1 / 14

เขียนโดย David Meerman Scott.

เขียนโดย David Meerman Scott. เป็น นักเขียน ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญด้าน online content. "Real time marketing & PR " เป็นหนังสือที่ผมได้อ่านแล้วเห็นว่าน่าสนใจเขียนโดย David Meerman Scott. เป็นหนังสือ ที่ค่อนข้างใหม่เพราะเพิ่งวางขายเมื่อเร็วๆ นี้ ครับ.

monty
Download Presentation

เขียนโดย David Meerman Scott.

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. เขียนโดย David Meerman Scott. เป็น นักเขียน ที่ปรึกษา ผู้เชี่ยวชาญด้าน online content

  2. "Real time marketing & PR " เป็นหนังสือที่ผมได้อ่านแล้วเห็นว่าน่าสนใจเขียนโดย David Meerman Scott. เป็นหนังสือที่ค่อนข้างใหม่เพราะเพิ่งวางขายเมื่อเร็วๆ นี้ ครับ

  3. สิ่งที่อยู่ในหนังสือ “REAL-TIME MARKETING & PR” ของคุณ “David Meerman Scott” นั้นเน้นการสื่อสารแบบ Real TIME ต่างจากแนวปฏิบัติทางการตลาด และการประชาสัมพันธ์เดิมๆ เช่น “ข่าวแจก” หรือ Press Releases

  4. หลังจากที่โลก ของ social media มีบทบาทมากยิ่งขึ้น /สิ่งเหล่านี้ก่อให้เกิดการตื่นตัวและการเปลี่ยนแปลงกับคนที่ทำหน้าที่สื่อสาร หลายประการในส่วนของ PR ยุคใหม่ที่ต้องศึกษากลไกของ Social media แล้วนำมาปรับใช้ให้เกิดประโยชน์ทั้งการสร้างภาพลักษณ์ไม่น้อยไปกว่าการ ปกป้อง หรือรับมือกับผลพวงที่เกิดขึ้น ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  5. โดยใช้ social media เป็นสื่อจูงใจเพื่อการเป็น Brand Image Engagement (การสร้างความประทับใจ เพื่อสร้างโอกาสในการเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคให้มากขึ้น)

  6. การแจกข่าวในมุมมองใหม่นี้ต่างจากแนวคิดเดิมอย่างสิ้นเชิงโดยอยู่บนหลักการว่า เราสามารถส่งข่าวเหล่านี้ถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยตรงโดยไม่ต้องผ่าน “ สื่อมวลชน ” • กลุ่มเป้าหมายที่ใช้งานอินเทอร์เน็ตในการค้นหา และเรียกดูข้อมูล ผ่านทาง Search Engine และ RSS (Really Simple Syndication) คือ รูปแบบการส่งผ่าน หรือแลกเปลี่ยนข้อความ หัวข้อข่าว ตลอดจนเนื้อข่าว กระจายกันไปในระหว่างเว็บไซต์ต่างๆ ที่เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน

  7. หลักการของการแจกข่าวแนวใหม่นี้มีอยู่ 6 ข้อ คือ • ไม่ต้องเป็น “ข่าวใหญ่” ขอแค่เรา “มีเหตุผลที่ดี” • กลุ่มเป้าหมายหลักไม่ใช่ “สื่อ” หรือ “ผู้สื่อข่าว” • ใส่ Keywords มากๆในตัวข่าว • ใส่ Link มายังเว็บไซต์ของเราในตัวข่าวด้วย • พยายามออกแบบเนื้อข่าวเพื่อให้คนค้นมาเจอ (Searching) • นำกลุ่มเป้าหมายเข้าสู่กระบวนการสื่อสาร ผ่านทางข่าวแจก

  8. ดัชนีแสดง ความนิยมเว็บไซต์ และความน่าสนใจของเนื้อหาในเว็บไซต์ http://news.truehits.net/news_online/

  9. แถมท้ายด้วยเทคนิคการสร้างความน่าเชื่อถืออย่างง่ายๆครับ เราควรทำตัวเป็น “ผู้นำทางความคิด” อย่ามัวแต่ให้ข่าวที่เกี่ยวกับบริษัทเท่านั้นนะครับ การให้ข่าวที่เกี่ยวกับ ความก้าวหน้า นวัตกรรม ทิศทาง แนวโน้มตลาดด้วย จะทำให้เราดูเป็นผู้นำ และเพิ่มความน่าเชื่อถือในสายตาของผู้อื่นได้

  10. ขณะที่นักการตลาด ได้สร้างปรากฏการณ์เป็นการตลาดรูปแบบใหม่ สร้างชัยชนะด้วย เครื่องมือ social media ในระยะสั้น ที่มีกรณีศึกษาให้เห็นกันอย่างอย่างต่อเนื่อง ที่สำคัญ "Real time marketing & PR "ทำให้เราเห็นถึงแง่มุมของการสื่อสารของ Social media ในกรณี United Break guitars

  11. “United ทำกีตาร์ผมพัง” • บทเรียนเกี่ยวกับความเร็วในการสัมพันธ์กับสื่อ • บทเรียนของการบริหารการตลาดแบบ real time • บทเรียนของการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่แบบ real time • บทเรียนสุดท้ายของบริษัทที่ไม่สนใจลูกค้า

  12. กฎของ real timeมีกฎ 2 ข้อที่ควบคุมการแพร่กระจายและความเร็วของข่าวออนไลน์ • กฎข้อแรกคือ พลังของ real time จะสังเกตเห็นได้ว่า ความจริงแล้ว มีเว็บไซต์อยู่เพียงไม่กี่เว็บเท่านั้น ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงลิ่ว อย่างเช่น Google หรือ Wikipedia ซึ่งมียอดผู้เข้าชมเว็บหลายๆ ล้านคนต่อวัน แต่ยอดผู้เข้าชมเว็บที่เหลืออีกหลายๆ ล้านเว็บกลับมีจำนวนเพียงน้อยนิดเท่านั้น อะไรคือความแตกต่าง คำตอบก็คือ เว็บที่ได้รับความนิยมสูงมีการกระจายข้อมูลแบบ real time

  13. กฎข้อที่สอง เส้นทางการกระจายของข่าวสาร เมื่อ blogger คนหนึ่งเขียนอะไรบางอย่างที่น่าสนใจลงไปใน blog ของเขา มีคนกลุ่มหนึ่งสังเกตเห็นและเกิดปฏิกิริยาต่างๆ อาจด้วยการเขียนตอบลงไปใน blog ของคนเขียนเอง หรือ tweet หรือ email บอกต่อๆ ไปยังคนอื่นๆ คลื่นคนที่รู้เรื่องลูกที่ 2 นี้ จะเริ่มพูดคุยถึงเรื่องนี้ แรงขับเคลื่อน เริ่มเกิดขึ้นและสะสมไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็กลายเป็นประเด็นร้อน และไปสะดุดความสนใจของนักข่าวเข้า เลยหยิบไปเขียนลงในสื่อกระแสหลัก ซึ่งยิ่งเป็นการกระพือเรื่องราวนั้นให้ร้อนแรงยิ่งขึ้นไปอีก กลายเป็นไฟลามทุ่ง ไปจนถึงจุดไคลแม็กซ์สูงสุด ก่อนที่ผู้คนจะเปลี่ยนไปสนใจเรื่องร้อนๆ เรื่องอื่นแบบ real time ต่อไป

More Related