1 / 35

CHAPTER 16

CHAPTER 16. Scheduling การจัดกำหนดการ. ลำดับขั้นตอนการวางแผนการผลิต. แผนการผลิตรวม. ตารางการผลิตหลัก. แผนความต้องการวัสดุ. การจัดกำหนดการ. การจัดลำดับงาน (Sequencing). งานใดมอบหมายมาก่อนให้ทำก่อน (first-come first-served, FCFS)

avent
Download Presentation

CHAPTER 16

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. CHAPTER 16 Scheduling การจัดกำหนดการ

  2. ลำดับขั้นตอนการวางแผนการผลิตลำดับขั้นตอนการวางแผนการผลิต แผนการผลิตรวม ตารางการผลิตหลัก แผนความต้องการวัสดุ การจัดกำหนดการ

  3. การจัดลำดับงาน (Sequencing) • งานใดมอบหมายมาก่อนให้ทำก่อน (first-come first-served, FCFS) • งานใดมอบหมายมาทีหลังให้ทำก่อน (last-come first served, LCFS) • งานใดที่ถึงกำหนดส่งงานก่อนให้ทำก่อน (earliest due date, EDD) • งานใดที่มีความสำคัญมากให้ทำก่อน (highest customer priority, CUSTPR) • งานใดที่มีการปรับตั้งเครื่องจักรคล้ายกับงานที่กำลังทำอยู่ให้ทำก่อน (SETUP) • งานใดที่มีเวลาที่ล่าช้าได้ (SLACK) น้อยที่สุดให้ทำก่อน โดย เวลาที่ล่าช้า (Slack) = (วันที่กำหนดส่งงาน – วันที่วันนี้) – เวลาที่ใช้ทำงานนั้น

  4. การจัดลำดับงาน (Sequencing) • งานใดที่มีอัตราส่วนวิกฤตน้อยที่สุดให้ทำก่อน (Critical ratio, CR) โดย CR คือ เวลาที่เหลือ = วันที่กำหนดส่งงาน – วันที่วันนี้ งานที่เหลือ เวลาการทำงานที่เหลือ ถ้า CR มีค่าน้อยกว่า 1 แสดงว่างานนั้นจะเสร็จหลังกำหนด ถ้า CR มีค่ามากกว่า 1 แสดงว่างานนั้นเสร็จภายในกำหนด ถ้า CR มีค่าเท่ากับ 1 แสดงว่างานนั้นเสร็จในวันส่งพอดี • งานใดใช้เวลาทำสั้นที่สุดให้ทำก่อน (shortest processing time, SPT) • งานใดใช้เวลาทำนานที่สุดให้ทำก่อน (longest processing time, LPT)

  5. ดัชนีวัดการมอบหมายงานดัชนีวัดการมอบหมายงาน • เวลาที่ใช้ในการทำงานจนเสร็จ (completion time or flow time) • เวลางานล่าช้า (tardiness) คือ ผลต่างระหว่างวันกำหนดส่งและวันที่ทำงานเสร็จจริง

  6. การจัดลำดับงาน (Sequencing) • การจัดลำดับงานเมื่อมีงาน n งาน สำหรับคน/เครื่องจักร 1 เครื่อง • การจัดลำดับงานเมื่อมีงาน nงาน สำหรับคน/เครื่องจักร m เครื่อง • การจัดลำดับงานเมื่อมีงาน nงาน ที่จะต้องผ่านคน/เครื่องจักร 2 เครื่องตามลำดับ

  7. ตัวอย่าง นักศึกษาคนหนึ่งมีรายงานที่จะต้องทำ 5 งาน คือ A, B, C, D และ E (เรียงตามลำดับที่อาจารย์สั่งงาน) โดยมีกำหนดส่งในวันที่ 22, 7, 11, 20 และ 9 ตามลำดับ เนื่องจากความยากง่ายต่างกัน นักศึกษาจึงประมาณการเวลาที่จะใช้ในการทำรายงานคือ 9, 3, 5, 6 และ 2 วัน นักศึกษาควรจัดลำดับงานอย่างไร ถ้าพิจารณากฎดังนี้ • First-come first serve (FCFS) • Earliest due date (EDD) • Minimum slack (SLACK) • Shortest processing time (SPT) • Critical ratio (CR)

  8. ตัวอย่าง นักศึกษาคนหนึ่งมีรายงานที่จะต้องทำ 5 งาน คือ A, B, C, D และ E (เรียงตามลำดับที่อาจารย์สั่งงาน) โดยมีกำหนดส่งในวันที่ 22, 7, 11, 20 และ 9 ตามลำดับ เนื่องจากความยากง่ายต่างกัน นักศึกษาจึงประมาณการเวลาที่จะใช้ในการทำรายงานคือ 9, 3, 5, 6 และ 2 วัน

  9. 1. First-come first serve (FCFS)

  10. 2. Earliest due date (EDD)

  11. 3. Minimum slack (SLACK)

  12. 4. Shortest processing time (SPT)

  13. 5. Critical ratio (CR) ควรทำ C เป็นงานแรก ใช้เวลา 5 วัน ควรทำ B เป็นงานต่อไป ใช้เวลา 3 วัน เสร็จวันที่ 8

  14. 5. Critical ratio (CR) ควรทำ E เป็นงานต่อไป ใช้เวลา 2 วัน เสร็จวันที่ 10 ควรทำ A เป็นงานต่อไป ใช้เวลา 9 วัน เสร็จวันที่ 19

  15. 5. Critical ratio (CR)

  16. เปรียบเทียบการจัดลำดับ 5 แบบ SPT EDD SLACK CR FCFS

  17. กฎในการเลือกการจัดการลำดับงานกฎในการเลือกการจัดการลำดับงาน • FCFS เหมาะในกรณีที่มีกำลังการผลิตเหลือไม่เหมาะในกรณีมีเวลาจำกัด • EDD เหมาะในกรณีที่สามารถยอมรับการทำงานล่าช้าเล็กน้อย • SLACK ควรใช้ในกรณีดำเนินงานตามปกติ • LPT นำมาใช้ในกรณีมีการคาดการณ์ไว้ล่วงหน้า • SPT นำมาใช้กรณีมีงานแออัดมาก โดยทำงานที่สั้นก่อน

  18. การจัดลำดับงาน (Sequencing) • การจัดลำดับงานเมื่อมีงาน n งาน สำหรับคน/เครื่องจักร 1 เครื่อง • การจัดลำดับงานเมื่อมีงาน nงาน สำหรับคน/เครื่องจักร m เครื่อง • การจัดลำดับงานเมื่อมีงาน nงาน ที่จะต้องผ่านคน/เครื่องจักร 2 เครื่องตามลำดับ

  19. ตัวอย่าง จงจัดตารางการผลิตของงาน 10 งาน บนหน่วยผลิต 3 หน่วยที่เหมือนกัน โดยวิธีต่างๆ ดังนี้ • Shortest processing time (SPT) • Longest processing time (LPT) • Earliest due date (EDD) • Minimum slack (SLACK)

  20. 1. Shortest processing time (SPT) 3 1 5 3 10 9 2 หน่วยผลิต 2 6 7 8 4 1 2 4 6 8 10 12 14 16 18

  21. 1. Shortest processing time (SPT)

  22. 2. Longest processing time (LPT) 2 1 3 10 3 5 8 7 หน่วยผลิต 2 4 9 6 1 2 4 6 8 10 12 14 16 18

  23. 2. Longest processing time (LPT) เรียงลำดับงานในแต่ละเครื่องใหม่ โดยเรียงจากมากไปหาน้อย 10 3 1 2 3 7 8 5 หน่วยผลิต 2 3 2 1 3 10 6 9 4 1 หน่วยผลิต 2 5 8 7 2 4 6 8 10 12 14 16 18 1 4 9 6 2 4 6 8 10 12 14 16 18

  24. 2. Longest processing time (LPT)

  25. 3. Earliest due date (EDD) 1 5 9 3 หน่วยผลิต 2 10 2 4 1 6 7 8 3 2 4 6 8 10 12 14 16 18

  26. 3. Earliest due date (EDD)

  27. 4. Minimum slack (SLACK) 6 4 10 9 3 2 7 8 หน่วยผลิต 2 1 5 3 1 2 4 6 8 10 12 14 16 18

  28. 4. Minimum slack (SLACK)

  29. เปรียบเทียบการจัดลำดับ 4 แบบ

  30. การจัดลำดับงาน (Sequencing) การจัดลำดับงาน กรณีมีงานหลายงานที่ต้องผ่านการทำงานโดย คน/เครื่องจักรสองเครื่องตามลำดับ สามารถทำได้โดยวิธีจอนห์สัน ดังนี้ • เวลาในการทำงาน (รวมเวลาทำงานจริงและเวลาตั่งเครื่องจักร) ต้องเป็นค่าคงที่ • เวลาการทำงานต้องเป็นอิสระต่อลำดับการทำงาน • งานทุกงานต้องผ่านทั้งสองขั้นตอนตามลำดับเหมือน ๆ กัน • ไม่สามารถใช้ลำดับความสำคัญของงานมาจัดลำดับได้ • ชิ้นงานทุกชิ้นในการทำงานแรกต้องเสร็จทุกชิ้นก่อน จึงผ่านไปลำดับต่อไปได้

  31. ตัวอย่าง งาน 5 งานซึ่งต้องผ่านขั้นตอนการผลิตในสองสถานีงานต่อเนื่องกันจัดลำดับงานที่จะทำให้เวลาทำงานเสร็จรวมต่ำที่สุด โดยกำหนดเวลาการทำงานแต่ละงานดังนี้

  32. งานแรกที่มีเวลาทำงานต่ำที่สุด B อยู่สถานีงานที่ 2 • งานที่มีเวลาทำงานรองมา A อยู่สถานีงานที่ 1 • งานที่มีเวลาทำงานรองมา C และ D เท่ากันอยู่สถานีงานที่ 1 และ 2 • งานที่เหลือ E อยู่สถานีงานที่ 2

  33. Sequencing 6 13 23 35 43 33 6 17 25 35 42 45 ดังนั้น เวลาที่ใช้ทำงานทั้งหมด 5 งานจนเสร็จอยู่ที่ 45 ชั่วโมง วิธีนี้เหมาะในการหาเวลาโดยรวมและเวลาว่างงานสั้นสุด แต่ไม่ได้คำนึงว่าจะสามารถผลิตได้ทันเวลาตามกำหนดส่งงานหรือไม่

  34. บริษัทแห่งหนึ่งรับงานมา 5 งาน โดยแต่ละงานจะต้องผ่าน 2 เครื่องจักร มีเครื่องเจาะและเครื่องกลึง เวลาที่ใช้ดังตาราง

  35. 0 3 10 20 28 33 35 0 3 9 10 22 29 33

More Related