1 / 38

ผู้วิจัย นายเกียรติ วัฒน์ วัชญากาญจน์ สังกัด ภาควิชาพลศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตศรีสะ เกษ ปีที่ว

รายงานการวิจัย เรื่อง การศึกษาสภาพปัญหาการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู นักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาพลศึกษา สถาบันการพลศึกษา ( A Study Problems Conditions of Internships Student Majoring Physical Education in the Faculty of Education , Institute of Physical Education. ). ผู้วิจัย

arabela
Download Presentation

ผู้วิจัย นายเกียรติ วัฒน์ วัชญากาญจน์ สังกัด ภาควิชาพลศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตศรีสะ เกษ ปีที่ว

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. รายงานการวิจัยเรื่องการศึกษาสภาพปัญหาการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู นักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาพลศึกษา สถาบันการพลศึกษา(A Study Problems Conditions of Internships Student Majoring Physical Education in the Faculty of Education, Institute of Physical Education.)

  2. ผู้วิจัย นายเกียรติวัฒน์วัชญากาญจน์สังกัด ภาควิชาพลศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ สถาบันการพลศึกษา วิทยาเขตศรีสะเกษปีที่วิจัย : 2553

  3. สภาพปัจจุบันและปัญหา สถาบันการพลศึกษา ได้เริ่มดำเนินการเปิดการเรียนการสอนตามหลักสูตรการผลิตครู 5 ปี ของคณะศึกษาศาสตร์ สถาบันการพลศึกษา มาตั้งแต่ ปีการศึกษา 2548 จนกระทั่งปัจจุบัน โดยได้กําหนดให้มีการจัดการศึกษา หลักสูตรสาขาวิชาพลศึกษา ที่มุ่งเน้นผลิตบัณฑิตเพื่อออกไปเป็นครูพลศึกษา ในสถานศึกษาระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน

  4. จากโครงสร้างหลักสูตรจะเห็นได้ว่า ในชั้นปีที่ 5 นักศึกษาจะต้องออกไปฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู ในสถานศึกษาจริง เป็นระยะเวลา 2 ภาคเรียนหรือ 1 ปีการศึกษาที่เรียกว่า “การฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู” เพื่อให้นักศึกษามีโอกาสได้รับประสบการณ์ตรงและจะได้นำเอาความรู้ทางทฤษฎีและภาคปฏิบัติไปใช้ในการจัดประสบการณ์การเรียนรู้ ซึ่งพอสรุปได้เป็น 2 ภาค คือ 1. ภาคทฤษฎี ประกอบด้วย 1.1 ความรู้พื้นฐานทางวิชาการ 1.2 วิชาการเฉพาะ 1.3 วิชาชีพครู

  5. 2. ภาคปฏิบัติ เมื่อนักศึกษาได้ศึกษาภาคทฤษฎีครบตามหลักสูตรที่กำหนดไว้ยังมีวิชาที่สำคัญที่สุดของการเป็นครู นั่นคือ “การฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู” ทั้งนี้เพื่อให้ได้มีโอกาสรับประสบการณ์ตรงในด้านการสอน รวมไปถึงการรู้จักรับผิดชอบหน้าที่การงาน อีกทั้งเป็นการพัฒนาบุคลิกภาพส่วนตัวไปพร้อมๆ กันด้วย

  6. นับตั้งแต่สถาบันการพลศึกษา ได้ส่งนักศึกษา ชั้นปีที่ 5 ออกไปฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู ตั้งแต่ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2550 เป็นรุ่นแรก จนกระทั่งปัจจุบันนี้ เป็นรุ่นที่ 4

  7. ในฐานะที่ผู้วิจัยได้ทำหน้าที่เป็นอาจารย์ประจำหลักสูตรและอาจารย์นิเทศก์นักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูในสถาบันการพลศึกษา จากปัญหาที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู

  8. จึงได้ดำเนินการจัดทำการวิจัย เรื่อง การศึกษาสภาพปัญหาการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู นักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาพลศึกษา สถาบันการพลศึกษา • ซึ่งคาดว่าผลของการวิจัยที่ได้รับจะเป็นแนวทางที่เหมาะสมในการปรับปรุงแก้ไขปัญหาการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู นักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาพลศึกษา สถาบันการพลศึกษา ซึ่งจะนำไปสู่การผลิตครูพลศึกษาที่ตรงตามนโยบายของรัฐบาลในการปฏิรูปการศึกษาและการปฏิรูปการผลิตครูแนวใหม่ในอนาคตต่อไป

  9. วัตถุประสงค์ของการวิจัยวัตถุประสงค์ของการวิจัย เพื่อศึกษาสภาพปัญหาการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู ของนักศึกษา คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาพลศึกษา สถาบันการพลศึกษา

  10. ประชากรที่ใช้ในการวิจัยประชากรที่ใช้ในการวิจัย นักศึกษา อาจารย์นิเทศ และอาจารย์พี่เลี้ยง การฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาพลศึกษา สถาบันการพลศึกษา ภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2553 จาก 17 วิทยาเขต

  11. กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษา อาจารย์นิเทศ และอาจารย์พี่เลี้ยง การฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู คณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาพลศึกษา สถาบันการพลศึกษา ภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2553 จำนวน 4 วิทยาเขต • โดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม (Cluster or Area Random Sampling)จากการแบ่งกลุ่มวิทยาเขต 17 วิทยาเขตเป็น 4 กลุ่มตามเขตภูมิศาสตร์ แล้วสุ่มโดยจับสลากภายในแต่ละกลุ่มเหลือกลุ่มละ 1 วิทยาเขต ดังนี้ วิทยาเขตกรุงเทพ วิทยาเขตเชียงใหม่ วิทยาเขตกระบี่ และวิทยาเขตศรีสะเกษ

  12. นักศึกษา จำนวน 189 คน • อาจารย์นิเทศก์ จำนวน 74 คน • อาจารย์พี่เลี้ยงจำนวน 92 คน

  13. เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นมาตรประมาณค่า 5 ระดับ โดยผ่านการตรวจแก้ไขจากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 3 คน มีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ 0.89, 0.88 และ 0.90 ตามลำดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (x) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)

  14. ผลการวิจัย พบว่า สภาพปัญหาการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูของนักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาพลศึกษา สถาบันการพลศึกษา ตามความคิดเห็นของนักศึกษา

  15. ด้านการปฐมนิเทศ การสัมมนา และการปัจฉิมนิเทศ มีสภาพปัญหาในระดับน้อย ค่าเฉลี่ย (x= 2.80, S.D. = .66) • ด้านการเรียนการสอนกลุ่มสาระสุขศึกษาและพลศึกษา (สาระพลศึกษา) มีสภาพปัญหาในระดับน้อย ค่าเฉลี่ย (x= 2.38, S.D. = .34)

  16. ด้านการเรียนการสอนกลุ่มสาระสุขศึกษาและพลศึกษา (สาระสุขศึกษา) มีสภาพปัญหาในระดับปานกลาง ค่าเฉลี่ย (x= 2.73, S.D. = .60) • ด้านการจัดโครงการส่งเสริมพลศึกษาและสุขศึกษา มีสภาพปัญหาในระดับปานกลางมีสภาพปัญหาในระดับปานกลาง ค่าเฉลี่ย (x= 3.02, S.D. = .36) • ด้านการจัดทำวิจัยในชั้นเรียน มีสภาพปัญหาในระดับมาก มีสภาพปัญหาในระดับมาก ค่าเฉลี่ย (x= 3.94, S.D. = .17)

  17. สภาพปัญหาการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูของนักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาพลศึกษา สถาบันการพลศึกษา ตามความคิดเห็นของอาจารย์นิเทศ ด้านการปฐมนิเทศ การสัมมนา และการปัจฉิมนิเทศ มีสภาพปัญหาในระดับน้อยค่าเฉลี่ย(x= 2.45, S.D. = .31)

  18. ด้านการเรียนการสอนกลุ่มสาระสุขศึกษาและพลศึกษา (สาระพลศึกษา) มีสภาพปัญหาในระดับมากค่าเฉลี่ย (x= 4.20, S.D. = .28) • ด้านการเรียนการสอนกลุ่มสาระสุขศึกษาและพลศึกษา (สาระสุขศึกษา)มีสภาพปัญหาในระดับมากค่าเฉลี่ย (x= 4.06, S.D. = .24)

  19. ด้านการจัดโครงการส่งเสริมพลศึกษาและสุขศึกษา มีสภาพปัญหาในระดับปานกลาง ค่าเฉลี่ย (x= 3.37, S.D. = .22) • ด้านการจัดทำวิจัยในชั้นเรียน มีสภาพปัญหาในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย (x= 4.78, S.D. = .33)

  20. สภาพปัญหาการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูของนักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ สาขาวิชาพลศึกษา สถาบันการพลศึกษา ตามความคิดเห็นของอาจารย์พี่เลี้ยง ด้านการเรียนการสอนกลุ่มสาระสุขศึกษาและพลศึกษา (สาระพลศึกษา) มีสภาพปัญหาในระดับมาก ค่าเฉลี่ย (x= 3.96, S.D. = .47)

  21. ด้านการเรียนการสอนกลุ่มสาระสุขศึกษาและพลศึกษา (สาระสุขศึกษา) มีสภาพปัญหาในระดับมาก ค่าเฉลี่ย (x= 4.30, S.D. = .53) • ด้านการจัดโครงการส่งเสริมพลศึกษาและสุขศึกษา มีสภาพปัญหาในระดับปานกลาง ค่าเฉลี่ย (x= 2.96, S.D. = .33)

  22. ด้านการจัดทำวิจัยในชั้นเรียน มีสภาพปัญหาในระดับมาก ค่าเฉลี่ย (x= 4.25, S.D. = .41) • ด้านคุณลักษณะความเป็นครู มีสภาพปัญหาในระดับปานกลาง ค่าเฉลี่ย (x= 2.54, S.D. = .34)

  23. ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของนักศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู 1. ด้านการปฐมนิเทศ การสัมมนา และการปัจฉิมนิเทศ 1.1 นักศึกษาไม่ตรงต่อเวลาและไม่มีความพร้อมเพรียง 1.2 อาจารย์นิเทศเข้าร่วมและให้คำแนะนำน้อยมาก 1.3 กำหนดการสัมมนาไม่แน่นอน บางครั้งได้รับแจ้งกระชั้นชิด จึงเข้าร่วมไม่ได้เพราะตรงกับกิจกรรม/โครงการที่โรงเรียน 1.4 กิจกรรมล้าสมัย ไม่น่าสนใจ นักศึกษามีส่วนร่วมน้อยมาก 1.5 ควรเพิ่มการสัมมนาเป็นภาคเรียนละ 3 – 4 ครั้งแต่เปลี่ยนหัวข้อ/เนื้อหาการสัมมนา 1.6 ควรนำนักเรียน/ผู้บริหาร/อาจารย์พี่เลี้ยง/ผู้ปกครอง มาแสดงความต้องการและความคิดเห็น

  24. 2. ด้านการเรียนการสอนกลุ่มสาระสุขศึกษาและพลศึกษา (สาระพลศึกษา) 2.1 ควรมีการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการค้นหาทักษะการสอนใหม่ๆ เพื่อให้เหมาะสมกับเด็กนักเรียนรุ่นใหม่ 2.2 ควรมีการให้ข้อแนะนำและให้คำปรึกษาการเรียนการสอนมากกว่านี้ 2.3 จัดทำและส่งแผนการสอนให้ตรวจไม่ทัน กิจกรรมของโรงเรียนมีมาก 2.4 ขาดสื่อ/นวัตกรรม/อุปกรณ์ 2.5 เวลาเรียน 1 คาบเท่ากับ 50 นาที ไม่เพียงพอ เปลี่ยนกิจกรรมไม่ทันตามแผนการสอน 2.6 สถานที่ไม่เอื้ออำนวยในการเรียนการสอน โดยเฉพาะฤดูฝน 2.7 ควรมีการจัดฝึกอบรมเสริมหลักสูตรทางด้านการเคลื่อนไหว เกมและนันทนาการ

  25. 3. ด้านการเรียนการสอนกลุ่มสาระสุขศึกษาและพลศึกษา (สาระสุขศึกษา) 3.1 ควรมีการฝึกอบรมเชิงปฏิบัติการค้นหาทักษะการสอนใหม่ๆ เพื่อให้เหมาะสมกับเด็กนักเรียนรุ่นใหม่ 3.2 ควรมีการให้ข้อแนะนำการเรียนการสอนมากกว่านี้ 3.3 จัดทำและส่งแผนการสอนให้ตรวจไม่ทัน กิจกรรมของโรงเรียนมีมาก 3.4 ขาดสื่อ/นวัตกรรม/อุปกรณ์ 3.5 หนังสือประกอบการเรียนไม่เพียงพอ

  26. 4. ด้านการจัดโครงการส่งเสริมพลศึกษาและสุขศึกษา 4.1 บางโรงเรียนเน้นวิชาการ ไม่ส่งเสริมโครงการทางด้านสุขภาพและกีฬา 4.2 นักศึกษามีความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ในการจัดทำโครงการน้อยมาก 4.3 ควรจัดสรรงบประมาณบางส่วนให้นักศึกษาจัดทำโครงการด้วย

  27. 5. ด้านการจัดทำวิจัยในชั้นเรียน 5.1 ความรู้ความสามารถ ประสบการณ์และทักษะการวิจัยยังมีน้อยมาก 5.2 สถาบันควรให้คำปรึกษาให้มากกว่านี้ 5.3 แหล่งศึกษาค้นคว้าเอกสาร ตำรา ข้อมูลสารสนเทศ และงานวิจัยที่เกี่ยวข้องไม่เพียงพอ 5.4 ที่ปรึกษางานวิจัยและผู้เชี่ยวชาญมีน้อยและติดต่อประสานงานยาก 5.5 กิจกรรมที่โรงเรียนมีมากจึงเสนอเค้าโครงงานวิจัยไม่ทัน

  28. ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของอาจารย์นิเทศข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของอาจารย์นิเทศ 1. ด้านการปฐมนิเทศ การสัมมนา และการปัจฉิมนิเทศ 1.1 นักศึกษาไม่ตรงต่อเวลาและไม่มีความพร้อมเพรียง 1.2 อาจารย์นิเทศมีส่วนร่วมน้อยมาก 1.3 กำหนดการสัมมนาไม่แน่นอน 1.4 กิจกรรมล้าสมัย ไม่น่าสนใจ 1.5 ควรมีความพร้อมและเนื้อหาที่ชัดเจน 1.6 ควรจัดสรรงบประมาณให้มากกว่านี้

  29. 2. ด้านการเรียนการสอนกลุ่มสาระสุขศึกษาและพลศึกษา (สาระพลศึกษา) 2.1 มีสื่อ/นวัตกรรม/อุปกรณ์น้อยและล้าสมัย 2.2 ไม่มีรูปแบบและวิธีการสอนที่หลากหลาย 2.3 นักศึกษาไม่สอนตามแผนการสอน 2.4 นักศึกษาติดต่อสื่อสารและแจ้งข้อมูลข่าวสารให้กับอาจารย์นิเทศน้อยมาก 2.5 ควรมีการจัดฝึกอบรมเสริมหลักสูตรทางด้านการเคลื่อนไหว เกมและนันทนาการ

  30. 3. ด้านการเรียนการสอนกลุ่มสาระสุขศึกษาและพลศึกษา (สาระสุขศึกษา) 3.1 มีสื่อ/นวัตกรรม/อุปกรณ์น้อยและล้าสมัย 3.2 ไม่มีรูปแบบและวิธีการสอนที่หลากหลาย 3.3 นักศึกษาไม่สอนตามแผนการสอน 3.4 นักศึกษาติดต่อสื่อสารและแจ้งข้อมูลข่าวสารให้กับอาจารย์นิเทศน้อยมาก 3.5 ควรมีการจัดฝึกอบรมเสริมหลักสูตรทางด้านการใช้ชีวิต สุขอนามัยและสุขนิสัยที่ดี

  31. 4. ด้านการจัดโครงการส่งเสริมพลศึกษาและสุขศึกษา 4.1โครงการไม่มีกิจกรรมใหม่ๆ ส่วนมากเหมือนและคล้ายคลึงกับนักศึกษารุ่นพี่ 4.2 ควรจัดทำภาคเรียนละ 1 โครงการ 4.3 นักศึกษาไม่ดำเนินการตามกระบวนการจัดทำโครงการ 4.4 นักศึกษาไม่ประเมินผล สรุปและรายงานผลโครงการ

  32. 5. ด้านการจัดทำวิจัยในชั้นเรียน 5.1 ควรเน้นปัญหาและกระบวนการวิจัย ที่สอดคล้องกับสภาพผู้เรียนและสามารถนำไปแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับผู้เรียนได้ 5.2 นักศึกษาไม่ดำเนินการตามแบบแผนการวิจัย 5.3 ความรู้ความสามารถและทักษะการวิจัยมีน้อยมาก 5.4 ควรกำกับ ติดตาม ดูแลและให้คำปรึกษาทางด้านจรรยาบรรณการวิจัยให้มากกว่านี้ 5.5 นักศึกษาต้องมีความพยายามที่จะอุทิศเวลาในการทำการวิจัย

  33. ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของอาจารย์พี่เลี้ยงข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของอาจารย์พี่เลี้ยง 1. ด้านการเรียนการสอนกลุ่มสาระสุขศึกษาและพลศึกษา (สาระพลศึกษา) 1.1 ควรปรับลดขั้นตอนการสอนลงบ้างเพื่อนักเรียนจะได้มีเวลาปฏิบัติกิจกรรมมากขึ้น 1.2 ไม่มีรูปแบบและวิธีการสอนที่หลากหลาย 1.3 นักศึกษาไม่ส่งแผนการสอนให้ตรวจก่อนสอนตามกำหนด 1.4 นักศึกษาขอคำปรึกษาและแจ้งปัญหาให้กับอาจารย์พี่เลี้ยงน้อยมาก

  34. 2. ด้านการเรียนการสอนกลุ่มสาระสุขศึกษาและพลศึกษา (สาระสุขศึกษา 2.1 ควรเน้นและอธิบายนอกเหนือจากหนังสือประกอบการเรียนบ้าง นักเรียนจะได้เข้าใจได้เร็วและมีความรู้มากยิ่งขึ้น 2.2 สถาบันควรส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการผลิตสื่อ/นวัตกรรม/อุปกรณ์ 2.3 ไม่มีรูปแบบและวิธีการสอนที่หลากหลาย 2.4 นักศึกษาไม่สอนตามแผนการสอน 2.5 นักศึกษาไม่ค่อยขอคำปรึกษากับอาจารย์พี่เลี้ยง 2.6 ควรมีการจัดฝึกอบรมเสริมหลักสูตรทางด้านการใช้ชีวิต สุขอนามัยและสุขนิสัยที่ดี

  35. 3. ด้านการจัดโครงการส่งเสริมพลศึกษาและสุขศึกษา 3.1 ควรเพิ่มเวลาและจัดกิจกรรมในโครงการให้มากขึ้นกว่านี้ 3.2 นักศึกษาขาดประสบการณ์ในการจัดทำโครงการ 4. ด้านการจัดทำวิจัยในชั้นเรียน 4.1 ควรจัดทำวิจัยในชั้นเรียนที่เกิดจากปัญหาของผู้เรียน 4.2 นักศึกษาไม่ดำเนินการตามแบบแผนการวิจัย

  36. 5. ด้านคุณลักษณะความเป็นครู 5.1 นักศึกษายังมีความรู้ความเข้าใจจิตวิทยาพัฒนาการของผู้เรียนน้อยมาก 5.2 การควบคุมชั้นเรียนเป็นไปด้วยความลำบาก 5.3 ควรมีความมุ่งมั่นและรับผิดชอบงานให้มากกว่านี้

  37. ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งนี้ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งนี้ จากข้อค้นพบจากการวิจัย สถาบันผลิตครูและสถานศึกษาฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู ควรนำข้อสรุป การอภิปรายผลและข้อคิดเห็นของนักศึกษา อาจารย์นิเทศ และอาจารย์พี่เลี้ยง ไปพัฒนา ปรับปรุง และแก้ไขโครงการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู สถาบันการพลศึกษา ในรูปแบบการจัดการความรู้ (Knowledge Management)และรูปแบบที่เหมาะสมอื่นๆ ต่อไป

  38. ข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไปข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะในการวิจัยครั้งต่อไป 1. ควรมีการเปรียบเทียบความคิดเห็นทางด้านสภาพปัญหาการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู 2. ควรศึกษาเปรียบเทียบพัฒนาการของการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครูของนักศึกษา 3. ควรศึกษาและพัฒนารูปแบบการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู 4. ควรศึกษาความคิดเห็นทางด้านสภาพความต้องการการฝึกประสบการณ์วิชาชีพครู ของผู้บริหาร ผู้ปกครอง และนักเรียน

More Related