830 likes | 1.24k Views
The structure and function of macromolecules. สารประกอบขนาดใหญ่ (macromolecules) ในสิ่งมีชีวิต จัดเป็น 4 กลุ่มตามลักษณะโครงสร้างของโมเลกุล ได้แก่ Carbohydrate ประกอบด้วยธาตุ C, H, O Protein “ C, H, O, N Lipid “ C, H, O Nucleic acid “ C, H, O, N, P.
E N D
สารประกอบขนาดใหญ่ (macromolecules)ในสิ่งมีชีวิต จัดเป็น 4 กลุ่มตามลักษณะโครงสร้างของโมเลกุล ได้แก่ Carbohydrateประกอบด้วยธาตุ C, H, O Protein “ C, H, O, N Lipid “ C, H, O Nucleic acid “ C, H, O, N, P
Building models to study the structure of macromolecules Today, scientists use computer Linus Pauling (1901-1994)
ปฏิกิริยาเคมีของ macromoleculesได้แก่ Condensationเป็นปฏิกิริยาสังเคราะห์ macromoleculesจาก monomersเล็กๆเป็นจำนวนมาก และได้ผลผลิต H2Oด้วย ดังนั้นอาจเรียกว่า ปฏิกิริยา dehydration Hydrolysisเป็นปฏิกิริยาย่อยสลาย macromoleculesให้เล็กลง เพื่อให้สามารถนำผ่านเยื่อหุ้มเซลล์เข้าสู่เซลล์ได้ หรือย่อยสลาย macromoleculesที่ไม่ใช้แล้วภายในเซลล์
Carbohydrates • Carbohydratesเป็นสารประกอบจำพวกน้ำตาล และ polymerของน้ำตาล • แบ่งกลุ่ม carbohydratesได้เป็น 3 กลุ่ม ตามจำนวนโมเลกุลของน้ำตาลที่เป็นองค์ประกอบ ได้แก่ • Monosaccharide • Disaccharide • Polysaccharide
aldehydes ketones Monosaccharide เป็นน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว ที่ประกอบด้วยC, O และH มีสูตรคือ(CH2O)n โดยมีอะตอมของC ต่อกันเป็นสาย และมีCarbonyl group และhydroxy group ต่อกับอะตอมของC Carbonyl group
น้ำตาลโมเลกุลคู่ (Disaccharides) เกิดจากการรวมตัวของน้ำตาลโมเลกุลเดี่ยว 2 โมเลกุลโดยปฏิกิริยา condensation Covalent bondที่เกิดขึ้น เรียกว่า Glycosidic linkage
Polysaccharideเป็น carbohydrate ที่มีขนาดใหญ่มาก ประกอบด้วยmonosaccharides จำนวนมากต่อกันด้วยglycosidic linkage • ชนิดของpolysaccharide ขึ้นอยู่กับ • 1. ชนิดของmonosaccharide • 2. ชนิดของGlycosidic linkage • ตัวอย่างpolysaccharide ได้แก่starch, glycogen, cellulose และ chitin
Starch: 1-4 linkage of glucose monomers Cellulose: 1-4 linkage of glucose monomers
Celluloseมีglucose เป็นองค์ประกอบเช่นเดียวกับ แป้ง แต่มีพันธะแบบ1-4 glycosidic linkageผนังเซลล์ของพืชประกอบด้วยcellulose เป็นจำนวนมาก
Chitin, a structural polysaccharide Chitin forms the exoskeleton of Arthropods Chitin is used to make a strong and flexible surgical thread
Chitinมีโครงสร้างคล้ายกับCellulose ต่างกันที่ว่า หน่วยย่อยเป็นN-acetylglucosamine ต่อกันเป็นโมเลกุลสายยาว
หน้าที่ของcarbohydrate Sugars : • ทำหน้าที่ให้พลังงานและเป็นแหล่งคาร์บอนแก่สิ่งมีชีวิต • ribose และdeoxyribose เป็นองค์ประกอบของnucleic acid • Polysaccharide : • เป็นแหล่งสะสมพลังงานของสิ่งมีชีวิต โดยพืชเก็บสะสมพลังงานในรูปของstarch ส่วนสัตว์เก็บสะสมพลังงานในรูปของglycogen • Cellulose และchitin เป็นโครงสร้างของพืชและสัตว์
Lipids Diverse Hydrophobic molecules
Lipids เป็นสารที่ไม่เป็นpolymer • Lipids ไม่ละลายน้ำ เนื่องจากโครงสร้างของlipids ประกอบด้วย nonpolar covalent bonds เป็นส่วนมาก • Lipids ได้แก่ • ไขมัน(Fat) • Phospholipid • Steroid • ขี้ผึ้ง(Wax)
Fats : เป็นแหล่งสะสมพลังงาน • Fats ถึงแม้จะไม่เป็นpolymer แต่เป็นสารที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่ ประกอบด้วยสารที่มีโมเลกุลขนาดเล็กกว่ามาต่อกันด้วยปฏิกิริยาDehydration • Fats ประกอบด้วยGlycerol และ กรดไขมัน(Fatty acid)
ส่วน“tail” ของfatty acid ที่เป็นhydrocarbon ที่มักมีอะตอมคาร์บอนต่อกันประมาณ 16-18 อะตอม เป็นส่วนที่ทำให้fats ไม่ละลายน้ำ(hydrophobic)
Triglycerol ไขมัน 1 โมเลกุล ประกอบด้วยGlycerol 1 โมเลกุล และ กรดไขมัน 3 โมเลกุล
กรดไขมันแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ • Saturated fatty acid(กรดไขมันชนิดอิ่มตัว) • Unsaturated fatty acid(กรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว) • ไขมันที่ได้จากสัตว์ เช่น เนย มี saturated fatty acidเป็นองค์ประกอบ มีลักษณะเป็นของแข็งที่อุณหภูมิห้อง • ไขมันจากพืช มี unsaturated fatty acidเป็นองค์ประกอบ มีลักษณะเป็นของเหลวที่อุณหภูมิห้อง
Saturated fat and fatty acid Unsaturated fat and fatty acid
Phospholipids • เป็นองค์ประกอบหลักของcell membrane • ประกอบด้วยglycerol 1โมเลกุลfatty acid 2 โมเลกุล และphosphate group (phosphate group มีประจุ -) • มีส่วนหัวที่มีประจุ และเป็นส่วนที่ชอบน้ำ(hydrophilic) และส่วนหางที่ไม่ชอบน้ำ(hydrophobic)
Phospolipid in aqueous environments เมื่อเติมphospholipids ลงในน้ำphospholipids จะรวมตัวกัน โดยเอาส่วนหางเข้าหากัน และส่วนหัวหันออกทางด้านนอก กลายเป็นหยดเล็กๆ เรียกว่า micelle Micelle
ที่cell membrane ของสิ่งมีชีวิตPhospholipids จะเรียงตัวเป็น 2 ชั้น โดยhydrophilic head จะหันออกทางด้านนอกเข้าหากัน ส่วนhydrophobic tail อยู่ตรงกลาง Phospholipid bilayer
Steroids • เป็นlipids ประกอบด้วย คาร์บอนเรียงตัวเป็นวงแหวน 4 วง • Steroids ชนิดต่างๆ มีหมู่functional group ที่ต่อกับวงแหวนแตกต่างกัน • Cholesterol เป็นsteroid ที่เป็นองค์ประกอบของcell membrane
Cholesterol, a steroid Cholesterol ยังเป็นprecusor สำหรับการสังเคราะห์steroid อื่นๆหลายชนิด เช่นhormones
Protein • เป็น polypeptide ของamino acid ที่ต่อกันเป็นลำดับเฉพาะตัวสำหรับโปรตีนแต่ละชนิด • โปรตีนสามารถทำงานได้ ต้องมีรูปร่าง(conformation) ที่เป็นลักษณะเฉพาะตัว • มนุษย์มีโปรตีนมากกว่า 10,000 ชนิด แต่ละชนิดมีโครงสร้างและหน้าที่แตกต่างกัน
H O H N C C OH H R Carboxyl group Amino group Amino acid เป็นสารอินทรีย์ที่มีหมู่carboxyl และหมู่amino ต่อกับอะตอมคาร์บอนที่เป็นศูนย์กลาง อะตอมที่เป็นศูนย์กลางยังต่อกับอะตอมhydrogen และหมู่ R group 1 หมู่ที่แตกต่างกัน
Amino acid แบ่งออกเป็นกลุ่มตามคุณสมบัติของR group • R group ที่แตกต่างกันนี้ ทำให้เกิดamino acid แตกต่างกัน 20 ชนิด แต่ละชนิดมีคุณสมบัติทางเคมีและชีววิทยาแตกต่างกัน
Making a polypeptide chain Amino acid ต่อกันเป็นสายยาวด้วยcovalent bond เรียกว่าpeptide bond
ปลายที่มีหมู่amino เรียกว่าN-terminus • ปลายที่มีหมู่carboxyl เรียกว่าC-terminus
สาย polypeptide ประกอบด้วยamino acid ทั้ง 20 ชนิด เรียงต่อกันเป็นอิสระ สายpolypeptideจึงสามารถมีรูปแบบที่ไม่เหมือนกันนับหมื่นชนิดได้
โปรตีนสามารถทำงานได้ต้องมีรูปร่าง (conformation)ที่เป็นลักษณะเฉพาะตัว • โปรตีนที่ทำงานได้ประกอบด้วย polypeptide 1 สายหรือมากกว่า ซึ่งม้วนพับไปมาตามแรงยึดเหนี่ยวระหว่าง side chainของ amino acid • รูปร่างของโปรตีนจึงขึ้นอยู่กับลำดับของ amino acidที่เรียงกันอยู่
A protein’s function depends on its specific conformation Ribbon model Space filling model
โครงสร้างของโปรตีนถูกแบ่งออกเป็นโครงสร้างของโปรตีนถูกแบ่งออกเป็น Primary structure Secondary structure Tertiary structure Quaternary structure สำหรับโปรตีนที่ประกอบด้วย polypeptide มากกว่า 1 สาย
The primary structure of a protein • Primary structure คือ ลำดับของamino acid ที่ประกอบขึ้นเป็นโปรตีน • Primary structure ถูกกำหนดโดยข้อมูลทางพันธุกรรม(DNA)
การเปลี่ยนแปลงลำดับamino acid ในโปรตีนอาจมีผลให้รูปร่างของโปรตีนเปลี่ยนไป และอาจมีผลต่อการทำงานของโปรตีนชนิดนั้นๆ ตัวอย่างเช่น โรคsickle-cell anemia
A single amino acid substitution in a protein causes sickle-cell disease
The secondary structure of a protein • Secondary structure เป็นโครงสร้างที่เกิดขึ้นจากH-bond ระหว่างหมู่carboxylและหมู่amino • Secondary structure ที่พบบ่อยในธรรมชาติได้แก่Helix และ Pleated sheet
ตัวอย่างเช่น เส้นใยแมงมุม มีโครงสร้างแบบ Pleated sheetทำให้เส้นใยแมงมุมมีความแข็งแรงมาก Spider silk: a structural protein