1.06k likes | 1.95k Views
การพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง (Continuous Quality Improvement:CQI. ดร. วัล ยา ภรณ์ ทังสุภูติ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่. ความหมายการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง??.
E N D
การพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง(Continuous Quality Improvement:CQI ดร.วัลยาภรณ์ ทังสุภูติ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่
ความหมายการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง??ความหมายการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง?? CQI คือ การใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ และความคิดสร้างสรรค์ใน การปรับปรุงระบบรายงาน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้รับผลงานอย่างไม่หยุดยั้ง โดยมุ่งสู่ความเป็นเลิศ
บริบทของสังคม • กระแสสังคมฐานความรู้ (Knowledge-Based Society) • การสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้ (Learning Organization) • ความมุ่งหวังความเป็นเลิศในการบริหารเชิงคุณภาพ (Total Quality Management) • การมุ่งสร้างคุณค่า (Value) ในกระบวนการทำงาน
การกำหนดประเด็นที่จะพัฒนาการกำหนดประเด็นที่จะพัฒนา แผนพัฒนาคุณภาพ แผนยุทธศาสตร์โรงพยาบาล ความต้องการของผู้รับผลงาน ปัญหาภายในหน่วยงาน ความเสี่ยงในหน่วยงาน ผลการวิเคราะห์กระบวนงานหลัก ผลการประเมินความพึงพอใจ อุบัติการณ์ข้อร้องเรียน
คุณภาพของอะไร? คุณภาพของใคร? คุณภาพเชิงสัมพัทธ์ (Relative meaning) : ดีที่สุด ยอดเยี่ยม คุณภาพเชิงสัมบูรณ์ (Absolute meaning) : การเปรียบเทียบกับมาตรฐาน
Do Plan Act Check PDCA
Systematic Approach OUTPUT INPUT PROCESS
วิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ มาตรการ ตัวชี้วัด + เกณฑ์ คุณภาพบริหารจัดการ /บริการ INPUT PROCESS OUTPUT • BSC • การวางระบบงาน • การดำเนินงานตามแผน • การติดตาม กำกับ ทุก ... • การประเมินการดำเนินงาน ทุก ... (เทียบกับเป้าหมาย ตัวบ่งชี้) • Improvement Plan ฯลฯ 3(4) M บรรลุเป้าหมาย ของหน่วยงาน วิสัยทัศน์ พันธกิจ ยุทธศาสตร์ มาตรการ บรรลุเป้าหมาย ของหน่วยงาน ตัวชี้วัด + เกณฑ์ คุณภาพบริหารจัดการ /บริการ
Input – Output Analysis Process Inputs Output
ความหมาย กรณีศึกษา เครื่องมือที่ใช้ประกอบการศึกษา ที่ได้จำลองเอาเหตุการณ์ทั้งหมด ที่เกิดขึ้นจริง/บางส่วน ขององค์กรใดองค์กรหนึ่ง ในช่วงเวลาหนึ่ง โดยมีการลำดับเหตุการณ์หรือสาระสำคัญให้ใกล้เคียงกับความเป็นจริงมากที่สุด
ไม่ใช้ ใช้ปานกลาง ใช้มาก ประวัติความเป็นมาของกรณีศึกษา (Case Study) • ก่อนปี พ.ศ. 2443 (ค.ศ. 1900) Harvard University ได้เอากรณีศึกษา มาใช้ในการศึกษาทางการแพทย์และกฎหมายเป็นครั้งแรก ปรากฏว่าประสบผลสำเร็จเป็นอย่างดี • พ.ศ. 2451(ค.ศ. 1908) Harvard Business School โดย Sean E.F.Gay จึงได้นำเอาวิธีนี้มาใช้ในการเรียนการสอนด้านบริหารธุรกิจและการจัดการ • หลังจากนั้นก็แพร่หลายไปยังมหาวิทยาลัยต่างๆอย่างกว้างขวาง รวมทั้งในประเทศไทย Wharton Yale Stanford Michigan Chicago MIT Berkeley Harvard
กรณีศึกษามีกี่ประเภท?กรณีศึกษามีกี่ประเภท? • กรณีศึกษาที่เป็นจริง (Real Life Cases) 80% • เป็นกรณีศึกษาที่ผู้เขียนขึ้นจากเหตุการณ์จริง หรือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในองค์กร โดยการออกไปดู หรือสัมภาษณ์จากเจ้าของธุรกิจจริง 2. กรณีศึกษาที่เขียนขึ้นเอง (Armchair Cases) 20% เป็นกรณีศึกษาที่เขียนขึ้นมาเอง โดยที่ผู้เขียนสมมุติเหตุการณ์ต่างๆขึ้นมาเอง โดยมิได้ออกไปเก็บข้อมูลจากองค์กร หรือสัมภาษณ์จากเจ้าของธุรกิจจริง
วัตถุประสงค์ของการเรียนโดยใช้กรณีศึกษาวัตถุประสงค์ของการเรียนโดยใช้กรณีศึกษา เพื่อให้ผู้ศึกษามีโอกาสรู้ถึงปัญหาที่เกิดขึ้นจริงในองค์กร เพื่อให้ผู้ศึกษาได้ฝึกฝนการวิเคราะห์ปัญหาองค์กร เพื่อให้ผู้ศึกษาเข้าใจถึงขั้นตอนการตัดสินใจแก้ปัญหาทางธุรกิจ เพื่อให้ผู้ศึกษาได้นำเอาความรู้ในวิชาการต่างๆที่เรียนมาประยุกต์ใช้ในการแก้ไขปัญหา เพื่อฝึกให้ผู้ศึกษาเป็นคนกล้าแสดงความคิดเห็น รวมทั้งการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้อื่น
ขั้นตอนการวิเคราะห์และเขียนรายงานขั้นตอนการวิเคราะห์และเขียนรายงาน 1. เขียนประวัติความเป็นมาและสถานการณ์ปัจจุบัน (Background and Situation) 2. การประเมินสถานการณ์และสิ่งแวดล้อมโดยใช้ SWOTหรือการพิจารณา จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค 3. การกำหนดวัตถุประสงค์ (SettingtheObjectives) 4. การวิเคราะห์ปัญหา หาสาเหตุของปัญหา รวมทั้งเสนอแนวทางใน การแก้ไข (Problem Analysis /CauseIdentification /Alternatives Decision and Implementation ) 5. เสนอแนะข้อคิดเห็นเพิ่มเติม (Comments /Supplement)
ขั้นตอนที่ 1. ประวัติความเป็นมาและสถานการณ์ปัจจุบัน • เขียนความเป็นมาและสถานการณ์ เฉพาะที่สำคัญๆมาย่อๆ • ความยาวไม่ควรเกิน 1 หน้ากระดาษพิมพ์ A4 • เนื้อหาที่เขียนอาจประกอบไปด้วย • สถานที่ตั้ง • ชื่อผู้บริหาร • ชนิดของกิจการขององค์กร • งบประมาณ • ผลการดำเนินงาน • ปัญหาสำคัญๆที่เกิดขึ้น • (ไม่ควรสรุปสั้นจนเกินไป จนอ่านไม่ได้ใจความ)
การพิจารณาจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรค การวิเคราะห์ SWOT เป็นการวิเคราะห์เพื่อพิจารณาถึงศักยภาพขององค์กร และอุปสรรคต่างๆที่อาจจะมีอิทธิพลต่อการดำเนินงานขององค์กรนั้นๆ จุดแข็ง Strengths จุดอ่อน Weaknesses โอกาส Opportunity อุปสรรค Threats
การกำหนดวัตถุประสงค์ (SettingtheObjectives) คือการกำหนดสิ่งที่ต้องการ ที่เป็นเป้าหมายในอนาคตภายหลังจากที่ได้ตัดสินใจใช้กลยุทธ์แก้ไขสาเหตุและปัญหาให้หมดไปแล้ว ในการกำหนดวัตถุประสงค์ จะต้องให้สอดคล้องกับปัญหาแต่ละด้าน และมีจำนวนเท่ากับปัญหาพอดี *ห้ามมีปัญหามากกว่าหรือน้อยกว่าวัตถุประสงค์
การวิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุของปัญหา รวมทั้งเสนอแนวทางในการแก้ไข แบ่งออกเป็นขั้นตอน 3 ขั้น คือ 4.1 การกำหนดปัญหา (IdentifyingProblem) เป็นการนำเอาเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในองค์กร แต่ละด้านมาวิเคราะห์ว่าเหตุการณ์นั้นก่อให้เกิดผลลัพธ์เป็นอย่างไร การกำหนดปัญหา สามารถกำหนดได้ 5 ด้านๆละ 1 ปัญหาเท่านั้น • ด้านการผลิต/บริการ • ด้านการตลาด • ด้านการจัดการ /การบริหาร • ด้านการเงิน • ด้านทรัพยากรมนุษย์
ตัวอย่าง ปัญหาทางด้านการบริหาร ปัญหา : องค์กรขาดการวางแผนและการควบคุมที่ดี ตัวอย่าง ปัญหาทางด้านทรัพยากรบุคคล ปัญหา : องค์กรมีอัตราการโยกย้ายของบุคลากรวิชาชีพพยาบาลสูง
การจัดลำดับความสำคัญของปัญหาการจัดลำดับความสำคัญของปัญหา ปัญหาที่ผู้ศึกษาคิดว่าสำคัญและเร่งด่วนที่สุด ให้เอามาวิเคราะห์เป็นปัญหาที่ 1 ส่วนปัญหาที่ 2 3 4 และ 5 จะมีความสำคัญและเร่งด่วนรองลงมา ให้มาวิเคราะห์ต่อมาตามลำดับ tool: gap analysis
4.2 การระบุสาเหตุของปัญหา (CauseIdentification) คือการหาสาเหตุของปัญหา หรือการที่ก่อให้เกิดปัญหา ในขั้นตอนนี้ ผู้ศึกษาจะต้องหาให้ได้ว่า อะไรเป็นสาเหตุสำคัญ ที่ก่อให้เกิดปัญหานั้นๆ
ปัญหาทางด้านการจัดการปัญหาทางด้านการจัดการ ปัญหา : องค์กรขาดการวางแผนและการควบคุมที่ดี สาเหตุของปัญหา : 1. ผู้บริหารขาดประสบการณ์ ทำให้ไม่เห็นความสำคัญ ของการวางแผน 2. ไม่มีระบบในการควบคุมความเสี่ยง ทำให้การทำงาน ผิดพลาด 3. ฝ่ายบริหารกับฝ่ายพัฒนาระบบบริการทำงานไม่ ประสานกันทำให้เกิดความขัดแย้ง
ปัญหาทางด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลปัญหาทางด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล ปัญหา : อัตราการโยกย้ายของวิชาชีพพยาบาลสูง สาเหตุของปัญหา : 1. อัตราค่าตอบแทนต่ำกว่าเอกชน ทำให้พยาบาลลาออกไป อยู่กับเอกชน 2. สวัสดิการต่างๆมีน้อย ทำให้ขวัญและกำลังใจพยาบาลไม่ ดี 3. สภาพการทำงานมีความเสี่ยง ทำให้พยาบาลกลัวว่า จะได้รับการร้องเรียน อุบัติเหตุจากการพยาบาล
4.3 การกำหนดทางเลือก/แนวทางแก้ไขและตัดสินใจ (Alternatives Decision and Implementation ) หลังจากทราบปัญหาและสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาแล้ว ขั้นตอนต่อมาคือ กำหนดทางเลือกที่จะแก้ไขปัญหา(อาจกำหนดไว้หลายๆทางเลือก) จากทางเลือกที่มีอยู่หลายๆทาง ให้นักศึกษาตัดสินใจเลือก พร้อมทั้งอธิบายเหตุผลที่เลือกทางเหล่านั้น (ทางเลือกใดไม่ได้เลือก ไม่ต้องอธิบาย)
ขั้นตอนที่ 5. ข้อคิดเห็นเพิ่มเติม (Comments / Supplement) เป็นส่วนสุดท้ายของการเขียนรายงาน ให้นักศึกษาชี้แนะหรือให้ข้อคิดเห็นที่จะเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ ในการดำเนินการปรับปรุงแก้ไขในด้านต่างๆ อันจะทำให้การดำเนินงานดีขึ้น (ข้อเสนอแนะหรือความเห็นเพิ่มเติมนี้ จะต้องไม่ซ้ำกับแนวทางแก้ไข ที่ได้แก้ไปแล้ว)
สรุปขั้นตอนการทำรายงานสรุปขั้นตอนการทำรายงาน
1. ความเป็นมาและสถานการณ์ปัจจุบัน ........................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................
2. การวิเคราะห์โดย SWOT • จุดแข็ง(Strength) • 1........................................................................ • 2........................................................................ • 3........................................................................ • 4........................................................................ • จุดอ่อน(Weakness) • 1....................................................................... • 2....................................................................... • 3....................................................................... • 4........................................................................
โอกาส(Opportunity) • 1.................................................................. • 2.................................................................. • 3.................................................................. • 4.................................................................. • อุปสรรค(Threat) • 1................................................................... • 2................................................................... • 3................................................................... • 4...................................................................
3. การกำหนดวัตถุประสงค์ 1. เพื่อ............................................................. 2. เพื่อ............................................................. 3. เพื่อ............................................................. 4. เพื่อ.............................................................. 5. เพื่อ..............................................................
4. การวิเคราะห์ปัญหาและสาเหตุ 4.1 ปัญหาด้านการจัดการ ปัญหา ..................................................................... สาเหตุ 1.................................................................. 2.................................................................. 3.................................................................. การกำหนดทางเลือกเป็นแนวทางแก้ไข 1............................................................. 2............................................................ 3............................................................. การตัดสินใจเลือกทางเลือกและดำเนินการแก้ไข 1........................................................... 2.......................................................... อธิบาย โดยละเอียด อธิบาย โดยละเอียด
4.2 ปัญหาด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล ปัญหา..................................................................... สาเหตุ 1.................................................................. 2.................................................................. การกำหนดทางเลือกเป็นแนวทางแก้ไข 1............................................ 2.......................................... ตัดสินใจเลือกทางเลือกและดำเนินการแก้ไข 1.................................... 2....................................... โดยละเอียด โดยละเอียด
5. ข้อเสนอแนะ/ความคิดเห็นเพิ่มเติม • .............................................................. • .............................................................. • ............................................................... • .............................................................. • ..............................................................
ความหมายของ best practice Best Practice ไว้ว่า คือการปฏิบัติทั้งหลายที่สามารถก่อให้เกิดผลที่เป็นเลิศ หรือวิธีปฏิบัติที่ทำให้องค์กรประสบความสำเร็จ หรือสู่ความเป็นเลิศ (American Productivity and Quality Center ) Best Practice คือ วิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ ในการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งให้สำเร็จ ซึ่งเป็นผลมาจากการนำความรู้ไปปฏิบัติจริง แล้วสรุปความรู้และประสบการณ์นั้น เป็นแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดของตนเอง (บูรชัย ศิริมหาสาคร, 2548) Best Practiceเป็นบทสรุปของวิธีการปฏิบัติที่เป็น Tacit Knowledgeซึ่งเผยแพร่เป็น Explicit Knowledge เพื่อให้ผู้อื่นได้นำไปทดลองปฏิบัติ (วิจารณ์ พาณิช, 2548))
Good Practice ความหมายค่อนข้างกว้าง ใช้ในความหมายเกี่ยวกับการปฏิบัติงานที่มีประสิทธิภาพ แต่ยังไม่มีหลักฐานแน่ชัด หรือแสดงความถูกต้องอย่างชัดเจน จะต้องใช้ข้อมูลเชิงประจักษ์มายืนยันผลงาน • มีผู้ให้ความเห็นเกี่ยวกับ Good Practice คือ • เป็นข้อเสนอแนะ คำแนะนำ แนวทาง • การปฏิบัติงานที่อยู่บนพื้นฐานของความสำเร็จของงาน • เป็นเรื่องเกี่ยวกับ "Why" และ "What" • เป็นความคาดหวังของการปฏิบัติงานโดยทั่ว ๆ ไป • Innovative Practice หมายถึง จุดเน้นและแนวทางการทำงานที่น่าสนใจ แต่ขณะนี้ยังไม่มีตัวชี้วัดใดจะบอกความสำเร็จได้
Good/Best Practices หมายถึง : การดำเนินงานที่เป็นระบบ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ : เป็นวิธีการทำงานที่มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผลสูงสุด สามารถกำหนดเป็นมาตรฐาน : วิธีปฏิบัติ กลยุทธ์ กิจกรรมที่ส่งผลให้องค์กรประสบความสำเร็จและมีผลงานที่ดีกว่าองค์กรทั่วไป
ตรวจสอบการทำงานที่เป็นระบบด้วย DR.MP D – Definable มีการกำหนดเป็นกระบวนการ อธิบายกระบวนการต่างๆได้ R - Repeatable สามารถปฏิบัติซ้ำได้ ไม่ขึ้นกับตัวบุคคลใดบุคคลหนึ่ง M - Measurable สามารถวัดผลการดำเนินการ/คุณค่าจากกิจกรรมต่างๆ ได้ P - Predictable สามารถคาดการณ์ผลลัพธ์ได้
PMQA ตรวจสอบการทำงานที่เป็นระบบด้วย ADLI • A : Approach (แนวทาง) วิธีการเพื่อให้กระบวนการบรรลุผล (ความเหมาะสม ประสิทธิผล ทำซ้ำบน Fact based) • D : Deployment (การนำไปปฎิบัติ) การใช้แนวทางเพื่อตอบสนองข้อกำหนด Consistency ใช้ในทุกหน่วยที่ควรใช้ • L : Learning (การเรียนรู้) การปรับปรุงโดยใช้วงจรการประเมินและปรับปรุงการเปลี่ยนแปลงอย่างก้าวกระโดด นวัตกรรม แบ่งปันความรู้ • I : Integration (บูรณาการ) สอดคล้องกับความต้องการขององค์กร KPI + สารสนเทศ + ระบบการปรับปรุง
ทำไมต้องค้นหา Good/Best Practices ?? • ต้องการตัวอย่างหรือต้นแบบที่ดีเกี่ยวกับแนวทางหรือวิธีการปฏิบัติที่ดีในเรื่องนั้นๆ • ต้องการให้เกิดการปรับปรุงและพัฒนางานให้เกิดประสิทธิภาพประสิทธิผลของงาน • ต้องการให้คนในองค์กรเกิดการเรียนรู้จากบทเรียนประสบการณ์ที่ดีที่ควรเรียนรู้ร่วมกัน • หาเบื้องหลังความสำเร็จ
คุณลักษณะงานของ Best Practice 1. เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับภารกิจโดยตรงของหน่วยงาน 2. สนองต่อนโยบายการแก้ปัญหา 3. การพัฒนาประสิทธิภาพของหน่วยงาน (ลดขั้นตอน ลดรอบระยะเวลาการทำงาน ลดการใช้ทรัพยากร ลดค่าใช้จ่าย) 5. การนำเทคโนโลยีมาใช้ประกอบการทำงาน 6. วิธีการริเริ่มสร้างสรรค์ขึ้นมาใหม่ หรือประยุกต์ขึ้นใหม่ 7. สามารถทำแผนผังเชิงเปรียบวิธีการเก่าและใหม่ และสิ่งที่เป็นวิธีใหม่จะให้ประโยชน์อะไรที่ ดีกว่าวิธีเก่า 8. อำนวยความสะดวกในการใช้ 9. วางระบบในการให้บริการ และมีช่องทางที่หลากหลายในการให้บริการดังกล่าว 10. สามารถเทียบเคียงวิธีการทำงานลักษณะเดียวกันกับหน่วยงานอื่นได้ 11. ผลผลิต/ความสำเร็จเพิ่มขึ้น 12. ความพึงพอใจของผู้รับบริการ หรือผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย 13. สามารถนำไปใช้เป็นมาตรฐานการทำงานต่อไปได้ยั่งยืนพอสมควร 14. การพัฒนาปรับปรุงต่อไป
วิธีปฏิบัติในการพัฒนาคุณภาพที่เป็น Best Practices 1. วิธีปฏิบัติที่ดำเนินการบรรลุผลได้สอดคล้องกับความคาดหวังของชุมชนหรือผู้ป่วยที่มีต่อรพ. หรือเป็นวิธีปฏิบัติที่สร้างความพึงพอใจให้กับทุกคนในสถานศึกษาได้ 2. วิธีปฏิบัติที่ผ่านกระบวนการนำไปใช้อย่างเป็นวงจร จนเห็นผลอย่างชัดเจนว่า ทำให้เกิดคุณภาพสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หรือวิธีปฏิบัตินั้นมีกระบวนการ PDCAจนเห็นแนวโน้มของตัวชี้วัดความสำเร็จที่ดีขึ้น 3. โรงพยาบาลสามารถบอกเล่าถึงวิธีปฏิบัตินั้นได้ว่า “ทำอะไร” (what) “ทำอย่างไร” (how) และ “ทำไมจึงทำ หรือ ทำไมจึงไม่ทำ” (why) 4.ผลลัพธ์จากวิธีปฏิบัติที่เป็นไปตามองค์ประกอบข้อกำหนดของการพัฒนาคุณภาพเชิงระบบ 5.วิธีปฏิบัติที่สามารถระบุได้ว่าเกิดจากปัจจัยสำคัญที่ชัดเจน และปัจจัยนั้นก่อให้เกิดการปฏิบัติที่ต่อเนื่องและยั่งยืน 6.วิธีปฏิบัตินั้นใช้กระบวนการจัดการความรู้(KM) เช่นการเล่าเรื่อง (Storytelling) ในการถอดบทเรียนจากการดำเนินการ
ประโยชน์จากการค้นหา Good/Best Practices • มีตัวอย่าง ต้นแบบที่เป็นวิธีการหรือแนวปฏิบัติที่ดีต่อการพัฒนางาน • เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการทำงาน • มีฐานข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการเทียบเคียงผลงาน • สร้างการเรียนรู้ร่วมกันในองค์กร
การค้นหา Good Practice 1. วิธีปฏิบัติ (Practices) ในการทำงานของเราเป็นอย่างไร2. ผลลัพธ์จากวิธีปฏิบัตินั้นเป็นอย่างไร3. ปัจจัยแห่งความสำเร็จ/ปัจจัยเอื้อคืออะไร
นวัตกรรม (Innovation)(for Quality Improvement)
ความหมายของนวัตกรรม นวัตกรรม (innovation) คือ การผลิต การเรียนรู้ การจัดการความรู้ และการใช้ประโยชน์จากความคิดใหม่ เพื่อให้เกิดผลดีทางเศรษฐกิจและสังคม รวมถึงการกำเนิดผลิตภัณฑ์ การบริการ กระบวนการผลิตใหม่ การปรับปรุงเทคโนโลยี การแพร่กระจายเทคโนโลยี และการใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์และเกิดผลพวงทางเศรษฐกิจและสังคม
คุณลักษณะนวัตกรรมในองค์กรคุณลักษณะนวัตกรรมในองค์กร • นวัตกรรม จะเป็นผลิตภัณฑ์ กระบวนการ หรือขั้นตอน ที่ “จับต้องใช้ได้” ภายในองค์กร สำหรับ “ความคิดใหม่” อาจเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของนวัตกรรม แต่ไม่อาจเรียกว่าเป็นนวัตกรรมได้ • นวัตกรรม จะต้องมีความใหม่ในระดับกลุ่ม ฝ่าย หรือองค์กร ในขณะที่บางครั้งอาจจะไม่จำเป็นต้องใหม่ในระดับบุคคลที่สร้างนวัตกรรมนั้นๆ • นวัตกรรม ต้องมาจาก “ความตั้งใจ” ที่ต้องการให้เกิดขึ้น มากกว่าจะเกิดขึ้นโดยบังเอิญ • นวัตกรรม จะต้องไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเป็นประจำ เช่น การรับสมัครพนักงานใหม่ • นวัตกรรม จะต้องมีเป้าหมายเพื่อสร้างผลกำไรให้แก่องค์กร หรือก่อเกิดประโยชน์ให้แก่สังคมในวงกว้าง ทั้งนี้นวัตกรรมจะไม่รวมถึงการทำลายล้าง วินาศกรรรม หรือการก่อการร้าย นวัตกรรม จะต้องส่งผลกระทบที่ดีต่อสาธารณะ การเปลี่ยนแปลงของบุคคลใดบุคคลหนึ่งที่ไม่เกิดผลต่อบุคคลอื่น หรือไม่เกิดการประยุกต์ใช้ภายในองค์กร จะไม่ถือว่าเป็นนวัตกรรม
Routine to Research:R2R ดร.วัลยาภรณ์ ทังสุภูติ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดแพร่