2.65k likes | 3.24k Views
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการวิจัย (Introduction of Research). เนื้อหาการบรรยาย. ความหมายของการวิจัย การวิจัยพื้นฐานและการวิจัยประยุกต์ ความสำคัญและประโยชน์ของการวิจัย ลักษณะของการวิจัยทางเศรษฐศาสตร์ วิธีศึกษาทางเศรษฐศาสตร์ ขอบเขตการวิจัยทางเศรษฐศาสตร์ตัวอย่างงานวิจัยทางเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ.
E N D
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการวิจัยความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการวิจัย (Introduction of Research)
เนื้อหาการบรรยาย ความหมายของการวิจัย การวิจัยพื้นฐานและการวิจัยประยุกต์ ความสำคัญและประโยชน์ของการวิจัย ลักษณะของการวิจัยทางเศรษฐศาสตร์ วิธีศึกษาทางเศรษฐศาสตร์ ขอบเขตการวิจัยทางเศรษฐศาสตร์ตัวอย่างงานวิจัยทางเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ
ความหมายของการวิจัย การค้นคว้าเพื่อหาข้อมูลอย่างถี่ถ้วนตามหลักวิชาการ หรือตรงกับ คำในภาษาอังกฤษ คือ “Research” (พจนานุกรมฯ ๒๕๔๒) การค้นคว้าหาความรู้ในศาสตร์ใดศาสตร์หนึ่ง โดยมีวัตถุประสงค์ ชัดเจน และการศึกษาค้นคว้าจะต้องทำอย่างมีระบบแบบแผนทาง วิทยาศาสตร์
Research is an Organized and Systematicway to Finding answers to Questions.
สรุปความหมายของ “วิจัย” - การศึกษาค้นคว้าหาความรู้ใหม่ (Finding answer to questions) - มีวัตถุประสงค์การค้นคว้าที่แน่ชัด (Focused and limited to a specific scope) - ดำเนินการศึกษาค้นคว้าอย่างเป็นระบบ (Systematic procedures)
การแบ่งประเภทของการวิจัยการแบ่งประเภทของการวิจัย หลักในการจำแนกประเภท - มีกลุ่มครบถ้วน (Mutually exhaustive) - แยกออกจากกันโดยชัดเจน (Mutually exclusive) - มีความหมายที่ชัดเจนและมีจำนวนมากพอ ประเภทของการวิจัย : จำแนกตามวิธีการวิจัย 1.) การวิจัยพื้นฐาน (Basic research) 2.) การวิจัยประยุกต์ (Applied research)
ลักษณะของการของการวิจัยพื้นฐานลักษณะของการของการวิจัยพื้นฐาน 1.) จุดมุ่งหมายหลัก - เป็นการค้นหาคำตอบว่า “อะไร” หรือ “ทำไม” - เพื่อค้นหาและเพิ่มพูนความรู้ทางทฤษฎี หรือค้นหาความรู้ ทางทฤษฎี(Theoretical research) - ผลการวิจัยอาจนำไปใช้หรือไม่ได้นำไปใช้ในการแก้ปัญหา อาจเรียกการวิจัยชนิดนี้ว่า การวิจัยบริสุทธิ์ (Pure research) - เพื่ออธิบายข้อเท็จจริงของปรากฏการณ์ใหม่ ๆ ทางเศรษฐกิจ
ลักษณะของการของการวิจัยพื้นฐาน (ต่อ) 2.) วิธีการศึกษาวิเคราะห์ - อาศัยความรู้จากหลักวิชาหรือทฤษฎีของศาสตร์นั้น ๆ - มีการทดสอบหรือพิสูจน์โดยอาศัยปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ก่อนที่จะยอมรับ จึงมีชื่อเรียกว่า การวิจัยเชิงประจักษ์ (Empirical research) - เครื่องมือวิเคราะห์ที่นิยมใช้ในทางเศรษฐศาสตร์เป็นเครื่องมือ ทางสถิติ เช่น ค่า mean , correlation, econometric 3.) ผลการวิจัย - เกิดเป็นทฤษฎีใหม่ หรือการเพิ่มเติมเกี่ยวกับทฤษฎี - เศรษฐศาสตร์ที่ว่าด้วยหลักความจริง (Positive economics)
ลักษณะของการของการวิจัยประยุกต์ลักษณะของการของการวิจัยประยุกต์ 1.) จุดมุ่งหมายหลัก - ค้นหาคำตอบ “อย่างไร, เมื่อไร, ที่ไหน, เพื่อใคร , โดยใคร” - เพื่อนำผลการวิจัยที่ได้ไปใช้แก้ปัญหา/ตัดสินใจ - อาจเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า หรือเหตุการณ์ปัจจุบัน โดยมีการเรียนรู้และทำวิจัยควบคู่กันไปด้วย หรือที่เรียกว่า การวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action research)
ลักษณะของการของการวิจัยประยุกต์ (ต่อ) 2.) วิธีการศึกษาวิเคราะห์ - มุ่งหาหลักการหรือวิธีการที่เหมาะสมที่สุดภายใต้เงื่อนไขหรือ ข้อจำกัดที่มีอยู่ - อาศัยทฤษฎีและหลักการต่าง ๆ ผสมผสานกับค่านิยมของสังคม เพื่อใช้เป็นหลักในการวิเคราะห์ 3.) ผลการวิจัย - ได้แนวทางการแก้ปัญหา/แนวนโยบายที่เหมาะสม - เศรษฐศาสตร์ว่าด้วยการกำหนดนโยบาย(Normative economics)
ความสำคัญและประโยชน์ของการวิจัยความสำคัญและประโยชน์ของการวิจัย ต้องการปรับปรุงความเป็นอยู่ของตนเอง/สังคมให้ดีขึ้น - ความต้องการที่ไม่หยุดนิ่งและไม่สมดุลกับทรัพยากรที่มีอยู่ - ความรู้ใหม่แก้ปัญหาให้กับคนหนึ่งแต่กระทบคนกลุ่มอื่น ประโยชน์ของการวิจัย - เกิดวิชาความรู้ใหม่ - เข้าใจปัญหาและช่วยแก้ปัญหา - ช่วยในการกำหนดนโยบาย และวางแผน - ช่วยในการตัดสินใจของผู้บริหาร - ทราบถึงข้อบกพร่องของการดำเนินการ
ลักษณะของการวิจัยทางเศรษฐศาสตร์ลักษณะของการวิจัยทางเศรษฐศาสตร์ เศรษฐศาสตร์เป็นสังคมศาสตร์ - มีความซับซ้อนและข้อจำกัดในการควบคุมสิ่งแวดล้อม - อาศัยวิธีการศึกษาทางวิทยาศาสตร์ (เท่านั้น) ลักษณะสำคัญ 2 ประการคือ 1.) มีการกำหนดเงื่อนไขหรือข้อสมมติ (Ceteris paribus) 2.) ศึกษาจากตัวแทนของประชากร หรือกลุ่มตัวอย่าง
วิธีวิจัยทางเศรษฐศาสตร์วิธีวิจัยทางเศรษฐศาสตร์ 1.) วิธีการอนุมาน (Deductive method) - การหาความรู้โดยวิธีการนำเอาความจริงหรือทฤษฎีที่มีอยู่ มาอธิบายหรือวิเคราะห์ เพื่อหาความรู้เฉพาะเรื่อง ตั้งสมมติฐาน การทดสอบสมมติฐาน 2.) วิธีการอุปมาน (Inductive method) - ความจริงเฉพาะเรื่องไปอธิบายส่วนใหญ่ เป็นการหาความรู้ โดยมุ่งสังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นจริง เพื่อนำมาสร้างเป็นข้อสรุปทั่วไป รวบรวมข้อเท็จจริง การทดสอบความถูกต้อง
ขอบเขตของของการวิจัยทางเศรษฐศาสตร์ขอบเขตของของการวิจัยทางเศรษฐศาสตร์ เป็นศาสตร์ว่าด้วยการจัดสรร - การศึกษาเกี่ยวกับการจัดสรรทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด เป็นศาสตร์ว่าด้วยพฤติกรรม - การศึกษาอธิบายพฤติกรรมของมนุษย์หรือองค์กรทางเศรษฐกิจ เป็นศาสตร์ว่าด้วยกำหนดนโยบาย - การศึกษาแนวทางในการกำหนดนโยบายและวางแผน
จรรยาบรรณของนักวิจัย • มีความซื่อสัตย์และมีคุณธรรมในทางวิชาการและการจัดการ • ต้องตระหนักถึงพันธะกรณีในการทำวิจัยตามข้อตกลง • มีพื้นฐานความรู้ในสาขาวิชาการที่ทำวิจัย • ความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ศึกษาวิจัย • เคารพศักดิ์ศรี และสิทธิของมนุษย์ที่ใช้เป็นตัวอย่างในการวิจัย • อิสระทางความคิด ปราศจากอคติในทุกขั้นตอนของการทำวิจัย • พึงนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ในทางที่ชอบ • เคารพความคิดเห็นทางวิชาการของผู้อื่น • ความรับผิดชอบต่อสังคมทุกระดับ
กระบวนการและขั้นตอนการวิจัยกระบวนการและขั้นตอนการวิจัย
เนื้อหาการบรรยาย ขั้นตอนการวิจัย กระบวนการวิจัย การดำเนินการวิจัย การเลือกหัวเรื่องวิจัย การตั้งสมมติฐาน การสำรวจเอกสารงานวิจัย การกำหนดนิยามตัวแปร การกำหนดประเด็นปัญหา การเก็บข้อมูล การกำหนดขอบข่ายทฤษฎี การวิเคราะห์และตีความ การกำหนดแบบจำลอง การนำเสนอรายงานการวิจัย
ขั้นตอนในการวิจัย แบ่งออกได้เป็น ๔ ขั้นตอนสำคัญ (เทียนฉาย กีระนันท์,๒๕๔๔:๒๔) ขั้นที่ ๔. ขั้นที่ ๓. การเสนอผลการวิจัย ขั้นที่ ๒. การลงมือดำเนินการวิจัย ขั้นที่ ๑. การออกแบบ วิจัย การเตรียม การวิจัย
ขั้นตอนในการวิจัย ขั้นที่ ๑. การเตรียมการวิจัย • การพิจารณาเลือกและกำหนดปัญหาที่จะทำวิจัย • การเลือกหัวเรื่องและการตั้งชื่อเรื่อง
ขั้นที่ ๒. การออกแบบวิจัย • ศึกษาค้นคว้าจากทฤษฎี แนวคิด งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง • กำหนดรูปแบบหรือแนวทางการวิจัยให้เหมาะสมกับปัญหาที่จะศึกษา • การกำหนดกรอบแนวคิด (Conceptual Framework)หรือแบบจำลองของเรื่องที่จะศึกษา • การกำหนดสมมติฐานการวิจัย • วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูล • วิธีการวิเคราะห์ข้อมูล ตลอดจนการเลือกใช้เครื่องมือทางสถิติ
ขั้นที่ ๓. การลงมือดำเนินการวิจัย • ดำเนินการตามแผน(แบบการวิจัย)ที่วางไว้ ขั้นที่ ๔. การเสนอผลการวิจัย • การรวบรวมข้อค้นพบสำคัญที่ได้จากการลงมือดำเนินการวิจัย ตลอดจนการเตรียมการและการออกแบบการวิจัย • พิจารณารูปแบบการนำเสนอที่เหมาะสม • ต้องสื่อให้ผู้อื่นเข้าใจในสิ่งที่ผู้วิจัยได้ดำเนินการไปและสิ่งที่ค้นพบ
กระบวนการการวิจัย “ กระบวนการการวิจัย หมายถึง กิจกรรมและวิธีการดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งคำตอบหรือความรู้ใหม่ ๆ อย่างมีขั้นตอนซึ่งมีความต่อเนื่องและสัมพันธ์กัน”
กำหนดหัวข้อ ทบทวน วรรณกรรม ตีพิมพ์ รายงาน กำหนดประเด็น สร้างกรอบ แนวคิด เผยแพร่ การวิจัย ปรับปรุง รายงาน ออกแบบ การวิจัย ร่างรายงาน สมมติฐาน วิเคราะห์ ข้อมูล สุ่มตัวอย่าง สร้าง+ทดสอบวิธีการเก็บรวบ รวมข้อมูล จัดระเบียบหัวข้อ กำหนประชากรเป้าหมาย กำหนดแนวทาง และวิธีการเก็บ รวบรวมข้อมูล ความสัมพันธ์ระหว่างขั้นตอนต่าง ๆ ของการวิจัย, (สุชาติ ประสิทธิ์รัฐสินธุ์, 2546)
ขั้นตอนการค้นหา(Search) - การทำความเข้าใจกับปรากฏการณ์ - การทบทวนเอกสารที่เกี่ยวข้องกับปรากฏการณ์ที่สังเกต - การสำรวจระบบของปรากฏการณ์
การดำเนินการวิจัย (Research) การเลือกหัว ข้อวิจัย การสำรวจเอกสาร การกำหนดประเด็นปัญหา การตั้ง สมมติฐาน การกำหนดแบบจำลอง กำหนดขอบข่ายของทฤษฎี เก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์และตีความ นำเสนอรายงานการวิจัย กำหนดนิยามตัวแปร
การเลือกหัวข้อวิจัย (Topic Selection) - จุดเริ่มต้นของการวิจัย : กำหนดหัวข้อไว้กว้าง ๆ - กำหนดชื่อเรื่อง : ลักษณะแคบกว่าหัวข้อ/สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ - ชื่อเรื่องสามารถเปลี่ยนแปลงได้ (เมื่อได้ประเด็นที่ชัดเจน)
การสำรวจเอกสาร (Literature Survey) - ช่วยให้ทำงานไม่ซ้ำซ้อนกับผู้อื่น - เข้าใจสภาวะเบื้องต้นของเรื่องที่ศึกษา - กำหนดขอบข่ายของแบบจำลอง และตัวแปรที่จะศึกษา
การกำหนดประเด็นปัญหา (Formulating Researchable Problem) - กำหนดคำถามให้ชัดเจน : อาจมีได้มากกว่า 1 ประเด็น - ประเด็นปัญหาจะบอกถึงวัตถุประสงค์ที่ต้องการจะศึกษา - สามารถทำไปพร้อมกับขั้นตอนที่ 1.) และ 2.)
การกำหนดขอบข่ายของทฤษฎี (Theoretical Framework) - หาขอบข่ายของแนวคิด/ทฤษฎี ที่ประกอบด้วยเหตุและผล - กรอบในการค้นหาแนวคำตอบ - เข้าใจในระบบโครงสร้างและพฤติกรรมของเรื่องที่ศึกษา
การกำหนดแบบจำลอง (Economic Model) - เข้าใจปรากฏการณ์จริงดีขึ้น : มีปัจจัยต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องมากมาย - เป็นการเลียนแบบและสะท้อนให้เห็นภาพของปรากฏการณ์ - อาศัยแนวคิด/ทฤษฎีอย่างมีเหตุผล
การตั้งสมมติฐาน (Formulating Hypothesis) - สมมติฐาน : กำหนดแนวคำตอบไว้ล่วงหน้า - กำหนดทิศทางของการวิจัย
การกำหนดนิยามตัวแปร - กำหนดคำจำกัดความตัวแปรที่ศึกษาให้ชัดเจน - ตัวแปรที่ต้องการวัด มาตรการวัด วิธีการวัด - สอดคล้องกับแบบจำลอง
การเก็บข้อมูล (Data Collection) - เกี่ยวข้องกับตัวแปรที่กำหนดไว้ - แหล่งของข้อมูลที่ใช้ ตลอดจนวิธีการเก็บข้อมูล
การวิเคราะห์และตีความ - กำหนดวิธีการวิเคราะห์ข้อมูลให้ชัดเจน - เลือกใช้เครื่องมือให้เหมาะสมกับข้อมูลและวัตถุประสงค์การวิจัย - มีการตรวจสอบข้อมูล แจกแจงข้อมูล การคำนวณ
การนำเสนอรายงานการวิจัยการนำเสนอรายงานการวิจัย - ขั้นตอนสุดท้ายของการวิจัย - นำเสนอสิ่งที่ค้นพบ (Finding)
การสังเกตปรากฏการณ์ และการเลือกหัวข้อ กรอบทฤษฎี ข้อสมมติฐาน การวิจัย การกำหนดประเด็นปัญหา+วัตถุประสงค์ การทบทวนเอกสารและ การรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น แบบจำลองแนวคิด การวัดการทดสอบ ตัวแปร แบบจำลองแนวคิด ที่มีเหตุผลและตัวแปร • การวิเคราะห์ • การประมวลผลข้อมูล • การทดสอบ • - การตีความ การเสนอผลการวิจัย การเก็บข้อมูล หลักฐาน กระบวนการวิจัย(ประดิษฐ์ ชาสมบัติ, 2540)
การกำหนดหัวข้อและ ประเด็นปัญหาการวิจัย
เนื้อหาการบรรยาย การกำหนดหัวเรื่องและประเด็นปัญหา ที่มาของหัวเรื่องการวิจัย ที่มาของหัวเรื่องการวิจัย หลักในการกำหนดหัวเรื่อง การพิจารณาเลือกหัวข้อวิจัย การกำหนดประเด็นปัญหา หลักเกณฑ์ในการกำหนดประเด็นปัญหา แนวทางการกำหนดประเด็นปัญหา การตั้งชื่อเรื่องงานวิจัย วัตถุประสงค์การวิจัย
การกำหนดหัวข้อเรื่องและประเด็นปัญหาการวิจัยการกำหนดหัวข้อเรื่องและประเด็นปัญหาการวิจัย จุดเริ่มต้นของการวิจัย : เป็นการกำหนดทิศทางและขอบเขตของเรื่อง ที่จะทำการศึกษาวิจัย สัมพันธ์กับกิจกรรมอื่น ๆ ของการวิจัย สมมติฐาน วัตถุประสงค์ ค้นคว้าหาหลักฐาน การทดสอบ สรุปผล ประเด็นปัญหา ข้อสงสัย/คำถาม คำตอบ
ที่มาของหัวข้อเรื่องการวิจัยที่มาของหัวข้อเรื่องการวิจัย ๑. ผู้ที่จะทำวิจัย - ความสนใจของผู้วิจัยเอง ๒.วรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง- เช่น วารสารเศรษฐศาสตร์, วารสารธนาคาร ๓. ผู้นำทางวิชาการ- นักวิชาการในสาขาต่าง ๆ ๔. แหล่งทุนอุดหนุนการวิจัย- เช่น สภาวิจัยแห่งชาติ ๕. ข่าวในสื่อมวลชน- เรื่องที่อยู่ในความสนใจ/ ความทันเหตุการณ์ ๖. หน่วยงานที่ทำงาน- หน่วยงานที่ผู้วิจัยทำงานอยู่
หลักในการกำหนดหัวข้อเรื่องหลักในการกำหนดหัวข้อเรื่อง ๑. เป็นเรื่องที่อยู่ในความสนใจของประชาชน ๒. เป็นเรื่องที่ไม่กว้าง หรือแคบเกินไป ๓. เป็นเรื่องที่อยู่บนพื้นฐานของความจริง ๔. เป็นเรื่องที่บ่งถึงสภาวะที่เป็นปัญหา
การพิจารณาเลือกหัวข้อวิจัยการพิจารณาเลือกหัวข้อวิจัย • ด้านตัวผู้วิจัย • ผู้วิจัยมีความสนใจ ใคร่รู้อย่างแท้จริง • เป็นเรื่องคุ้มค่าการลงทุน • เป็นเรื่องที่ผู้วิจัยสามารถทำได้
ด้านปัญหาที่จะทำวิจัยด้านปัญหาที่จะทำวิจัย • เป็นเรื่องใหม่ไม่ซ้ำกับเรื่องเดิมที่มีผู้ทำวิจัยมาก่อน • เป็นเรื่องที่มีความเหมาะสมกับงานวิจัย • สามารถหาคำตอบได้และมีข้อยุติ • เป็นเรื่องที่มีคุณค่าสามารถนำผลการวิจัยใช้ให้เกิดประโยชน์ แก่องค์กร
ด้านปัจจัยสนับสนุนการวิจัยด้านปัจจัยสนับสนุนการวิจัย • เป็นเรื่องที่มีแหล่งสำหรับค้นคว้าเรื่องที่เกี่ยวข้องอย่างพียงพอ • เป็นเรื่องที่มีผู้สนับสนุนด้านวิชาการ • เป็นเรื่องที่มีวัสดุอุปกรณ์ ห้องปฏิบัติการ สิ่งอำนวยความสะดวกเพียงพอ
ข้อบกพร่องในการเลือกหัวข้อวิจัยข้อบกพร่องในการเลือกหัวข้อวิจัย • เลือกปัญหาการวิจัยตามผู้อื่น • เลือกปัญหาใหญ่กว้างเกินกำลัง • เลือกปัญหาอย่างรีบร้อน
การกำหนดประเด็นปัญหา: ทำไมต้องกำหนดประเด็นปัญหา? ๑. เป็นแนวทางในการวิจัย ๒. ช่วยในการวางแผนการวิจัย ๓. ช่วยในการออกแบบสอบถามและเก็บข้อมูล ๔. ช่วยในการกำหนดสมมติฐาน ๕. ช่วยให้ผู้วิจัยพบว่าจะทำการวิจัยได้หรือไม่
หลักเกณฑ์ในการกำหนดประเด็นปัญหาการวิจัยหลักเกณฑ์ในการกำหนดประเด็นปัญหาการวิจัย ๑. เป็นปัญหาที่ชัดเจน ๒. เป็นปัญหาที่แสดงถึงความสัมพันธ์ของตัวแปร ๓. เป็นปัญหาที่จะให้คำตอบที่มีความหมาย ๔. เป็นปัญหาที่จะให้คำตอบซึ่งทดสอบได้
แนวทางกำหนดประเด็นปัญหาแนวทางกำหนดประเด็นปัญหา ๑. อาศัยปรากฏการณ์หรือประสบการณ์ ๒. อาศัยทฤษฎีและหลักเกณฑ์ที่มีอยู่แล้ว ๓. อาศัยความอยากรู้อยากเห็น ๔. อาศัยทัศนคติและอุดมการณ์
การตั้งชื่อเรื่องงานวิจัยการตั้งชื่อเรื่องงานวิจัย ๑. สาขาวิชาที่เกี่ยวข้อง ๒. ลักษณะของการเก็บข้อมูล ๓. ประชากรเป้าหมาย/สถานที่ ๔. ประเด็นสาระสำคัญของการวิจัย
ตัวอย่างการตั้งชื่อการวิจัย:ตัวอย่างการตั้งชื่อการวิจัย: “ความสัมพันธ์ของรายได้และรายจ่ายของรัฐบาลที่มีต่อผลกระทบความยั่งยืนทางการคลังของประเทศไทยระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๐๔ - ๒๕๔๕” ประเด็นสำคัญฯ การศึกษาความยั่งยืนทางการคลังของประเทศ ตัวแปรที่ศึกษา รายได้และรายจ่ายของรัฐบาล ประชากรเป้าหมาย รายได้และรายจ่ายระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๐๔ - ๒๕๔๕