1 / 46

การแยกทางกล Mechanical Separation

การแยกทางกล Mechanical Separation. ดร.วรวลัญช์ รุ่งเรืองศรี. การแยกทาง กล ( Mechanical Separation ). บทนี้เป็นการบรรยายการทำงานของอุปกรณ์เครื่องมือในการแยกองค์ประกอบของอาหารโดยทางกลหรือทางกายภาพ 3 ชนิด คือ

hop
Download Presentation

การแยกทางกล Mechanical Separation

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การแยกทางกลMechanical Separation ดร.วรวลัญช์ รุ่งเรืองศรี

  2. การแยกทางกล (Mechanical Separation) บทนี้เป็นการบรรยายการทำงานของอุปกรณ์เครื่องมือในการแยกองค์ประกอบของอาหารโดยทางกลหรือทางกายภาพ 3 ชนิด คือ 1. การเหวี่ยงหนีศูนย์กลาง เป็นการแยกของเหลวที่ไม่ละลายในกันและกัน หรือแยกของแข็งออกจากของเหลวโดยการใช้แรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลาง 2. การกรอง เป็นการแยกของแข็งออกจากของเหลว โดยการให้ของผสมไหลผ่านวัตถุที่มีรูพรุน 3. การบีบอัด เป็นการแยกของเหลวออกจากของแข็งโดยใช้ความดัน

  3. 1. การเหวี่ยงหนีศูนย์กลาง (Centrifugation)

  4. 1. การเหวี่ยงหนีศูนย์กลาง (Centrifugation) • แรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางเกิดขึ้นเมื่อวัตถุดิบถูกหมุนเหวี่ยง • ขนาดของแรงขนอยู่กับ รัศมี และความเร็วของการหมุน รวมทั้งมวล (ความหนาแน่น) ของวัตถุที่ถูกเหวี่ยงไปรอบ ๆ • ในการแยกของเหลวที่ไม่ละลายเป็นเนื้อเดียวกันในเครื่องเหวี่ยง เช่น อิมัลชัน • ของเหลวที่มีความหนาแน่นสูงกว่าจะเคลื่อนที่ไปยังผนังของภาชนะและของเหลวที่เบากว่า (Aqueous Phase) จะอยู่อัดเข้ามาด้านใน

  5. ในการแยกอิมัลชัน (สมมติเป็นประเภทน้ำมันในไขมัน) โดยใช้ bowl centrifuge ในคำนวณรัศมีของท่อสำหรับส่งวัตถุดิบ (Feed) ทำได้โดยใช้สมการ rn2 = (ρAr12 - ρBr22) / (ρA - ρB) 1 rnเรียกว่า นิวตรอนโซน (neutral zone) = แนวระหว่างของเหลวแนวระหว่างของเหลวที่มีความหนาแน่นมากและน้อย r1เป็นรัศมีของชั้นที่มีความหนาแน่นมาก r2เป็นรัศมีของชั้นที่มีความหนาแน่นน้อยกว่า ρA , (Rho) เป็นค่าความหนาแน่นของชั้นที่มีความหนาแน่นมาก (kg/m2) ρBเป็นค่าความหนาแน่นของชั้นที่มีความหนาแน่นน้อย (kg/m2)

  6. ถ้าต้องการแยกของเหลวที่หนาแน่นน้อยกว่าออกจากของเหลวที่หนาแน่นมากกว่า เช่น แยกครีมออกจากนม ทำได้โดยการลดรัศมีของชั้นด้านนอก (ค่า r1) นั่นคือการลดรัศมีของชั้นนิวตรอนโซน • ในทางกลับกัน ถ้าต้องการแยกของเหลวที่มีความหนาแน่นมากออกจากส่วนที่หนาแน่นน้อยกว่า เช่น แยกน้ำออก จากน้ำมัน รัศมีของชั้นนอกและชั้นนิวตรอนโซน จะต้องมีค่าสูงขึ้น

  7. ตัวอย่างโจทย์ที่ 1: ในการแยกอิมัลชันประเภทน้ำมันในไขมันโดยใช้ bowl centrifuge ให้คำนวณรัศมีของนิวตรอนโซน เพื่อให้สามารถติดตั้งท่อสำหรับส่งวัตถุดิบได้ถูกต้อง ตั้งสมมติฐาน ความหนาแน่นของเฟสต่อเนื่องเท่ากับ 1,000 kg./m3, ρAควานหนาแม่นของน้ำมัน เท่ากับ 870 kg/m3, ρBโดยมีรัศมีของทางออกจากเซนตริฟิวจ์เท่ากับ 4 cm, r2และ 5 cm, r1 rn2 = (ρAr12 - ρBr22) / (ρA - ρB) = rn = = 0.092 m หรือ 9.2 cm 1

  8. ในการทำให้ของเหลวใสด้วยแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลางสามารถคำนวนอัตราการเคลื่อนที่ของเหลวใสได้ โดยใช้ความ หนาแน่นของอนุภาคและของเหลว, ความหนืดของของเหลว และความเร็วรอบในการหมุนเหวี่ยง ดังแสดง ในสมการที่ 2 Q = Q = อัตราไหล (m3/s) ของเหลวใสในเครื่องเซนตริฟิวจ์ ω (2πN/60) = ความเร็วเชิงมุม V = ความจุของเซนตริฟิวจ์ (m3) D = เส้นผ่าศูนย์กลางของอนุภาค (m) ρs = ความหนาแน่นของอนุภาค (kg/m3) ρ = ความหนาแน่นของของเหลว (kg/m3) μ = ความหนืดของของเหลว (Ns/m2) r2 = รัศมีของโรเตอร์เครื่องเหวี่ยง (m) r1 = รัศมีของของเหลว (m) N = ความเร็วรอบ (รอบต่อวินาที) 2

  9. สำหรับอนุภาคที่มีเส้นผ่าศูนย์กลางขนาดหนึ่ง • เวลาเฉลี่ยของอนุภาคที่อยู่ในสารแขวนลอยจะเท่ากับเวลาสำหรับอนุภาคที่จะเคลื่อนที่ผ่านของเหลวไปยังผนังของเครื่องเซนตริฟิวจ์ t = (3) เมื่อ t เป็นเวลาที่อนุภาคอยู่ในเครื่อง (s) ดังนั้นจึงสามารถปรับอัตราการไหล (Q) เพื่อให้ได้อนุภาคที่มีขนาดในช่วงที่ต้องการ และV คือความจุของเซนตริฟิวจ์ (m3)

  10. ตัวอย่างโจทย์ที่ 2 เบียร์ซึ่งมีความหนาแน่น 1.042 kg/m3(ρ) ความหนืด 1.40 × 10-3Ns/m2(μ, Mu) ประกอบด้วยของแข็งซึ่งมีความหนาแน่น 1,160 kg/m3(ρ𝐬) อยู่ 1.5% ถูกทำให้ใสด้วย bowl centrifuge ซึ่งมีความจุ 0.09 m3(V) ด้วยความเร็วรอบ 10,000 รอบ/นาที (N1) อัตราการไหล 240 I/hr(Q1) bowl centrifuge มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 5.5 cm (rw=0.0275m) โดยมีเส้นผ่าศูนย์กลางของทางออก 4 cm (r = 0.02 m) ให้คำนวณผลของอัตราการไหล (Q2) เมื่อเพิ่มความเร็วรอบเป็น 17,000 รอบ/นาที (N2) และขนาดอนุภาคเล็กที่สุด (D) ที่สามารถแยกได้ที่ความเร็วรอบสูงขึ้น (หา Q2และ D ?????)

  11. หา Q2? Q = (2) • อัตราการไหลเดิม Q1 = • อัตราการไหลใหม่ Q2 = เนื่องจากสภาวะทุกอย่างเหมือนเดิมนอกจากควานเร็วรอบซึ่งเปลี่ยนไป สามารถหา Q2ได้โดย • =

  12. = ดังนั้น Q2 = 2.89 เท่าของ Q1 = (หาร 3600 เปลี่ยน hrเป็น s) Q2 = 0.192 I/s = (0.192 I/s) × 0.001 m3/I (คูณ 0.001 เปลี่ยน I/s เป็น m3/s) = 1.92 × l0-4 m3 /s

  13. ในการหาอนุภาคที่มีขนาดเล็กที่สุด (D) คำนวณได้จากสมการที่ 2 D2 = = = D = = 2.12 × 107 m • = 0.212 μm

  14. 1.2 เครื่องมือสำหรับการแยกด้วยการเหวี่ยงหนีศูนย์กลาง (Centrifugation) เครื่องเซนตริฟิวจ์แบ่งได้เป็น 3 แบบ สำหรับใช้ใน 1. การแยกของเหลวที่ไม่เป็นเนื้อเดียวกัน 2. การทำของเหลวให้ใสโดยการกำจัดของแข็งที่มีปริมาณเล็กน้อยออกไป (การทำให้ใสโดยการใช้แรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลาง) 3. การกำจัดของแข็งหรือน้ำออกไป

  15. 1.2.1 เครื่องเซนติฟิวจ์เพื่อแยกของเหลวออกจากของเหลว (Liquid-liquid centrifuges) • เครื่องแบบที่ง่ายที่สุดในกลุ่มนี้คือ เครื่องเหวี่ยงทรงกระบอก • เครื่องประกอบด้วยโรเตอร์ซึ่งเป็นภาชนะทรงกระบอกในแนวตั้ง และหมุนอยู่ในโครงนิ่งด้วยความเร็วรอบต่างกัน • โดยของเหลวสองชนิดจะถูกแยกออก เป็น 2 ชั้นด้วยแรงเหวี่ยงหนีศูนย์กลาง โดยของเหลวที่หนาแน่นกว่าจะอยู่ติดกับผนังของภาชนะ ของเหลวทั้งสองจะไหลแยกออกมาตามทางออกต่างกัน • นิยมใช้ในการแยกน้ำมัน • http://www.youtube.com/watch?v=J6xc3nQ_5xY

  16. 1.2.1 เครื่องเซนติฟิวจ์เพื่อแยกของเหลวออกจากของเหลว (Liquid-liquid centrifuges) • เครื่องเหวี่ยงแบบดิสก์ (disc bowl centrifuge) • ใช้สำหรับกรณีที่ชั้นของเหลวบางกว่า โดยจะให้การแยกที่ดีกว่าเครื่องเหวี่ยงทรงกระบอก • นิยมใช้ในการแยกครีมออกจากนม และเพื่อทำให้น้ำมัน สารสกัดจากกาแฟหรือน้ำผลไม้ใส

  17. Disc Stack Centrifuge: http://www.youtube.com/watch?v=bzXUiLajVlgDisc Stack Centrifuge Milk process: http://www.youtube.com/watch?v=8F5XIT8btb8 • จานนี้จะมีช่องให้ของเหลวไหลออก • ของเหลวจะไหลเข้ามาทางฐานของจานที่วางซ้อนกันอยู่ • ของเหลวที่มีความหนาแม่นสูงกว่าจะเคลื่อนที่ไปยังผนังของภาชนะตามช่องของแผ่นจาน • ส่วนที่หนาแน่นน้อยกว่าจะถูกเหวี่ยงให้อยู่ชั้นในเข้ามาด้านศูนย์กลางและอยู่บนผิวด้านบน ทำให้เกิดการแยกที่ดีขึ้น

  18. 1.2.2 เครื่องเซนตริฟิวจ์ที่ใช้ทำให้ของเหลวใส (Centrifugal clarifiers) • เป็นเครื่องเซนติฟิวจ์แบบง่ายที่สุดในการแยกของแข็งออกจากของเหลว • ของแข็งจะสะสมกันเป็นเค้กอยู่ที่ผนังของภาชนะและเมื่อมีความหนาตามที่กำหนดไว้ก็จะถูกกำจัดออกทางฐานภาชนะอย่างอัตโนมัติ

  19. Nozzle centrifuges or valve discharge centrifuges • ในการทำของเหลวที่มีของแข็งความเข้มข้นสูงให้ใส นั้นจะใช้เครื่อง เซนตริฟิวจ์แบบหัวฉีดหรือแบบวาล์วดิสชาร์จ • เครื่องเหล่านี้คล้ายคลึงกันเครื่องเหวี่ยงแบบดิสก์ แต่ภาชนะจะมีรูปร่างแบบกรวย 2 ใบ คว่ำเข้าหากัน • เครื่องเซนตริฟิวจ์เพื่อทำให้ของเหลวใสนี้ใช้ได้กับน้ำมัน น้ำผลไม้ และแป้ง หรือใช้ในการเก็บเซลล์ยีสต์ Valve discharge centrifuges: http://www.youtube.com/watch?v=_KtsBe34GHk

  20. 1.2.3 เครื่องเซนตริฟิวจ์สำหรับกำจัดตะกอนหรือน้ำ1.2.3 เครื่องเซนตริฟิวจ์สำหรับกำจัดตะกอนหรือน้ำ • เครื่องเซนตริฟิวจ์สำหรับกำจัดตะกอนใช้สำหรับอาหารเหลวที่มีของแข็งปนอยู่ในปริมาณสูง เครื่องนี้มีหลายแบบ เช่น • Conveyor bowl centrifuge • Screen conveyor centrifuge • Basket centrifuge • Reciprocal conveyor centrifuge

  21. conveyor bowl centrifuge http://www.youtube.com/watch?v=OtjpdOVMoUg • screw conveyor centrifuge http://www.youtube.com/watch?v=FhS5vN4r5LA

  22. เครื่องเซนตริฟิวจ์แบบไฮโดรลิก: ใช้ในการแยกของแข็งที่เปราะแตกได้ เช่น แยกผลึก ออกจากของเหลว

  23. สำหรับเครื่องเซนตริฟิวจ์แบบตะกร้า (basket centrifuge) • จะมีตะกร้าโลหะซึ่งมีรูพรุนและมีตัวกลางสำหรับการกรองไว้บนตาข่ายนี้ • ตัวอย่างการประยุกต์ใช้เครื่องนี้ ได้แก่ การนำโปรตีนจากสัตว์และพืชกลับมาใช้ใหม่ การแยกของเหลวจากกาแฟ โกโก้ และชา และการกำจัดตะกอนในน้ำมัน basket centrifuge: http://www.youtube.com/watch?v=YC6GsJMEUwU

  24. 2. การกรอง (Filtration)

  25. 2. การกรอง (Filtration) • การกรองเป็นกรรมวิธีการทำของเหลวให้ใสโดยการกำจัดอนุภาคเล็กๆ ของของแข็ง เช่น ไวน์ เบียร์ หรือเพื่อแยกของเหลวออกจากของแข็งโดยการกรองเนื้ออาหาร เช่น น้ำผลไม้

  26. 2.1 ทฤษฎี • เมื่อสารแขวนลอยเคลื่อนที่ผ่านแผ่นกรอง อนุภาคแรกจะถูกจับอยู่ในตัวกลางการกรอง • เป็นผลให้ของเหลวสามารถเคลื่อนที่ผ่านแผ่นกรองได้ลดลง ดังนั้นความต้านทานการไหลจึงเพิ่มขึ้น • จึงต้องมีการเพิ่มความแตกต่างของความดันเพื่อรักษาอัตราการไหลของสารที่กรองได้ แสดงอัตราเร็วของการกรอง ได้ดังต่อไปนี้ อัตราเร็วของการกรอง =

  27. 2.2 เครื่องมือ 2.2.1 เครื่องกรองโดยใช้ความดัน (Pressure filter) เครื่องกรองแบบแผ่นเพลท (plate and frame niter press) : • ใช้แผ่นกรองผ้าหรือกระดาษ • ของเหลวจะถูกปั๊มเข้าไปในเครื่องอัดนี้และกรองผ่านแผ่นผ้ากรอง • วิธีนี้ใช้เงินลงทุนค่อนข้างต่ำและประยุกต์ใช้ได้กับอาหารหลายชนิด การดูแลรักษาง่าย • แต่วิธีนี้ใช้เวลานานและแรงงานสูง • plate filter: http://www.youtube.com/watch?v=n6fTdvqCWk8

  28. Shell and leaf filter : http://www.youtube.com/watch?v=K9cjECvMPZ8 เครื่องกรองแบบ shell และ leaf • เป็นเครื่องที่ช่วยแก้ปัญหาการใช้แรงงานสูงนี้และปัญหาความยุ่งยากที่เกิดขึ้นในการใช้เครื่องกรองด้วยความดันแบบแผ่นเพลท • เครื่องประกอบด้วยชั้นนอก (leaves) ซึ่งมีรูตาข่ายและเคลือบด้วยวัสดุกรองและตรึงอยู่บนโครงซึ่งมีช่องทางออกสำหรับของเหลวที่ กรองได้

  29. 2.2.2 เครื่องกรองแบบสุญญากาศ (Vacuum filters) • เครื่องกรองแบบสุญญากาศเป็นเครื่องที่ทำงานที่ความดันต่ำ • มีต้นทุนสูงในการทำสุญญากาศ • สามารถใช้เครื่องนี้แบบต่อเนื่องได้ • ในขณะที่เครื่องกรองแบบแผ่นเพลททำงานแบบต่อเนื่องไม่ได้เพราะต้องลดความดันลงเพื่อแยกเค้กออก • มี 2 แบบ คือเครื่องกรองแบบลูกกลิ้งหมุน (rotary drum filter) และเครื่องกรองแบบ จานหมุน (rotary disc filler)

  30. เครื่องกรองแบบลูกกลิ้งหมุน (rotary drum filter) • ประกอบด้วยถูกกลิ้งทรงกระบอกที่หมุนอย่างช้าๆ • โดยผิวหน้าของลูกกลิ้งแบ่งเป็นช่องแคบๆ • แต่ละช่องจะมีแผ่นกรองอยู่ด้านในและต่อเข้ากับปั๊มสุญญากาศตรงกลาง • เมื่อลูกกลิ้งหมุนไปในภาชนะของเหลว ของเหลวจะไหลผ่านแผ่นกรอง • rotary drum filter 1: http://www.youtube.com/watch?v=gzCLXe2xQAs • rotary drum filter 2: http://www.youtube.com/watch?v=89toDQs4-BM

  31. และเครื่องกรองแบบ จานหมุน (rotary disc filler) • เครื่องกรองแบบจานหมุนประกอบด้วยชุดจานในแนวตั้งซึ่งหมุนอย่างช้า ๆ ในอ่างของเหลว • จานแต่ละแผ่นจะแบ่งออกเป็นส่วน ๆ และแต่ละส่วนจะมีรูทาง ออกที่ไปรวมที่แกนตรงกลาง มีใบมีดติดตั้งที่แผ่นจานเพื่อกำจัดเค้กออกไปอย่างต่อเนื่อง • rotary disc filter: http://www.youtube.com/watch?v=stcZBKcE5LA

  32. 3. การบีบอัด (Expression)

  33. 3.1 ทฤษฎี • การบีบอัดส่วนใหญ่จะใช้ในการสกัดน้ำมันและน้ำผลไม้ • โดยบ่อยครั้งที่จะใช้ร่วมกับการลดขนาด เพื่อเพิ่มผลผลิตของผลิตภัณฑ์ทำให้สามารถสกัดองค์ประกอบของสารจากวัตถุดิบ • เช่น น้ำตาลและน้ำมันพืช • สารที่ต้องการสกัดเหล่านี้จะอยู่ในระหว่างโครงสร้างเซลล์ของพืช จึงจำเป็นต้องทำลายเซลล์เหล่านี้ก่อนเพื่อปลดปล่อยสารดังกล่าวออกมา

  34. น้ำมันพืช • ในเมล็ดน้ำมันพืชแต่ละชนิด • มีวิธีสกัดน้ำมันมีอยู่ 2 แบบ คือ การสกัดโดยใช้สารละลายอินทรีย์และโดยการบีบอัด • การบีบอัดอาจทำได้ใน 2 ขั้นตอน คือ การลดขนาดเพื่อให้เกิดพัลพ์ตามด้วยการแยกด้วยการบีบอัด หรือทำในขั้นตอนเดียวซึ่งจะรวมทั้งการทำให้เซลล์แตกและดันน้ำมันออกมา

  35. การแปรรูปผลไม้ • เช่น การสกัดน้ำองุ่นสำหรับการทำไวน์ การสกัดน้ำแอปเปิ้ลหรือน้ำส้ม • เครื่องอัดควรจะแยกน้ำผลไม้ให้ได้มากที่สุด • โดยให้มีปริมาณของแข็ง หรือสารประกอบฟีนอลิกจากเปลือกผลไม้น้อยที่สุด • เพื่อป้องกันความขมหรือการเกิดสีน้ำตาล • สิ่งเหล่านี้ทำได้โดยการลดความดันและใช้การอัดบีบให้น้อยลง

  36. ปัจจัยที่มีผลต่อปริมาณผลผลิตของของเหลวจากการอัดปัจจัยที่มีผลต่อปริมาณผลผลิตของของเหลวจากการอัด 1. ความสุกและสภาวะการเจริญเติบโตของวัตถุดิบ 2. ปริมาณการแตกของเซลล์ 3. ความต้านทานของของแข็งต่อการทำลายเชิงกล 4. อัตราเร็วของการเพิ่มความดัน 5. เวลาในการบีบอัด 6. ความดันสูงสุดที่ให้แก่เครื่องอัด 7. ความหนาของของแข็งที่ถูกบีบอัด 8. อุณหภูมิของของแข็งและของเหลว 9. ความหนืดของของเหลวที่ถูกบีบอัด

  37. 3.2เครื่องมือ 3.2.1 การบีบอัดแบบกะ เครื่องมือที่ใช้มากสำหรับการแปรรูปผลไม้ด้วยการบีบอัด คือ เครื่องกรองโดยใช้ความดันแบบแผ่น แท็งก์เพรส (tank press) ไฮดรอลิกแรมเพรส (hydraulic ram press หรือ cage press)

  38. แท็งก์เพรส (tank press) • ประกอบด้วยโลหะทรงกระบอกตั้งในแนวนอน ภายในแบ่งเป็นส่วน ๆ ด้วยแผ่นกรอง • จะมีการส่งพัลพ์ผลไม้จากด้านข้างมายังด้านหนึ่งของแผ่นกรองและอัดอากาศทางด้านตรงข้ามกับแผ่นกรอง • ผลไม้จะถูกกรองผ่านแผ่นกรองมาตามช่อง และเมื่อบีบอัดเสร็จแล้ว แท็งก์จะหมุนเพื่อให้ของแข็งที่สะสมอยู่หลุดและถูกทิ้งไป • การค่อย ๆ เพิ่มความดันจะช่วยให้ได้น้ำผลไม้คุณภาพดี • Tank press: http://www.youtube.com/watch?v=I4Mv3G2NM74

  39. เครื่องไฮดรอลิกแรมเพลส (hydraulic ram press หรือ cage press) • ประกอบด้วยเพลท ซึ่งเป็นภาชนะโลหะทรงกระบอกในแนวตั้งซึ่งมีรูเล็ก ๆ หรืออาจเป็นกรงซี่ ๆ หรือใช้แผ่นเพลทเป็นซี่ ๆ • เพลทนี้จะถูกดันลงไปบนพัลพ์ที่ซ้อนกันอยู่โดยระบบไฮดรอลิกหรือสกรูและค่อย ๆ เพิ่มความดันขึ้น ของเหลวจะไหลผ่านรูหรือซี่กรงและมารวมกันที่ฐานของเครื่องอัด • ข้อดีของเครื่องคือ สามารถควบคุมความดันต่อปริมาณพัลพ์ได้อย่างละเอียดและสามารถสั่งงานอัตโนมัติได้ ทำให้ช่วยลดการใช้งานได้

  40. 3.2.2 เครื่องอัดแบบต่อเนื่อง3.2.2 เครื่องอัดแบบต่อเนื่อง เครื่องอัดแบบต่อเนื่องที่ใช้ในอุตสาหกรรมมีหลายแบบ เช่น • เครื่องอัดแบบสายพาน ใช้ในการแปรรูปผลไม้ • เครื่องอัดแบบเกลียว ใช้สำหรับแปรรูปผลไม้ และการสกัดน้ำมัน • เครื่องอัดแบบใช้ลูกกลิ้ง ใช้ในการแปรรูปน้ำตาล

  41. เครื่องอัดแบบสายพาน (Belt press) • เครื่องประกอบด้วยสายพาน ซึ่งจะเคลื่อนที่ไปบนภาชนะทรงกระบอกที่ทำด้วยโลหะสแตนเลส 2 ลูก โดยที่ลูกหนึ่งจะมีช่องเล็กๆมากมาย • ผลไม้ที่เล็กละเอียดจะผ่านเข้าไปในสายพานนี้และถูกอัดในระหว่างสายพานและโลหะทรงกระบอกที่มีช่องเล็ก ๆ นี้ น้ำผลไม้จะเคลื่อนที่ผ่านช่องเล็ก ๆ นี้ • ส่วนเค้กของแข็งจะเคลื่อนที่ไปบนสายพานและถูกกำจัดออกไปโดยใบมีด • ข้อดี คือ จะให้น้ำผลไม้คุณภาพดีและให้ผลผลิตที่สูง • ข้อเสีย คือ ต้องใช้เงินลงทุนสูง ดูแลรักษาและทำความสะอาดยาก • Belt press: http://www.youtube.com/watch?v=HV6y5bDCJX8

  42. เครื่องอัดแบบเกลียว (Screw press) • ประกอบด้วยภาชนะโลหะทรงกระบอกแข็งแรงในแนวนอน ภายในจะมีเกลียวสแตนเลสบรรจุอยู่ • ความสูงของร่องเกลียวจะลดลงเรื่อย ๆ ตามปลายทรงกระบอกเพื่อเพิ่มความดันต่อพัลพ์ที่ถูกลำเลียงไปตามบาเรล • ตรงกลางบาเรลจะมีช่องเปิดเพื่อให้ของเหลวไหลออกไปได้ • เค้กของแข็งจะถูกกำจัดออกไปตรงทางออกปลายเครื่อง • เครื่องนี้จะให้ของแข็งจากน้ำผลไม้ที่มีความเข้มข้นสูงกว่าเครื่องอัดแบบใช้สายพาน

  43. เครื่องอัดแบบลูกกลิ้ง (Roller press) • จะมีการส่งพัลพ์ไปในระหว่างลูกกลิ้งหนัก มีการให้ความดันแก่พัลพ์ • ของเหลวจะไหลไปบนลูกกลิ้งไปยังภาชนะสำหรับเก็บรวบรวม • ของแข็งจะถูกกำจัดไปโดยใบมีด • มีการดัดแปลงรูปแบบของเครื่องโดยใช้ลูกกลิ้งที่มีช่องเล็กจำนวนมากโดยใช้ผ้ากรองและทำงานที่ความดันเป็นสุญญากาศ • Roller press: http://www.youtube.com/watch?v=UCqebvfMPTs

More Related