1 / 75

2 Thessalonians 1 and 2 End Time Events

Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridge สวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่ โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน. 2 Thessalonians 1 and 2 End Time Events.

ferrol
Download Presentation

2 Thessalonians 1 and 2 End Time Events

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. Good morning welcome to Calvary Chapel at the Bridgeสวัสดีตอนเช้าขอต้อนรับสู่โบสถ์แคล'วะรีแชพ'เพิลที่สะพาน

  2. 2 Thessalonians 1 and 2 End Time Events

  3. 1Paul, Silvanus, and Timothy,To the church of the Thessalonians in God our Father and the Lord Jesus Christ: 1เปาโลสิลวานัสและทิโมธีเรียนคริสตจักรของชาวเมืองเธสะโลนิกาในพระบิดาเจ้าของเราและพระเยซูคริสตเจ้า

  4. 2Grace to you and peace from God our Father and the Lord Jesus Christ. 2ขอให้พระคุณและสันติสุขจากพระบิดาเจ้าและจากพระเยซูคริสตเจ้าดำรงอยู่กับท่านทั้งหลายเถิด

  5. 3We ought always to give thanks to God for you, brothers, as is right, because your faith is growing abundantly, and the love of every one of you for one another is increasing.

  6. 3ดูก่อนพี่น้องทั้งหลายเราต้องขอบพระคุณพระเจ้าเพราะท่านทั้งหลายอยู่เสมอและเป็นการสมควรเพราะความเชื่อของท่านก็จำเริญยิ่งขึ้นและความรักของท่านทุกคนที่มีต่อกันทวีขึ้นมากด้วย3ดูก่อนพี่น้องทั้งหลายเราต้องขอบพระคุณพระเจ้าเพราะท่านทั้งหลายอยู่เสมอและเป็นการสมควรเพราะความเชื่อของท่านก็จำเริญยิ่งขึ้นและความรักของท่านทุกคนที่มีต่อกันทวีขึ้นมากด้วย

  7. 4Therefore we ourselves boast about you in the churches of God for your steadfastness and faith in all your persecutions and in the afflictions that you are enduring.

  8. 4ฉะนั้นเราเองจึงอวดท่านทั้งหลายต่อบรรดาคริสตจักรของพระเจ้าในเรื่องความทรหดและความเชื่อของท่านในยามที่ท่านถูกข่มเหงนานาประการและที่ท่านอดทนต่อความยากลำบากนั้น4ฉะนั้นเราเองจึงอวดท่านทั้งหลายต่อบรรดาคริสตจักรของพระเจ้าในเรื่องความทรหดและความเชื่อของท่านในยามที่ท่านถูกข่มเหงนานาประการและที่ท่านอดทนต่อความยากลำบากนั้น

  9. 5This is evidence of the righteous judgment of God, that you may be considered worthy of the kingdom of God, for which you are also suffering—

  10. 5เรื่องนี้แสดงให้เห็นชัดถึงการพิพากษาอันยุติธรรมของพระเจ้าซึ่งจะพิสูจน์ว่าท่านเป็นผู้สมควรกับแผ่นดินของพระเจ้าเหตุที่เห็นแก่แผ่นดินนั้นท่านทั้งหลายจึงกำลังทนทุกข์อยู่5เรื่องนี้แสดงให้เห็นชัดถึงการพิพากษาอันยุติธรรมของพระเจ้าซึ่งจะพิสูจน์ว่าท่านเป็นผู้สมควรกับแผ่นดินของพระเจ้าเหตุที่เห็นแก่แผ่นดินนั้นท่านทั้งหลายจึงกำลังทนทุกข์อยู่

  11. 6since indeed God considers it just to repay with affliction those who afflict you, 6เพราะว่าพระเจ้าทรงเห็นว่าเป็นการยุติธรรมแล้วที่จะทรงเอาความยากลำบากไปสนองคนเหล่านั้นที่ก่อความยากลำบากให้กับท่านทั้งหลาย

  12. 7and to grant relief to you who are afflicted as well as to us, when the Lord Jesus is revealed from heaven with his mighty angels

  13. 7และที่จะทรงให้ท่านทั้งหลายที่รับความยากลำบากนั้นได้รับความบรรเทาด้วยกันกับเราเมื่อพระเยซูเจ้าจะปรากฏองค์จากสวรรค์ในเปลวเพลิงพร้อมกับหมู่ทูตสวรรค์ผู้มีฤทธิ์ของพระองค์7และที่จะทรงให้ท่านทั้งหลายที่รับความยากลำบากนั้นได้รับความบรรเทาด้วยกันกับเราเมื่อพระเยซูเจ้าจะปรากฏองค์จากสวรรค์ในเปลวเพลิงพร้อมกับหมู่ทูตสวรรค์ผู้มีฤทธิ์ของพระองค์

  14. 8in flaming fire, inflicting vengeance on those who do not know God and on those who do not obey the gospel of our Lord Jesus. 8และจะลงโทษสนองคนเหล่านั้นที่ไม่รู้จักพระเจ้าและแก่คนที่ไม่เชื่อฟังข่าวประเสริฐของพระเยซูเจ้าของเรา

  15. 9They will suffer the punishment of eternal destruction, away from the presence of the Lord and from the glory of his might,

  16. 9คนเหล่านั้นจะได้รับโทษอันเป็นความพินาศนิรันดร์และพรากจากพระพักตร์พระเป็นเจ้าและจากพระสิริแห่งอานุภาพของพระองค์ในวันนั้น9คนเหล่านั้นจะได้รับโทษอันเป็นความพินาศนิรันดร์และพรากจากพระพักตร์พระเป็นเจ้าและจากพระสิริแห่งอานุภาพของพระองค์ในวันนั้น

  17. 10when he comes on that day to be glorified in his saints, and to be marveled at among all who have believed, because our testimony to you was believed.

  18. 10คือในวันที่พระองค์จะเสด็จมาเพื่อรับพระเกียรติเพราะธรรมิกชนของพระองค์และเพื่อให้เป็นที่อัศจรรย์ใจแก่คนทั้งปวงที่เชื่อเพราะท่านก็ได้เชื่อคำพยานของเราจริงๆแล้ว

  19. Revelation วิวรณ์ 6 :9-17 9When he opened the fifth seal, I saw under the altar the souls of those who had been slain for the word of God and for the witness they had borne.

  20. 9เมื่อพระองค์ทรงแกะตราดวงที่ห้านั้นแล้วข้าพเจ้าก็แลเห็นดวงวิญญาณใต้แท่นบูชา เป็นวิญญาณของคนทั้งหลายที่ถูกฆ่าเพราะพระวจนะของพระเจ้าและเพราะคำพยานที่เขายึดถือนั้น

  21. 10They cried out with a loud voice, “O Sovereign Lord, holy and true, how long before you will judge and avenge our blood on those who dwell on the earth?”

  22. 10เขาเหล่านั้นร้องเสียงดังว่า “ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้าผู้บริสุทธิ์และสัตย์จริงอีกนานเท่าใดพระองค์จึงจะทรงพิพากษาและตอบสนองต่อคนทั้งหลายที่อยู่ในโลก”

  23. 11Then they were each given a white robe and told to rest a little longer, until the number of their fellow servants and their brothers should be complete, who were to be killed as they themselves had been.

  24. 11แล้วพระองค์ทรงประทานเสื้อสีขาวแก่คนเหล่านั้นทุกคนและทรงกำชับเขาให้รอต่อไปอีกหน่อยจนกว่าเพื่อนผู้รับใช้ของเขาคือพวกพี่น้องของเขาจะถูกฆ่าเหมือนกับเขาครบจำนวน11แล้วพระองค์ทรงประทานเสื้อสีขาวแก่คนเหล่านั้นทุกคนและทรงกำชับเขาให้รอต่อไปอีกหน่อยจนกว่าเพื่อนผู้รับใช้ของเขาคือพวกพี่น้องของเขาจะถูกฆ่าเหมือนกับเขาครบจำนวน

  25. 12When he opened the sixth seal, I looked, and behold, there was a great earthquake, and the sun became black as sackcloth, the full moon became like blood,

  26. 12เมื่อพระองค์ทรงแกะตราดวงที่หกนั้นแล้วข้าพเจ้าก็ได้เห็นแผ่นดินไหวใหญ่โตดวงอาทิตย์ก็กลับมืดดำดุจผ้ากระสอบขนสัตว์และดวงจันทร์วันเพ็ญก็กลายเป็นสีเลือด12เมื่อพระองค์ทรงแกะตราดวงที่หกนั้นแล้วข้าพเจ้าก็ได้เห็นแผ่นดินไหวใหญ่โตดวงอาทิตย์ก็กลับมืดดำดุจผ้ากระสอบขนสัตว์และดวงจันทร์วันเพ็ญก็กลายเป็นสีเลือด

  27. 13and the stars of the sky fell to the earth as the fig tree sheds its winter fruit when shaken by a gale. 13และดวงดาวทั้งหลายในท้องฟ้าก็ตกลงบนแผ่นดินเหมือนกับต้นมะเดื่ออันถูกลมกล้าพัดจนทำให้ผลที่ยังไม่ทันสุกหล่นลงหมด

  28. 14The sky vanished like a scroll that is being rolled up, and every mountain and island was removed from its place. 14ท้องฟ้าก็หายไปเหมือนกับหนังสือที่เขาม้วนขึ้นไปหมดและภูเขาทุกลูกและเกาะทุกเกาะก็เลื่อนไปจากที่เดิม

  29. 15Then the kings of the earth and the great ones and the generals and the rich and the powerful, and everyone, slave and free, hid themselves in the caves and among the rocks of the mountains,

  30. 15แล้วกษัตริย์ทั้งหลายในโลกพวกคนใหญ่คนโตนายทหารใหญ่เศรษฐีผู้มีอำนาจและทุกคนทั้งที่เป็นทาสและเป็นอิสระก็ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำและโขดหินตามภูเขา15แล้วกษัตริย์ทั้งหลายในโลกพวกคนใหญ่คนโตนายทหารใหญ่เศรษฐีผู้มีอำนาจและทุกคนทั้งที่เป็นทาสและเป็นอิสระก็ซ่อนตัวอยู่ในถ้ำและโขดหินตามภูเขา

  31. 16calling to the mountains and rocks, “Fall on us and hide us from the face of him who is seated on the throne, and from the wrath of the Lamb,

  32. 16พวกเขาร้องบอกกับภูเขาและโขดหินว่า “จงล้มทับเราเถิดจงซ่อนเราไว้ให้พ้นจากพระพักตร์ของพระองค์ผู้ประทับอยู่บนพระที่นั่งและให้พ้นจากพระพิโรธของพระเมษโปดกนั้น

  33. 17for the great day of their wrath has come, and who can stand?” 17เพราะว่าวันสำคัญแห่งพระพิโรธของพระองค์มาถึงแล้วและผู้ใดจะทนอยู่ได้เล่า”

  34. 11To this end we always pray for you, that our God may make you worthy of his calling and may fulfill every resolve for good and every work of faith by his power,

  35. 11เหตุฉะนั้นเราจึงอธิษฐานเพื่อท่านทั้งหลายเสมอขอให้พระเจ้าของเราทรงโปรดให้ท่านเป็นผู้ที่สมควรแก่การที่พระองค์ได้ทรงเรียกนั้นและทรงบันดาลด้วยฤทธิ์เดชของพระองค์ให้ความตั้งใจดีทุกประการและกิจการแห่งความเชื่อทุกอย่างสำเร็จ11เหตุฉะนั้นเราจึงอธิษฐานเพื่อท่านทั้งหลายเสมอขอให้พระเจ้าของเราทรงโปรดให้ท่านเป็นผู้ที่สมควรแก่การที่พระองค์ได้ทรงเรียกนั้นและทรงบันดาลด้วยฤทธิ์เดชของพระองค์ให้ความตั้งใจดีทุกประการและกิจการแห่งความเชื่อทุกอย่างสำเร็จ

  36. 12so that the name of our Lord Jesus may be glorified in you, and you in him, according to the grace of our God and the Lord Jesus Christ.

  37. 12เพื่อพระนามของพระเยซูเจ้าของเราจะได้เกียรติเพราะท่านทั้งหลายและท่านจะได้รับเกียรติเพราะพระองค์ตามพระคุณแห่งพระเจ้าของเราและแห่งพระเยซูคริสตเจ้า

  38. 1Now concerning the coming of our Lord Jesus Christ and our being gathered together to him, we ask you, brothers,

  39. 1ดูก่อนพี่น้องทั้งหลายเรื่องการซึ่งพระเยซูคริสตเจ้าของเราจะเสด็จมาและที่พระองค์จะทรงรวบรวมเราทั้งหลายไปเป็นของพระองค์นั้นเราขอวิงวอนท่านว่า

  40. 2not to be quickly shaken in mind or alarmed, either by a spirit or a spoken word, or a letter seeming to be from us, to the effect that the day of the Lord has come.

  41. 2อย่าให้ใจของท่านหวั่นไหวง่ายหรือตื่นตระหนกตกใจไม่ว่าจะเป็นโดยทางวิญญาณหรือโดยทางคำพูดหรือโดยทางจดหมายเป็นเชิงว่ามาจากเราอ้างว่าวันขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงแล้ว2อย่าให้ใจของท่านหวั่นไหวง่ายหรือตื่นตระหนกตกใจไม่ว่าจะเป็นโดยทางวิญญาณหรือโดยทางคำพูดหรือโดยทางจดหมายเป็นเชิงว่ามาจากเราอ้างว่าวันขององค์พระผู้เป็นเจ้ามาถึงแล้ว

  42. 3Let no one deceive you in any way. For that day will not come, unless the rebellion comes first, and the man of lawlessness is revealed, the son of destruction,

  43. 3อย่าให้ผู้หนึ่งผู้ใดล่อลวงท่านโดยทางหนึ่งทางใดเลยเพราะว่าวันนั้นจะไม่มาถึงจนกว่าจะมีการทรยศเสียก่อนและคนนอกกฎหมายนั้นจะประจักษ์แจ้งคือลูกแห่งความพินาศ3อย่าให้ผู้หนึ่งผู้ใดล่อลวงท่านโดยทางหนึ่งทางใดเลยเพราะว่าวันนั้นจะไม่มาถึงจนกว่าจะมีการทรยศเสียก่อนและคนนอกกฎหมายนั้นจะประจักษ์แจ้งคือลูกแห่งความพินาศ

  44. 4who opposes and exalts himself against every so-called god or object of worship, so that he takes his seat in the temple of God, proclaiming himself to be God.

  45. 4ผู้กีดกั้นขัดขวางและยกตัวขึ้นต่อสู้อะไรๆที่ได้ชื่อว่าเป็นพระหรืออะไรๆที่เขาไหว้นมัสการนั้นแล้วมันก็นั่งในพระวิหารของพระเจ้าประกาศตัวว่าเป็นพระเจ้า

  46. Daniel ดาเนียล 9:27 And he shall make a strong covenant with many for one week, and for half of the week he shall put an end to sacrifice and offering. And on the wing of abominations shall come one who makes desolate, until the decreed end is poured out on the desolator.”

  47. 27ท่านจะทำพันธสัญญาเข้มแข็งกับคนเป็นอัน มากอยู่หนึ่งสัปตะท่านจะกระทำให้การถวายสัตวบูชาและเครื่องบูชาอื่นๆหยุดไปครึ่งสัปตะผู้ที่จะกระทำให้เกิดความวิบัตินั้นจะมาบนปีกของสิ่งน่าสะอิดสะเอียนจนความอวสานที่ได้กำหนดไว้จะถูก เทลงเหนือผู้กระทำให้เกิดความวิบัตินั้น”

  48. Daniel ดาเนียล 12:11 11And from the time that the regular burnt offering is taken away and the abomination that makes desolate is set up, there shall be 1,290 days.

  49. 11และตั้งแต่เวลาที่ให้เลิกเครื่องเผาบูชาเนืองนิตย์เสียนั้นและให้ตั้งสิ่งที่น่าสะอิดสะเอียนซึ่งกระทำให้เกิดความวิบัติ ขึ้นจะเป็นเวลาหนึ่งพันสองร้อยเก้าสิบวัน

  50. Revelation วิวรณ์ 13:1-18 1And I saw a beast rising out of the sea, with ten horns and seven heads, with ten diadems on its horns and blasphemous names on its heads.

More Related