Hyper Text , Hyper Media Multimedia Application

1. Hyper Text , Hyper Media Multimedia Application iv

2. Internet และสังคมการเรียนรู้ • Internet คือเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกและเชื่อมโยงกันเกือบทั่วโลก • Network of Networks • เชื่อมต่อโดยอาศัยเทคโนโลยีโทรคมนาคม • Internet เติบโตอย่างรวดเร็ว • เชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารและสื่อต่างๆ ปริมาณมหาศาลเข้าด้วยกัน • มีลักษณะเป็น Multimedia ที่ยังไม่ได้จัดการ

3. บริการสารสนเทศมัลติมีเดีย(Multimedia Service) • ใช้ Web เป็นสื่อกลางในการเข้าถึงสารสนเทศ • Hyper media • Multimedia • การค้นคืนสารสนเทศมัลติมีเดีย(Retrieval Service) • มีอยู่แล้วเรียกใช้งาน • การค้นหาสารในเทศมัลติมีเดีย(Search Service) • หาสิ่งที่ยังไม่มี • การติดต่อสื่อสารกันด้วยสื่อมัลติมีเดีย • E-Mail , Conference

4. การศึกษาบน Web • Web ถูกประยุกต์ใช้ทางการศึกษาในหลายรูปแบบ เช่น เครือข่ายโรงเรียน ห้องเรียนเสมือน ห้องสมุดเสมือน ห้องสมุดดิจิทัล การเรียนการสอนออนไลน์ เป็นต้น • Education on Demand :การศึกษาตามความต้องการ ผู้เรียนคือผู้แสวงหา เรียนรู้ เลือกบริโภคข้อมูลให้ตัวเอง • การเรียนรู้บน Web เป็นการศึกษาที่ใช้เทคโนโลยี Asynchronous technologyซึ่งเป็นการเรียนการสอนโดยไม่จำกัดเวลาและสถานที่

5. Asynchronous Learning • “ใครก็ได้ ที่ไหนก็ได้ เวลาใดก็ได้ เรื่องอะไรก็ได้” • เรียนอย่างมีปฏิสัมพันธ์(interactive learning) • เรียนรู้ร่วมกัน(collaborative learning) • ใช้แหล่งการเรียนรู้ระยะไกล(remote resource)

6. เทคโนโลยีมัลติมีเดียบน Web • Shockwave :จากค่าย Macromedia ออกแบบ Interactive multimedia สามารถแสดงผลบน Web ได้ เทคโนโลยี shockwave สนับสนุนการแสดงเสียง ภาพเคลื่อนไหว วิดิทัศน์ ยกตัวอย่างเช่น Director และ Flash • Streaming :ช่วยให้มองเห็นและได้ยินข้อมูลมัลติมีเดียบนเว็บ มักถูกนำไปใช้งานกับการชมวิดิทัศน์บนเว็บในระยะเวลาสั้นๆ ข้อมูลที่ส่งผ่านมักถูกเข้ารหัสก่อน ตัวอย่างเช่น QuickTime , RealMedia

7. การประยุกต์ใช้สื่อมัลติมีเดียบนเว็บเพื่อการเรียนรู้การประยุกต์ใช้สื่อมัลติมีเดียบนเว็บเพื่อการเรียนรู้ • การประยุกต์ใช้ในลักษณะผู้เรียนเป็นผู้ใช้(User) • การประยุกต์ในลักษณะผู้เรียนเป็นผู้สร้าง(Producer)

8. ลักษณะการประยุกต์ใช้

9. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับ Hypertext • ความหมายของไฮเปอร์เท็กซ์ • ประโยชน์การใช้งานของไฮเปอร์เท็กซ์ • ข้อเสียของไฮเปอร์เท็กซ์ • รูปแบบของไฮเปอร์เท็กซ์ • ส่วนประกอบของไฮเปอร์เท็กซ์

10. ความเป็นมาของ Hypertext • ปี 1945Vannevar Bush นักปราชญ์ด้านวิทยาศาสตร์ ผู้คิดค้นเครื่องมือMeMex(Memory Extender) ช่วยพัฒนาความทรงจำ • ปี 1965Engellart และ Ted Nelson จึงได้คิดค้นวิธีการนำเครื่องมือMEMEX มาประยุกต์ใช้ร่วมกับคอมพิวเตอร์ ในรูป HyperText • ปี 1985บ. ซีร๊อกซ์ได้คิดค้นวิธีการเชื่อมโยงด้วยรูปภาพ • ปี ค.ศ. 1978บ. แอปเปิ้ลแมคอินทอช ได้คิดค้นเครื่องมือที่เป็นซอฟต์แวร์ชื่อว่า“HyperCard”แบบ Obj ช่วยให้การสร้างเอกสารง่ายขึ้น • ปี ค.ศ. 1991 Tim Berners-Leeพัฒนา HTML และเป็นจุดตั้งต้นของ World Wide Web

11. ความหมายของ Hypertext • รูปแบบการนำเสนอที่เป็น ข้อความเป็นหลัก โดยมีการเชื่อมโยงระหว่างกัน ทั้งภายใน และภายนอก สืบท่องไปยังส่วนที่เกี่ยวข้อง ลักษณะของการเชื่อโยงข้อมูล เรียกว่า “ไฮเปอร์ลิงค์ (Hyperlink)”

12. Hypertext , Hypermedia Hypermedia Multimedia Hypertext

13. ประโยชน์ของการใช้งาน Hypertext • รูปแบบการนำเสนอ ให้ความตื่นเต้น • มีลักษณะของการสร้างสรรค์มากกว่า • สามารถเชื่อมโยงไปยังเอกสารอื่น ๆ ภายนอกได้ • สามารถสืบท่องไปยังเนื้อหา ตามต้องการได้ • มีความเป็นพลวัตร • สามารถป้องกันไม่ให้ผู้ใช้ดูเอกสารบางส่วนก่อนที่จะทำกิจกรรมที่กำหนดได้

14. ประโยชน์ของการใช้งาน Hypertext • เข้าถึงข้อมูลรายละเอียดได้อย่างรวดเร็ว • ผนวกซอฟท์แวร์อื่นๆ เข้าในการนำเสนอเอกสารได้ • เกิดความคงทนในการจดจำ มากกว่าเอกสารสิ่งพิมพ์ • เหมาะสมและสนับสนุนการเรียนรู้แบบเอกัตบุคคล

15. รูปแบบของ Hypertext • แบบไม่มีโครงสร้าง(Unstructured Hypertext) • แบบมีโครงสร้าง(Structured Hypertext) • แบบเนื้อหาสัมพันธ์(Hierarchical Hypertext)

16. แบบจำลองHypertext

17. ตัวอย่างแบบจำลอง Hypertext • HAM (Hypertext Abstract Machine) • แบบจำลอง Dexter (Dexter’s Model) • แบบจำลองHAM (Amsterdam Hypermedia Model) • แบบจำลอง HDM (Hypermedia Design Model) • แบบจำลอง OOHDM (Object Oriented Hypermedia Design Model) • แบบจำลอง RMM (Relationship Management Methodology) ตัวอย่าง

18. HAM User Interface Application Tools Hypertext Abstract Machine Host File System

19. ส่วนประกอบของ Hypertext • พอยน์ (Point) • คำ,วลี,ประโยค ที่ใช้เป็นจุดเชื่อมโยงไปยังข้อมูล • โนด (Nodes) • กลุ่มของข้อมูลที่สัมพันธ์กัน ซึ่งถูกจัดไว้เป็นกลุ่มเดียวกัน • ลิงค์ (Link) • การเชื่อมโยงที่เปรียบเสมือนกาวที่เชื่อโยงไฮเปอร์เท็กซ์เข้าด้วยกัน • โครงสร้างไฮราคี่(Hierarchies Structure) • โครงสร้างแบบมีการเชื่อมโยงเป็นลำดับชั้น

20. “Adaptive Hypertext/Hypermedia System” • คอนดิชันแนลเท็กซ์ (Conditional Text)การแสดงข้อความแบบง่ายๆ สำหรับผู้ไม่เคยใช้งานมาก่อน • สเตรทเท็กซ์ (Stretchtext)เป็นการแสดงคำขยายข้อเป็นหน้าต่างเล็กๆ ปรากฏบนตำแหน่งที่ Link ไว้ • เพจวาเรี่ยนท์ (Page Variants)เป็นการแสดงข้อมูลเดียวกัน 2 แบบให้เลือกตามความต้องการของผู้ใช้ • แฟรมเมนท์วาเรี่ยนส์ (Fragment Variants)แยกส่วนเอกสารเป็นเฟรมย่อยแล้วนำเสนอตามผู้ใช้ต้องการ • เฟรมเบส (Frame-Based)เป็นวิธีการแบ่งส่วน (เฟรม) ของหน้าเอกสาร โดยกำหนดพื้นที่ของหน้าเอกสารออกเป็นเฟรมๆ เพื่อใช้แสดงข้อมูลของเอกสาร

21. ความรู้เกี่ยวกับ Hypermedia • ความหมายของไฮเปอร์มีเดีย • ลิงค์ในระบบไฮเปอร์มีเดีย • ข้อดี-ข้อเสีย ของลิงค์ • ไฮเปอร์มีเดีย : มัลติมีเดีย

22. ความหมายของ Hypermedia HyperText + MultiMedia ‘HyperMedia’

23. ความหมายของ Hypermedia • รูปแบบการนำเสนอโดยใช้หลักการของไฮเปอร์เท็กซ์ผ่านระบบมัลติมีเดีย ซึ่งสามารถ นำเสนอข้อมูลพร้อมกับมีการเชื่อมโยง ทั้งข้อความ ภาพ กราฟิก ภาพเคลื่อนไหว และเสียง

24. Link ใน Hypermedia • ลิงค์ในระบบไฮเปอร์มีเดีย คือ กลุ่มของตัวชี้ ที่เป็นตัวเชื่อมโยงข้อมูล จุดที่ใช้เชื่อมโยงนั้นอาจจะเป็น ข้อความ, ไดอะแกรม, ภาพวิดิทัศน์ , ภาพนิ่ง ก็ได้

25. หน้าที่ link ใน Hypermedia • เชื่อมโยงข้อมูลอ้างอิงกับข้อมูลปัจจุบันได้ • เชื่อมโยงคำอธิบายต่างๆ เข้ากับข้อมูล • ช่วยจัดการรูปแบบของเนื้อหาที่สัมพันธ์กัน • เชื่อมโยงองค์ประกอบเพิ่มเติมได้ • เชื่อมโยงข้อมูลให้เป็นกลุ่มประเภทเดียวกัน

26. ข้อดีของ Link • สามารถควบคุมการแสดงข้อมูลได้ • สามารถข้ามกระโดดไปยังส่วนใด ๆ ก็ได้ • ข้อมูลเป็นกลุ่มเดียวกัน ทำให้เกิดความคงทนในการจด จำเนื้อหา • ใช้ง่ายและสะดวกกว่าการค้นหาข้อมูล • ผู้ใช้เกิดความพึงพอใจมากกว่า

27. ข้อเสียของ Link • ผู้ใช้เกิดการหลงทาง • ยากที่จะกลับคืนสู่ข้อมูลเดิมในบางครั้ง • การเชื่อมโยงข้อมูลที่ไม่ดี จะเกิดการวนเป็นวงกลม

28. Hypermedia : Multimedia ไฮเปอร์มีเดีย มีรากฐานจาก มัลติมีเดีย ดังนั้น เป็นการนำเสนอด้วย ข้อความ,กราฟิก, ภาพวิดิทัศน์,เสียง,โปรแกรมคอมพิวเตอร์ และภาพเคลื่อนไหว

29. Budget Moving Picture Budget Program Computer Sound Animation Pictures Drawing Text Media :

30. มิติใหม่ของ Hypermedia ภาพยนต์ • ภาพยนต์แบบปฏิสัมพันธ์(Interactive Movies) • ภาพยนต์มีข้อความประกอบ(Annotated Movies) • ภาพแพนอรามา(Panorama Pictures) ภาพโมเดล 3 มิติ(Three Dimension Model Picture)

31. ภาพยนตร์แบบมีปฏิสัมพันธ์ภาพยนตร์แบบมีปฏิสัมพันธ์ เป็นรูปแบบของซีดีรอมประเภทหนึ่ง ที่นำเสนอโดยการปฏิสัมพันธ์เป็นหลัก • ทั้งบทเรียนและการนำเสนอองค์ความรู้ทั่ว ๆ ไป สามารถเลือกชมภาพยนตร์บางส่วนได้

32. Annotated Movie Screen Movie of TV Troubleshooting Speaker Still Pictures Diagrams of TV Circuit Keyword and Search Options • นำเสนอด้วยสื่อหลาย ๆ รูปแบบบนจอเดียวกันในเวลาเดียวกัน 2 หรือ 4 ส่วน ก็ได้

33. Panorama Movie 360o ภาพมุมกว้างที่อาจมีมุมมองภาพถึง360o เป็นภาพที่กวาดไปรอบ ๆ ตัว เมื่อลงมาจากที่สูง ๆ

34. ภาพ Panorama

35. 3D Model ใช้ Software ชั้นสูงสร้าง Model จำลองเพื่อดูรูปร่าง หรือมุมต่างๆ แทนการขึ้นหุ่นจำลองด้วยวัสดุอื่น ๆ ซึ่งต้องใช้ต้นทุนสูงกว่า

36. End.