1 / 11

Doraemon : โดเร ม่อน

Doraemon : โดเร ม่อน. นางสาวจิตรนภา โจลัตสาห์ กุล รหัสนิสิต 5410900472.

Download Presentation

Doraemon : โดเร ม่อน

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. Doraemon : โดเรม่อน นางสาวจิตรนภา โจลัตสาห์กุล รหัสนิสิต 5410900472

  2. วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2512 เป็นวันที่เริ่มต้นพิมพ์หนังสือการ์ตูนเรื่อง Doraemonในประเทศญี่ปุ่น โดยจินตนาการของนักเขียนชาวญี่ปุ่นสองคน ที่ใช้นามปากการ่วมกัน ว่า ฟูจิโกะ ฟุจิโอะ โดยตัวการ์ตูนจะเป็นเรื่องราวของหุ่นยนต์ในโลกอนาคต ศตวรรษที่ 22 ซึ่งจินตนาการให้เป็นแมวตัวกลมๆ มีความสามารถพิเศษ และกระเป๋าวิเศษที่บรรจุของมากมาย จุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือเด็กผู้ชาย ที่ขี้แย ไม่เอาไหน คนนึง และสอดแทรกคติธรรมเข้าไป ทำให้การ์ตูนเรื่องนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก

  3. ชื่อโดราเอมอน มาจากคำว่า...โดราเนโกะแปลว่า แมวหลงทาง เอมอน เป็นคำเรียกต่อท้ายชื่อของเด็กชายในสมัยก่อน โดราเอมอน เกิดขึ้นโดยความบังเอิญในขณะที่ 2 นักเขียนการ์ตูนชื่อฮิโรชิ ฟูจิโมโต และโมโตโอะ อาบิโกะขณะที่กำลังจินตนาการ สร้างการ์ตูนตัวใหม่ด้วยความลำบาก และกดดัน เนื่องจากเหลือเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงจะถึงกำหนดส่งต้นฉบับ บังเอิญเหลือบเห็นตุ๊กตาของลูกสาว ทำให้นึกต่อไปถึงตุ๊กตา แมว ล้มลุก และกลายเป็นโดราเอมอนในที่สุด

  4. การ์ตูนเรื่องโดเรม่อน มีจุดเด่นในเรื่องของจินตนาการ สิ่งประดิษฐ์ต่างๆ ในโลกอนาคต ที่ผู้อ่านทั่วไปคาดไม่ถึง จากปลายปากกาของ อ. ทั้งสอง ที่ถ่ายทอดออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม พร้อมทั้งสอดแทรกศิลปะวัฒนธรรมของญี่ปุ่นเข้าไปในตัวการ์ตูน แบ่งลักษณะนิสัยของคนออกมาในแต่คาแร็คเตอร์ได้อย่างลงตัว เหมือนกับนำเอาชีวิตจริงของผู้อ่านเข้าไปเกี่ยวข้องกับการ์ตูนด้วย ดังนั้นการ์ตูนเรื่องนี้จึงเป็นที่นิยม อ่านได้ทุกเพศทุกวัย จนทำให้มีการพิมพ์การ์ตูนเรื่องนี้มากมาย สามารถขายได้ถึง 100 ล้านเล่มใน ญี่ปุ่น และแปลเป็นภาษาต่างๆ ทั่วโลก ถึง 9 ภาษา รวมทั้งภาษาไทยอีกด้วย นอกจากการ์ตูนแล้ว โดเรม่อน ถูกสร้างออกมาเป็นภาพยนต์ทางจอเงิน และจอแก้วมากมายหลายตอน โดย ฉายครั้งแรกที่ฮ่องกง เมื่อปี พ.ศ. 2524 และฉายที่ประเทศไทยเราครั้งแรก วันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2525

  5. กำเนิดโดราเอม่อน

  6. จริงๆแล้ว แต่เดิมนั้นโดราเอม่อนนั้นมีผิวสีเหลือง และมีหูเหมือนแมว โดยถือกำเนิดขึ้นจากโรงงานผลิตหุ่นยนต์ในศตวรรษที่22 โดยโดราเอม่อนนั้นเป็นหุ่นที่สร้างมาเพื่อเลี้ยงเด็กๆเท่านั้น แต่ทว่า ตัวโดราเอม่อนเองนั้นมีขั้นตอนการผลิตที่ผิดพลาด ในขณะที่ทำการผลิตอยู่นั้นได้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นทำให้หุ่นโดราเอมอนตัวหนึ่งโดนไฟช็อต และกำลังหล่นลงไปในเตาหลอมขยะ ในขณะที่กำลังจะหล่นไปนั้น โดราเอมอนได้รับการช่วยเหลือจาก หุ่นยนต์แมวนักเต้นชื่อ โดราเนียโกะ โดราเอมอนได้รู้จักเพื่อนคนแรกที่นี่ และโดราเนียโกะได้มอบขนมแป้งทอดหรือ โดรายากิ โดราเอมอนเพื่อเป็นการฉลองวันที่โดราเอมอนถือกำเนิดขึ้นมา (เหตุนี้ล่ะ จึงทำให้โดราเอม่อนชอบกินขนมโดรายากิเป็นต้นมา) 

  7. ในเมื่อคนเรา การที่จะทำสิ่งใดเป็น จะต้องผ่านการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานมาก่อน หุ่นยนต์อย่างโดราเอม่อนก็เช่นกัน ก็ต้องไปอบรม เรียนที่โรงเรียนฝึกหุ่นยนต์ แต่เนื่องจากอุบัติเหตุจากการผลิตในครั้งนั้น ทำให้ความสามารถของโดราเอม่อนนั้นคล้ายๆกับโนบิตะ คือโดราเอมอนได้ทำผิดพลาดทุกอย่าง เช่น ให้หยิบประตูทุกหนแห่ง แต่ดัน หยิบห่วงผ่านตลอดออกมา เป็นต้น และได้ถูกครูใหญ่เรียกตัวไปพบและให้ย้ายไปชั้นเรียนพิเศษ ซึ่งเป็นห้องที่รวบรวมเด็กมีปัญหาเอาไว้ และโดราเนียโกะ ก็ได้อยู่ในห้องนี้ด้วย

  8. ที่ห้องนี้โดราเอมอนได้พบกับเพื่อนแท้อีกหกคน คือ โดราเดอะคิด เป็นหุ่นยนต์ที่ชอบคาวบอยเป็นอย่างมาก รักความสันโดษ และเป็นโรคกลัวความสูง โดราเหม็ดที่สาม เป็นพ่อมดที่มีเวทมนคาถามากมาย และกลัวน้ำมาก เมื่อโมโหจะขยายร่างอาละวาด หวังโดรา เก่งในด้านกังฟูมาก แต่แพ้ผู้หญิง มีนิสัยขี้อาย เอล มาทาโดรา เป็นนัดสู้วัวกระทิงที่มีใจรักความยุติธรรมมาก อยู่ในสเปน เมื่อมีเหตุร้ายเกิดขึ้นจะเปลี่ยนเป็นไดเคทสึโดรา ผู้ผดุงความยุติธรรม โดรานิคอฟ หุ่นยนต์แมวที่มีความลับเยอะมาก ไม่เคยพูด มีผ้าพันคออยู่ตลอดเวลา เวลาเห็นของกลมๆ จะกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าและถ้ากินของเผ็ดจะพ่นไฟได้ โดราริเนียว(โดรารินโญ่) เป็นนักฟุตบอลที่เก่งมาก จะอยู่กับทีมฟุตบอลของเขาคือมินิโดราทั้ง 7 มีนิสัยขี้ลืมมาก

  9. และต่อมาโดราเอม่อนและเพื่อนทั้ง6ก็ได้รวมพลังกัน เป็นโดราเอม่อน ทีม และมีการ์ดแห่งเพื่อนอยู่ เพื่อติดต่อถึงกันได้ ไม่ว่าอยู่ที่ไหน ยุคใดก็ตาม ซึ่งหาอ่านได้จาก หนังสือการ์ตูนของ line art planning(ไม่มีลิขสิทธ์) และ เนชั่นฯ

  10. ในพิธีจบการศึกษา หุ่นต่างๆต้องมาแสดงความสามารถให้ชม เพื่อที่จะรับการติดต่อไปทำงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่ต้องการ เพื่อนๆในชั้นทุกคนมีคนมาติดต่อไปหมดแล้ว เหลือแต่โดราเอมอนเป็นคนสุดท้าย เมื่อโดราเอมอนแสดงจบ ได้มีสัญญานจากเด็กโดยตรงติดต่อมา แต่ทว่ากลับกลายเป็นเด็กกดปุ่มผิดเลือกมา เด็กคนนั้นก็คือเซวาชิ(ซึ่งก็คือรุ่นหลานๆๆๆของโนบิตะนั่นเอง)นั่นเอง โดราเอมอนจึงรับหน้าที่ดูแลเซวาชิ เมื่อเซวาชิอยู่ชั้นประถม ครูได้สั่งให้ปั้นดินน้ำมันส่ง เซวาชิตัดสินใจที่จะปั้นโดราเอมอนขึ้นมา แต่ก็ทำพลาดตรงหูนี่เอง จึงได้ใช้ให้หุ่นยนต์หนูไปทำให้หูของรูปปั้นเหมือนของโดราเอมอน แต่หุ่นยนต์หนูเข้าใจผิด ไปกัดหูของโดราเอมอนแหว่ง โดราเอมอนตกใจมาก เมื่อไปหาหมอ ขณะที่ทำการรักษาอยู่นั้น ได้เกิดความผิดพลาดขึ้นทำให้หูของโดราเอมอนหายไปเลย เมื่อใครต่อใครเห็นก็ต่างพากันหัวเราะเยาะกันยกใหญ่ โดราเอมอนเสียใจมากจึงวิ่งออกไปแล้วก็ร้องไห้อยู่คนเดียว โดราเอมอนร้องไห้มากจนทำให้สีเหลืองที่ชุบตัวลอกออกมาเป็นสีน้ำเงิน ซึ่งเราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ และโดรามีก็ออกมาปลอบใจและบอกกับโดราเอมอนว่าตัวเองเป็นน้องสาวของโดราเอมอน ในด้านเซวาชิได้ออกตามหาโดราเอมอน ในขณะที่ตามหาอยู่นั้น ได้มีผู้ก่อการร้ายซึ่งกำลังหนีตำรวจจับเป็นตัวประกันไว้ โดราเอมอนก็ได้ไปช่วยออกมา (จริงๆแล้วไม่ได้ช่วยหรอก หลังจากที่หนีออกมา โดราเอมอนตั้งใจจะดื่มน้ำยาร่าเริง แต่หยิบผิดเป็นน้ำยาเศร้าโศก และเมื่อพบกลับโดรามีก็จะกินน้ำยาร่าเริงอีกครั้ง แต่ดันกลายเป็น น้ำยาเร่งความเร็ว ทำให้ต้องวิ่งไปเรื่อยๆ จนไปชนยานของผู้ก่อการร้ายพัง ) หลังจากจับผู้ร้ายได้แล้ว ทางครูใหญ่ได้จัดการฉลองให้โดราเอมอน และมอบหุ่นยนต์มินิโดรา ให้เพื่อเป็นเกียรติแก่โดราเอมอนที่จับผู้ร้ายได้ โดราเอมอนตั้งใจจะให้ของขวัญแก่เซวาชิบ้าง จึงคิดที่จะกลับไปโลกอดีตเพื่อแก้ไขบรรพบุรุษของเซวาชิให้ดีขึ้น และที่นี่เอง โดราเอมอนกับ โนบิตะ ได้พบกันเป็นครั้งแรก

More Related