4.48k likes | 12.88k Views
การเขียนรายงาน. . รายงาน ( Report) เป็นงานที่เรียบเรียงจากการศึกษาค้นคว้าในเรื่องใดเรื่องหนึ่งตามที่ผู้สอนกำหนดหรือตามความสนใจของผู้เรียน เพื่อใช้ประกอบการศึกษารายวิชาใดวิชาหนึ่ง อาจทำเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม . ส่วนประกอบของรายงา น. 1. ส่วนประกอบตอนต้น มีส่วนประกอบดังนี้
E N D
. รายงาน (Report) เป็นงานที่เรียบเรียงจากการศึกษาค้นคว้าในเรื่องใดเรื่องหนึ่งตามที่ผู้สอนกำหนดหรือตามความสนใจของผู้เรียน เพื่อใช้ประกอบการศึกษารายวิชาใดวิชาหนึ่ง อาจทำเป็นรายบุคคลหรือเป็นกลุ่ม
ส่วนประกอบของรายงาน • 1. ส่วนประกอบตอนต้น มีส่วนประกอบดังนี้ • 1.1 ปกนอก คือ ส่วนที่เป็นปกหุ้มรายงานทั้งหมด มีทั้งปกหน้าและปกหนังให้ใช้กระดาษสีอ่อนที่หนาและเหนียวพอสมควร บนปกประกอบด้วย • 1.1.1 ชื่อเรื่องรายงาน • 1.1.2 ชื่ออาจารย์ผู้สอน และชื่อผู้ทำรายงาน กรณีผู้ทำรายงานหลายคน ให้เรียงลำดับอักษร • 1.1.3 ข้อความที่ระบุว่าเป็นรายงานประกอบการศึกษารายวิชา รหัสวิชา คณะ สถาบันการศึกษา ภาคเรียน และปีการศึกษา • 1.2 ใบรองปก เป็นกระดาษว่างคั่นหลังหน้าปก ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง • 1.3 หน้าปกใน คือ ส่วนที่อยู่ต่อจากปกนอก ข้อความบนหน้าปกในของรายงาน เป็นข้อความเดียวกับที่ปรากฏบนหน้าปกของรายงาน • 1.4 คำนำ เป็นหน้าที่ผู้ทำรายงานเขียนชี้แจงเกี่ยวกับสาเหตุของการเลือกเขียนรายงานเรื่องนั้น ขอบเขตของรายงาน ผู้มีส่วนช่วยเหลือในการสืบค้นข้อมูลประกอบรายงาน • 1.5 สารบัญ หรือสารบาญ คือ ส่วนที่อยู่ต่อจากคำนำในหน้าสารบัญจะมีลักษณะคล้ายโครงเรื่องของรายงาน เนื้อหาที่ปรากฏในรายงานเรียงตามลำดับเพื่อให้ผู้อ่านได้สามารถตรวจสอบหัวข้อต่าง ๆ ที่ต้องการว่าอยู่หน้าใด • 1.6 สารบัญตาราง คือ สารบัญรายการของตารางที่เสนอข้อมูลต่าง ๆ สารบัญตารางให้อยู่ต่อจากสารบัญ หลักเกณฑ์การพิมพ์สารบัญตารางใช้แนวเดียวกับการพิมพ์สารบัญ • 1.7 สารบัญภาพ คือ รายการของภาพที่นำมาประกอบการเรียบเรียงรายงาน อยู่ต่อจากสารบัญตาราง การแสดงชื่อภาพประกอบหลักเกณฑ์การพิมพ์ใช้แนวเดียวกับการพิมพ์สารบัญ
ตัวอย่างปกรายงาน ชื่อเรื่องรายงาน ชื่อ-สกุลผู้เขียนรายงาน ระดับชั้น..............เลขที่/รหัสประจำตัว........................ วิชาเอก...............................................ห้อง................... รายงานนี้เป็นส่วนหนึ่งของการศึกษาวิชา.................. ชื่อสถานศึกษา……………….. ภาคเรียนที่.........................ปีการศึกษา........................
หน้าคำนำ คำนำ 7 ตัวอักษร (จากขอบเขียน) เว้น 1 บรรทัด /////// รายงานนี้จัดทำขึ้นเพื่อ……………………………………………….. ……………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………. ขอบคุณบุคคลต่อไปนี้ คือคุณมกราคม คุณกุมภาพันธ์ ที่ได้ให้ความช่วย เหลือจนรายงานสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เว้น 1 บรรทัด สุขสวัสดี สีม่วง (ลงชื่อผู้เขียนรายงาน) 30 กันยายน 2556(ลงวันเดือนปี)
ตัวอย่างสารบัญ สารบัญ เว้น 1 บรรทัด เนื้อเรื่อง………………………………………….. หน้า //ทรัพยากรสารสนเทศ.............................. 1 // ทรัพยากรตีพิมพ์................................. 1 // ทรัพยากรไม่ตีพิมพ์............................. 4 // ส่วนประกอบของหนังสือ..................... 6 // วารสารและหนังสือพิมพ์......................8 // การระวังรักษาหนังสือ.......................... 10 // บรรณานุกรม…………………………… 12 หมายเหตุ เครื่องหมาย // คือ ระยะช่องไฟ
ส่วนเนื้อเรื่อง • 2. ส่วนเนื้อเรื่อง คือ ส่วนที่อยู่ต่อจากส่วนประกอบตอนต้น ส่วนเนื้อเรื่องจะประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ดังนี้ • 2.1 บทนำ คือ การเขียนอธิบายเนื้อหาอย่างกว้าง ๆ เป็นการนำผู้อ่านเข้าสู่เนื้อเรื่อง หรือเนื้อหาให้เข้าใจในเบื้องต้น • 2.2 เนื้อเรื่อง คือ ส่วนที่เสนอเรื่องราวทั้งหมดของรายงานตามลำดับหัวข้อที่ระบุไว้ในหน้าสารบัญ อาจแบ่งเป็นบทหรือตอน หรือหัวข้อของเนื้อเรื่องตามความเหมาะสม เนื้อเรื่อง มีส่วนประกอบย่อย ๆ อีกดังนี้ • 2.2.1 การอ้างอิงในเนื้อหา หมายถึง การบอกแหล่งที่มาของข้อความที่นำมาอ้างอิงในการเรียบเรียงเนื้อหารายงาน เพื่อให้ผู้อ่านสามารถตรวจสอบหรือค้นคว้าเพิ่มเติมได้ • 2.2.2 ตาราง คือ การนำเสนอข้อมูลเนื้อหาที่มีลักษณะเป็นตัวเลขที่สามารถบอกความหมายต่าง ๆ ได้ เช่น ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสถิติทดสอบนัยสำคัญ เพื่อให้ผู้อ่านสามารถเข้าใจข้อมูลและเรื่องราวต่าง ๆ ได้รวดเร็ว • 2.2.3 ภาพประกอบ คือส่วนที่ใช้แสดงประกอบเนื้อเรื่อง เพื่อให้เกิดความเข้าใจรวดเร็วขึ้น คำว่า ภาพประกอบจะครอบคลุมถึงภาพถ่าย ภาพวาด ภาพลายเส้น ภาพพิมพ์ แผนที่ ไดอะแกรม กราฟ
ส่วนประกอบตอนท้าย • 3. ส่วนประกอบตอนท้าย ซึ่งอาจมีส่วนย่อย ๆ ดังนี้ • 3.1 หน้าบอกตอน คือ หน้าที่เขียนหรือพิมพ์ข้อความไว้กลางหน้ากระดาษ เพื่อบอกว่าส่วนที่อยู่ถัดไปคืออะไร เช่น หน้าบอกตอน บรรณานุกรม ภาคผนวก และ อภิธานศัพท์ • 3.2 บรรณานุกรม คือ บัญชีรายงานวัสดุสารสนเทศทุกประเภทที่ผู้เขียนนำมาใช้อ้างอิงประกอบในการทำรายงานนั้น ๆ • 3.3 ภาคผนวก คือ ส่วนที่เป็นเนื้อหาที่เกี่ยวกับรายงานนั้น แต่มิใช่เนื้อหาจริงที่ผู้เขียนต้องการเขียนแต่มีความสำคัญที่ควรนำมาประกอบไว้ เพื่อความสมบูรณ์ของเนื้อหาหรือเพื่อให้ผู้อ่านที่สนใจได้ศึกษาเพิ่มเติมโดยไม่ต้องไปค้นจากแหล่งอื่นอีก • 3.4 อภิธานศัพท์ คือ บัญชีคำศัพท์เฉพาะหรือศัพท์เทคนิคที่ผู้เขียนหยิบยกมาใช้ในบทนิพนธ์นั้น ๆ เพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจตรงกันกับผู้เขียน ผู้เขียนจึงนำคำศัพท์นั้นมาเรียงตามตัวอักษรแล้วอธิบายความหมายไว้ แยกเป็นส่วนพิเศษต่างหาก จึงเรียกส่วนนี้ว่า อภิธานศัพท์
ตัวอย่าง บรรณานุกรม • บรรณานุกรม • กรรณิการ์ ชลลัมพี และฉวีวรรณ สุวรรณรัฐ. (2541). การเขียนเอกสารอ้างอิงบรรณานุกรม. • ใน คู่มือวิทยานิพนธ์. หน้า 158-159. กรุงเทพฯ : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหิดล. • การเขียนบรรณานุกรม. (2538). สืบค้นเมื่อ 30 เมษายน 2553, จาก • http:ete-Wbi.site40.net.lesson-1-1.html • กิ่งกาญจน์ นาคะกุล. (2545). เอกสารคำสอนวิชาสารนิเทศเพื่อการศึกษาค้นคว้า. เชียงใหม่ : • วิทยาลัยพลศึกษาจังหวังเชียงใหม่ • จุมพจน์ วนิชกุล. (2549). สารสนเทศเพื่อการเรียนรู้. กรุงเทพฯ : สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี • (ไทย-ญี่ปุ่น). • จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ภาควิชาบรรณารักษศาสตร์. (2550). การค้นคว้าและการเขียนรายงาน. • พิมพ์ครั้งที่ 8. กรุงเทพฯ : โครงการเผยแพร่ผลงานทางวิชาการ คณะอักษรศาสตร์ • จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ขั้นตอนการทำรายงาน • การเลือกเรื่องหรือหัวข้อเรื่องที่จะศึกษา • การสำรวจแหล่งสารสนเทศ • การวางโครงเรื่องขั้นต้น • การกำหนดแหล่งข้อมูลเบื้องต้น • การค้นหาแหล่งข้อมูล • รวบรวมข้อมูลและจดบันทึก • การวางโครงเรื่องขั้นสุดท้าย • การเรียบเรียงรายงาน • การจัดทำบรรณานุกรม • การจัดทำส่วนประกอบอื่น ๆ ของรายงานให้ครบถ้วน • การจัดทำรูปเล่มรายงาน
ตัวอย่างการเขียนโครงเรื่องตัวอย่างการเขียนโครงเรื่อง ชื่อเรือง การใช้สารสนเทศเพื่อการเรียนรู้ 1. ความหมายของสารสนเทศ 2. ความต้องการสารสนเทศ 2.1 วิเคราะห์ความต้องการสารสนเทศ 2.2 การพิจารณาลักษณะของสารสนเทศ 2.3 การวางแผนค้นหาสารสนเทศ 3. ทรัพยากรสารสนเทศ 4. การสืบค้นสารสนเทศ บรรณานุกรม
ตัวอย่างส่วนของเนื้อหาตัวอย่างส่วนของเนื้อหา ชื่อเรื่องหรือชื่อบท (การใช้สารสนเทศเพื่อการเรียนรู้) เว้น 1 บรรทัด หัวข้อใหญ่(ความหมายของสารสนเทศ ) เริ่มย่อหน้าข้อความ (เว้นจากขอบเขียน 7 ตัวอักษร)……………………. ……………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………… หัวข้อใหญ่ (ความต้องการสารสนเทศ) 1.วิเคราะห์ความต้องการสารสนเทศ …………………………………………. ……………………………………………………………………………………………. 2. การพิจารณาลักษณะของสารสนเทศ ……………………………………... …………………………………………………………………………………………….. หัวข้อใหญ่ (ทรัพยากรสารสนเทศ ) ………………………………………………………………………………… ……………………………………………………………………………………………… หัวข้อใหญ่(การสืบค้นสารสนเทศ ) . ……………………………………………………………………………………………… ......................................................................................................................................... ***หมายเหตุ รายการหัวข้อใหญ่ที่ปรากฏให้ขีดเส้นใต้ ( ตรงกันกับโครงเรื่อง) .
การเขียนอ้างอิง • คือ การบอก หรือแจ้งให้ผู้อ่านทราบว่า ข้อความที่นำมาอ้าง หรือ ที่ผู้ทำรายงานได้คัดลอก หรือเรียบเรียงจากงานของบุคคลอื่น เพื่อให้เกียรติแก่เจ้าของงาน และช่วยให้ผู้อ่านสามารถติดตามค้นคว้าหาเอกสารต้นฉบับที่สนใจได้ถูกต้อง ในปัจจุบันนิยมใช้การอ้างอิงแทรกในเนื้อหา
การอ้างอิงแบบแทรกในเนื้อหาการอ้างอิงแบบแทรกในเนื้อหา การอ้างอิงแบบแทรกในเนื้อหา (Citation in Text) หรือเรียกอีกอย่างว่า การอ้างอิงแบบนาม-ปี เป็นการเขียนแหล่งอ้างอิงไว้ในวงเล็บเพื่อบอกที่มาของข้อความที่คัดลอกมา ปัจจุบันนิยมใช้ การอ้างอิงแบบนาม-ปี เพราะสามารถสร้างความเข้าใจอย่างต่อเนื่องและง่ายต่อการเขียน เป็น การเขียนสารสนเทศอ้างอิงไว้ในวงเล็บแทรกอยู่ในเนื้อหาของรายงานที่มีการนำข้อความอ้างอิง มีส่วนประกอบสำคัญ 3 รายการ คือ ชื่อผู้แต่ง ปีพิมพ์ และ เลขหน้าที่อ้างอิงไม่ว่าวัสดุที่ใช้อ้างอิงนั้นเป็นประเภทใดก็ตาม 1. รูปแบบการเขียนอ้างอิงระบบนาม-ปี ส่วนประกอบคือ (ชื่อ/ ชื่อสกุล.// ปีพิมพ์ / : / เลขหน้าที่อ้างอิง)
หลักเกณฑ์การเขียนอ้างอิงระบบนาม-ปี • 2. หลักเกณฑ์การเขียนอ้างอิงระบบนาม-ปี 2.1 การลงชื่อผู้แต่ง 2.1.1 การลงชื่อผู้แต่งคนไทย ไม่ใส่คำนำหน้า ยกเว้นผู้ที่มียศ บรรดาศักดิ์ หรือราชทินนามสำหรับชาวไทย ส่วนชาวต่างประเทศให้ลงเฉพาะนามสกุลเท่านั้น ตัวอย่าง (ธาดาศักดิ์ วชิรปรีชาพงษ์.2548 : 19) (เจ้าพระยาธรรมศักดิ์มนตรี. 2526 : 50-55) (Putnum. 1999 : 15)
การลงรายการผู้แต่ง 2.1.2 ผู้แต่งมีมากกว่า 1 คน ให้ใช้หลักเกณฑ์เดียวกับการลงชื่อผู้แต่ง 1 คน และให้เขียนคำว่า และ หน้าชื่อผู้แต่งคนสุดท้าย ตัวอย่าง (ณรงค์ ณ ลำพูน และเพ็ชรี รูปวิเชตร.2546: 108-109) (Ettinger and Others. 1994 : 38) 2.1.2 ผู้แต่งมีมากกว่า 1 คน ให้ใช้หลักเกณฑ์เดียวกับการลงชื่อผู้แต่ง 1 คน และให้เขียนคำว่า และ หน้าชื่อผู้แต่งคนสุดท้าย ตัวอย่าง (ณรงค์ ณ ลำพูน และเพ็ชรี รูปวิเชตร.2546: 108-109) (Ettinger and Others. 1994 : 38)
ผู้แต่งที่เป็นชื่อหน่วยงานราชการผู้แต่งที่เป็นชื่อหน่วยงานราชการ 2.1.3 ระดับกระทรวง ตัวอย่าง ( กระทรวงศึกษาธิการ. 2551 : 1). กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (2552 : 2).
วัสดุอ้างอิงที่ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่งวัสดุอ้างอิงที่ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่ง 2.1.4 วัสดุอ้างอิงที่ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่ง ให้ใช้ชื่อเอกสารแทน ตัวอย่าง (รู้จักภาษาไทย. 2546: 22) (แนวทางการประเมินคุณธรรมของผู้เรียน. 2551 : 5)
การลงปีพิมพ์ การลงเลขหน้า 2.2 การลงปีพิมพ์ ให้เขียนเฉพาะตัวเลขของ พ.ศ. ถ้าไม่มีปีพิมพ์ให้ใช้ “ม.ป.ป.” หรือ “n.d.” แทน • 2.3 การลงเลขหน้า ถ้าไม่ปรากฏเลขหน้าที่อ้างอิงให้ใช้ว่า “ไม่ปรากฏเลขหน้า” หรือ “unpaged” แต่ถ้าส่วนที่อ้างเป็นส่วนหนึ่งของหนังสือที่ไม่ใช่เนื้อหา และไม่มีเลขหน้าให้ระบุคำที่แสดงส่วนของหนังสือนั้นแทนเลขหน้า • ตัวอย่าง (กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. 2548: คำนำ)
การเขียนบรรณานุกรม บรรณานุกรม (Bibliography) คือ รายชื่อหนังสือ เอกสาร และโสตทัศนวัสดุที่ผู้เขียนนำมาอ้างอิงประกอบในการเขียนรายงาน ซึ่งจัดเรียงตามลำดับอักษรชื่อผู้แต่งไว้ในตอนท้ายของรายงานแต่ละเรื่อง บรรณานุกรม ประกอบด้วย รายการที่สำคัญ ได้แก่ ชื่อผู้แต่ง ชื่อหนังสือ ครั้งที่พิมพ์ สถานที่พิมพ์ สำนักพิมพ์ และปีที่พิมพ์ เป็นต้น
รูปแบบการเขียนบรรณานุกรมของหนังสือ รูปแบบการเขียนบรรณานุกรมของหนังสือ รูปแบบการเขียนบรรณานุกรมของหนังสือ เนื่องจากทรัพยากรสารสนเทศที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้ามีหลายประเภท เช่น หนังสือ วารสาร หนังสือพิมพ์ และอื่น ๆ ดังนั้น การเขียนหรือพิมพ์รายการบรรณานุกรม จะมีการลงรายการบรรณานุกรมแตกต่างไปตามประเภทของทรัพยากรสารสนเทศนั้น ๆ ผู้เขียนรายงานสามารถใช้ตามความเหมาะสม รูปแบบการเขียนบรรณานุกรมของหนังสือทำได้ 2 รูปแบบ 2.1 รูปแบบที่ 1 มีรายละเอียดทางบรรณานุกรม ดังนี้ ผู้แต่ง.//ชื่อเรื่อง.// ครั้งที่พิมพ์.// สถานที่พิมพ์/:/สำนักพิมพ์,/ปีที่พิมพ์. ตัวอย่าง พฤกษ์ นิมิตพรอนันต์. เคล็ดลับเพิ่มพลังสมอง. กรุงเทพฯ : ไพลิน, 2546.
รูปแบบการเขียนบรรณานุกรม 2 2.2 รูปแบบที่ 2 รูปแบบการเขียนบรรณานุกรมแบบเอพีเอ มีรายละเอียดทางบรรณานุกรม ดังนี้ ผู้แต่ง.// (ปีที่พิมพ์).// ชื่อเรื่อง.// ครั้งที่พิมพ์.// เมืองที่พิมพ์ :/ สำนักพิมพ์. ตัวอย่าง กรณีผู้แต่ง 1 คน อาภาพร ธาตุโลหะ. (2551). ทรัพยากรสารสนเทศเพื่อการศึกษา ค้นคว้า. พิมพ์ครั้งที่ 2. ชลบุรี:พี. เค. กราฟฟิคพริ้นต์.
กรณีผู้แต่ง 2 และ 3 คน ตัวอย่าง สุวิทย์ มูลคำ และอรทัย มูลคำ. (2545). วิธีจัดการเรียนรู้ : เพื่อพัฒนาความรู้และทักษะ. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ภาคพิมพ์. สุวรรณ อภัยวงศ์, ไปรมา เฮียงราช และนัยนา ประทุมรัตน์. (2548). เอกสารประกอบการสอนรายวิชา 1500101 ภาษาไทยเพื่อ การสื่อสารและการสืบค้น. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัย มหาสารคาม. Diamondr, L., & Jefferies, J. (2001). Beginning statistics : An introduction for social scientist. London: Sage
ผู้แต่งมากกว่า 3 คน การลงชื่อผู้แต่งมากกว่า 3 คน ให้ลงชื่อผู้แต่งคนที่ 1 ที่ปรากฏในเอกสารนั้น ๆ แล้วตามด้วยคำว่า “และคนอื่น ๆ” หรือ “และคณะ” อย่างใดอย่างหนึ่งตลอดทั้งเล่ม สำหรับภาษาอังกฤษให้ใช้ “and others” หรือ “etal” ตัวอย่าง อมรา พงศาพิชญา และคณะ. (2549). การสร้างและพัฒนาตัวชี้วัด คุณภาพชีวิตและพัฒนาโดยชุมชนมีส่วนร่วม. กรุงเทพฯ : สถาบันวิจัยสังคม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. จรวย บุญยุคล และคนอื่น ๆ. (2536). พลังงาน. กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย.
ผู้แต่งที่ใช้นามแฝง การลงรายการผู้แต่งที่ใช้นามแฝงหรือชื่อย่อ ตัวอย่าง สมจินตนา (นามแฝง). (2549). บ้านรวย บ้านจน บ้านดี บ้านร้ายทำนายชะตาบ้าน เสริมชะตาคน. กรุงเทพฯ : ไพลิน. พ. นวลจันทร์ (นามแฝง). (2542). รู้ด้วยจิต : ออกจากใจใช่ ความคิด รู้ด้วยจิตใช่สมอง. กรุงเทพฯ : อมรินทร์.
สิ่งพิมพ์ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่งสิ่งพิมพ์ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่ง สิ่งพิมพ์ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่ง ให้ลงชื่อเรื่องเป็นรายการสำคัญ ตัวอย่าง เทคนิคการคิดและจำอย่างเป็นระบบ : Systematic Thinking & Mind Mapping. (2544). กรุงเทพฯ : เอ็กเปอร์เน็ท. เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ : บนเส้นทางการพัฒนาอำเภอท่าหลวง. (2542). กรุงเทพฯ : กลุ่มวังขนาย.
การลงรายการครั้งที่พิมพ์การลงรายการครั้งที่พิมพ์ การลงรายการครั้งที่พิมพ์ 1. ให้ระบุครั้งที่พิมพ์ตั้งแต่พิมพ์ครั้งที่ 2 เป็นต้นไป 2. การลงครั้งที่พิมพ์ในภาษาอังกฤษ ตัวเลขลำดับที่ไม่ต้องใส่เครื่องหมายมหัพภาค แต่คำว่า การพิมพ์ ให้เขียนย่อว่า ed (edition) เช่น หนังสือภาษาไทยให้ลงว่า พิมพ์ครั้งที่ 2 หนังสือภาษาอังกฤษ ให้ลงว่า 2 nd ed.
รายการปีที่พิมพ์ การลงรายการปีที่พิมพ์ 1. ให้เขียนเฉพาะตัวเลขของ พ.ศ. ไว้ในวงเล็บ ถ้าไม่มีปีที่พิมพ์ให้ใช้ “ม.ป.ป.” หรือ “n.d.” (No Date) แทน ตัวอย่าง จิราพร โชตึก.(ม.ป.ป.).สารสนเทศเพื่อการเรียนรู้. ศรีสะเกษ: สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตศรีสะเกษ.
การลงรายการเมืองที่พิมพ์ • การลงรายการเมืองที่พิมพ์ เมืองที่พิมพ์ ให้ระบุชื่อเมืองหรือชื่อจังหวัด ซึ่งเป็นที่ตั้งของผู้รับผิดชอบในการพิมพ์ ไม่ต้องใส่ชื่อประเทศ ถ้าไม่ปรากฏเมืองที่พิมพ์ให้ลงว่า “ม.ป.ท.” หรือ “n.p.” (Place of Publication) ในภาษาอังกฤษ ดังตัวอย่าง จิราพร โชตึก.(ม.ป.ป.).สารสนเทศเพื่อการเรียนรู้. ม.ป.ท.: สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตศรีสะเกษ.
การลงรายการสำนักพิมพ์ • การลงรายการสำนักพิมพ์ ระบุเฉพาะชื่อสำนักพิมพ์ที่ปรากฏในหนังปกใน ตัดคำประกอบอื่น ที่ไม่จำเป็นออก ยกเว้นสำนักพิมพ์ของสถาบันอุดมศึกษาให้ระบุคำว่าสำนักพิมพ์ เพื่อแยกเอกสารที่เป็นของสถาบัน เช่น McGraw-Hill Companyลงว่าMcGraw-Hill สำนักพิมพ์ดวงกมล ลงว่า ดวงกมล บริษัทซีเอ็ดยูเคชั่นจำกัด ลงว่า ซีเอ็ดยูเคชั่น สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์ ลงว่า สำนักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ์ มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัย
รูปแบบการเขียนบรรณานุกรมวารสารรูปแบบการเขียนบรรณานุกรมวารสาร • รูปแบบการเขียนบรรณานุกรมวารสาร • มีดังนี้ • ชื่อ/ สกุลผู้เขียนบทความ.// (ปี,/ วัน/ เดือน).// ชื่อบทความ.// ชื่อวารสาร.// • ปีที่ (ฉบับที่)/ : / เลขหน้าที่อ้าง. • ตัวอย่าง • อรัญญา สุธาสิโนบล. (2549, ธันวาคม). การสอนแบบบูรณาการ. • วารสารวิชาการ. 5(12) : 20-26. ฟองหาว (นามแฝง). (2551, 15 มิถุนายน). ดีไซน์ : บาร์โค้ด. • พลอยแกมเพชร. 17(393) : 247.
การเขียนบรรณานุกรมของบทความในหนังสือพิมพ์ รูปแบบการเขียนบรรณานุกรมของบทความในหนังสือพิมพ์ มีดังนี้ ผู้แต่ง.// (ปี,/ วันที่/ เดือน).// ชื่อบทความ.//ชื่อหนังสือพิมพ์,//เลขหน้าที่อ้าง. ตัวอย่าง สุกัญญา รัตนนาคินทร์. (2550,5 มิถุนายน). คลินิกกฎหมาย : สินสอด. เดลินิวส์, หน้า 25.
การเขียนบรรณานุกรมจากแหล่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นออนไลน์การเขียนบรรณานุกรมจากแหล่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นออนไลน์ • รูปแบบการเขียนบรรณานุกรมจากแหล่งข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ที่เป็นออนไลน์ เป็นดังนี้ ข้อมูลจากหนังสือ ผู้แต่ง.// (ปีพิมพ์หรือปีที่สืบค้น).// ชื่อเรื่อง.// สถานที่พิมพ์/ :/ สำนักพิมพ์. สืบค้นเมื่อ/ วันที่/ เดือน/ ปี (หรือ Retrieved/ เดือน/ วัน/ ปี),// จาก (From)/ ชื่อเว็บไซต์. ตัวอย่าง หลักเกณฑ์การถอดอักษรภาษาไทยเป็นอักษรโรมันแบบถ่ายเสียง. (2542). กรุงเทพฯ : ราชบัณฑิตยสถาน. สืบค้นเมื่อ 24 สิงหาคม 2543, จาก http://www.Royin.go.th.
ตัวอย่าง ประวิตร พิศาลบุตร.(2551,พฤษภาคม).โรคที่มาจากการจูบ. ใกล้หมอ. 32(4) : 40-45. สืบค้นเมื่อ 18 เมษายน 2553,จาก http://www.este.ac.th/?g=node/177. หรือ สืบค้นโดย google ผักริมรั้ว.( 2556). สืบค้นเมื่อ 18 กันยายน2556, จากhttp://www..........
ตัวอย่างการเขียนเนื้อหา(หน้าที่ 1ไม่เขียนเลขหน้า) อาหาร เว้นบรรทัด ความหมายของอาหาร ………………………………………………………………….. ……………………………………… (จิราพร โชตึก.2553:5) ชนิดของอาหาร จิราพร โชตึก (2553:5) ……………………………………. ………………………………………………………………………….
หน้าที่ 2(เริ่มเขียนเลขหน้า) 1 นิ้ว 2 1 นิ้ว ประโยชน์ของอาหาร ประโยชน์ของอาหารคือ (จิราพร โชตึก.2553:20) 1……………………………………………………………………... 2…………………………………………………………………….. สารอาหาร …………………………………………………………………….. ………………………………………………………………………………... ……………………………………………………(อาหาร .2553:ออนไลน์ )
ชีวิตคิดบวก ☼เวลาเจองานหนัก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ…..โอกาสในการเตรียมพร้อมสู่ความ เป็นมืออาชีพ ☼เวลาเจอปัญหาซับซ้อน ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ….. บทเรียนที่จะสร้างปัญญาได้อย่างวิเศษ ☼เวลาเจอความทุกข์หนัก ให้บอกตัวเองว่า นี่คือ….แบบฝึกหัด ที่จะช่วยให้เกิดทักษะในการดำเนินชีวิต (ว.วชิรเมธี )
ภาคเรียนที่ 1/2556 จบ จบ..จริงๆจ้า