1 / 18

บทที่ 3 การบัญชีเกี่ยวกับวัตถุดิบ

บทที่ 3 การบัญชีเกี่ยวกับวัตถุดิบ. วัตถุดิบ( Material ) หมายถึง ส่วนประกอบสำคัญที่ใช้ในการผลิตสินค้า และกลายเป็นส่วนหนึ่งของสินค้าสำเร็จรูป วัตถุดิบสามารถจำแนกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ - DM -IDM ในกระบวนการสั่งซื้อจะมีเอกสารที่เกี่ยวข้องคือ - ใบขอซื้อ ( Purchase Requisition )

Download Presentation

บทที่ 3 การบัญชีเกี่ยวกับวัตถุดิบ

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. บทที่ 3 การบัญชีเกี่ยวกับวัตถุดิบ

  2. วัตถุดิบ(Material) หมายถึง ส่วนประกอบสำคัญที่ใช้ในการผลิตสินค้า และกลายเป็นส่วนหนึ่งของสินค้าสำเร็จรูป วัตถุดิบสามารถจำแนกได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ -DM -IDM ในกระบวนการสั่งซื้อจะมีเอกสารที่เกี่ยวข้องคือ -ใบขอซื้อ (Purchase Requisition) -ใบสั่งซื้อ (Purchase Order) -ใบรับของ (Receiving Report) ส่วนการเบิกวัตถุดิบมีการกำหนดให้จัดทำใบเบิกวัตถุดิบ(Requisition for Use)

  3. การคำนวณต้นทุนและการบันทึกบัญชีเกี่ยวกับการจัดหาวัตถุดิบการคำนวณต้นทุนและการบันทึกบัญชีเกี่ยวกับการจัดหาวัตถุดิบ ต้นทุนของวัตถุดิบ ได้แก่ ราคาที่ซื้อวัตถุดิบบวกค่าขนส่งเข้า ค่าเบี้ยประกันภัย และค่าใช้จ่ายในการจัดหาวัตถุดิบ และอื่น ๆ แต่ในทางปฏิบัติการคำนวณต้นทุนวัตถุดิบและค่าใช้จ่ายในการจัดหาวัตถุดิบนอกเหนือจากราคาซื้อของวัตถุดิบจะมีความไม่สะดวกเนื่องจากกิจการมักจะมีวัตถุดิบหลายชนิดที่แตกต่างกัน จึงทำให้เกิดปัญหาในการคำนวณต้นทุนวัตถุดิบ รายการดังกล่าว ได้แก่ 1. ค่าขนส่งวัตถุดิบ (Transportation-in หรือ Freight-in) 2. ค่าภาชนะวัตถุดิบ (Containers) 3. ส่วนลดรับ (Purchase Discount) 4. ค่าใช้จ่ายในการจัดหาวัตถุดิบ (Material handing charges)

  4. วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการคำนวณต้นทุนและการบันทึกบัญชีเกี่ยวกับการจัดหาวัตถุดิบในแต่ละกรณีเป็นดังนี้ วิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการคำนวณต้นทุนและการบันทึกบัญชีเกี่ยวกับการจัดหาวัตถุดิบในแต่ละกรณีเป็นดังนี้ 1. ค่าขนส่งเข้าวัตถุดิบ(Transportation-in หรือ Freight-in) การบันทึกค่าขนส่งเข้ามี 2 วิธี 1.1 การบันทึกค่าขนส่งเข้าเป็นต้นทุนของวัตถุดิบ เป็นวิธีที่ทำให้ต้นทุนวัตถุดิบใกล้เคียงกับความเป็นจริง และเป็นวิธีที่เหมาะสมวิธีบันทึกรายการเมื่อจ่ายค่าขนส่ง Dr. วัตถุดิบ xx Cr. เงินสด/ค่าขนส่งค้างจ่าย xx

  5. 1.2 การบันทึกค่าขนส่งเป็นค่าใช้จ่ายโรงงาน เนื่องจากกิจการซื้อวัตถุดิบหลายชนิดและแตกต่างกัน การคำนวณค่าขนส่งให้กับวัตถุดิบแต่ละชนิดจะต้องเสียเวลาในการคำนวณในแต่ละคราว ดังนั้นในทางปฏิบัติกิจการที่มีจำนวนค่าขนส่งเป็นจำนวนไม่มาก อาจทำการรวมรายการค่าขนส่งไว้ในบัญชีค่าใช้จ่ายโรงงานก็ได้ Dr. คุมยอดค่าใช้จ่ายโรงงาน xx Cr. เงินสด xx

  6. 2. ส่วนลดรับ (Purchase Discount) มี 2 วิธี ดังนี้ 2.1 วิธีบันทึกวัตถุดิบในราคาสุทธิเมื่อซื้อวัตถุดิบจะบันทึกบัญชีคุมยอดวัตถุดิบและบัญชีย่อยวัตถุดิบด้วยราคาที่หักส่วนลดรับแล้ว และจะแสดงรายการส่วนลดรับสูญในกรณีไม่สามารถได้รับส่วนลด 2.2 วิธีบันทึกวัตถุดิบตามราคาในใบกำกับสินค้า จะบันทึกราคาวัตถุดิบตามใบกำกับสินค้า ซึ่งเป็นราคาก่อนหักส่วนลดรับ Dr. เจ้าหนี้ xx Dr.ส่วนลดรับสูญ xx Cr. เงินสด xx Dr. เจ้าหนี้ xx Cr. เงินสด xx Cr.วัตถุดิบ xx

  7. 3. ค่าภาชนะบรรจุ (Containers) 3.1 การจ่ายค่ามัดจำภาชนะบรรจุ ไม่ถือเป็นต้นทุน ให้บันทึกเป็นลูกหนี้เงินมัดจำภาชนะบรรจุ • เมื่อซื้อวัตถุดิบพร้อมจ่ายค่ามัดจำภาชนะบรรจุ • 2) เมื่อคืนภาชนะบรรจุพร้อมรับเงินมัดจำคืน • Dr. เงินสด xx • Cr. ลูกหนี้- เงินมัดจำภาชนะบรรจุ xx Dr. วัตถุดิบ xx Dr. ลูกหนี้- เงินมัดจำภาชนะบรรจุ xx Cr. เจ้าหนี้การค้า xx

  8. 3.2.ค่าภาชนะบรรจุเป็นหน่วยสินค้า ให้ถือเป็นต้นทุนการผลิต (ต้นทุนสินค้าหมายรวมถึงค่าภาชนะที่ทำให้สินค้านั้นอยู่ในสภาพพร้อมที่จะขาย) Dr. งานระหว่างทำ xx Dr. คุมยอดOH xx Cr. วัตถุดิบ xx 3.3. ค่าภาชนะบรรจุของสินค้าเพื่อประโยชน์ในการขนส่งสินค้าให้แก่ลูกค้า ไม่ถือเป็นต้นทุนการผลิตสินค้า แต่ให้บันทึกเป็นค่าใช้จ่ายการขาย Dr. ค่าใช้จ่ายในการขาย xx Cr.วัตถุดิบ xx

  9. 4. ค่าใช้จ่ายอื่นในการจัดหาวัตถุดิบ (Material handing Charges) เช่น ค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อ สั่งซื้อ ค่านายหน้า ค่าระวาง ค่าภาษีอากร และอื่น ๆ เพื่อให้ต้นทุนวัตถุดิบเป็นต้นทุนที่ถูกต้อง ( เดบิตวัตถุดิบ ) ในกรณีที่มีความยุ่งยากและค่าใช้จ่ายในการจัดหาวัตถุดิบมีจำนวนไม่มากให้ถือเป็นค่าใช้จ่ายโรงงานเพื่อความสะดวกในทางปฏิบัติ (เดบิตคุมยอดค่าใช้จ่ายโรงงาน)

  10. การคำนวณต้นทุนวัตถุดิบที่เบิกใช้ในการผลิตการคำนวณต้นทุนวัตถุดิบที่เบิกใช้ในการผลิต มีวิธีคำนวณต่าง ๆ ดังนี้ 1. วิธีคิดเฉพาะเจาะจง (Specific Identification Method) 2. วิธีถัวเฉลี่ย (Average Method) 3. วิธีเข้าก่อนออกก่อน (First-in First-out หรือ FIFO Method) วิธีอื่น

  11. 1. วิธีคิดเฉพาะเจาะจง (Specific Identification Method) คำนวณต้นทุนวัตถุดิบที่เบิกใช้ในการผลิตตามข้อเท็จจริงเป็นสำคัญ คือเบิกรายการไหนวัตถุดิบรายการนั้นก็จะเป็นต้นทุนการผลิตสินค้านั้น ๆ วิธีนี้จึงเหมาะกับกิจการที่มีวัตถุดิบซึ่งมีลักษณะเฉพาะ นั่นคือวัตถุดิบแต่ละประเภทแตกต่างกัน 2. วิธีถัวเฉลี่ย (Average Method) ราคาที่ซื้อแต่ละครั้งต่างกัน แต่เมื่อมีการเบิกใช้วัตถุดิบจะคำนวณให้เฉลี่ยเท่า ๆ กัน ราคาถัวเฉลี่ยต่อหน่วย = ต้นทุนวัตถุดิบคงเหลือ + ต้นทุนวัตถุดิบที่ซื้อมาครั้งใหม่ จำนวนวัตถุดิบที่คงเหลือ + จำนวนวัตถุดิบที่ซื้อใหม่

  12. 3. วิธีเข้าก่อนออกก่อน(First-in First-out หรือ FIFO Method) แนวความคิดที่ว่า วัตถุดิบที่ซื้อมาก่อน ควรนำมาเพื่อใช้ผลิตก่อน ส่วนวัตถุดิบที่ซื้อมาทีหลังก็ควรถูกใช้ทีหลังเช่นกัน วิธีนี้เหมาะกับวัตถุดิบที่มีอายุการใช้งาน หรือวัตถุที่เสื่อมสภาพ

  13. วิธีอื่น ได้แก่การคำนวณราคาวัตถุดิบตามราคามาตรฐาน ราคาตลาด เป็นต้น 1) ราคามาตรฐาน (Standard Price) เป็นการคำนวณวัตถุดิบที่เบิกใช้ตามราคาวัตถุดิบที่กำหนดไว้เป็นมาตรฐาน เหมาะกับกิจการอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่มีวัตถุดิบหลายชนิดลักษณะการผลิตซับซ้อน 2) ราคาตลาด (Market Price) การคำนวณราคาวัตถุดิบด้วยราคาตลาดจะเหมาะสมกับกรณีที่วัตถุดิบมีราคาตลาดทราบได้โดยง่าย เช่น ถั่วเหลือง ข้าว ปูนซีเมนต์ วิธีคำนวณราคา วัตถุดิบด้วยราคาตลาดจะทำให้ต้นทุนการผลิตใกล้เคียงกับราคาปัจจุบัน แต่ข้อเสียของราคาตลาดคือ ไม่มีหลักฐานแน่ชัด และยังไม่เป็นที่ยอมรับ

  14. การตีราคาวัตถุดิบและการตรวจนับการตีราคาวัตถุดิบและการตรวจนับ 1. การตีราคาวัตถุดิบ หากกิจการมีการตีราคาวัตถุดิบตามวิธีราคาทุน ในบางครั้งราคาตลาดของวัตถุดิบมีมูลค่าต่ำกว่าราคาทุนของวัตถุดิบที่กิจการตีราคา ณ วันสิ้นงวด ซึ่งทำให้กิจการต้องเลือกตีราคาวัตถุดิบโดยใช้ราคาทุนหรือตลาดแล้วแต่ราคาใดจะต่ำกว่ากัน วิธีตีราคาทุนหรือตลาดแล้วแต่ราคาใดจะต่ำกว่าสามารถทำได้ 3 วิธี 1) วิธีตีราคาทุนหรือตลาดแล้วแต่ราคาใดจะต่ำกว่าโดยพิจารณาแต่ละรายการ (Lower of Cost or Market by Item) 2) วิธีตีราคาทุนหรือราคาตลาดแล้วแต่ราคาใดจะต่ำกว่าโดยพิจารณาจากยอดรวมของวัตถุดิบ (Lower of Total Cost or Total Market) 3) วิธีการตีราคาทุนหรือราคาตลาดแล้วแต่ราคาใดจะต่ำกว่าโดยพิจารณาตามกลุ่มของประเภทวัตถุดิบ (Lower of Total Cost or Total Market by group)

  15. วิธีตีราคาทุนหรือราคาตลาดแล้วแต่ราคาใดจะต่ำกว่าโดยพิจารณาตามกลุ่มของประเภทวัตถุดิบ ในกรณีที่ราคาตลาดสูงกว่าราคาทุนก็ไม่จำเป็นต้องทำการปรับปรุงใดๆ แต่ถ้าราคาตลาดของวัตถุดิบต่ำกว่าราคาทุนกิจการแสดงมูลค่าวัตถุดิบในงบแสดงฐานะทางการเงินด้วยราคาตลาดที่ต่ำกว่าทุน หมายความว่า ต้องมีการปรับมูลค่าวัตถุดิบที่เป็นราคาทุนให้ต่ำลงมาเท่ากับราคาตลาดโดยสามารถทำการบันทึกบัญชีได้ 2 วิธีดังนี้ 1. วิธีปรับลดราคาวัตถุดิบโดยใช้บัญชีปรับมูลค่า 2. วิธีปรับลดราคาวัตถุดิบโดยตรง Dr. คุมยอดค่าใช้จ่ายโรงงาน xx Cr. ค่าเผื่อ/เงินกันไว้เพื่อลดราคาวัตถุดิบxx Dr. คุมยอดค่าใช้จ่ายโรงงาน xx Cr. วัตถุดิบxx

  16. 2. การตรวจนับวัตถุดิบ เมื่อมีการตรวจนับวัตถุดิบคงเหลือปลายงวด และทราบว่าปริมาณวัตถุดิบที่ทำการตรวจนับมีจำนวนแตกต่างกับปริมาณวัตถุดิบที่แสดงในบัตรวัตถุดิบ กิจการต้องบันทึกรายการปรับปรุงยอดในบัญชีวัตถุดิบให้ตรงกับยอดที่ตรวจนับได้ด้วยวิธีดังนี้ 1) ปริมาณวัตถุดิบที่ทำการตรวจนับมีจำนวนน้อยกว่าปริมาณวัตถุดิบที่แสดงในบัตรวัตถุดิบ หรือเกิดการสูญหายของวัตถุดิบ Dr. คุมยอดค่าใช้จ่ายโรงงาน xx Cr. วัตถุดิบ xx

  17. 2) ปริมาณวัตถุดิบที่ทำการตรวจนับมีจำนวนมากกว่าปริมาณวัตถุดิบที่แสดงในบัตรวัตถุดิบหรือไม่ได้บันทึกรายการข่ายวัตถุดิบ คำนวณตัวเลขผิดพลาดในการบันทึกรายการ เป็นต้น Dr. วัตถุดิบ xx Cr. คุมยอดค่าใช้จ่ายโรงงาน xx

  18. วัตถุดิบเสื่อมคุณภาพ กิจการควรมีการโอนวัตถุดิบดังกล่าวออกไปจากบัญชีวัตถุดิบโดยถือเป็นค่าใช้จ่ายโรงงาน (ผลขาดทุนจากสินค้าเสื่อมคุณภาพล้าสมัย) และหากวัตถุดิบดังกล่าวคาดว่าจะขายได้ การบันทึกบัญชีเป็นดังนี้ Dr. คุมยอดค่าใช้จ่ายโรงงาน xx สินค้าวัตถุดิบเสื่อมคุณภาพล้าสมัย xx Cr. วัตถุดิบ xx

More Related