1 / 58

หน่วยที่ 2 แบบจำลองความสัมพันธ์ของข้อมูลและการจัดทำ E-R Diagram

หน่วยที่ 2 แบบจำลองความสัมพันธ์ของข้อมูลและการจัดทำ E-R Diagram. สถาปัตยกรรมของระบบฐานข้อมูล. ความสัมพันธ์. รูปแบบของฐานข้อมูล. แบบจำลองความสัมพันธ์ข้อมูล E-R Diagram. ระดับภายนอก (External Level). ระดับของข้อมูล. ระดับแนวคิด (Conceptual Level). ระดับภายใน (Internal Level).

Download Presentation

หน่วยที่ 2 แบบจำลองความสัมพันธ์ของข้อมูลและการจัดทำ E-R Diagram

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. หน่วยที่ 2 แบบจำลองความสัมพันธ์ของข้อมูลและการจัดทำ E-R Diagram สถาปัตยกรรมของระบบฐานข้อมูล ความสัมพันธ์ รูปแบบของฐานข้อมูล แบบจำลองความสัมพันธ์ข้อมูล E-R Diagram

  2. ระดับภายนอก (External Level) ระดับของข้อมูล ระดับแนวคิด(Conceptual Level) ระดับภายใน (Internal Level)

  3. ความหมายของระดับข้อมูลภายนอกความหมายของระดับข้อมูลภายนอก ระดับข้อมูลภายนอก หรือ วิว (External Level)เป็นระดับข้อมูลที่ผู้ใช้แต่ละคนต้องการดูข้อมูล เช่น งานวัดผลต้องการรหัสนักศึกษา รหัสวิชา ชื่อวิชา ค่าระดับคะแนน หรือ งานการเงินต้องการดูข้อมูลเกี่ยวกับรหัสนักศึกษา จำนวนเงิน ที่ลงทะเบียน เป็นต้น

  4. ความหมายของระดับข้อมูลระดับแนวคิดความหมายของระดับข้อมูลระดับแนวคิด ระดับข้อมูลแนวคิด หรือ ระดับหลักการ(Conceptual Level)เป็นระดับข้อมูลที่ผู้บริหารฐานข้อมูลเป็นผู้วางระบบและ ออกแบบฐานข้อมูลว่ามีเอ็นทิตี้ โครงสร้างข้อมูล ความสัมพันธ์และ ข้อจำกัดต่าง ๆ เกี่ยวกับสิทธิการใช้ข้อมูลอย่างไรบ้างเพื่อให้ผู้ใช้ ระดับภายนอกสามารถเรียกใช้ข้อมูลได้หลายรูปแบบที่แตกต่างกัน

  5. ความหมายของระดับข้อมูลภายในความหมายของระดับข้อมูลภายใน ระดับข้อมูลภายใน (Internal Level) คือ ระดับข้อมูลที่จัดให้เข้าสู่ระบบฐานข้อมูลจริง ซึ่งผู้ใช้ไม่จำเป็นต้อง ทราบรายละเอียดที่เกี่ยวกับการจัดเก็บข้อมูลว่ามีโครงสร้างในการ จัดเก็บในรูปแบบใด รวมถึงวิธีการเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ในฐานข้อมูล เพื่อดึงข้อมูลที่ต้องการ

  6. ความเป็นอิสระของข้อมูลความเป็นอิสระของข้อมูล ความเป็นอิสระทางกายภาพ ความเป็นอิสระทางตรรก

  7. ความเป็นอิสระของข้อมูล คือความเป็นอิสระของข้อมูลในแต่ละระดับ กล่าวคือ หากมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลในระดับใดระดับหนึ่งจะไม่กระทบกระเทือนกับข้อมูลในระดับอื่น ๆ ความเป็นอิสระของข้อมูลถือว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการจัดเก็บข้อมูลและการประยุกต์ใช้ เพื่อให้งานออกมามีประสิทธิภาพ โดยที่ผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องคอยทำการแก้ไขโปรแกรมที่ตนเองใช้อยู่ ทุก ๆ ครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขในฐานข้อมูล นั้น ๆ

  8. ความเป็นอิสระทางกายภาพ (Physical Data Independence) คือลักษณะการเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลหรือโครงสร้างในระดับภายในของระบบฐานข้อมูล เช่น การเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียกใช้ข้อมูลให้เร็วขึ้น โดยการเพิ่ม Disk อีกหนึ่ง Disk จะไม่กระทบถึงผู้ใช้ ผู้ใช้เคยเรียกใช้ข้อมูลอย่างไรก็เรียกใช้ได้เหมือนเดิม โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรือโปรแกรมใด ๆ ทั้งสิ้น

  9. ความเป็นอิสระแบบตรรก (Logical Data Independence) คือการเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรือโครงสร้างในระดับภายนอกหรือระดับแนวคิดเช่น การเพิ่ม Entity หรือAttribute ในฐานข้อมูล เมื่อผู้ใช้ ดึงข้อมูลออกมาใช้ก็ไม่มีความรู้สึกแตกต่างไปจากเดิม

  10. ความหมายของความสัมพันธ์ความหมายของความสัมพันธ์ หมายถึงความสัมพันธ์ระหว่าง Entity กับ Entity เช่น ความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตี้ ลูกค้ากับเอนทิตี้ใบสั่งซื้อ

  11. ประเภทของความสัมพันธ์ประเภทของความสัมพันธ์ ความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง นักเรียน คณะวิชา ความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อกลุ่ม คณะวิชา นักเรียน ความสัมพันธ์แบบกลุ่มต่อกลุ่ม สินค้า ใบสั่งซื้อ

  12. ความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่งความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง คือความสัมพันธ์ของเอนทิตี้หนึ่งมีความสัมพันธ์กับอีก เอนทิตี้หนึ่งในลักษณะ หนึ่ง ต่อ หนึ่ง เช่น นักศึกษา 1 คน สามารถสมัครเรียนได้เพียง 1 คณะวิชา เท่านั้น

  13. ความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อกลุ่มความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อกลุ่ม • คือความสัมพันธ์ของเอนทิตี้หนึ่งมีความสัมพันธ์กับอีกเอนทิตี้หนึ่งในลักษณะ หนึ่ง ต่อ กลุ่ม เช่น คณะวิชา 1 คณะวิชาสามารถรับสมัครนักศึกษาได้มากว่า 1 คน

  14. ความสัมพันธ์แบบกลุ่มต่อกลุ่มความสัมพันธ์แบบกลุ่มต่อกลุ่ม • คือความสัมพันธ์ของเอนทิตี้หนึ่งมีความสัมพันธ์กับอีกเอนทิตี้หนึ่งในลักษณะกลุ่มต่อกลุ่ม เช่น ใบสั่งซื้อ 1 ใบ สามารถสั่งซื้อสินค้าได้ครั้งละหลายรายการ และสินค้า 1 รายการ สามารถปรากฏในใบสั่งซื้อได้หลายใบ

  15. ฐานข้อมูลแบบลำดับขั้นฐานข้อมูลแบบลำดับขั้น รูปแบบของฐานข้อมูล ฐานข้อมูลแบบเครือข่าย ฐานข้อมูลแบบตารางสัมพันธ์

  16. ฐานข้อมูลแบบลำดับขั้นฐานข้อมูลแบบลำดับขั้น เป็นฐานข้อมูลที่มีลักษณะโครงสร้างคล้ายกับโครงสร้างของ ต้นไม้ที่กลับเอาส่วนของรากขึ้นด้านบน จุดที่มีการแตกกิ่งก้านสาขา ออกไปจะเรียกว่าโหนด (NODE) โดยที่แต่ละโหนดสามารถ แตกย่อยเป็นโหนดใหม่ได้อีก ซึ่งรูปแบบของฐานข้อมูลแบบนี้ บางครั้งเรียกว่าฐานข้อมูลแบบ พ่อ- ลูก เพราะโหนดที่แตกย่อย แต่ละโหนดนั้นจะมีโหนดที่เป็นโหนดแม่ได้เพียง 1 โหนดเท่านั้น

  17. ฐานข้อมูลแบบเครือข่าย ฐานข้อมูลแบบเครือข่าย เป็นฐานข้อมูลที่มีโครงสร้างคล้ายกับฐานข้อมูลแบบลำดับขั้นแต่ต่างกันตรงที่ฐานข้อมูลแบบเครือข่าย โหนดลูกอาจมีโหนด พ่อ-แม่ มากกว่า 1 โหนดได้

  18. ฐานข้อมูลแบบตารางสัมพันธ์ฐานข้อมูลแบบตารางสัมพันธ์ เป็นรูปแบบฐานข้อมูลที่เก็บข้อมูลในลักษณะของคอลัมน์และแถว

  19. ENTITY PK FK แผนกวิชา

  20. ENTITY PK FK อาจารย์

  21. ENTITY PK FK นักศึกษา

  22. ENTITY PK รายวิชา

  23. ENTITY Composit Key ค่าระดับคะแนน

  24. คุณสมบัติที่สำคัญของรีเลชั่นคุณสมบัติที่สำคัญของรีเลชั่น • แต่ละคอลัมน์ในตารางหนึ่ง ๆ จะตัองมีชื่อเรียกที่แตกต่างกัน • ชื่อของแต่ละคอลัมน์ คือชื่อของ Attribute 2. ค่าของข้อมูลในแต่ละคอลัมน์จะต้องอยู่ในโดเมนที่กำหนดไว้ 3. ข้อมูลในแต่ละแถวของตารางจะต้องแตกต่างกัน 4. การเรียงลำดับก่อนหลังจากซ้ายไปขวาของคอลัมน์ในตาราง ไม่มีความสำคัญ 5. การเรียงลำดับก่อนหลังจากบนลงล่างของแถวในตาราง ไม่มีความสำคัญ

  25. กฎของความคงสภาพ เพื่อให้ข้อมูลในฐานข้อมูลมีความถูกต้อง มี 2 กฎ คือ - กฎเพื่อความคงสภาพของเอนทิตี้ (Entity Integrity Rule) - กฎเพื่อความคงสภาพของการอ้างอิง (Referential Integrity Rule)

  26. การควบคุมให้เป็นไปตามกฎของการอ้างอิง ทำได้ 3 วิธี คือ • 1. การกระทำแบบมีข้อจำกัด (RESTRICTED) • 2. การกระทำแบบต่อเนื่อง (CASCADES) • 3. การใส่ค่านัล (NULLIFIES)

  27. แผนภาพ E-R Diagram แผนภาพ E-R เป็นแบบจำลองในระดับหลักการ เป็นเครื่องมือที่ช่วยในการสื่อสารระหว่างผู้ออกแบบ และผู้ใช้ฐานข้อมูล และเป็นอิสระจากซอฟท์แวร์ ที่ใช้สร้างฐานข้อมูล

  28. องค์ประกอบของแผนภาพ E-R เอนทิตี้ (Entity) แอททริบิวต์ (Attribute) ความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตี้ (Relationship)

  29. สัญลักษณ์ที่ใช้ในการทำ E-R Diagram สัญลักษณ์ที่ใช้แทน เอนทิตี้ สัญลักษณ์ที่ใช้แทนแอททริบิวต์ สัญลักษณ์ที่ใช้แทนความสัมพันธ์

  30. จำนวนชนิดของเอนทิตี้ในความสัมพันธ์จำนวนชนิดของเอนทิตี้ในความสัมพันธ์ (Degree of Relationship Degree ของความสัมพันธ์แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ - ความสัมพันธ์แบบยูนารี - ความสัมพันธ์แบบไบนารี - ความสัมพันธ์แบบเทอร์นารี

  31. นักศึกษา วิชา พักอยู่ห้องเดียวกันกับ เป็นวิชาที่ต้อง ศึกษาก่อน ความสัมพันธ์แบบยูนารี (Unary Relationship คือความสัมพันธ์แบบรีเคอร์ซีพ (Recursive Relationship) หมายถึงความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตี้ชนิดเดียวกัน หรือ ความสัมพันธ์ ในตัวเอง เช่น

  32. สั่งซื้อ สินค้า ลูกค้า สังกัด หน่วยงาน พนักงาน ความสัมพันธ์แบบไบนารี (Binary Relationship คือความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตี้ 2 ชนิด เป็นความสัมพันธ์ แบบสองทาง หมายถึงเอนทิตี้หนึ่งมีความสัมพันธ์กับเอนทิตี้ต่างประเภทกัน

  33. จัดส่ง คลังสินค้า ผู้ขาย ชิ้นส่วนอุปกรณ์ ความสัมพันธ์แบบเทอร์นารี (Ternary Relationship คือความสัมพันธ์ระหว่างเอนทิตี้ 3 ชนิด เป็นความสัมพันธ์ แบบ 3 ทาง คือ เอนทิตี้ต่างกัน 3 ประเภท มีความเกี่ยวข้องกัน

  34. คาร์ดินอลลิตี้ของความสัมพันธ์ (Cardianlity of Relationship) คือการกำหนดค่าต่ำสุด (Minimal Cardinality และค่าสูงสุด (Maximal Cardinality) ของเอนทิตี้แต่ละประเภท

  35. ค่าต่ำสุดและค่าสูงสุดเป็น 1 ค่าต่ำสุดเป็น 0 และค่าสูงสุดเป็น 1 ค่าต่ำสุดเป็น 0 และค่าสูงสุดมีค่าเป็นบวก ค่าต่ำสุดเป็น 1 และค่าสูงสุดมีค่าเป็นบวก สัญลักษณ์ที่ใช้ในการกำหนด คาร์ดินอลลิตี้ของความสัมพันธ์ แบ่งเป็น 4 ประเภท ดังนี้

  36. การแปลงข้อมูลจาก E-R Diagram ให้เป็นฐานข้อมูลชนิดตารางสัมพันธ์ ให้แปลงหนึ่งเอนทิตี้เป็น 1 ตาราง ให้แปลงหนึ่งความสัมพันธ์เป็น 1 ตาราง

  37. วิธีเลือกแอททริบิวต์ที่เป็นคีย์หลักให้พิจารณาจากเงื่อนไขดังนี้วิธีเลือกแอททริบิวต์ที่เป็นคีย์หลักให้พิจารณาจากเงื่อนไขดังนี้ 1. ถ้าเป็นความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อหนึ่ง จะเลือกเอา แอททริบิวต์ใดมาเป็นคีย์หลักก็ได้ 2. ถ้าเป็นความสัมพันธ์แบบหนึ่งต่อกลุ่มจะเลือกเอา แอททริบิวต์ด้านกลุ่มมาเป็นคีย์หลัก 3. ถ้าเป็นความสัมพันธ์แบบกลุ่มต่อกลุ่มจะเลือกเอา แอททริบิวต์ทั้งสองด้านมาเป็นคีย์หลัก

More Related