1 / 47

VAYUPAK FUND 1

VAYUPAK FUND 1. ผู้จัดทำ. กรกฏ กิจดี 434 55026 29. นิภาพรรณ แสงหิรัญวัฒนา 434 55433 29. กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง. Part 1 รูปแบบของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง Part 2 ผลการจัดจำหน่ายกองทุน Part 3 สถานการณ์ในปัจจุบัน Part 4 Case Study. Part 1. รูปแบบของกองทุนวายุภักษ์ 1.

sona
Download Presentation

VAYUPAK FUND 1

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. VAYUPAK FUND 1

  2. ผู้จัดทำ กรกฏ กิจดี 434 55026 29 นิภาพรรณ แสงหิรัญวัฒนา 434 55433 29

  3. กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง • Part 1 รูปแบบของกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง • Part 2 ผลการจัดจำหน่ายกองทุน • Part 3 สถานการณ์ในปัจจุบัน • Part 4 Case Study

  4. Part 1 รูปแบบของกองทุนวายุภักษ์ 1

  5. สินเชื่อธนาคาร เงินฝากธนาคารและปริมาณเงิน(M2)

  6. ยอดคงค้าง NPL ทั้งระบบ

  7. ความเป็นมา • ปัญหาวิกฤตการณ์สถาบันการเงิน ปี 1997 • เกิดปัญหา NPL • รัฐบาลจัดตั้ง บรรษัทบริการสินทรัพย์ไทย (บสท.) • ธนาคารพาณิชย์ไม่กล้าที่จะปล่อยกู้แต่จำนวนผู้ฝากเงินกลับเพิ่มขึ้น เกิดสภาพคล่องล้นระบบ ธนาคารพาณิชย์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพื่อลดต้นทุนการดำเนินการ • เกิดแนวความคิดจัดตั้งกองทุนรวมวายุภักษ์ขึ้นเนื่องจากมีสภาพเศรษฐกิจที่เอื้ออำนวย คือ มีสภาพคล่องในระบบสูง อัตราดอกเบี้ยเงินฝากในธนาคารต่ำ สภาพเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวและมีแนวโน้มที่ดี

  8. วัตถุประสงค์หลัก • เพิ่มทางเลือกให้แก่ผู้ออม • เป็นช่องทางในการนำหลักทรัพย์ที่กระทรวงการคลังถือครองอยู่มาบริหารจัดการให้เกิดประโยชน์ เพื่อลดภาระหนี้สาธารณะ ทำรายได้จากเงินประชาชน • ช่วยลดส่วนต่างระหว่างเงินลงทุนกับเงินออม(Investment-Saving Gap) • เป็นเครื่องมือเชื่อมโยงระหว่างตลาดเงินและตลาดทุนของไทย เพื่อลดสภาพคล่องในระบบและนำสภาพคล่องที่ล้นเกินนั้นมาใช้ประโยชน์ • เป็นแหล่งเงินทุนแทนภาครัฐในการแก้ปัญหาธุรกิจของไทยที่กำลังประสบปัญหาและจะกระทบความเชื่อมั่นของเศรษฐกิจไทยโดยไม่กระทบเงินงบประมาณรัฐบาลและไม่เป็นภาระในการก่อหนี้ต่างประเทศ • เป็นนักลงทุนรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์ฯเพื่อลดทอนอำนาจของนักลงทุนต่างชาติ

  9. รูปแบบของกองทุนรวมวายุภักษ์ 1 • ลักษณะทั่วไปที่สำคัญ • ความแตกต่างของกองทุนรวมวายุภักษ์ 1 กับกองทุนรวมอื่นๆ • สัญญาให้สิทธิในการขายกองทรัพย์สิน (Put Option) • สัญญาให้สิทธิในการซื้อกองทรัพย์สิน (Call Option) • ลักษณะการระดมทุนและนโยบายการลงทุน • ผลตอบแทนที่ได้รับจากกองทุนรวมวายุภักษ์ 1 • การจ่ายเงินปันผล • การแบ่งมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ • ผู้บริหารกองทุน

  10. ลักษณะทั่วไปที่สำคัญ • ประเภทของกองทุน • เป็นกองทุนรวมที่มีการคุ้มครองเงินต้นและอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ • มูลค่าโครงการ • 100,000 ล้านบาท • ชนิดของหน่วยลงทุน • หน่วยลงทุนประเภท ก. • หน่วยลงทุนประเภท ข. • อายุกองทุน • 10 ปี

  11. ความแตกต่างระหว่างกองทุนรวมอื่นๆความแตกต่างระหว่างกองทุนรวมอื่นๆ กองทุนรวมวายุภักษ์ 1 จะคุ้มครองมิให้ผู้ลงทุนทั่วไปได้รับผลกระทบจากการปรับลดของราคาหลักทรัพย์ โดยกระทรวงการคลังจะให้สิทธิกองทุนในการขายกองทรัพย์สินเพื่อคุ้มครองเงินลงทุนและผลตอบแทนขั้นต่ำแก่ผู้ลงทุนทั่วไป ภายใต้การคุ้มครองดังกล่าว มีเงื่อนไขว่ากระทรวงการคลังจะเป็นผู้รับประโยชน์ส่วนใหญ่เมื่อราคาของหุ้นที่ขายให้กองทุนรวมไปนั้นมีการปรับตัวสูงขึ้น

  12. สัญญาให้สิทธิในการขายกองทรัพย์สิน (Put Option) ในกรณีที่ NAV ของกองทุนรวม ณ วันใช้สิทธิ น้อยกว่าเงินลงทุนเริ่มต้นของผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. หรืออัตราผลตอบแทนเฉลี่ยตลอดอายุโครงการของผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. ต่ำกว่าอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำที่กำหนด (ร้อยละ 3) กองทุนรวมจะมีสิทธิที่จะขายกองทรัพย์สินให้แก่กระทรวงการคลังตามราคาใช้สิทธิขาย

  13. สัญญาให้สิทธิในการซื้อกองทรัพย์สิน (Call Option) ในกรณีที่มูลค่าของกองทรัพย์สินหลังหักค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของกองทุนรวม ณ วันเริ่มใช้สิทธิ สูงกว่าหรือเท่ากับราคาใช้สิทธิซื้อ กระทรวงการคลังมีสิทธิที่จะซื้อกองทรัพย์สินในราคาใช้สิทธิซื้อ ทั้งนี้ การตัดสินใจใช้สิทธิดังกล่าวขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของกระทรวงการคลัง

  14. หลักทรัพย์ที่ซื้อจากกระทรวงการคลัง (ประมาณร้อยละ 70) นักลงทุนทั่วไป 70,000 ล้านบาท 100,000 ล้านบาท กระทรวงการคลัง สำรองเงินเพื่อซื้อหลักทรัพย์เพิ่มเติมในอนาคต (ประมาณร้อยละ 30) 30,000 ล้านบาท การระดมเงินทุนและนโยบายการลงทุน

  15. ความเสี่ยง • ความเสี่ยงในการที่มูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (Net Asset Value: NAV) จะไม่สะท้อนผลตอบแทนส่วนเกินและมูลค่าทรัพย์สินสุทธิที่เพิ่มขึ้นตามราคาตลาด • ความเสี่ยงในการไม่ได้รับความคุ้มครองเงินลงทุนและผลตอบแทนขั้นต่ำ กรณีที่ซื้อหรือขายหน่วยลงทุนในตลาดรอง • มูลค่าของเงินปันผลที่ผู้ถือหน่วยลงทุนรายก่อนๆ ทุกรายได้รับ • มูลค่าของเงินปันผลที่ผู้ถือหน่วยลงทุนซึ่งซื้อหน่วยลงทุนจากตลาดรองได้รับ • มูลค่าหน่วยลงทุนของผู้ถือหน่วยลงทุนซึ่งซื้อหรือขายหน่วยลงทุนในตลาดรอง

  16. ความเสี่ยง • ความเสี่ยงในการที่ไม่ได้รับเงินปันผลในแต่ละปีตามอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ • ความเสี่ยงในการไม่ได้รับความคุ้มครองเงินลงทุนและผลตอบแทนขั้นต่ำในทันทีที่เลิกกองทุนรวมก่อนครบอายุโครงการตามเงื่อนไขที่ปรากฎในโครงการ • ความเสี่ยงที่เกิดจากผู้แทนของกระทรวงการคลังที่อาจได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกรรมการบริหาร/กรรมการ/ที่ปรึกษาในบริษัทที่กระทรวงการคลังเคยถือหุ้นอยู่ และได้โอนถ่ายมาเป็นของกองทรัพย์สินของกองทุนรวม

  17. การจ่ายเงินปันผล

  18. การเสียภาษี • บุคคลธรรมดาสัญชาติไทยเงินปันผล : เสียภาษี โดยผู้ลงทุนสามารถเลือกได้ว่าจะให้หักภาษี ณ ที่จ่าย 10 % หรือจะไม่ให้หักก็ได้ แต่ถ้าไม่ให้หักต้องนำไปรวม คำนวณภาษีเงินได้เงินได้จากกำไรจากการขายหน่วยลงทุน : ได้รับการยกเว้น • บริษัทจำกัดที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายไทยเงินปันผล : ได้รับยกเว้นภาษีกึ่งหนึ่งของรายได้จากเงินปันผลนั้น หากบริษัทถือหน่วยลงทุนเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 เดือนก่อนวันที่รับเงินปันผล และถือหลังจากรับเงินปันผลแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือนเงินได้จากกำไรจากการขายหน่วยลงทุน : ต้องนำไปรวมเป็นรายได้เพื่อคำนวณภาษีเงินได้ในอัตราปกติ

  19. การเสียภาษี • บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เงินปันผล : ได้รับยกเว้นภาษี หากบริษัทถือหน่วยลงทุนเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 เดือนก่อนวันที่รับเงินปันผล และถือหลังจากรับเงินปันผลแล้วไม่น้อยกว่า 3 เดือนเงินได้จากกำไรจากการขายหน่วยลงทุน : ต้องนำไปรวมเป็นรายได้เพื่อคำนวณภาษีเงินได้ในอัตราปกติ

  20. การแบ่งมูลค่าสินทรัพย์สุทธิการแบ่งมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ • กรณีที่ 1 มีการใช้สิทธิขาย (Put Option) 1) ผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ก. จะได้รับ NAV ตามราคาใช้สิทธิขายที่คำนวณได้ 2) ผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ข. จะได้รับ NAV ที่เหลือหลังจากหักให้ประเภท ก. แล้ว

  21. การแบ่งมูลค่าสินทรัพย์สุทธิการแบ่งมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ • กรณีที่ 2 มีการใช้สิทธิซื้อ (Call Option) หรือกรณีที่ไม่มีการใช้สิทธิใดๆ • ถ้า NAV น้อยกว่า ผลรวมของมูลค่าเงินลงทุนและผลตอบแทนขั้นต่ำที่ได้รับความคุ้มครองและมูลค่าเงินลงุทนเริ่มต้นของผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ข. ให้ดำเนินการแบ่ง NAV ดังนี้ • ผู้ถือหน่วยลงุทนประเภท ก. จะได้รับ NAV ตามมูลค่าเงินลงุทนและผลตอบแทนขั้นต่ำที่ได้รับความคุ้มครอง • ผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ข. จะได้รับ NAV ที่เหลือหลังจากหักให้แก่ผู้ถือหน่วยลงุทนประเภท ก. แล้ว

  22. การแบ่งมูลค่าสินทรัพย์สุทธิการแบ่งมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ • ถ้า NAV ของกองทุนรวมมากกว่าผลรวมของ มูลค่าเงินลงทุนและผลตอบแทนขั้นต่ำที่ได้รับความคุ้มครองและมูลค่าเงินลงทุนเริ่มต้นของผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ข. ให้นำ NAV ของกองทุนรวมที่เกินนั้นมาคำนวณดังนี้ (NAVส่วนเกิน เท่ากับ NAV ทั้งหมดหักด้วย มูลค่าเงินลงทุนและผลตอบแทนขั้นต่ำที่ได้รับความคุ้มครองและมูลค่าเงินลงทุนเริ่มต้นของผู้ถือหน่วยลงทุนประเภท ข.)

  23. การแบ่งมูลค่าสินทรัพย์สุทธิการแบ่งมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ

  24. การรับเงินลงทุนคืนหรือขายหน่วยลงทุนการรับเงินลงทุนคืนหรือขายหน่วยลงทุน • การรับเงินลงทุนคืนหรือขายหน่วยลงทุนทำได้ ดังนี้ • ถือหน่วยลงทุนตั้งแต่เริ่มต้นจนจบโครงการ (10 ปี) • ซื้อ-ขายหน่วยลงทุนนอกตลาด และสามารถโอนเปลี่ยนมือโดยติดต่อนายทะเบียนหน่วยลงทุน • ถ้ากองทุนยังไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ อาจมีการจัดตั้งผู้สร้างสภาพคล่องในตลาดรอง • หลังจากหน่ยลงทุนจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว เราสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ได้

  25. จำนวนเงินลงทุนที่ได้รับคืนจำนวนเงินลงทุนที่ได้รับคืน

  26. ผู้บริหารเงินลงทุน • บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย จำกัด (มหาชน) • บริษัท หลักทรัพย์จัดการกองทุน เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน)

  27. ตัวแทนจำหน่าย • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) • ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) • ธนาคารไทยธนาคาร จำกัด (มหาชน) • ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) • ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน)

  28. Part 2 ผลการจัดจำหน่ายกองทุน

  29. วันที่ 20 พฤศจิกายน 2546 ได้มีผู้จองซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง เต็มจำนวน 70,000 ล้านบาท โดยมีผลการจองซื้อ ดังนี้

  30. ผลการจัดจำหน่าย • มีการตอบรับจากนักลงทุนรายย่อยน้อย • แต่ยังขายหมดภายในช่วงเวลาที่กำหนด (11 - 24 พ.ย. 2546) • นักลงทุนสถาบัน • กองทุนต่างๆ • นักลงทุนรายใหญ่

  31. เหตุใดประชาชนจึงไม่ตอบรับ วายุภักษ์ 1 • ประชาชนเลือกที่จะไปลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ • ประชาชนบางส่วนเลือกที่จะฝากเงินในธนาคาร แม้จะมีส่วนต่างในอัตราผลตอบแทน • ความเข้มงวดของกลต.ทำให้หนังสือชี้ชวนไม่สามารถดึงดูดความสนใจของนักลงทุนได้ • กลไกการค้ำประกันเงินต้นและอัตราผลตอบแทน

  32. Part 3 สถานการณ์ในปัจจุบัน

  33. วายุภักษ์ 1 ในปัจจุบัน • กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ได้จดทะเบียนเป็นกองทุนรวมต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์แล้ว เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2546 • กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ได้ตั้งสำรองเงินปันผลตลอดอายุของกองทุน 10 ปี มูลค่า 21,000 ล้านบาท สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุน ประเภท ก. (ผู้ลงทุนทั่วไป) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

  34. วายุภักษ์ 1 ในปัจจุบัน • กองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ได้ลงทุนโดยซื้อหลักทรัพย์ของสถาบันการเงิน รัฐวิสาหกิจ และธุรกิจที่กระทรวงการคลังถือหุ้นอยู่จากกระทรวงการคลัง มูลค่า 70,000 ล้านบาท เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2546 โดยหลักทรัพย์ทั้งหมดดังกล่าวมีมูลค่าตลาดในวันดังกล่าวเท่ากับ 95,401 ล้านบาท ทั้งนี้ คณะกรรมการลงทุนของกองทุน จำนวน 5 คน ซึ่งประกอบด้วยผู้แทนจากกระทรวงการคลัง 3 คน และผู้แทนจากบริษัทจัดการทั้งสองแห่ง (บลจ. กรุงไทย จำกัด (มหาชน) และ บลจ. เอ็มเอฟซี จำกัด (มหาชน)) แห่งละ 1 คน ได้ประชุมและหารือในกรอบนโยบายการลงทุนของกองทุนเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2546

  35. วายุภักษ์ 1 ในปัจจุบัน

  36. วายุภักษ์ 1 ในปัจจุบัน สำหรับพอร์ตการลงทุนของวายุภักษ์ 1 ในหุ้นทั้ง 11 ตัว มีดังนี้ 1.ธนาคารกรุงไทย จำนวน 414.34 ล้านหุ้น 2.หุ้นบุริมสิทธิธนาคารกรุงไทย จำนวน 5.45 ล้านหุ้น 3.บมจ.การบินไทย จำนวน 260.57 ล้านหุ้น 4.บมจ.ปตท.จำนวน 435.80 ล้านหุ้น 5.หุ้นบุริมสิทธิธนาคารไทยพาณิชย์ จำนวน 758.79 ล้านหุ้น 6.บริษัทกรุงเทพประกันภัย จำนวน 8.95 แสนหุ้น

  37. วายุภักษ์ 1 ในปัจจุบัน 7.บริษัททิพยประกันภัย จำนวน 8.52 ล้านหุ้น 8.บริษัทกรุงเทพคลังสินค้า จำนวน 5.01 แสนหุ้น 9.บริษัทปูนซิเมนต์ไทย จำนวน 6.28 แสนหุ้น 10.บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง จำนวน 4.50 ล้านหุ้น และ 11.บมจ.ฟินิคซ์ พัลพ แอนด์ เพเพอร์ จำนวน 3.67 ล้านหุ้น โดยกว่า 80% อยู่ในหุ้นเพียง 3 ตัว คือ หุ้นของ บมจ.ปตท. การบินไทย และแบงก์กรุงไทย โดยกองทุนซื้อจากคลังในราคาส่วนลด 15% ณ วันที่ 3 ตุลาคม 2546

  38. วายุภักษ์ 1 ในปัจจุบัน • จากการซื้อหุ้นทั้ง 11 ตัว ดังกล่าว กองทุนรวมวายุภักษ์ ยังคงมีเงินลงทุนเหลือที่จะลงทุนได้อีก ประมาณ 30,000 ล้านบาท • อาจมีการเข้าไปลงทุนเพิ่มในหุ้นอื่นๆอีก ซึ่งผู้แทนของกระทรวงการคลังซึ่งเป็น 1 ใน คณะกรรมการการลงทุนแถลงว่าเป็นการลงทุนในระยะยาว ไม่ใช่การเก็งกำไร หรือแทรกแซงตลาด • 16 ก.พ. 2547 คณะกรรมการกองทุน จะมีการประชุมหารือกัน เกี่ยวกับการขยายกรอบการ ลงทุน โดยให้กองทุนสามารถนำเงินที่เหลือจากการซื้อหุ้น 11 ตัวมาจากกระทรวงการคลัง จำนวน 30,000 ล้านบาท มาลงทุนซื้อหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ รวมทั้งให้กองทุนสามารถนำหุ้นที่ซื้อมาจากกระทรวงการคลังจำนวน 11 ตัว ออกมาซื้อขายได้ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนต่อผู้ถือหน่วยเพิ่มมากขึ้น ซึ่งหากคณะกรรม-การกองทุนอนุมัติก็จะสามารถเข้าซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ทันที • คาดว่าจะเริ่มมีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯในวันที่ 18 ก.พ.2547

  39. Part 4 CASE STUDY

  40. Government Investment Corp.: GIC • GIC is a global investment management company established in 1981 to manage Singapore's foreign reserves • one of Asia's largest private equity investors with an estimated S$9.1 billion-S$18.2 billion invested in 120 properties in more than 25 countries worldwide. • GIC invests internationally in equities, fixed income, money market instruments, real estate and special investments. • its real rate of return always exceeds the G3's (US, Japan and Germany) average inflation rate of 5 percent

  41. Temasek Holdings • An investment holding company based in Singaporeestablished in 1974 • wholly-owned by the Minister for Finance (Inc). • It’s holds and manages investments in companies which are leading companies in Singapore, such as Singapore Airlines, Singapore Telecoms, Singapore Technologies, Neptune Orient Lines-APL, PSA Corporation, DBS Bank and Singapore Power.

  42. ความคล้ายคลึงกันระหว่าง GIC,Temasek Holdingsและกองทุนรวมวายุภักษ์ • เป็นกองทุนที่อยู่ภายใต้การกำกับของรัฐบาล • กองทุนรวมทั้ง 3 กองทุนมีไว้เพื่อเป็นเครื่องมือ เป็นกลไกให้แก่รัฐ เมื่อต้องการเข้าไปแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ • ลงทุนช่วยเหลืออุตสาหกรรม ที่สำคัญของประเทศที่มีอนาคตไกลที่ต้องการเพิ่มทุน

  43. ความแตกต่างระหว่าง GIC,Temasek Holdingsและกองทุนรวมวายุภักษ์ • GIC จะเน้นการลงทุนในต่างประเทศเป็นหลัก • กองทุนรวมวายุภักษ์มีการประกันอัตราผลตอบแทนขั้นต่ำ ขณะที่ชาวสิงคโปร์ที่เข้ามาซื้อหน่วยลงทุนของ GIC และ Temasek Holdings ต้องพร้อมที่จะรับความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นเอง • GIC และ Temasek Holdings มีการลงทุนแบบมืออาชีพ ไม่ได้เน้นเข้าไปลงทุนในบริษัทที่มีปัญหา แต่จะเลือกลงทุนในบริษัทที่ศักยภาพเติบโตสูงเป็นสำคัญ แต่ภาพของการลงทุนของวายุภักษ์ คือกองทุนที่เข้าไปโอบอุ้มบริษัทที่มีปัญหาในการเพิ่มทุนมากกว่าเหตุผลอื่นๆ

  44. Unit Trust of India (UTI) • UTI is the India largest single investor in Indian markets, controlling more than $12.7 billion (600 billion rupees). • UTI Asset Management Company presently manages 42 NAV based domestic SEBI compliant schemes and 4 Offshore funds having a corpus Rs.15,243 crore from about 10 million investor accounts. • US-64 fund, established in 1964 by UTI, which is India's biggest and accounts for about 15 percent of the domestic mutual fund industry's assets. • In recent years, falling global stock markets have seriously eroded the value of its investments, leading to severe liquidity problems and increasing its bad debt load.

  45. ความล้มเหลวของกองทุน US-64 • มีระบบการขายและซื้อคืนหน่วยลงทุน ที่ไม่สัมพันธ์กับมูลค่าสินทรัพย์สุทธิ (NAV) ของกองทุน • สินทรัพย์ที่ UTI เข้าไปลงทุน ส่วนใหญ่จะเป็นหุ้นกลุ่มไฮเทคโดยมีสัดส่วนสูงถึง 65% • การตัดสินใจในเรื่องสำคัญๆ ทุกเรื่องของ UTI มาจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นรู้ดีในหมู่คนวงใน มีการใช้ข้อมูลวงในของบรรดาสถาบันการเงิน เพื่อตักตวงผลประโยชน์เข้าตัว

  46. ความคล้ายคลึงกันระหว่าง UTIและกองทุนรวมวายุภักษ์ • รัฐบาลเป็นผู้สนับสนุนกองทุน • การตัดสินใจในการลงทุนขึ้นอยู่กับคนกลุ่มน้อยที่แต่งตั้งมาจากกระทรวงการคลัง • รัฐบาลมีการประกันผลตอบแทนที่จ่ายให้แก่นักลงทุน • การลงทุนส่วนใหญ่เน้นการลงทุนในตลาดทุน • นโยบายของกองทุนเป็นกองทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ

  47. ความแตกต่างระหว่าง US-64 และ กองทุนรวมวายุภักษ์ • US-64 เน้นการลงทุนในหุ้นกลุ่มไฮเทคในต่างประเทศที่มีความเสี่ยงสูง ขณะที่กองทุนรวมวายุภักษ์เน้นการลงทุนในรัฐวิสาหกิจที่มีปัญหาต้องฟื้นฟูในประเทศ • รัฐบาลของประเทศอินเดียไม่ได้เข้าไปร่วมลงทุนในUS-64 และไม่ได้รับผลตอบแทนใดๆจากการจัดตั้งกองทุน แต่มีการประกันอัตราผลตอบแทนแก่นักลงทุน

More Related