1 / 16

โดย ภญ.ดร.นันทกาญจน์ สุวรรณปิฎกกุล

การจัดสัมมนาผู้ประเมินห้องปฏิบัติการและอนุกรรมการรับรองห้องปฏิบัติการ เรื่อง ข้อปัญหาและอุปสรรคในการตรวจประเมินเพื่อการรับรองห้องปฏิบัติการ ในระหว่างวันที่ 10-11 กรกฏาคม 2551 ณ โรงแรมเซอร์ เจมส์ ลอดจ์ จ.สระบุรี. โดย ภญ.ดร.นันทกาญจน์ สุวรรณปิฎกกุล. หัวข้อการนำเสนอ. 1. ความเป็นมา

lincoln
Download Presentation

โดย ภญ.ดร.นันทกาญจน์ สุวรรณปิฎกกุล

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การจัดสัมมนาผู้ประเมินห้องปฏิบัติการและอนุกรรมการรับรองห้องปฏิบัติการเรื่องข้อปัญหาและอุปสรรคในการตรวจประเมินเพื่อการรับรองห้องปฏิบัติการในระหว่างวันที่ 10-11 กรกฏาคม 2551ณ โรงแรมเซอร์ เจมส์ ลอดจ์ จ.สระบุรี โดย ภญ.ดร.นันทกาญจน์ สุวรรณปิฎกกุล

  2. หัวข้อการนำเสนอ 1. ความเป็นมา 2. วัตถุประสงค์ของการจัดสัมมนาผู้ประเมินห้องปฏิบัติการ และ อนุกรรมการรับรองห้องปฏิบัติการ 3. ผลการสัมมนากลุ่มย่อยของผู้ประเมินสาขาเคมี 4. สรุปสิ่งที่ได้รับจากการเข้าร่วมสัมมนา

  3. 1.ความเป็นมา • คณะอนุกรรมการรับรองห้องปฏิบัติการสาขาเคมี สนง.มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม ตั้งแต่ 2547 • ลักษณะการทำงาน - ผู้ประเมินห้องปฏิบัติการ - คณะอนุกรรมการรับรองห้องปฏิบัติการ • ปัญหาของมาตรฐานในการตรวจประเมินของผู้ประเมิน

  4. 2. วัตถุประสงค์ของการจัดสัมมนาผู้ประเมินห้องปฏิบัติการ และ อนุกรรมการรับรองห้องปฏิบัติการ • เพื่อนำข้อปัญหาจากการตรวจประเมินตามมาตรฐานเลขที่ มอก. 17025-2548มาวิเคราะห์และกำหนดแนวทางการตรวจประเมินใหแป็นไปในทิศทางเดียวกัน • เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและประสบการณ์ระหว่างผู้ประเมินห้องปฏิบัติการ

  5. 3. ผลการสัมมนากลุ่มย่อยของผู้ประเมินสาขาเคมี

  6. 1 .การประเมินบุคลากร (ตามมอก.17025-2005 ข้อ 5.2) • ในการประเมินความสามารถของบุคลากรด้านวิชาการ สามารถทำได้หลายวิธี เช่น กรณีมีค่า repeatabilityหรือ reproducibilityที่ระบุไว้ในมาตรฐานวิธีทดสอบให้ใช้ค่าเหล่านั้นเป็นเกณฑ์เบื้องต้น ถ้าไม่มีการระบุค่า repeatabilityหรือ reproducibilityในมาตรฐานวิธีทดสอบ ให้ใช้ค่าทางสถิติที่เหมาะสม เช่น t-test /F-testมาตรวจสอบข้อมูลค่าเชื่อถือได้ • นำตัวอย่าง PTที่เหลือจากการทดสอบให้เจ้าหน้าที่ในห้องปฏิบัติการทำ แล้วใช้รายงานผลจาก PTในการประเมินความสามารถ • อาจนำ ISO 9272 มาประยุกต์ใช้(ถ้าทำได้) • ความถี่ในการประเมินความสามารถบุคลากร • ก่อนมอบหมายเจ้าหน้าที่ใหม่ให้ทำการทดสอบใน test นั้น ๆจะต้องผ่านการประเมินความสามารถ • Refreshอย่างน้อยทุก 1ปี (ยกเว้นกรณีที่มีการหมุนเวียนการทำงานใหม่ต้องทำ Refresh ใหม่ทุกครั้ง) • หมายเหตุ : การเตรียมตัวอย่างเพื่อประเมินความสามารถของเจ้าหน้าที่ในห้องปฏิบัติการอาจเป็นตัวอย่างที่เตรียมขึ้นเองและทราบค่าแน่นอนโดยไม่จำเป็นต้องใช้ RM/CRMก็ได้ หรือเป็นตัวอย่างทั่วไปที่อาจไม่ทราบค่าแน่นอนแต่มีสารตัวอย่างมีความสม่ำเสมอเป็นเนื้อเดียวกัน

  7. 2.การประเมินผลการทดสอบ (ตามมอก.17025-2005 ข้อ 5.4) • 2.1 การตรวจ / รับรอง ค่า LOD และ LOQ ให้เข้าใจตรงกัน ในการตรวจประเมินว่า • คำว่า Limit of Detection (LOD) หมายถึงปริมาณต่ำสุดที่ตรวจพบ • คำว่า Limit of Quantitation (LOQ)หมายถึง ปริมาณต่ำสุดที่สามารถรายงานค่าเป็นตัวเลขได้ • สำหรับกรณีที่ใช้คำว่า Detection limitให้หมายถึงค่าLOQและอาจใช้คำนี้แทนได้ ในกรณีที่ห้องปฏิบัติการไม่ขอค่า LOD • นอกจากนั้นการให้การรับรองโดยระบุเป็นค่า LOD /LOQจะทำในกรณีเป็นงานวิเคราะห์ trace analysis สำหรับงานประเภทอื่นๆ อาจระบุเป็นช่วงการรับรองได้ โดยให้ผู้ประเมินพิจารณาตามความเหมาะสม

  8. 2.2 สำหรับประเด็นการตรวจสอบยืนยัน / การตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีทดสอบ (confirmationและvalidation of test method) ให้เข้าใจตรงกันว่าเมื่อห้องปฏิบัติการใดก็ตามที่ไม่ได้ใช้วิธีมาตรฐาน เช่น ไม่ครอบคลุมมาตรฐานทั้งหมด ทำตามมาตรฐานบางส่วน เช่น ไม่เอาวิธีเตรียมตัวอย่างตามมาตรฐานแต่ใช้วิธีอื่นแทน หรือ มีการดัดแปลงจากวิธีมาตรฐาน หรือ ใช้วิธีของบริษัทแม่ หรือ ใช้วิธีตามผู้ผลิตเครื่องมือ ห้องปฏิบัติการนั้นต้องทำการตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีทดสอบ (validation) ตามความเหมาะสม แต่หากดำเนินการทดสอบตามวิธีมาตรฐาน (standard test method)ต้องจัดทำข้อมูลการทดสอบยืนยัน (confirmation) ว่าได้ผลที่มีความถูกต้องและแม่นยำ เป็นไปตามวิธีทดสอบที่กำหนดได้จริงไม่ต้องทำ การตรวจสอบความใช้ได้ของวิธีทดสอบ (validation)

  9. 3.การประเมินความเหมาะสมเครื่องมือทดสอบ (ตามมอก.17025-2005 ข้อ 5.5) • ในการกำหนดช่วงเวลาในการทวนสอบและหรือสอบเทียบเครื่องมือ เพื่อให้เกณฑ์การประเมินเป็นไปในแนวทางเดียวกัน จึงเห็นควรให้อ้างอิงตามเอกสาร CITAC/ Eurachem Guide “GUIDE TO QUALITY IN ANALYTICAL CHEMISTRY” Edition 2002,APPENDIX BCalibration intervals and PerformanceChecksดังตารางความถี่ในการตรวจสอบ/สอบเทียบเครื่องมือที่ใช้ในห้องปฏิบัติการเคมีวิเคราะห์

  10. ความถี่ในการตรวจสอบ/สอบเทียบเครื่องมือที่ใช้ในห้องปฏิบัติการเคมีวิเคราะห์ความถี่ในการตรวจสอบ/สอบเทียบเครื่องมือที่ใช้ในห้องปฏิบัติการเคมีวิเคราะห์

  11. หมายเหตุ1 - ยกเว้นกรณีใช้กับงานที่มีกรดแรงเช่น HF, hot H3PO4,strong, hot alkalis - อุณหภูมิที่ใช้อบแห้งต้องไม่เกิน 150 oC สำหรับ borosilicate glassware และ ไม่เกิน 90 oC สำหรับ soda-limeglassware - อาจจำเป็นต้อง re-calibrateหากตรวจพบว่าผิวแก้ว(ขณะแห้ง) มีอาการขุ่นจากการกัดกร่อน ของสารเคมีก่อนถึง due date - เครื่องแก้ว class A สุ่มสอบเทียบ/ทวนสอบ 10 % class B ต้องสอบเทียบ/ทวนสอบ 100 %

  12. หมายเหตุ2 - การทำ intermediate checkไม่จำเป็นต้องใช้ calibrated weightห้องปฏิบัติการสามารถใช้ ชิ้น/ก้อนน้ำหนัก ที่ทำจากวัสดุที่มีความคงตัวไม่เปลี่ยนแปลงตามสภาวะเวลา เช่น stainless steel, ทองเหลือง เป็นต้น มาชั่งหาน้ำหนัก ณ วันที่ทำการสอบเทียบแล้วเสร็จ เป็นน้ำหนักใช้อ้างอิงก็ได้ โดยก้อนน้ำหนักที่ใช้ควรมีน้ำหนักใกล้เคียงกับที่ ใช้ในงานประจำ - ห้องปฏิบัติการควรทำ daily check ตามความเหมาะสม โดยใช้ชิ้น/ก้อนน้ำหนัก อีกชุดหนึ่งที่ทำจากวัสดุที่มี stabilityและน้ำหนักใกล้เคียงกับที่ใช้งานประจำวัน

  13. หมายเหตุ3 • การสอบเทียบนาฬิกา สามารถทวนสอบโดยใช้สัญญาณบอกเวลาจากกรมอุทกศาสตร์ได้ - นาฬิกาจับเวลาประเภท quartz/electronic ไม่มีความจำเป็นต้องสอบเทียบบ่อยเท่านาฬิกาประเภท mechanical timer

  14. 4 การเข้าร่วมในการเปรียบเทียบผลระหว่างห้องปฏิบัติการหรือโปรแกรมการทดสอบความชำนาญ (ตามมอก.17025-2005 ข้อ 5.9) สรุปเป็นเกณฑ์ปฏิบัติดังนี้ 4.1ตามหลักเกณฑ์เงื่อนไขการรับรอง (R-02) ของ สมอ.จำเป็นต้องทำ PT/ Interlaboratoryอย่างน้อยทุก 4 ปีในสาขาหลักที่ขอการรับรอง (ถ้ามี) 4.2ในการเข้าร่วม PT/ Interlaboratoryถ้าทำได้ต้องเลือกเข้าร่วมในโปรแกรมการทดสอบของผลิตภัณฑ์และรายการเดียวกับที่ขอการรับรอง 4.3กลุ่มที่ร่วมทำ PT/ Interlaboratoryถ้าเป็นไปได้ต้องเลือกเข้าร่วมกับกลุ่มที่เป็นห้องปฏิบัติการที่ ได้รับการรับรอง ISO/IEC 17025 ในรายการ นั้น ๆ แล้ว 4.4กรณีที่ใช้ RM (2 sources) ร่วมกับ PT/Interlaboratory ในการทำQCจะต้องทำ PT/Interlaboratory ทุกปี (ถ้าทำได้) 4.5 ความสอบกลับได้ของการวัด ในงานทดสอบทางเคมีที่ไม่สามารถหา CRM ได้ อาจใช้ RM (2 sources)ร่วมกับทำ PT/ Interlaboratoryได้ หรือสามารถใช้เทคนิคอื่น ๆ ร่วมด้วยได้ เช่น การทำ Spike Sample เพื่อดู %Recovery เป็นต้น

  15. 4. สรุปสิ่งที่ได้รับจากการเข้าร่วมสัมมนา • ได้แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นและประสบการณ์ระหว่างผู้ประเมินห้องปฏิบัติการและอนุกรรมการประเมินห้องปฏิบัติการ • ได้ระดมความคิดเห็นและแนวทางปฏิบัติในการตรวจประเมินเบื้องต้น ในส่วนที่ใช้กับห้องปฏิบัติการทดสอบทางเคมี • ได้กำหนดแนวทางการตรวจประเมินและการพิจารณาการรับรองให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน • นำความรู้ที่ได้รับมาประยุกต์ใช้กับห้องปฏิบัติการของสถาบันวิจัยและพัฒนา องค์การเภสัชกรรม

More Related