1 / 39

Mark 3 A Man with a Withered Hand and Jesus Chose the Twelve

Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน. Mark 3 A Man with a Withered Hand and Jesus Chose the Twelve.

galen
Download Presentation

Mark 3 A Man with a Withered Hand and Jesus Chose the Twelve

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridgeสวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน

  2. Mark 3 A Man with a Withered Hand and Jesus Chose the Twelve

  3. 1 Again He entered the synagogue, and a man was there with a withered hand.1 แล้วพระองค์ได้เสด็จเข้าไปในธรรมศาลาอีก และที่นั่นมีคนหนึ่งมือข้างหนึ่งลีบ

  4. 2 And they watched Jesus, to see whether He would heal him on the Sabbath, so that they might accuse Him. 2 คนเหล่านั้นคอยดูว่า พระองค์จะรักษาโรคให้คนนั้นในวันสะบาโตหรือไม่ เพื่อเขาจะหาเหตุฟ้องพระองค์ได้

  5. 3 And He said to the man with the withered hand, “Come here.” 3 พระองค์ตรัสแก่คนมือลีบว่า “มาข้างหน้าเถอะ”

  6. 4 And He said to them, “Is it lawful on the Sabbath to do good or to do harm, to save life or to kill?” But they were silent. 4 พระองค์จึงตรัสแก่คนทั้งหลายว่า “ในวันสะบาโตควรจะทำการดี หรือควรจะทำร้าย จะช่วยชีวิตดีหรือจะผลาญชีวิตเสียดี” ฝ่ายคนทั้งปวงก็นิ่งอยู่

  7. 5 And He looked around at them with anger, grieved at their hardness of heart, and said to the man, “Stretch out your hand.” He stretched it out, and his hand was restored.

  8. 5 พระองค์มีพระทัยเป็นทุกข์ เพราะใจเขาแข็งกระด้างนัก และได้ทอดพระเนตรดูรอบด้วยพระพิโรธ และพระองค์ตรัสแก่คนมือลีบนั้นว่า “จงเหยียดมือออกเถิด” เขาก็เหยียดออก และมือของเขาก็หายเป็นปกติ

  9. 6 The Pharisees went out and immediately held counsel with the Herodians against Him, how to destroy Him. 6 พวกฟาริสีจึงออกไป และในทันใดนั้นได้ปรึกษากับพรรคพวกของเฮโรดว่า จะทำอย่างไรจึงจะฆ่าพระองค์ได้

  10. 8 and Jerusalem and Idumea and from beyond the Jordan and from around Tyre and Sidon. When the great crowd heard all that He was doing, they came to Him.

  11. 8 จากกรุงเยรูซาเล็มและจากเอโดม และจากแม่น้ำจอร์แดนฟากตะวันออก และจากแคว้นเมืองไทระและไซดอน คนเป็นอันมากเมื่อทราบถึงสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำนั้นก็มาหาพระองค์

  12. 9 And He told His disciples to have a boat ready for Him because of the crowd, lest they crush Him, 9 พระองค์จึงตรัสสั่งพวกศิษย์ให้เอาเรือมาคอยรับพระองค์ เพื่อมิให้ประชาชนเบียดเสียดพระองค์

  13. 10 for He had healed many, so that all who had diseases pressed around Him to touch Him. 10 ด้วยว่าพระองค์ได้ทรงรักษาคนเป็นอันมากให้หายโรค จนบรรดาผู้ที่มีโรคต่างๆเบียดเสียดกันเข้ามา เพื่อจะได้ถูกต้องพระองค์

  14. 11 And whenever the unclean spirits saw Him, they fell down before Him and cried out, “You are the Son of God.” 11 และผีโสโครกที่เข้าสิงอยู่ในคนหลายคน เมื่อได้เห็นพระองค์ก็ได้หมอบลงกราบพระองค์แล้วร้องอึงว่า “พระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า”

  15. 12 And He strictly ordered them not to make Him known. 12 ฝ่ายพระองค์จึงทรงกำชับห้ามมันมิให้แพร่งพรายว่า พระองค์คือผู้ใด

  16. 13 And He went up on the mountain and called to Him those whom He desired, and they came to Him. 13 แล้วพระองค์เสด็จขึ้นภูเขา และพอพระทัยจะเรียกผู้ใดพระองค์ก็ทรงเรียกผู้นั้น แล้วเขาได้มาหาพระองค์

  17. 14 And He appointed twelve (whom He also named apostles) so that they might be with Him and He might send them out to preach 14 พระองค์จึงทรงตั้งศิษย์สิบสองคนไว้ให้อยู่กับพระองค์ เพื่อจะทรงใช้เขาไปประกาศ

  18. 15 and have authority to cast out demons. 15 และให้มีอำนาจขับผีออกได้

  19. 16 He appointed the twelve: Simon (to whom He gave the name Peter); 16 และซีโมนนั้นพระองค์ทรงประทานชื่ออีกว่า เปโตร

  20. 17 James the son of Zebedee and John the brother of James (to whom He gave the name Boanerges, that is, Sons of Thunder); 17 และยากอบบุตรเศเบดีกับยอห์นน้องของยากอบ ทั้งสองคนนี้พระองค์ทรงประทานชื่ออีกว่า โบอาเนอเย แปลว่า ลูกฟ้าร้อง

  21. 18 Andrew, and Philip, and Bartholomew, and Matthew, and Thomas, and James the son of Alphaeus, and Thaddaeus, and Simon the Cananaean, 18 อันดรูว์ ฟีลิป บารโธโลมิว มัทธิว โธมัส ยากอบบุตรอัลเฟอัส ธัดเดอัส ซีโมน พรรคชาตินิยม

  22. 19 and Judas Iscariot, who betrayed Him. 19 และยูดาสอิสคาริโอท ที่ได้อายัดพระองค์ไว้นั้น พระองค์จึงเสด็จเข้าไปในเรือน

  23. 20 Then He went home, and the crowd gathered again, so that they could not even eat. 20 และประชาชนก็มาประชุมกันอีก จนพระเยซูและสาวกจะรับประทานอาหารไม่ได้

  24. 21 And when His family heard it, they went out to seize Him, for they were saying, “He is out of His mind.” 21 เมื่อญาติมิตรของพระองค์ได้ยินเหตุการณ์นั้น เขาก็ออกไปเพื่อจะกันพระองค์ไว้ ด้วยเขาว่าพระองค์วิกลจริตแล้ว

  25. 2 Timothy ทิโมธี 2:2 2 and what you have heard from me in the presence of many witnesses entrust to faithful men who will be able to teach others also. 2 จงมอบคำสอนเหล่านั้น ซึ่งท่านได้ยินจากข้าพเจ้าต่อหน้าพยานหลายคน ไว้กับคนที่ซื่อสัตย์ที่สามารถสอนคนอื่นได้ด้วย

  26. 22 And the scribes who came down from Jerusalem were saying, “He is possessed by Beelzebul,” and “by the prince of demons he casts out the demons.” 22 พวกธรรมาจารย์ซึ่งได้ลงมาจากกรุงเยรูซาเล็ม ได้กล่าวว่า “ผู้นี้มีผีเบเอลเซบูลเข้า และที่เขาขับผีออกได้ก็เพราะใช้อำนาจนายผีนั้น”

  27. 23 And He called them to Him and said to them in parables, “How can Satan cast out Satan? 23 ฝ่ายพระองค์จึงเรียกคนเหล่านั้นมาตรัสแก่เขาเป็นคำเปรียบว่า “ซาตานจะขับตัวเองให้ออกอย่างไรได้

  28. 24 If a kingdom is divided against itself, that kingdom cannot stand. 24 ถ้าราชอาณาจักรใดๆเกิดแตกแยกกันแล้ว ราชอาณาจักรนั้นจะตั้งอยู่ไม่ได้

  29. 25 And if a house is divided against itself, that house will not be able to stand. 25 ถ้าครัวเรือนใดๆเกิดแตกแยกกัน ครัวเรือนนั้นจะตั้งอยู่ไม่ได้

  30. 26 And if Satan has risen up against himself and is divided, he cannot stand, but is coming to an end. 26 และถ้าซาตานจะต่อสู้กับตนเอง และแตกแยกกันมันก็ตั้งอยู่ไม่ได้มีแต่จะสิ้นสูญไป

  31. 27 But no one can enter a strong man's house and plunder his goods, unless he first binds the strong man. Then indeed he may plunder his house. 27 ไม่มีผู้ใดอาจเข้าไปในเรือนของคนที่มีกำลังมากและปล้นทรัพย์ได้ เว้นแต่จะจับคนที่มีกำลังมากนั้นมัดไว้เสียก่อน แล้วจึงจะปล้นทรัพย์ในเรือนนั้นได้

  32. 28“Truly, I say to you, all sins will be forgiven the children of man, and whatever blasphemies they utter, 28ข้าพเจ้า บอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ความผิดบาปทุกอย่างและคำหมิ่นประมาท ที่เขากล่าวนั้น จะทรงโปรดยกให้มนุษย์ได้

  33. 29 but whoever blasphemes against the Holy Spirit never has forgiveness, but is guilty of an eternal sin”— 29 แต่ผู้ใดจะกล่าวคำหมิ่นประมาทต่อพระวิญญาณบริสุทธิ์ จะโปรดยกให้ผู้นั้นไม่ได้เลย แต่ผู้นั้นมีกรรมชั่วแห่งบาปเป็นนิตย์”

  34. 30 for they had said, “He has an unclean spirit.” 30 ที่ตรัสอย่างนั้นก็เพราะเขาทั้งหลายว่า พระองค์มีผีโสโครกเข้าสิง

  35. 31 And His mother and His brothers came, and standing outside they sent to Him and called Him. 31 เวลานั้นมารดาและพวกน้องชายของพระองค์มายืนอยู่ข้างนอก แล้วใช้คนเข้าไปทูลเรียกพระองค์

  36. 32 And a crowd was sitting around Him, and they said to Him, “Your mother and your brothers are outside, seeking you.” 32 และประชาชนก็นั่งอยู่รอบพระองค์ เขาจึงทูลพระองค์ว่า “นี่แน่ะท่าน มารดาและพวกน้องชายของท่านมาหาท่านคอยอยู่ข้างนอก”

  37. 33 And He answered them, “Who are my mother and my brothers?” 33 พระองค์ตรัสตอบเขาว่า “ใครเป็นมารดาของเรา และใครเป็นพี่น้องของ ข้าพเจ้า ”

  38. 34 And looking about at those who sat around Him, He said, “Here are My mother and My brothers! 34 พระองค์ทอดพระเนตรคนที่นั่งล้อมรอบนั้นแล้วตรัสว่า “นี่เป็นมารดาและพี่น้องของ ข้าพเจ้า

  39. 35 Whoever does the will of God, he is my brother and sister and mother.” 35 ผู้ใดจะกระทำตามพระทัยพระเจ้า ผู้นั้นแหละเป็นพี่น้องชายหญิงและมารดาของ ข้าพเจ้า” อวันสะบาโตด้วย”

More Related