1 / 30

เตรียมความพร้อมระบบประกันคุณภาพภายใน เพื่อรองรับการประเมินภายนอกรอบสาม โดย ดร.สมชาย สังข์สี (หากนำไปใช้ กรุณาเขียน Com

เตรียมความพร้อมระบบประกันคุณภาพภายใน เพื่อรองรับการประเมินภายนอกรอบสาม โดย ดร.สมชาย สังข์สี (หากนำไปใช้ กรุณาเขียน Comment ให้ด้วย). 1.ระบบประกันคุณภาพภายใน 2.ประเมินภายนอกรอบสาม.

kamin
Download Presentation

เตรียมความพร้อมระบบประกันคุณภาพภายใน เพื่อรองรับการประเมินภายนอกรอบสาม โดย ดร.สมชาย สังข์สี (หากนำไปใช้ กรุณาเขียน Com

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. เตรียมความพร้อมระบบประกันคุณภาพภายในเพื่อรองรับการประเมินภายนอกรอบสามโดยดร.สมชาย สังข์สี(หากนำไปใช้ กรุณาเขียน Comment ให้ด้วย)

  2. 1.ระบบประกันคุณภาพภายใน2.ประเมินภายนอกรอบสาม1.ระบบประกันคุณภาพภายใน2.ประเมินภายนอกรอบสาม ระบบประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา เป็นไปตาม พรบ.กศ 42 (สอดคล้องกับ ม.48,50 และ51) เป็นไปตามกฎกระทรวงศึกษาธิการ (ว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ.2553)

  3. กฎกระทรวงศึกษาธิการ(ว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ.2553) หมวด 1 บททั่วไปข้อ 3 ระบบการประกันคุณภาพภายในเพื่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและพัฒนามาตรฐานการศึกษาทุกระดับ ต้องประกอบด้วย(1) การประเมินคุณภาพภายใน (2) การติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา(3) การพัฒนาคุณภาพการศึกษา

  4. ระบบการประกันคุณภาพการศึกษาระบบการประกันคุณภาพการศึกษา การพัฒนาคุณภาพ (QC) กระบวนการพัฒนาสู่คุณภาพ กระบวนการ ปรับปรุง คุณภาพ การประกันคุณภาพ (Quality Assurance) กระบวนการ ตรวจสอบ คุณภาพ การตรวจติดตามคุณภาพ (QAu) • การประเมินคุณภาพ • ภายใน (IQA) • ภายนอก (EQA)

  5. กฎกระทรวงศึกษาธิการ (ว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ.2553) ข้อ 14 ให้สถานศึกษาขั้นพื้นฐานจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพภายในตามหลักเกณฑ์ และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการประกันคุณภาพภายในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยดำเนินการดังต่อไปนี้ การพัฒนาคุณภาพการศึกษา (1) กำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา(2) จัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาที่มุ่งคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา(3) จัดระบบบริหารและสารสนเทศ(4) ดำเนินงานตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา(5) จัดให้มีการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา(6) จัดให้มีการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา(7) จัดทำรายงานประจำปีที่เป็นรายงานประเมินคุณภาพภายใน(8) จัดให้มีการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง การติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา การประเมินคุณภาพภายใน

  6. แนวทางการดำเนินการตามระบบการประกันคุณภาพภายในแนวทางการดำเนินการตามระบบการประกันคุณภาพภายใน การดำเนินการตามวรรคหนึ่ง ให้สถานศึกษายึดหลักการมีส่วนร่วมของชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน โดยการส่งเสริม สนับสนุน และกำกับดูแลของหน่วยงานต้นสังกัด สถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่ไม่สามารถปฏิบัติงานบางประการตามที่กำหนดในวรรคหนึ่งได้ให้หน่วยงานต้นสังกัดหรือสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา แล้วแต่กรณี ประกาศผ่อนผันการปฏิบัติและวางแนวทางในการประกันคุณภาพภายในให้เหมาะสมกับสภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษานั้นแล้วรายงานให้รัฐมนตรีทราบ

  7. แนวทางการปฏิบัติตามระบบการประกันคุณภาพภายในแนวทางการปฏิบัติตามระบบการประกันคุณภาพภายใน ใช้มาตรฐานของต้นสังกัด 18 มฐ. ++ ตบช.ที่จำเป็นให้สอดคล้อง กับ สมศ. ทั้งปฐมวัย/ประถมและมัธยม (1) กำหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา (2) จัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาที่มุ่งคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา 1.แผนพัฒนาคุณภาพ (ยุทธศาสตร์3-5ปี) 2.แผนปฏิบัติการประจำปี 1.ข้อมูลผู้เรียน จำนวน / ผลสัมฤทธิ์ 2.ข้อมูลครู/บุคลากร 3.ข้อมูลทรัพยากรเพื่อการจัดการเรียนรู้ เงิน/แหล่งเรียนรู้/ภูมิปัญญา/สื่อ/อุปกรณ์ (3) จัดระบบบริหารและสารสนเทศ (4) ดำเนินงานตามแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ดำเนินการตามแผนงาน / โครงการ กิจกรรม ตามที่กำหนดไว้ ร่วมกันอย่างจริงจังและอย่างต่อเนื่อง

  8. แนวทางการปฏิบัติตามระบบการประกันคุณภาพภายในแนวทางการปฏิบัติตามระบบการประกันคุณภาพภายใน แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามตรวจสอบ ความก้าวหน้าของการปฏิบัติตามแผนการพัฒนาคุณภาพการศึกษา และให้มีหน้าที่จัดทำรายงานการติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา พร้อมทั้งเสนอแนะมาตรการเร่งรัดการพัฒนาคุณภาพการศึกษา 5.การติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา แต่งตั้งคณะกรรมการประเมินคุณภาพภายใน โดยให้บุคลากรของสถานศึกษานั้นหรือโดยหน่วยงานต้นสังกัดที่มีหน้าที่กำกับดูแลสถานศึกษาเป็นคณะกรรมการประเมิน 6.จัดให้มีการประเมินคุณภาพภายในตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา นำผลการประเมินมาสรุปเป็น SAR รายงานต่อ ต้นสังกัด หน่วยงานที่เกี่ยงข้อง สาธารณชน และใช้ผลประเมินเป็นฐานการพัฒนาในปีต่อไปโดยดำเนินการอย่างต่อเนื่อง (7) จัดทำรายงานประจำปีที่เป็นรายงานประเมินคุณภาพภายใน(8) จัดให้มีการพัฒนาคุณภาพการศึกษาอย่างต่อเนื่อง

  9. (2) จัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาที่มุ่งคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ข้อ 16 การจัดทำ แผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาตามข้อ 14 (2)ให้ดำเนินการดังต่อไปนี้1) ศึกษาสภาพปัญหาและความต้องการที่จำเป็นของสถานศึกษาอย่างเป็นระบบ2) กำหนดวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าหมาย และความสำเร็จของการพัฒนาไว้อย่างชัดเจนและเป็นรูปธรรม3) กำหนดวิธีดำเนินงานที่มีหลักวิชา ผลการวิจัย หรือข้อมูลเชิงประจักษ์ที่อ้างอิงได้ให้ครอบคลุมการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาด้านการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ กระบวนการเรียนรู้การส่งเสริมการเรียนรู้ การวัดและประเมินผล การพัฒนาบุคลากร และการบริหารจัดการ เพื่อนำไปสู่มาตรฐานการศึกษาที่กำหนดไว้

  10. (2) จัดทำแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษาที่มุ่งคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา (ต่อ) 4) กำหนดแหล่งวิทยาการภายนอกที่ให้การสนับสนุนทางวิชาการ5) กำหนดบทบาทหน้าที่ให้บุคลากรของสถานศึกษาและผู้เรียนรับผิดชอบและดำเนินงานตามที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพ6) กำหนดบทบาทหน้าที่และแนวทางการมีส่วนร่วมของบิดา มารดา ผู้ปกครองและองค์กรชุมชน7) กำหนดการใช้งบประมาณและทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ8) จัดทำแผนปฏิบัติการประจำปี

  11. การประเมินภายนอก “การประเมินคุณภาพภายนอก” หมายความว่า การประเมินคุณภาพการจัดการศึกษาการติดตาม และการตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา ซึ่งกระทำโดยสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือผู้ประเมินภายนอก

  12. สมศ.ประเมินภายนอกตามกฎกระทรวงสมศ.ประเมินภายนอกตามกฎกระทรวง กฎกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ.2553 กำหนดให้ สมศ.ประเมินสถานศึกษาแต่ละแห่งตามมาตรฐานชาติและให้ครอบคลุมเรื่องดังนี้ มาตรฐานการศึกษาชาติ มาตรฐานที่ 1 คุณลักษณะของคนไทยที่ พึงประสงค์ ทั้งในฐานะพลเมือง และพลโลก มาตรฐานที่ 2 แนวการจัดการศึกษา มาตรฐานที่ 3 แนวการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้/สังคมแห่งความรู้ มาตรฐานตามกฎกระทรวง 1.มาตรฐานที่ว่าด้วยผลการจัดการศึกษาในแต่ละระดับและประเภทการศึกษา 2.มาตรฐานที่ว่าด้วยการบริหารจัดการ 3.มาตรฐานที่ว่าด้วยการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 4.มาตรฐานที่ว่าด้วยการประกันคุณภาพภายใน

  13. มาตรฐานการศึกษาชาติ (3 มาตรฐาน) มาตรฐานตามกฎกระทรวง 1.มาตรฐานที่ว่าด้วยผลการจัดการศึกษาในแต่ละระดับและประเภทการศึกษา 2.มาตรฐานที่ว่าด้วยการบริหารจัดการ 3.มาตรฐานที่ว่าด้วยการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ 4.มาตรฐานที่ว่าด้วยการประกันคุณภาพภายใน มาตรฐานเพื่อการประกันคุณภาพภายใน หรือมาตรฐานของต้นสังกัด(สพฐ.18 มาตรฐาน ++) ตัวบ่งชี้เพื่อการ ประเมินภายนอกรอบ 3 ( 3 กลุ่ม 12 ตัวบ่งชี้ ) มาตรฐานการศึกษา เพื่อการประเมิน คุณภาพภายนอก สอดคล้อง

  14. การพัฒนาตัวบ่งชี้สำหรับการประเมินรอบ 3 1.กำหนด ตบช.มุ่งผลผลิต ผลลัพธ์ ผลกระทบ2.คำนึงลักษณะประเภทสถานศึกษา3.เน้น ตบช.ทั้งคุณภาพและปริมาณ ทั้งเชิงบวกและลบ4.ตระหนักถึงปัจจัย ข้อจำกัด วัฒนธรรม และความเป็นไทย5.ให้มี ตบช.เท่าที่จำเป็นโดยเพิ่ม ตบช.อัตลักษณ์และมาตรการส่งเสริม6.คำนึงถึงความเชื่อมโยงประกันภายในและการประเมินภายนอก

  15. ตัวบ่งชี้สำหรับการประเมินรอบ 3 1.กลุ่มตัวบ่งชี้พื้นฐาน (8 ตบช.)2. กลุ่มตัวบ่งชี้อัตลักษณ์ (2 ตบช.) 3. กลุ่มตัวบ่งชี้มาตรการส่งเสริม (2 ตบช.)

  16. 1.กลุ่มตัวบ่งชี้พื้นฐาน1.กลุ่มตัวบ่งชี้พื้นฐาน

  17. มาตรฐานที่ 1 ผลการจัดการศึกษา 2.กลุ่มตัวบ่งชี้อัตลักษณ์ 3.กลุ่มตัวบ่งชี้มาตรการส่งเสริม

  18. รูปแบบการประเมินรอบ 3 1.การประเมินเชิงปริมาณ 2. การประเมินเชิงปริมาณและเชิงพัฒนา3. การประเมินเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ4. การประเมินเชิงคุณภาพ 5. การประเมินเชิงคุณภาพและการพิจารณาผลการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น (Better)

  19. 1.การประเมินเชิงปริมาณ1.การประเมินเชิงปริมาณ 1.การประเมินเชิงปริมาณ (น้ำหนัก 4 คะแนน)คิดจากค่าร้อยละของผลสำเร็จ เช่น นักเรียน 100 คน มีน้ำหนัก ส่วนสูง ตามเกณฑ์ 90 คน = 90%นักเรียน 100 คน เป็นผู้ปลอดสิ่งเสพติด 96 คน = 96% เฉลี่ย 93%การคิดคะแนน 93 X น้ำหนัก/100 = (93 X 4)/100 = 3.72 จาก 4.00

  20. 2. การประเมินเชิงพัฒนา 2.การประเมินเชิงพัฒนาการ (ตบช.1.1 น้ำหนัก 1 คะแนน)คิดจากการเปรียบเทียบผลการประเมินรอบ 3 กับ ผลสำเร็จของปีก่อนรับการประเมิน 1-2ปี (ดูข้อมูลจาก SAR หรือข้อมูลสุขภาพ) ต.ย. กรณีที่ 1ประเมินรอบ 3 ค่าเฉลี่ย 93% = ดีมาก แล้วดูผลสำเร็จย้อนหลัง 2 ปี (จาก SAR หรือข้อมูลสุขภาพ)มีค่าเฉลี่ยตั้งแต่ร้อยละ 90 ขึ้นไป (ดีมาก) ถือว่ามีพัฒนาการ ได้ 1 คะแนนรวมคะแนน ตบช. 1.1 นำคะแนนการประเมินเชิงปริมาณ + คะแนนการประเมินเชิงพัฒนา = (3.72+1) = 4.72 จาก 5.00

  21. 2. การประเมินเชิงพัฒนา ต.ย. กรณีที่ 2 หาก ผลประเมินรอบ 3 ค่าเฉลี่ย ต่ำกว่า 90% หรือ ต่ำกว่าดีมาก เช่น ได้ 88 % แล้วดูผลสำเร็จย้อนหลัง 1 ปี ถ้าปีที่ผ่านมาเปรียบเทียบกับผลประเมินรอบ 3 แล้วน้อยกว่า ร้อยละ 15ถือว่าไม่มีพัฒนาการ คะแนน (0.00) หาก สูงกว่าปีที่ผ่านมาตั้งแต่ร้อยละ 15 ถือว่ามีพัฒนาการ ได้ 1.00 คะแนน

  22. 2. การประเมินเชิงพัฒนา 2.การประเมินเชิงพัฒนาการ (น้ำหนัก 0.50 คะแนน)คิดจากการเปรียบเทียบผลการประเมินรอบ 3(เชิงปริมาณ) กับ ผลสำเร็จของปีที่ผ่านมา (ก่อนรับการประเมิน 1 ปี) โดยดูข้อมูลจาก สารสนเทศทางวิชาการ หรือ ป.พ.5 ต.ย. กรณีมาตรฐานที่ 5 มีการพิจารณาแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ ดังนี้

  23. 2. การประเมินเชิงพัฒนา ผล ตบช 5.1 ประกอบด้วย การประเมิน เชิงปริมาณ 2 คะแนน+ เชิงพัฒนาการ 0.50 คะแนน) ภาษาไทย ค่าเฉลี่ยปีประเมินรอบ 3 ได้ 60 %= เชิงปริมาณ 1.20 คะแนน (60X2/100) ภาษาไทย ค่าเฉลี่ยปีก่อนรับการประเมิน ได้ 55 % สรุป ภาษาไทย ค่าเฉลี่ย สูงขึ้นร้อยละ 5 มีการตัดสินดังนี้ รวมคะแนน ภาษาไทย (เชิงปริมาณ 1.20 +เชิงพัฒนา 0.50) = 1.70

  24. 3. การประเมินเชิงคุณภาพ 3.การประเมินเชิงคุณภาพ (น้ำหนัก 3 คะแนน) พิจารณาจากองค์ประกอบที่กำหนด เช่น กำหนดไว้ 3 องค์ประกอบ(ข้อ) ปฏิบัติได้ 1 ข้อ ได้ 1 คะแนน ปฏิบัติได้ 2 ข้อ ได้ 2 คะแนน ปฏิบัติได้ 3 ข้อ ได้ 3 คะแนน(กรณีนี้ไม่มีกติกาที่ให้ปฏิบัติเรียงลำดับของแต่ละข้อ)

  25. 3. การประเมินเชิงคุณภาพ 3.การประเมินเชิงคุณภาพ (น้ำหนัก 2 คะแนน) พิจารณาจากองค์ประกอบที่กำหนด เช่น กำหนดไว้ 9 องค์ประกอบ(ข้อ1-9) ปฏิบัติได้ 1-3 ข้อ ได้ 0 คะแนน ปฏิบัติได้ 4-6 ข้อ ได้ 1 คะแนน ปฏิบัติได้ 7-9 ข้อ ได้ 2 คะแนน(กรณีมีข้อกำหนดไว้ว่า ผู้เรียนส่วนใหญ่ร้อยละ 90 มีคุณลักษณะเป็นผู้เรียนที่ดี ตาม 9 องค์ประกอบ)

  26. 4. การพิจารณาผลการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น (Better) เป็นการดูการเปลี่ยนแปลงของการพัฒนาที่ดีขึ้นจากการแก้ปัญหาผู้เรียน โรงเรียน ชุมชน ท้องถิ่น และ/หรือ การนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงไปจัดการเรียนการสอน/การบริหาร การพัฒนาหลักสูตร การจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน การพัฒนาบุคลากร โดยพิจารณาจากจำนวนโครงการที่สถานศึกษาดำเนินการแล้วมีผลการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น (Better)

  27. เกณฑ์การให้คะแนนการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น (Better) เช่น โรงเรียนจัดทำโครงการเพื่อแก้ปัญหาของผู้เรียน โรงเรียน ชุมชน ท้องถิ่น และ จัดโครงการ กิจกรรมพัฒนาสถานศึกษา จำนวน 20 โครงการ มีผลการประเมินโครงการที่เป็นการพัฒนาหรือการเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นตามวัตถุประสงค์ จำนวน 15 โครงการ คิดเป็น ร้อยละ 75

  28. ผู้บริหารต้องทำอะไร เพื่อเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการประเมินรอบ 3 1.รู้เรา พัฒนาสถานศึกษาตามระบบการประกันคุณภาพภายในของ สพฐ.2.รู้เขา ศึกษาแนวทางการประเมินภายนอกรอบ 33.ผสมผสาน บูรณาการตัวบ่งชี้การประกันภายในและประเมินภายนอกเพื่อการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา

  29. ผู้บริหารต้องทำอะไร เพื่อเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการประเมินรอบ 3 1. เตรียม แผนงาน โครงการ สารสนเทศ การกำกับติดตาม ประเมินผล ให้ครบถ้วนทุกด้าน ตามหลักวิชาการ2. เตรียมเอกสารตามระบบงาน 4 ฝ่าย3. ดำเนินการร่วมกับคณะกรรมการสถานศึกษา/ต้นสังกัด/ชุมชน/ผู้ปกครอง4. ตรวจสอบผลสัมฤทธิ์5. เตรียมครู6. เตรียมใจ

  30. ครูต้องทำอะไร เพื่อเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการประเมินรอบ 3 1. เตรียม แผนการสอน/หลักสูตร/สื่อ/ข้อมูลผู้เรียน2. นำข้อมูลผู้เรียนมาทำสารสนเทศชั้นเรียน/วิชาที่รับผิดชอบ3. ออกแบบการเรียนรู้ให้ให้สมกลุ่ม เก่ง ปานกลาง อ่อน หรือรายบุคคล5. เตรียมห้องเรียน สื่อ แบบประเมิน ผลการประเมิน การใช้ผลประเมิน การซ่อมเสริม6. เตรียมเอกสารทางวิชาการที่พัฒนาขึ้น สื่อ นวัตกรรมการเรียนรู้ที่ใช้แก้ปัญหาชั้นเรียน 1 คน/1วิชาที่รับผิดชอบ7.เตรียมร่างกาย จิตใจ ให้พร้อม

More Related