนสำคัญและเป็นทั่วไปที่สุดก็คือ ๑. ความสัมพันธ์ที่ต้องเป็นไปเช่นนั้น (The necessary Relations)๒. อันเกิดมาแต่เหตุผลของเรื่อง (The nature of Things) เน้นเหตุผลภายนอก แต่ไม่ได้ทิ้งเหตุผลของมนุษย์ ข้อยุติทางความคิดขึ้นอยู่กับเหตุผลของเรื่องซึ่งมาจากภายนอก กล่าวคือ สภาพภูมิประเทศ กฎหมายทั่วไปก็คือ กฎหมายมนุษย์
Christian Thomasius1655-1728 “ แยกกฎหมายออกจากศีลธรรม“ กฎหมายเป็นเรื่องบังคับภายนอก ส่วนศีลธรรมเป็นกฎเกณฑ์ที่ผูกพันเรื่องของมโนธรรม และจิตใจ กฎหมายบังคับแต่เรื่องภายนอกเท่านั้น Legal Positivism
Jean Jacques Rousseau1712-1778 “ ทฤษฎีสัญญาประชาคม“ มนุษย์เป็นคนดี และประพฤติตนสอดคล้องกับธรรมชาติ แต่มนุษย์ไม่มีความมั่นคงในชีวิตและเสรีภาพ ไม่มีหลักประกันที่แน่นอน ยอมสละสิทธิ เสรีภาพที่ตนมี และโอนให้ส่วนรวม และแสดงออกผ่านทาง “เจตจำนงทั่วไป” สิทธิเสรีภาพมีขอบเขต เป็นเครื่องแสดงออกซึ่งความคิดเห็นและความต้องการของส่วนรวม กฎหมายเป็นเครื่องแสดงออกซึ่งเจตจำนงทั่วไป เผด็จการในคราบประชาธิปไตยประชาธิปไตยเบ็ดเสร็จ
เปลี่ยนแปลงระบบกฎหมายและการปกครองเปลี่ยนแปลงระบบกฎหมายและการปกครอง นำเอาข้อคิดและเหตุผลต่างๆมาใช้ใน การบัญญัติและจัดทำกฎหมาย ยุคแห่งการสังเคราะห์(Synthetiker) การทำกฎหมายธรรมชาติให้เป็นกฎหมายบ้านเมือง แปรรูป มาสู่กฎหมายแท้ๆของรัฐ (Actual Law of State) เสรีภาพ ภราดรภาพ สิทธิ เสมอภาค
ยุคแห่งการจัดทำประมวลกฎหมายยุคแห่งการจัดทำประมวลกฎหมาย ประมวลกฎหมายแพ่งของฝรั่งเศส กฎหมายอันเป็นที่มาแห่งกฎหมายบ้านเมืองทั้งปวง เป็นสากล และไม่เปลี่ยนแปลง นั้นมีอยู่จริง และกฎหมายนี้ก็คือเหตุผลตามธรรมชาติซึ่งมีผลสำหรับมนุษย์ทุกคน ประมวลกฎหมายอาญาของฝรั่งเศส หลักกฎหมายไม่มีผลย้อนหลัง และหลักNulla Poena Sine Lege
ยุคแห่งการจัดทำประมวลกฎหมายยุคแห่งการจัดทำประมวลกฎหมาย มาตรา 16 ประมวลกฎหมายแพ่งของออสเตรีย มนุษย์ทุกคนย่อมมีสิทธิโดยกำเนิดตามที่ย่อมเห็นได้ด้วยเหตุผลและดังนั้นมนุษย์ทุกคนจึงพึงได้รับการนับถือว่าต่างก็มีฐานะเป็น “บุคคล”