200 likes | 848 Views
การเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อส่งตรวจ ทางห้องปฏิบัติการ. โดย น.ส.จรวยพร ซุยกุย งานชันสูตรสาธารณสุข โรงพยาบาลลอง. การเก็บตัวอย่างเลือด. Tube ที่ใช้เก็บตัวอย่างเลือดมี 2 แบบ คือ Tube ที่มี anti-coagulant Tube ที่ไม่มี anti-coagulant. Tube ที่มี anti-coagulant.
E N D
การเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการการเก็บตัวอย่างเลือดเพื่อส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ โดย น.ส.จรวยพร ซุยกุย งานชันสูตรสาธารณสุข โรงพยาบาลลอง
การเก็บตัวอย่างเลือด Tube ที่ใช้เก็บตัวอย่างเลือดมี 2 แบบ คือ • Tube ที่มี anti-coagulant • Tube ที่ไม่มี anti-coagulant
Tube ที่มี anti-coagulant • Tube EDTA→ CBC , Plt. count , ESR , OF/DCIP , G-6-PD , Hb. typing, DHF • Tube NaF → FBS , blood sugar
Tube ที่ไม่มี anti-coagulant • Chemistry →cholesterol, triglyceride, BUN, Cr, uric acid, LFT, electrolyte, P, Ca 2+ • Immunology → thyroid hormone, anti-HIV, HBV, RF, VDRL, Widal-Weil felix, Lepto titer • Blood bank→ blood group, cross- matching, Coomb’s test
ปริมาณเลือดที่ต้องการใช้ปริมาณเลือดที่ต้องการใช้
Hemoculture • ผู้ใหญ่เจาะเลือด 3 -10 cc. ใส่ขวดฉลากสีเงิน จุกขวดสีเงิน อลูมิเนียมที่หุ้มปากขวด สีน้ำเงิน เด็ก เจาะเลือด 1-4 cc. ใส่ขวดฉลากสีชมพู จุกขวดสีชมพู อลูมิเนียมที่หุ้มปากขวด สีเงิน • เจาะเลือดห่างกัน 30 นาที ส่ง 2-3 ขวด / ตามแพทย์สั่ง • เขย่าขวดเบาๆให้เลือดผสมกับอาหารเลี้ยงเชื้อเป็นเนื้อเดียวกัน
วิธีการเก็บตัวอย่างเลือดวิธีการเก็บตัวอย่างเลือด 1. Sterile technique 2. ระวังการ clot สาเหตุจาก- ขณะเจาะเลือดเกิดการ clot ใน syringe -ใช้ tube ที่ไม่มี anti-coagulant - ไม่ได้ mix, mix ไม่ถูกวิธีหรือ mix น้อยเกินไป วิธีแก้ไข - ใส่เลือดแล้วปิดฝา → mix เบา ๆ ทันที โดยกลับ tube ไป-มา ประมาณ 20-30 ครั้ง
วิธีการเก็บตัวอย่างเลือด(ต่อ)วิธีการเก็บตัวอย่างเลือด(ต่อ) 3. ระวังการเกิด hemolysis สาเหตุจาก -ไม่ปลดเข็มออกก่อน - ไม่แตะปลาย syringe ข้าง tube - mix แรงเกินไป - tube ไม่แห้ง ไม่สะอาด
ข้อควรระวัง / ข้อแนะนำ 1. กรณีส่ง hemoculture - ห้ามเช็ดฝาขวดด้วย providine - เก็บสิ่งส่งตรวจที่อุณหภูมิห้อง ห้ามแช่ตู้เย็น - ควรระวังการปนเปื้อนให้มากที่สุด ควรเก็บตัวอย่างก่อนให้ antibiotic ทุกชนิด - ห้ามปิดฉลากป้ายชื่อผู้ป่วยทับบริเวณบาร์โค้ด 2. การเจาะเก็บตัวอย่างส่งตรวจทุกชนิด ต้องเป็นข้างที่ไม่ได้ให้สารน้ำ (IV)
ข้อควรระวัง / ข้อแนะนำ(ต่อ) 3. การส่งตรวจ FBS, blood sugar ต้องให้ผู้ป่วยงดอาหารอย่างน้อย 6 ชั่วโมง และการตรวจหาระดับไขมัน เช่น Cholesterol, Triglyceride ต้องให้งดอาหารอย่างน้อย 10 – 12 ชั่วโมง * * การงดอาหาร หมายถึง งดรับประทานอาหารและเครื่องดื่มทุกชนิด ยกเว้น น้ำเปล่า * * 4. การส่งตรวจ Microbilirubin ควรนำ capillary tube ใส่ในขวดสีชาทันทีหลังจากอุดด้วยดินน้ำมันแล้วระวังอย่าให้ถูกแสง
ข้อควรระวัง / ข้อแนะนำ(ต่อ) • การเจาะ / เก็บตัวอย่างส่งตรวจ Calcium ห้ามใช้อุปกรณ์ที่เป็นพลาสติก ให้ใช้ syringe แก้ว และ tube แก้ว 6. กรณีที่แพทย์สั่ง PBS (Peripheral Blood Smear) ให้เจาะเลือดใส่ใน tube EDTA เหมือนการเจาะตรวจ CBC 7. กรณีที่แพทย์สั่ง electrolyte ควบคู่กับ CBC ให้เจาะเลือดใส่ใน tube แก้วที่จะส่งตรวจ electrolyte ก่อนแล้วค่อยใส่เลือดส่วนที่เหลือใน tube CBC เพื่อป้องกันไม่ให้ EDTA ปนเปื้อนลงใน tube ตรวจ electrolyte
ข้อควรระวัง / ข้อแนะนำ(ต่อ) 8. ระบุชื่อ-นามสกุล HN. และ วันที่เก็บตัวอย่างของผู้ป่วยให้ ถูกต้องและชัดเจน ทุกครั้ง อย่าลืม !! ตรวจสอบรายละเอียดในใบนำส่งตรวจและในฉลากป้ายชื่อที่ติดบนภาชนะบรรจุสิ่งส่งตรวจให้ถูกต้องตรงกัน