470 likes | 793 Views
ฟิสิกส์นิวเคลียร์ ( Nuclear Physics ). ศึกษาสมบัติของนิวเคลียส โครงสร้างของนิวเคลียสและผลจากระบวนการต่างๆเกี่ยวกับนิวเคลียส. ค้นพบรังสีจากนิวเคลียสเป็นคนแรก จากการหาว่ามีสารใดดูดกลืนแสงแดดแล้วปล่อยพลังงานเป็น x-ray โดยใช้สารประกอบของยูเรเนียม. การค้นพบกัมมันตภาพรังสี ( radioactivity ).
E N D
ฟิสิกส์นิวเคลียร์(Nuclear Physics) • ศึกษาสมบัติของนิวเคลียส โครงสร้างของนิวเคลียสและผลจากระบวนการต่างๆเกี่ยวกับนิวเคลียส
ค้นพบรังสีจากนิวเคลียสเป็นคนแรก จากการหาว่ามีสารใดดูดกลืนแสงแดดแล้วปล่อยพลังงานเป็น x-ray โดยใช้สารประกอบของยูเรเนียม การค้นพบกัมมันตภาพรังสี(radioactivity) Henri Becquerel กัมมันตภาพรังสี(radioactivity) คือ รังสีที่แผ่ออกมาจากสารกัมมันตรังสี(radioactive element)
Marie Curie พบกัมมันตภาพรังสีจาก โพโลเนียม และเรเดียม รังสีจากสารกัมมันตรังสีเกิดจากการเปลี่ยนแปลงภายในนิวเคลียส นิวเคลียสที่ไม่เสถียร จะสลายตัวจนกว่าจะเสถียร
ค่าเปรียบเทียบรังสีทั้งสามค่าเปรียบเทียบรังสีทั้งสาม • ความสามารถในการทำให้อากาศแตกตัวเป็นอิออน , , • อำนาจการทะลุทะลวง , , • มวล , , • ความเร็ว , , • พลังงาน , ,
โครงสร้างของนิวเคลียสโครงสร้างของนิวเคลียส • สมมติฐานโปรตอน-อิเล็กตรอน • นิวเคลียสประกอบด้วยโปรตอนและอิเล็กตรอนโดยมีจำนวนโปรตอนเป็นสองเท่าของอิเล็กตรอน • รัทเทอร์ฟอร์ดเสนอว่ามีอนุภาคที่เป็นกลางทางไฟฟ้าในนิวเคลียสให้ชื่อว่านิวตรอน(neutron)ซึ่งเป็นการยึดกันของโปรตอนและอิเล็กตรอนอย่างแนบแน่น • จากหลักความไม่แน่นอน อิเล็กตรอนอยู่ในนิวเคลียสไม่ได้เพราะ อิเล็กตรอนจะมีความเร็วมากกว่าแสง
การค้นพบนิวตรอน James Chadwick รังสีที่ได้ + รังสีที่ได้ชนโปรตอนในพาราฟินหลุดออกด้วยพลังงานประมาณ 5 MeV ตอนแรกคิดว่ารังสีที่ได้เป็นรังสีแกมมา แต่จากการคำนวณถ้าเป็นรังสีแกมมา จะต้องมีพลังงานถึง 55 MeVพลังงานระดับนี้จะทำให้อากาศแตกตัวเป็นอิออน คิดการชนแบบยืดหยุ่นอนุภาคใหม่นี้มีมวลใกล้เคียงโปรตอนมาก และเป็นกลาง
นิวตรอนไม่ใช่เป็นการยึดกันของโปรตอนและอิเล็กตรอนเพราะนิวตรอนไม่ใช่เป็นการยึดกันของโปรตอนและอิเล็กตรอนเพราะ • นิวตรอน โปรตอนและอิเล็กตรอนต่างมีสปินแม่เหล็กเท่ากับ ½ ถ้านิวตรอนเป็นการยึดกันของโปรตอนและอิเล็กตรอน นิวตรอนมีสปินแม่เหล็กเท่ากับ 0 หรือ 1 (จากการที่สปินหันตรงกันข้ามหรือหันทางเดียวกัน) จะเป็น ½ ไม่ได้ อีกทั้งนิวตรอนและโปรตอนมีโครงสร้างต่างกัน uud udd
โครงสร้างโปรตอนและนิวตรอนโครงสร้างโปรตอนและนิวตรอน
การสลายกัมมันตรังสี เป็นไปตามสถิติหรือโอกาสตามธรรมชาติ คือ อัตราการสลายตัว Nคือ จำนวนนิวเคลียสที่เหลืออยู่ N0 คือ จำนวนนิวเคลียสตั้งต้น เครื่องหมายลบ แสดงถึงการลดลง ค่าคงตัวในการสลายตัว
สมการการสลายกัมมันตรังสีสมการการสลายกัมมันตรังสี เวลาที่สารกัมมันตรังสีใช้ในการสลายตัวจนเหลือครึ่งหนึ่งของเดิม เมื่อตั้งต้นเรียกว่า เวลาครึ่งชีวิต(half – life), T1/2 หรือ
จาก เมื่อ ดังนั้น A0เป็นกัมมันตภาพขณะเริ่มต้น A เป็นกัมมันตภาพที่เวลา tใดๆ กัมมันตภาพมีหน่วยเป็นคูรี(Ci) 1 คูรี(Ci) =3.7 1010 เบคเคอเรล(นิวเคลียสต่อวินาที),Bq
ตัวอย่าง สารกัมมันตรังสีชิ้นหนึ่งมี อะตอม 1018 อะตอม มีเวลา ครึ่งชีวิต 2 วัน เมื่อเวลาผ่านไป 5 วัน จงหา ก. จำนวนอะตอมที่เหลือ ข. กัมมันตภาพของสาร
แรงนิวเคลียร์(Nuclear Force) Mesons: Protons and neutrons are held together in the nucleus by the "strong" nuclear force, which involves the exchange of short-lived particles called mesons. There is also a "weak" nuclear force responsible for radioactive decay.
แรงนิวเคลียร์คือแรงลักษณะใดแรงนิวเคลียร์คือแรงลักษณะใด เป็นแรงที่ดึงดูดนิวคลีออนในนิวเคลียสไว้ด้วยกันมีค่ามากกว่าแรงคูลอมบ์ไม่น้อยกว่า 100 เท่า เกิดจากการแลกเปลี่ยนอนุภาคไพ-มีซอน(มีมวลประมาณ 273 เท่าอิเล็กตรอน)ระหว่างนิวคลีออนที่อยู่ใกล้ๆกัน
หลักสำคัญของแรงนิวเคลียร์หลักสำคัญของแรงนิวเคลียร์ • เกิดจากการแลกเปลี่ยนอนุภาคไพ-มีซอน(นิวคลีออนอยู่ห่างกันไม่เกิน 9 10- 15 เมตร)ในระยะทางสั้นๆ10- 15 เมตร(1 เฟอร์มี)หรือน้อยกว่า • ไม่ขึ้นกับประจุไฟฟ้า • เป็นแรงกระทำระหว่างนิวคลีออนและ เป็นอันตรกิริยาแบบ แรง 4 นิวคลีออนตัวหนึ่งๆจะมีแรงกระทำกับตัวที่อยู่ติดกันเท่านั้น ไม่มีแรงกระทำกับนิวคลีออนตัวที่อยู่ถัดไป
ขนาดของนิวเคลียส • การใช้อนุภาคแอลฟาในการทดลอง ของรัทเทอร์ฟอร์ดไม่สามารถหา ขนาดของนิวเคลียสที่แท้จริงได้ เพราะอนุภาคแอลฟาไม่สามารถฝ่ากำแพงคูลอมบ์(coulomb barrier)เข้าไปถึงนิวเคลียสได้ จึงต้องใช้อนุภาคอิเล็กตรอนพลังงานสูงหรือนิวตรอนเพื่อฝ่าแรงไฟฟ้าเข้าไปปะทะกับนิวเคลียสได้
ปริมาตรนิวเคลียสเป็นสัดส่วนโดยตรงกับจำนวน นิวคลีออน(เลขมวล)ที่มีอยู่ในนิวเคลียสนั้นๆ R0 = 1.2 10 -15 เมตร
จงหารัศมีของนิวเคลียสของอะลูมิจงหารัศมีของนิวเคลียสของอะลูมิ เนียม-27 และทองคำ-197 (3.6 และ 7.0 เฟมโตเมตร)
พลังงานยึดเหนี่ยว(binding energy) เป็นพลังงานที่ยึดเหนี่ยวอนุภาคภายในนิวเคลียสให้อยู่รวมกันได้
การหาค่าพลังงานยึดเหนี่ยวการหาค่าพลังงานยึดเหนี่ยว ออกซิเจนมีมวล 15.994915 u ออกซิเจนประกอบด้วยนิวตรอนและโปรตอนอย่างละ 8 ตัว ออกซิเจนมีมวลน้อยกว่าผลบวกของนิวตรอนและโปรตอนเท่ากับ 0.1371055 u คิดเป็นพลังงานยึดเหนี่ยว 127.6 MeV พลังงานยึดเหนี่ยวต่อนิวคลีออน 7.98 MeV/ นิวคลีออน • มวลของนิวเคลียสโดยทั่วไปน้อยกว่าผลบวกของมวลของอนุภาคที่ประกอบขึ้นเป็นนิวเคลียสในสภาวะอิสระ เช่น
พลังงานยึดเหนี่ยวต่อนิวคลีออนพลังงานยึดเหนี่ยวต่อนิวคลีออน ค่าพลังงานยึดเหนี่ยวต่อนิวคลีออนสูงสุดประมาณ 8.75 MeV
ตัวอย่าง จงหาค่าพลังงานยึดเหนี่ยวของ ไนโตรเจน(N - 14) N – 14 มีมวล = 14.003074 u
หลักสำคัญปฏิกิริยานิวเคลียร์หลักสำคัญปฏิกิริยานิวเคลียร์ 1 ผลรวมของประจุไฟฟ้าและเลขมวลก่อนเกิดปฏิกิริยาและหลังปฏิกิริยาจะต้องเท่ากัน 2 กฎอนุรักษ์โมเมนตัมเชิงเส้นและโมเมนตัมเชิงมุม 3 หลักการสมมูลของมวลและพลังงาน ตามทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ มวลสารและพลังงานทั้งหมดของระบบต้องคงตัว
ปฏิกิริยานิวเคลียร์(NUCLEAR REACTION)
ปฏิกิริยานิวเคลียร์(NUCLEAR REACTION) • เมื่อนิวเคลียส สองตัวเคลื่อนที่ฝ่าแรงคูลอมบ์เข้ามาใกล้กันภายในระยะของแรงนิวเคลียร์ อาจทำให้เกิดการจัดระเบียบการเรียงตัวของนิวคลีออนภายในนิวเคลียสขึ้นใหม่ ผลที่ได้อาจกลายเป็นหนึ่งนิวเคลียสใหม่หรือมากกว่าก็ได้ เขียนปฏิกิริยานิวเคลียร์ได้เป็น X + a →Y + b หรือ X ( a ,b )Y ****** X = นิวเคลียสที่เป็นเป้า a = อนุภาคที่ชนเป้า Y= นิวเคลียสธาตุใหม่ที่เกิดขึ้นหลังการชน b = อนุภาคที่เกิดขึ้นหลังการชน
รัทเทอร์ฟอร์ดเป็นคนแรกที่พบปฏิกิริยานิวเคลียร์ โดยใช้อนุภาคแอลฟา 7.68 MeVยิงนิวเคลียสไนโตรเจน แล้วได้กาซออกซิเจนกับโปรตอน • ปฏิกิริยานิวเคลียร์เกิดจากการยิงนิวเคลียสด้วยอนุภาคของนิวเคลียสเบาเช่น นิวตรอน โปรตอน ดิวเทอรอน ไม่ใช้นิวเคลียสของธาตุหนัก หรืออาจใช้โฟตอนหรือแกมมาก็ได้
หลักสำคัญปฏิกิริยานิวเคลียร์หลักสำคัญปฏิกิริยานิวเคลียร์ • 1 ผลรวมของประจุไฟฟ้าและเลขมวลก่อนเกิดปฏิกิริยาและหลังปฏิกิริยาจะต้องเท่ากัน • 2 กฎอนุรักษ์โมเมนตัมเชิงเส้นและโมเมนตัมเชิงมุม • 3 หลักการสมมูลของมวลและพลังงาน ตามทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ มวลสารและพลังงานทั้งหมดของระบบต้องคงตัว
กระบวนการแบ่งแยกนิวเคลียสกระบวนการแบ่งแยกนิวเคลียส
นิวเคลียสธาตุหนักถูกทำให้แบ่งตัวนิวเคลียสธาตุหนักถูกทำให้แบ่งตัว
กระบวนการแบ่งแยกนิวเคลียสอธิบายได้ด้วยแบบจำลองกระบวนการแบ่งแยกนิวเคลียสอธิบายได้ด้วยแบบจำลอง หยดของเหลว นั่นคือ • เมื่อยิงนิวตรอนเข้าไปในนิวเคลียสธาตุหนัก นิวเคลียสนั้นจะดูดกลืนนิวตรอนไว้ทำให้เกิดการสั่นขึ้นภายในและทำให้สูญเสียสภาพที่เป็นทรงกลม แรงนิวเคลียร์ซึ่งเป็นแรงระยะสั้นจะเสียประสิทธิภาพในการยึดเหนี่ยว เนื่องจากนิวเคลียสมีพื้นที่ผิวมากขึ้น เมื่อเวลาผ่านไปแรงดึงดูดอ่อนแรงลง แรงผลักทางไฟฟ้าจะมีค่ามากกว่า นิวเคลียสก็จะเสียรูปทรงมากขึ้นๆ จนในที่สุดนิวเคลียสแตกเป็น 2 เสี่ยง
ขั้นตอนกระบวนการแบ่งแยกนิวเคลียสขั้นตอนกระบวนการแบ่งแยกนิวเคลียส • 1 นิวเคลียสธาตุหนักจับนิวตรอน • 2 ผลของการจับนิวตรอนนิวเคลียสธาตุหนักอยู่ในสถานะกระตุ้น มีการสั่นอย่างรุนแรง • 3 แรงผลักระหว่างโปรตอนจะทำให้เกิดการบิดเบี้ยวยิ่งขึ้น • 4 นิวเคลียสแตกออกเป็นสองส่วน โดยมีนิวตรอนจำนวนหนึ่ง 2-3 ตัว และพลังงาน
กระบวนการแบ่งแยกนิวเคลียสจะมีนิวตรอนจำนวนหนึ่ง 2-3 ตัวในแต่ละปฏิกิริยา ซึ่งนิวตรอนใหม่นี้อาจวิ่งชนนิวเคลียสของยูเรเนียมต่อไป ทำให้เกิดปฏิกิริยาต่อเนื่อง ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นเรียกว่าปฏิกิริยาลูกโซ่(chain reaction) ปฏิกิริยานี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาน้อยกว่า 10-6 วินาที จึงให้ค่าพลังงานมหาศาล
กระบวนการหลอมนิวเคลียสกระบวนการหลอมนิวเคลียส
Hans Betheอธิบายว่าการเกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์แบบหลอมนิวเคลียสเกิดจากการหลอมตัวของนิวเคลียสเบาสองนิวเคลียสแล้วกลายเป็นนิวเคลียสหนักหนึ่งนิวเคลียส และปล่อยพลังงานมหาศาลออกมา • กระบวนการหลอมนิวเคลียสเกิดขึ้นที่อุณหภูมิประมาณ 10 ล้านเคลวิน ภายใต้ความดันสูง
1 วัฏจักรโปรตอน-โปรตอน(proton – proton cycle)
ขั้นตอนของวัฏจักรโปรตอน-โปรตอนขั้นตอนของวัฏจักรโปรตอน-โปรตอน • นิวเคลียสของไฮโดรเจน 4 ตัว รวมกันได้อนุภาคแอลฟา 1 ตัว โปรตอน 2 ตัว และโพซิตรอนอีก 2 ตัว พร้อมกับให้พลังงานประมาณ 25 MeV หรือ
พลังงานที่ได้จากกระบวนการหลอมนิวเคลียสมีชื่อเรียกอีกอย่างว่า พลังงานเทอร์โมนิวเคลียร์ • กระบวนการหลอมนิวเคลียสให้พลังงานมากกว่ากระบวนการแบ่งแยกนิวเคลียสเมื่อเทียบต่อนิวคลีออนประมาณ 10 เท่า • นอกจากวัฏจักรโปรตอน-โปรตอน(proton – proton cycle)แล้วยังมีวัฏจักรคาร์บอนที่เกิดขึ้นบนดาวที่มีอุณหภูมิสูงกว่าดวงอาทิตย์ โดยมีกระบวนการดังนี้