180 likes | 535 Views
บทที่ 5 ดุลยภาพของตลาด (Market Equilibrium). ความหมายของตลาด การติดต่อซื้อขายสินค้าและบริการกันระหว่าง ผู้ซื้อและผู้ขาย ทั้งในสถานที่ที่เป็นตลาดโดยทั่วไป เช่น ตลาดสามย่าน ตลาดประตูน้ำ รวมถึง การติดต่อกันทางจดหมาย โทรศัพท์ โทรสาร หรือ พาณิชย์ อิเลคโทรนิค ฯลฯ.
E N D
บทที่ 5 ดุลยภาพของตลาด (Market Equilibrium) ความหมายของตลาด การติดต่อซื้อขายสินค้าและบริการกันระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ทั้งในสถานที่ที่เป็นตลาดโดยทั่วไปเช่นตลาดสามย่านตลาดประตูน้ำ รวมถึงการติดต่อกันทางจดหมายโทรศัพท์โทรสารหรือพาณิชย์ อิเลคโทรนิคฯลฯ ประเภทของตลาดในระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม ตลาดแข่งขันสมบูรณ์ ตลาดแข่งขันไม่สมบูรณ์
P Excess Supply S 50 D Q 200 300 400 ดุลยภาพของตลาดโดยใช้กลไกราคา E 30 Ø ดุลยภาพของตลาด(Market Equilibrium)อยู่ณจุดที่อุปสงค์เท่ากับอุปทาน Ø ราคาสินค้าจะที่ทำให้อุปสงค์เท่ากับอุปทานเรียกว่าราคาดุลยภาพ Ø ปริมาณสินค้าณระดับราคาดุลยภาพเรียกว่าปริมาณดุลภาพ
P P S S D0 D0 Q Q E E1 D1 D1 การเปลี่ยนแปลงภาวะดุลยภาพ เกิดจากการเปลี่ยนแปลงปัจจัยที่เป็นตัวกำหนดอุปสงค์และอุปทาน (ที่ไม่ใช่ราคา) เช่นรายได้เทคนิคการผลิตการคาดคะเนของผู้บริโภคฯลฯ ผลของการเปลี่ยนแปลงระดับอุปสงค์ · กรณีอุปสงค์เพิ่มขึ้น · กรณีอุปสงค์ลดลง E1 E
P P S0 S0 D0 D0 E1 S1 S1 E Q Q E ผลของการเปลี่ยนแปลงระดับอุปทาน · กรณีอุปทานเพิ่มขึ้น · กรณีอุปทานลดลง E1
การเปลี่ยนแปลงทั้งระดับอุปสงค์และอุปทานการเปลี่ยนแปลงทั้งระดับอุปสงค์และอุปทาน P S0 D0 S1 E Q D1 · กรณีอุปสงค์เพิ่มขึ้นมากกว่าอุปทานเพิ่มขึ้น E1
การแทรกแซงกลไกตลาด • การแทรกแซงด้านราคา • การเก็บภาษีสินค้าและบริการ • การกำหนดราคาขั้นต่ำ (Minimum Price Policy) • 1. ประกันราคาขั้นต่ำ (Price Support Policy) • 2. การจ่ายเงินอุดหนุนผู้ผลิต (Producer Subsidy) • 3. การลดปริมาณการผลิต (Product Restriction) • การกำหนดราคาขั้นสูง (Price Ceiling)
P S0 D0 Po Q E Qd Qo Qs รัฐบาลต้องรับซื้อสินค้าส่วนเกิน = = การประกันราคาขั้นต่ำ (Price Support Policy) ผลของการแทรกแซง Excess Supply ผู้ผลิตขายสินค้าได้ราคาสูงขึ้น = Ps ผู้บริโภคซื้อสินค้าราคาแพงขึ้น =
P S0 D0 Po Q E Qo รัฐบาลจ่ายเงินอุดหนุนให้ผู้ผลิต = = การจ่ายเงินอุดหนุนผู้ผลิต (Producer Subsidy) ผลของการแทรกแซง ผู้ผลิตขายสินค้าได้ราคาสูงขึ้น = Ps ผู้บริโภคซื้อสินค้าราคาเท่าเดิม (Po)
P S0 S1 E1 D0 Po Q E Qo การลดปริมาณการผลิต (Product Restriction) ผลของการแทรกแซง ผู้ผลิตขายสินค้าได้ราคาสูงขึ้น = P1 ผู้บริโภคซื้อสินค้าราคาเพิ่มขึ้น = Q1 ผลของการลดปริมาณการผลิต คือ P สูงขึ้น แต่ Q ลดลง จาก Po Qo เป็นP1 Q1 แต่ผู้ผลิตจะมีรายรับเพิ่มขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ Ed
Ed = % Q / % P รายรับ = ราคา x ปริมาณ = P x Q ถ้า Ed > 1 รายรับจะลดลง ถ้า Ed < 1 รายรับจะเพิ่มขึ้น สมมุติ P เพิ่ม 10% , Q ลด 20% ถ้า รายรับเดิม = Po x Qo = 20 x 100 = รายรับใหม่ = P1 x Q1 = 22 x 80 = สมมุติ P เพิ่ม 20% , Q ลด 10% ถ้า รายรับเดิม = Po x Qo = 20 x 100 = รายรับใหม่ = P1 x Q1 = 24 x 90 =
S Px E Pe Pc D Qx Qs Qd กำหนดราคาขั้นสูง (Price Ceiling) • เป็นการแทรกแซงเพื่อช่วยผู้บริโภค ผลของการแทรกแซง ผลิตและผู้บริโภคซื้อขายกันในราคา Pc เกิด Excess D = รัฐต้องใช้การปันส่วนสินค้า และหามาตรการป้องกันตลาดมืด Excess D
S1 Px So P1 Tax Po Qx Q1 Qo การเก็บภาษีสินค้าและบริการ • เก็บภาษีต่อหน่วยผู้ขาย
S1 รายได้ภาษีที่รัฐจัดเก็บ = So Px ผู้ซื้อเสียภาษี = P1 Eo ผู้ขายเสียภาษี = D TAX Po B Do Qx Q1 Qo การเก็บภาษีสินค้าและบริการ E1 *** ภาระภาษี จะตกอยู่กับผู้ซื้อและผู้ขายมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับ Ed และ Es
S1 So Px P1 Eo D Po B Do Qx Q1 Qo อุปสงค์มีความยืดหยุ่นต่ำ (0<Ed<1) ผู้บริโภครับภาระภาษีมากกว่า E1
S1 So Px D Qx Q1 Qo อุปสงค์มีความยืดหยุ่นสูง (1>Ed<) ผู้ขายจะรับภาระภาษีมากกว่า E
Px S Qx ทฤษฎีใยแมงมุม (Cobweb Theory) • อธิบายปรากฏการณ์เกี่ยวกับการซื้อขายสินค้าเกษตรกรรม ซึ่งผู้ผลิตจะราคาสินค้าเกษตรในช่วงเวลาหนึ่งที่ผ่านมา เป็นตัวกำหนดปริมาณสินค้าที่จะขายในช่วงถัดไป ทำให้การเปลี่ยนแปลงของราคาและปริมาณของสินค้ามีลักษณะเหมือนใยแมงมุม P3 P1 D P2 Q3 Q2
S1 So Px (บาท) 50 Eo 30 Do Qx (หน่วย) 100 150 • ก่อนเก็บภาษี ราคาดุลภาพเท่ากับ........บาท/หน่วย • รัฐบาลจัดเก็บภาษีในอัตรา.............บาท/หน่วย • ผู้ซื้อต้องรับภาระภาษีทั้งหมด.........บาท • ผู้ขายรับภาระภาษีทั้งหมด.......บาท • รายได้ของผู้ขายหลังเก็บภาษีมีค่าเท่ากับ.......บาท E1 20