791 likes | 3.22k Views
การแยกทางกล Mechanical Separation. ดร.วรวลัญช์ รุ่งเรืองศรี. การแยกทาง กล ( Mechanical Separation ). บทนี้เป็นการบรรยายการทำงานของอุปกรณ์เครื่องมือในการแยกองค์ประกอบของอาหารโดยทางกลหรือทางกายภาพ 3 ชนิด คือ
E N D
การแยกทางกลMechanical Separation ดร.วรวลัญช์ รุ่งเรืองศรี
การแยกทางกล (Mechanical Separation) บทนี้เป็นการบรรยายการทำงานของอุปกรณ์เครื่องมือในการแยกองค์ประกอบของอาหารโดยทางกลหรือทางกายภาพ 3 ชนิด คือ 1. การเหวี่ยงหนีศูนย์กลาง เป็นการแยกของเหลวที่ไม่ละลายในกันและกัน หรือแยกของแข็งออกจากของเหลวโดยการใช้แรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลาง 2. การกรอง เป็นการแยกของแข็งออกจากของเหลว โดยการให้ของผสมไหลผ่านวัตถุที่มีรูพรุน 3. การบีบอัด เป็นการแยกของเหลวออกจากของแข็งโดยใช้ความดัน
1. การเหวี่ยงหนีศูนย์กลาง (Centrifugation)
1. การเหวี่ยงหนีศูนย์กลาง (Centrifugation) • แรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางเกิดขึ้นเมื่อวัตถุดิบถูกหมุนเหวี่ยง • ขนาดของแรงขนอยู่กับ รัศมี และความเร็วของการหมุน รวมทั้งมวล (ความหนาแน่น) ของวัตถุที่ถูกเหวี่ยงไปรอบ ๆ • ในการแยกของเหลวที่ไม่ละลายเป็นเนื้อเดียวกันในเครื่องเหวี่ยง เช่น อิมัลชัน • ของเหลวที่มีความหนาแน่นสูงกว่าจะเคลื่อนที่ไปยังผนังของภาชนะและของเหลวที่เบากว่า (Aqueous Phase) จะอยู่อัดเข้ามาด้านใน
ในการแยกอิมัลชัน (สมมติเป็นประเภทน้ำมันในไขมัน) โดยใช้ bowl centrifuge ในคำนวณรัศมีของท่อสำหรับส่งวัตถุดิบ (Feed) ทำได้โดยใช้สมการ rn2 = (ρAr12 - ρBr22) / (ρA - ρB) 1 rnเรียกว่า นิวตรอนโซน (neutral zone) = แนวระหว่างของเหลวแนวระหว่างของเหลวที่มีความหนาแน่นมากและน้อย r1เป็นรัศมีของชั้นที่มีความหนาแน่นมาก r2เป็นรัศมีของชั้นที่มีความหนาแน่นน้อยกว่า ρA , (Rho) เป็นค่าความหนาแน่นของชั้นที่มีความหนาแน่นมาก (kg/m2) ρBเป็นค่าความหนาแน่นของชั้นที่มีความหนาแน่นน้อย (kg/m2)
ถ้าต้องการแยกของเหลวที่หนาแน่นน้อยกว่าออกจากของเหลวที่หนาแน่นมากกว่า เช่น แยกครีมออกจากนม ทำได้โดยการลดรัศมีของชั้นด้านนอก (ค่า r1) นั่นคือการลดรัศมีของชั้นนิวตรอนโซน • ในทางกลับกัน ถ้าต้องการแยกของเหลวที่มีความหนาแน่นมากออกจากส่วนที่หนาแน่นน้อยกว่า เช่น แยกน้ำออก จากน้ำมัน รัศมีของชั้นนอกและชั้นนิวตรอนโซน จะต้องมีค่าสูงขึ้น
ตัวอย่างโจทย์ที่ 1: ในการแยกอิมัลชันประเภทน้ำมันในไขมันโดยใช้ bowl centrifuge ให้คำนวณรัศมีของนิวตรอนโซน เพื่อให้สามารถติดตั้งท่อสำหรับส่งวัตถุดิบได้ถูกต้อง ตั้งสมมติฐาน ความหนาแน่นของเฟสต่อเนื่องเท่ากับ 1,000 kg./m3, ρAควานหนาแม่นของน้ำมัน เท่ากับ 870 kg/m3, ρBโดยมีรัศมีของทางออกจากเซนตริฟิวจ์เท่ากับ 4 cm, r2และ 5 cm, r1 rn2 = (ρAr12 - ρBr22) / (ρA - ρB) = rn = = 0.092 m หรือ 9.2 cm 1
ในการทำให้ของเหลวใสด้วยแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางสามารถคำนวนอัตราการเคลื่อนที่ของเหลวใสได้ โดยใช้ความ หนาแน่นของอนุภาคและของเหลว, ความหนืดของของเหลว และความเร็วรอบในการหมุนเหวี่ยง ดังแสดง ในสมการที่ 2 Q = Q = อัตราไหล (m3/s) ของเหลวใสในเครื่องเซนตริฟิวจ์ ω (2πN/60) = ความเร็วเชิงมุม V = ความจุของเซนตริฟิวจ์ (m3) D = เส้นผ่าศูนย์กลางของอนุภาค (m) ρs = ความหนาแน่นของอนุภาค (kg/m3) ρ = ความหนาแน่นของของเหลว (kg/m3) μ = ความหนืดของของเหลว (Ns/m2) r2 = รัศมีของโรเตอร์เครื่องเหวี่ยง (m) r1 = รัศมีของของเหลว (m) N = ความเร็วรอบ (รอบต่อวินาที) 2
สำหรับอนุภาคที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดหนึ่ง • เวลาเฉลี่ยของอนุภาคที่อยู่ในสารแขวนลอยจะเท่ากับเวลาสำหรับอนุภาคที่จะเคลื่อนที่ผ่านของเหลวไปยังผนังของเครื่องเซนตริฟิวจ์ t = (3) เมื่อ t เป็นเวลาที่อนุภาคอยู่ในเครื่อง (s) ดังนั้นจึงสามารถปรับอัตราการไหล (Q) เพื่อให้ได้อนุภาคที่มีขนาดในช่วงที่ต้องการ และV คือความจุของเซนตริฟิวจ์ (m3)
ตัวอย่างโจทย์ที่ 2 เบียร์ซึ่งมีความหนาแน่น 1.042 kg/m3(ρ) ความหนืด 1.40 × 10-3Ns/m2(μ, Mu) ประกอบด้วยของแข็งซึ่งมีความหนาแน่น 1,160 kg/m3(ρ𝐬) อยู่ 1.5% ถูกทำให้ใสด้วย bowl centrifuge ซึ่งมีความจุ 0.09 m3(V) ด้วยความเร็วรอบ 10,000 รอบ/นาที (N1) อัตราการไหล 240 I/hr(Q1) bowl centrifuge มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 5.5 cm (rw=0.0275m) โดยมีเส้นผ่าศูนย์กลางของทางออก 4 cm (r = 0.02 m) ให้คำนวณผลของอัตราการไหล (Q2) เมื่อเพิ่มความเร็วรอบเป็น 17,000 รอบ/นาที (N2) และขนาดอนุภาคเล็กที่สุด (D) ที่สามารถแยกได้ที่ความเร็วรอบสูงขึ้น (หา Q2และ D ?????)
หา Q2? Q = (2) • อัตราการไหลเดิม Q1 = • อัตราการไหลใหม่ Q2 = เนื่องจากสภาวะทุกอย่างเหมือนเดิมนอกจากควานเร็วรอบซึ่งเปลี่ยนไป สามารถหา Q2ได้โดย • =
= ดังนั้น Q2 = 2.89 เท่าของ Q1 = (หาร 3600 เปลี่ยน hrเป็น s) Q2 = 0.192 I/s = (0.192 I/s) × 0.001 m3/I (คูณ 0.001 เปลี่ยน I/s เป็น m3/s) = 1.92 × l0-4 m3 /s
ในการหาอนุภาคที่มีขนาดเล็กที่สุด (D) คำนวณได้จากสมการที่ 2 D2 = = = D = = 2.12 × 107 m • = 0.212 μm
1.2 เครื่องมือสำหรับการแยกด้วยการเหวี่ยงหนีศูนย์กลาง (Centrifugation) เครื่องเซนตริฟิวจ์แบ่งได้เป็น 3 แบบ สำหรับใช้ใน 1. การแยกของเหลวที่ไม่เป็นเนื้อเดียวกัน 2. การทำของเหลวให้ใสโดยการกำจัดของแข็งที่มีปริมาณเล็กน้อยออกไป (การทำให้ใสโดยการใช้แรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลาง) 3. การกำจัดของแข็งหรือน้ำออกไป
1.2.1 เครื่องเซนติฟิวจ์เพื่อแยกของเหลวออกจากของเหลว (Liquid-liquid centrifuges) • เครื่องแบบที่ง่ายที่สุดในกลุ่มนี้คือ เครื่องเหวี่ยงทรงกระบอก • เครื่องประกอบด้วยโรเตอร์ซึ่งเป็นภาชนะทรงกระบอกในแนวตั้ง และหมุนอยู่ในโครงนิ่งด้วยความเร็วรอบต่างกัน • โดยของเหลวสองชนิดจะถูกแยกออก เป็น 2 ชั้นด้วยแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลาง โดยของเหลวที่หนาแน่นกว่าจะอยู่ติดกับผนังของภาชนะ ของเหลวทั้งสองจะไหลแยกออกมาตามทางออกต่างกัน • นิยมใช้ในการแยกน้ำมัน • http://www.youtube.com/watch?v=J6xc3nQ_5xY
1.2.1 เครื่องเซนติฟิวจ์เพื่อแยกของเหลวออกจากของเหลว (Liquid-liquid centrifuges) • เครื่องเหวี่ยงแบบดิสก์ (disc bowl centrifuge) • ใช้สำหรับกรณีที่ชั้นของเหลวบางกว่า โดยจะให้การแยกที่ดีกว่าเครื่องเหวี่ยงทรงกระบอก • นิยมใช้ในการแยกครีมออกจากนม และเพื่อทำให้น้ำมัน สารสกัดจากกาแฟหรือน้ำผลไม้ใส
Disc Stack Centrifuge: http://www.youtube.com/watch?v=bzXUiLajVlgDisc Stack Centrifuge Milk process: http://www.youtube.com/watch?v=8F5XIT8btb8 • จานนี้จะมีช่องให้ของเหลวไหลออก • ของเหลวจะไหลเข้ามาทางฐานของจานที่วางซ้อนกันอยู่ • ของเหลวที่มีความหนาแม่นสูงกว่าจะเคลื่อนที่ไปยังผนังของภาชนะตามช่องของแผ่นจาน • ส่วนที่หนาแน่นน้อยกว่าจะถูกเหวี่ยงให้อยู่ชั้นในเข้ามาด้านศูนย์กลางและอยู่บนผิวด้านบน ทำให้เกิดการแยกที่ดีขึ้น
1.2.2 เครื่องเซนตริฟิวจ์ที่ใช้ทำให้ของเหลวใส (Centrifugal clarifiers) • เป็นเครื่องเซนติฟิวจ์แบบง่ายที่สุดในการแยกของแข็งออกจากของเหลว • ของแข็งจะสะสมกันเป็นเค้กอยู่ที่ผนังของภาชนะและเมื่อมีความหนาตามที่กำหนดไว้ก็จะถูกกำจัดออกทางฐานภาชนะอย่างอัตโนมัติ
Nozzle centrifuges or valve discharge centrifuges • ในการทำของเหลวที่มีของแข็งความเข้มข้นสูงให้ใส นั้นจะใช้เครื่อง เซนตริฟิวจ์แบบหัวฉีดหรือแบบวาล์วดิสชาร์จ • เครื่องเหล่านี้คล้ายคลึงกันเครื่องเหวี่ยงแบบดิสก์ แต่ภาชนะจะมีรูปร่างแบบกรวย 2 ใบ คว่ำเข้าหากัน • เครื่องเซนตริฟิวจ์เพื่อทำให้ของเหลวใสนี้ใช้ได้กับน้ำมัน น้ำผลไม้ และแป้ง หรือใช้ในการเก็บเซลล์ยีสต์ Valve discharge centrifuges: http://www.youtube.com/watch?v=_KtsBe34GHk
1.2.3 เครื่องเซนตริฟิวจ์สำหรับกำจัดตะกอนหรือน้ำ1.2.3 เครื่องเซนตริฟิวจ์สำหรับกำจัดตะกอนหรือน้ำ • เครื่องเซนตริฟิวจ์สำหรับกำจัดตะกอนใช้สำหรับอาหารเหลวที่มีของแข็งปนอยู่ในปริมาณสูง เครื่องนี้มีหลายแบบ เช่น • Conveyor bowl centrifuge • Screen conveyor centrifuge • Basket centrifuge • Reciprocal conveyor centrifuge
conveyor bowl centrifuge http://www.youtube.com/watch?v=OtjpdOVMoUg • screw conveyor centrifuge http://www.youtube.com/watch?v=FhS5vN4r5LA
เครื่องเซนตริฟิวจ์แบบไฮโดรลิก: ใช้ในการแยกของแข็งที่เปราะแตกได้ เช่น แยกผลึก ออกจากของเหลว
สำหรับเครื่องเซนตริฟิวจ์แบบตะกร้า (basket centrifuge) • จะมีตะกร้าโลหะซึ่งมีรูพรุนและมีตัวกลางสำหรับการกรองไว้บนตาข่ายนี้ • ตัวอย่างการประยุกต์ใช้เครื่องนี้ ได้แก่ การนำโปรตีนจากสัตว์และพืชกลับมาใช้ใหม่ การแยกของเหลวจากกาแฟ โกโก้ และชา และการกำจัดตะกอนในน้ำมัน basket centrifuge: http://www.youtube.com/watch?v=YC6GsJMEUwU
2. การกรอง (Filtration) • การกรองเป็นกรรมวิธีการทำของเหลวให้ใสโดยการกำจัดอนุภาคเล็กๆ ของของแข็ง เช่น ไวน์ เบียร์ หรือเพื่อแยกของเหลวออกจากของแข็งโดยการกรองเนื้ออาหาร เช่น น้ำผลไม้
2.1 ทฤษฎี • เมื่อสารแขวนลอยเคลื่อนที่ผ่านแผ่นกรอง อนุภาคแรกจะถูกจับอยู่ในตัวกลางการกรอง • เป็นผลให้ของเหลวสามารถเคลื่อนที่ผ่านแผ่นกรองได้ลดลง ดังนั้นความต้านทานการไหลจึงเพิ่มขึ้น • จึงต้องมีการเพิ่มความแตกต่างของความดันเพื่อรักษาอัตราการไหลของสารที่กรองได้ แสดงอัตราเร็วของการกรอง ได้ดังต่อไปนี้ อัตราเร็วของการกรอง =
2.2 เครื่องมือ 2.2.1 เครื่องกรองโดยใช้ความดัน (Pressure filter) เครื่องกรองแบบแผ่นเพลท (plate and frame niter press) : • ใช้แผ่นกรองผ้าหรือกระดาษ • ของเหลวจะถูกปั๊มเข้าไปในเครื่องอัดนี้และกรองผ่านแผ่นผ้ากรอง • วิธีนี้ใช้เงินลงทุนค่อนข้างต่ำและประยุกต์ใช้ได้กับอาหารหลายชนิด การดูแลรักษาง่าย • แต่วิธีนี้ใช้เวลานานและแรงงานสูง • plate filter: http://www.youtube.com/watch?v=n6fTdvqCWk8
Shell and leaf filter : http://www.youtube.com/watch?v=K9cjECvMPZ8 เครื่องกรองแบบ shell และ leaf • เป็นเครื่องที่ช่วยแก้ปัญหาการใช้แรงงานสูงนี้และปัญหาความยุ่งยากที่เกิดขึ้นในการใช้เครื่องกรองด้วยความดันแบบแผ่นเพลท • เครื่องประกอบด้วยชั้นนอก (leaves) ซึ่งมีรูตาข่ายและเคลือบด้วยวัสดุกรองและตรึงอยู่บนโครงซึ่งมีช่องทางออกสำหรับของเหลวที่ กรองได้
2.2.2 เครื่องกรองแบบสุญญากาศ (Vacuum filters) • เครื่องกรองแบบสุญญากาศเป็นเครื่องที่ทำงานที่ความดันต่ำ • มีต้นทุนสูงในการทำสุญญากาศ • สามารถใช้เครื่องนี้แบบต่อเนื่องได้ • ในขณะที่เครื่องกรองแบบแผ่นเพลททำงานแบบต่อเนื่องไม่ได้เพราะต้องลดความดันลงเพื่อแยกเค้กออก • มี 2 แบบ คือเครื่องกรองแบบลูกกลิ้งหมุน (rotary drum filter) และเครื่องกรองแบบ จานหมุน (rotary disc filler)
เครื่องกรองแบบลูกกลิ้งหมุน (rotary drum filter) • ประกอบด้วยถูกกลิ้งทรงกระบอกที่หมุนอย่างช้าๆ • โดยผิวหน้าของลูกกลิ้งแบ่งเป็นช่องแคบๆ • แต่ละช่องจะมีแผ่นกรองอยู่ด้านในและต่อเข้ากับปั๊มสุญญากาศตรงกลาง • เมื่อลูกกลิ้งหมุนไปในภาชนะของเหลว ของเหลวจะไหลผ่านแผ่นกรอง • rotary drum filter 1: http://www.youtube.com/watch?v=gzCLXe2xQAs • rotary drum filter 2: http://www.youtube.com/watch?v=89toDQs4-BM
และเครื่องกรองแบบ จานหมุน (rotary disc filler) • เครื่องกรองแบบจานหมุนประกอบด้วยชุดจานในแนวตั้งซึ่งหมุนอย่างช้า ๆ ในอ่างของเหลว • จานแต่ละแผ่นจะแบ่งออกเป็นส่วน ๆ และแต่ละส่วนจะมีรูทาง ออกที่ไปรวมที่แกนตรงกลาง มีใบมีดติดตั้งที่แผ่นจานเพื่อกำจัดเค้กออกไปอย่างต่อเนื่อง • rotary disc filter: http://www.youtube.com/watch?v=stcZBKcE5LA
3.1 ทฤษฎี • การบีบอัดส่วนใหญ่จะใช้ในการสกัดน้ำมันและน้ำผลไม้ • โดยบ่อยครั้งที่จะใช้ร่วมกับการลดขนาด เพื่อเพิ่มผลผลิตของผลิตภัณฑ์ทำให้สามารถสกัดองค์ประกอบของสารจากวัตถุดิบ • เช่น น้ำตาลและน้ำมันพืช • สารที่ต้องการสกัดเหล่านี้จะอยู่ในระหว่างโครงสร้างเซลล์ของพืช จึงจำเป็นต้องทำลายเซลล์เหล่านี้ก่อนเพื่อปลดปล่อยสารดังกล่าวออกมา
น้ำมันพืช • ในเมล็ดน้ำมันพืชแต่ละชนิด • มีวิธีสกัดน้ำมันมีอยู่ 2 แบบ คือ การสกัดโดยใช้สารละลายอินทรีย์และโดยการบีบอัด • การบีบอัดอาจทำได้ใน 2 ขั้นตอน คือ การลดขนาดเพื่อให้เกิดพัลพ์ตามด้วยการแยกด้วยการบีบอัด หรือทำในขั้นตอนเดียวซึ่งจะรวมทั้งการทำให้เซลล์แตกและดันน้ำมันออกมา
การแปรรูปผลไม้ • เช่น การสกัดน้ำองุ่นสำหรับการทำไวน์ การสกัดน้ำแอปเปิ้ลหรือน้ำส้ม • เครื่องอัดควรจะแยกน้ำผลไม้ให้ได้มากที่สุด • โดยให้มีปริมาณของแข็ง หรือสารประกอบฟีนอลิกจากเปลือกผลไม้น้อยที่สุด • เพื่อป้องกันความขมหรือการเกิดสีน้ำตาล • สิ่งเหล่านี้ทำได้โดยการลดความดันและใช้การอัดบีบให้น้อยลง
ปัจจัยที่มีผลต่อปริมาณผลผลิตของของเหลวจากการอัดปัจจัยที่มีผลต่อปริมาณผลผลิตของของเหลวจากการอัด 1. ความสุกและสภาวะการเจริญเติบโตของวัตถุดิบ 2. ปริมาณการแตกของเซลล์ 3. ความต้านทานของของแข็งต่อการทำลายเชิงกล 4. อัตราเร็วของการเพิ่มความดัน 5. เวลาในการบีบอัด 6. ความดันสูงสุดที่ให้แก่เครื่องอัด 7. ความหนาของของแข็งที่ถูกบีบอัด 8. อุณหภูมิของของแข็งและของเหลว 9. ความหนืดของของเหลวที่ถูกบีบอัด
3.2เครื่องมือ 3.2.1 การบีบอัดแบบกะ เครื่องมือที่ใช้มากสำหรับการแปรรูปผลไม้ด้วยการบีบอัด คือ เครื่องกรองโดยใช้ความดันแบบแผ่น แท็งก์เพรส (tank press) ไฮดรอลิกแรมเพรส (hydraulic ram press หรือ cage press)
แท็งก์เพรส (tank press) • ประกอบด้วยโลหะทรงกระบอกตั้งในแนวนอน ภายในแบ่งเป็นส่วน ๆ ด้วยแผ่นกรอง • จะมีการส่งพัลพ์ผลไม้จากด้านข้างมายังด้านหนึ่งของแผ่นกรองและอัดอากาศทางด้านตรงข้ามกับแผ่นกรอง • ผลไม้จะถูกกรองผ่านแผ่นกรองมาตามช่อง และเมื่อบีบอัดเสร็จแล้ว แท็งก์จะหมุนเพื่อให้ของแข็งที่สะสมอยู่หลุดและถูกทิ้งไป • การค่อย ๆ เพิ่มความดันจะช่วยให้ได้น้ำผลไม้คุณภาพดี • Tank press: http://www.youtube.com/watch?v=I4Mv3G2NM74
เครื่องไฮดรอลิกแรมเพลส (hydraulic ram press หรือ cage press) • ประกอบด้วยเพลท ซึ่งเป็นภาชนะโลหะทรงกระบอกในแนวตั้งซึ่งมีรูเล็ก ๆ หรืออาจเป็นกรงซี่ ๆ หรือใช้แผ่นเพลทเป็นซี่ ๆ • เพลทนี้จะถูกดันลงไปบนพัลพ์ที่ซ้อนกันอยู่โดยระบบไฮดรอลิกหรือสกรูและค่อย ๆ เพิ่มความดันขึ้น ของเหลวจะไหลผ่านรูหรือซี่กรงและมารวมกันที่ฐานของเครื่องอัด • ข้อดีของเครื่องคือ สามารถควบคุมความดันต่อปริมาณพัลพ์ได้อย่างละเอียดและสามารถสั่งงานอัตโนมัติได้ ทำให้ช่วยลดการใช้งานได้
3.2.2 เครื่องอัดแบบต่อเนื่อง3.2.2 เครื่องอัดแบบต่อเนื่อง เครื่องอัดแบบต่อเนื่องที่ใช้ในอุตสาหกรรมมีหลายแบบ เช่น • เครื่องอัดแบบสายพาน ใช้ในการแปรรูปผลไม้ • เครื่องอัดแบบเกลียว ใช้สำหรับแปรรูปผลไม้ และการสกัดน้ำมัน • เครื่องอัดแบบใช้ลูกกลิ้ง ใช้ในการแปรรูปน้ำตาล
เครื่องอัดแบบสายพาน (Belt press) • เครื่องประกอบด้วยสายพาน ซึ่งจะเคลื่อนที่ไปบนภาชนะทรงกระบอกที่ทำด้วยโลหะสแตนเลส 2 ลูก โดยที่ลูกหนึ่งจะมีช่องเล็กๆมากมาย • ผลไม้ที่เล็กละเอียดจะผ่านเข้าไปในสายพานนี้และถูกอัดในระหว่างสายพานและโลหะทรงกระบอกที่มีช่องเล็ก ๆ นี้ น้ำผลไม้จะเคลื่อนที่ผ่านช่องเล็ก ๆ นี้ • ส่วนเค้กของแข็งจะเคลื่อนที่ไปบนสายพานและถูกกำจัดออกไปโดยใบมีด • ข้อดี คือ จะให้น้ำผลไม้คุณภาพดีและให้ผลผลิตที่สูง • ข้อเสีย คือ ต้องใช้เงินลงทุนสูง ดูแลรักษาและทำความสะอาดยาก • Belt press: http://www.youtube.com/watch?v=HV6y5bDCJX8
เครื่องอัดแบบเกลียว (Screw press) • ประกอบด้วยภาชนะโลหะทรงกระบอกแข็งแรงในแนวนอน ภายในจะมีเกลียวสแตนเลสบรรจุอยู่ • ความสูงของร่องเกลียวจะลดลงเรื่อย ๆ ตามปลายทรงกระบอกเพื่อเพิ่มความดันต่อพัลพ์ที่ถูกลำเลียงไปตามบาเรล • ตรงกลางบาเรลจะมีช่องเปิดเพื่อให้ของเหลวไหลออกไปได้ • เค้กของแข็งจะถูกกำจัดออกไปตรงทางออกปลายเครื่อง • เครื่องนี้จะให้ของแข็งจากน้ำผลไม้ที่มีความเข้มข้นสูงกว่าเครื่องอัดแบบใช้สายพาน
เครื่องอัดแบบลูกกลิ้ง (Roller press) • จะมีการส่งพัลพ์ไปในระหว่างลูกกลิ้งหนัก มีการให้ความดันแก่พัลพ์ • ของเหลวจะไหลไปบนลูกกลิ้งไปยังภาชนะสำหรับเก็บรวบรวม • ของแข็งจะถูกกำจัดไปโดยใบมีด • มีการดัดแปลงรูปแบบของเครื่องโดยใช้ลูกกลิ้งที่มีช่องเล็กจำนวนมากโดยใช้ผ้ากรองและทำงานที่ความดันเป็นสุญญากาศ • Roller press: http://www.youtube.com/watch?v=UCqebvfMPTs