1 / 45

CHAPTER 5

CHAPTER 5 . Defining and Managing Project Scope. Chapter 5 Objectives.

alexis
Download Presentation

CHAPTER 5

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. CHAPTER 5 Defining and Managing Project Scope

  2. Chapter 5 Objectives • ระบุถึง 5 กระบวนการที่สนับสนุนการบริหารขอบข่ายของโครงการ (project scope management) กระบวนการเหล่านี้ได้นิยามไว้ใน Project Management Body of Knowledge (PMBOK) ซึ่งประกอบด้วย initiation, planning, scope definition, scope verification และ scope change control. • อธิบายถึงความแตกต่างระหว่างขอบข่ายของผลิตภัณฑ์ (product scope) (นั่นคือ features และ functions ที่สนับสนุน IT solution) และขอบข่ายของโครงการ ( project scope) ( นั่นคือ deliverables และ activities ที่สนับสนุน IT project methodology).

  3. Chapter 5 Objectives • กล่าวถึงกระบวนการนิยามขอบข่าย (scope definition process) และ สร้างโครงสร้างการแตกงาน (work breakdown structure) โดยใช้แนวทางของ analogy, top-down, bottom-up, และ mind mapping • ทำความเข้าใจถึงความสำคัญของการสอบทานขอบข่าย (scope verification) และ การควบคุมการเปลี่ยนขอบข่าย (scope change control) เพื่อหลบเลี่ยงการหลุดลอดออกนอกขอบข่าย (scope creep) ของ information technology projects • อธิบายให้เห็นว่าซอฟต์แวร์สามารถช่วย project scope management ได้อย่างไร

  4. จงทำในสิ่งที่ต้องทำ และไม่ทำในสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องทำ • ข้อบกพร่องอันเกิดจากการที่ไม่ได้กำหนดว่าส่วนต่าง ๆ ของโครงการนั้นคืออะไร(ทำให้ไม่ได้ทำ) และ ส่วนใดที่ไม่ใช่สิ่งที่ต้องทำในโครงการ (ทำให้ทำในสิ่งที่ไม่จำเป็นต้องทำ) อาจนำมาซึ่งผลลัพธ์อันเกิดจากการทำงานโดยไม่จำเป็นในการสร้างผลผลิตจากโครงการ มันจะนำไปสู่การเกินเวลา และงบประมาณที่ใช้ในโครงการนั้น ๆ Olde Curmudgeon, PM Network Magazine, 1994.

  5. What is Project Scope Management? • ขอบข่ายหรือขอบเขต (Scope) หมายถึง งานทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการสร้างผลิตผลต่าง ๆ ของโครงการ และ กระบวนการต่าง ๆ ที่สร้างผลิตผลเหล่านั้นขึ้นมา มันเป็นการนิยามทั้งสิ่งที่ต้องทำและสิ่งที่ไม่ต้องทำ • ดังนั้นจะเห็นว่า Scope คือ การกำหนดว่างานใดที่ต้องทำ และมีกระบวนการทำอย่างไรเพื่อให้ได้ผลิตผลของโครงการออกมา รวมไปถึง งานที่ไม่ต้องทำด้วย • สิ่งที่ต้องส่งมอบ (Deliverables) คือ ผลิตผลต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นมาจากส่วนใดส่วนหนึ่งของโครงการ เช่น hardware หรือ software, planning documents, หรือ meeting minutes • Project team และ stakeholders ต้องมีความเข้าใจที่เหมือนกันว่า ผลิตผลอะไรที่จะถูก สร้างขึ้นมาซึ่งมันก็คือผลลัพธ์ของโครงการนั่นเอง ทั้งนี้รวมไปถึงว่า จะสร้างขึ้นมาได้อย่างไรด้วย

  6. Project Scope Management Processes defined in PMBOK • สำหรับ Project Scope Management ใน PMBOK จะนิยามส่วนที่เกี่ยวข้องไว้ดังนี้ • Project scope initiation • Scope Planning • Scope definition • Scope verification • Scope change control

  7. PMBOK Scope Management Processes

  8. Project Scope Management Processes • ช่วงเริ่มต้น (Initiation):การเริ่มต้นโครงการหนึ่ง ๆ หรือเป็นการต่อเนื่องมาจากเฟสที่แล้ว (เพื่อก้าวสู่เฟสต่อไป) • การวางแผนขอบเขต (Scope planning):การจัดทำเอกสารต่าง ๆ เพื่อจัดเตรียมพื้นฐานสำหรับการตัดสินใจเกี่ยวกับโครงการในอนาคต • การกำหนดขอบเขต (Scope definition):การแบ่งสิ่งที่ต้องส่งมอบหลัก ๆ จากโครงการ (major project deliverables) ออกเป็นส่วนเล็ก ๆ เพื่อเป็นองค์ประกอบย่อย ๆ ซึ่งบริหารได้ง่ายขึ้น • การตรวจสอบขอบเขต (Scope verification):การยอมรับขอบเขตของโครงการอย่างเป็นทางการ • การควบคุมการเปลี่ยนแปลงขอบเขต (Scope change control):การควบคุมการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับขอบเขตของโครงการ

  9. Scope Management Plan

  10. Project Initiation: Strategic Planning and Project Selection • เริ่มจาก มองภาพใหญ่ (ภาพรวม) หรือ แผนกลยุทธ์ขององค์กร • แผนกลยุทธ์จะมีสิ่งที่เกี่ยวข้อง (หรือ ชี้ให้เห็นถึง) กับ long-term business objectives • IT projects ควรเป็นไปเพื่อสนับสนุน strategic และ financial business objectives

  11. Identifying Potential Projects • หลาย ๆ องค์กรดำเนินตามกระบวนการวางแผนสำหรับคัดเลือก IT projects • เริ่มด้วยการพัฒนา IT strategic plan ขึ้นมาโดยอ้างอิงจากแผนกลยุทธ์โดยรวมขององค์กร (organization’s overall strategic plan) • จากนั้นทำการวิเคราะห์ส่วนที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ (business area analysis) • แล้วทำการกำหนดโครงการที่เป็นไปได้ทั้งหลาย (potential projects) • จากนั้นทำการเลือก IT project และ กำหนดทรัพยากรต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง

  12. Information Technology Planning Process

  13. Methods for Selecting Projects • โดยทั่วไปแล้ว จะมีโครงการต่าง ๆ มากมายให้ทำ เมื่อเทียบกับเวลาและทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัด ดังนั้นจึงถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องมีกระบวนการอย่างเป็นตรรกะ ในการคัดเลือกโครงการการ IT มาทำ • แนวทางเหล่านี้ได้แก่: • มุ่งเน้นไปที่ความต้องการของคนหมู่มาก (broad need) • การแบ่งโครงการออกเป็นหมวดหมู่ (categorizing projects) • การวิเคราะห์ทางด้านการเงิน (performing financial analyses) • การใช้แบบจำลองของค่าคะแนนแบบถ่วงน้ำหนัก (weighted scoring model) • การนำ balanced scorecard มาประยุกต์ใช้

  14. Focusing on Broad Organizational Needs • มันเป็นเรื่องยากในการกำหนดแนวทางการตัดสินใจอย่างชัดเจนในโครงการ IT หลาย ๆ โครงการ แต่ส่วนมากแล้วเห็นตรงกันว่า จะต้องมีคุณค่าสูง (high value) • “เป็นเรื่องที่ดีกว่าที่จะใช้แนวทางการวัด goalอย่างคร่าว ๆ แทนที่จะไปคิดเล็กคิดน้อยทุก ๆ เรื่อง” • หลักการสำคัญสามแนวทางของโครงการคือ: • โครงการนั้น ๆ เป็นสิ่งที่ต้องการ • มีเงินทุนสนับสนุนอย่างพอเพียง • มีความมุ่งหวังอย่างแรงกล้าที่จะทำให้โครงการนั้นประสบผลสำเร็จ

  15. Categorizing IT Projects • การแบ่งออกเป็นประเภท (categorization) นั้น จะหมายถึงโครงการนั้นบ่งชี้ไปในเรื่องใด (ดูที่ทิศทางของโครงการนั้น ๆ ชี้ไป) • ปัญหาเรื่องหนึ่ง • โอกาสด้านหนึ่ง • มุ่งตรงไปทางใดทางหนึ่ง • การแบ่งอีกแบบหนึ่งก็คือดูว่าโครงการนั้น ๆ ใช้เวลานานเท่าใด และ จะทำ (หมายถึงต้องการใช้ผลจากโครงการนั้น)เมื่อใด (ดูที่ระยะเวลาและวันที่จะลงมือทำ) • อีกแบบหนึ่งก็คือ ใช้ลำดับความสำคัญของโครงการในภาพรวมทั้งหมด(ใช้สิ่งข้างต้นมารวมเข้าด้วยกันเพื่อจัดลำดับความสำคัญ)

  16. Financial Analysis of Projects • การพิจารณาทางด้านการเงินมักจะถูกนำมาใช้เป็นหัวข้อหลักในการพิจารณาคัดเลือกโครงการต่าง ๆ • สามวิธีการหลัก ๆ ที่นำมาใช้กำหนดมูลค่าของโครงการได้แก่: • Net present value (NPV) analysis • ผลตอบแทนในการลงทุน (Return on investment (ROI)) • การวิเคราะห์การคืนทุน (Payback analysis) • Payback Analysis • สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่นำมาใช้พิจารณาก็คือ ระยะเวลาคืนทุน (payback period) ซึ่งก็คือ ใช้เวลานานเท่าใดจึงจะได้เงินที่ลงทุนไปกลับคืนมา • หลาย ๆ องค์กรต้องการ IT projects ที่มีระยะเวลาในการคืนทุนสั้น

  17. Weighted Scoring Model • Weighted scoring model คือ เครื่องมือที่มีกระบวนการอย่างเป็นระบบ ( systematic process) ในการเลือกโครงการต่าง ๆ บนพื้นฐานของหลายแนวทาง • เริ่มจาก ระบุสิ่งสำคัญ (criteria important) ให้กับกระบวนการเลือกโครงการ • จากนั้นกำหนดค่าน้ำหนัก (จำนวนเปอร์เซ็นต์)ให้แต่ละ criterion ซึ่งรวมกันแล้วต้องได้เท่ากับ 100% • แล้วกำหนดคะแนนให้กับแต่ละ criterion ในแต่ละโครงการ • คูณค่าคะแนนเข้ากับค่าน้ำหนักแล้วคำนวณผลรวมของคะแนนที่ผ่านการถ่วงน้ำหนักแล้วทั้งหมด • ผลรวมของคะแนนที่ผ่านการถ่วงน้ำหนักแล้ว มีค่ามากจะดีกว่า

  18. Weighted Scoring Model for Project Selection คิดแค่ 25% ของ 90 +

  19. Implementing a Balanced Scorecard • Dr. Robert Kaplan และ David Norton ได้พัฒนา Balanced scorecard ขึ้นมา สามารถนำมาใช้เป็นแนวทางในการเลือกและบริหารโครงการได้โดยทำการ align เข้ากับ business strategy • Balanced scorecard จะเปลี่ยนตัวขับดันที่มีคุณค่าต่อองค์กร เช่น การบริการลูกค้า นวัตกรรม ประสิทธิภาพในการทำงาน และ ประสิทธิภาพทางการเงินให้อยู่ในรูปของอนุกรมของตัววักต่าง ๆ • See www.balancedscorecard.org for more information

  20. Project Charters • หลังจากตัดสินใจว่าจะทำโครงการใดแล้ว สิ่งที่สำคัญต่อมาก็คือทำให้โครงการเกิดขึ้นอย่างเป็นทางการ (formalize projects) ผ่านทาง Project Charter • Project charter คือเอกสารที่ใช้แสดงอย่างเป็นทางการถึงการเกิดขึ้นของโครงการนั้น ๆ พร้อมทั้งบอกถึงทิศทางของวัตถุประสงค์และการบริหารโครงการนั้น ๆ • ผู้เกี่ยวข้องกับโครงการที่มีความสำคัญ (Key project stakeholders) จะต้องลงนามใน Project charter เพื่อแสดงการรับรู้ถึงข้อตกลงในสิ่งที่ต้องการและความคาดหวัง จากโครงการนั้น

  21. Scope Planning and the Scope Statement • Scope statement คือเอกสารที่ใช้ในการสร้างและยืนยันถึงความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับ project scope • ควรประกอบด้วย • การตัดสินใจในโครงการนั้น (project justification) • กล่าวสั้น ๆ เกี่ยวกับผลิตผลที่ได้จากโครงการ (project’s products) • ข้อสรุปของ project deliverable ทั้งหมด • ถ้อยแถลงอันแสดงให้เห็นว่า สิ่งที่แสดงว่าโครงการประสบผลสำเร็จนั้นคืออะไร

  22. Scope Planning and the Work Breakdown Structure • หลังจากเสร็จเรื่อง scope planning แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการกำหนดงานที่ต้องทำโดยการแตกออกเป็นส่วนย่อย ๆ ที่สามารถบริการได้ง่าย • การกำหนดขอบเขตที่ดี จะช่วยให้ • ช่วยปรับปรุงในเรื่อง accuracy of time, cost, และ resource estimates • กำหนด baseline ของ performance measurement และ project control • ช่วยในการสื่อสารในเชิง clear work responsibilities

  23. Scope Boundary อะไรที่ต้องทำ อะไรที่ไม่ต้องทำ (แต่ควรรู้)

  24. Sample Scope Statement – What’s within the scope boundary • พัฒนา proactive electronic commerce strategy ซึ่งบ่งชี้กระบวน ผลิตภัณฑ์ และ การให้บริการต่าง ๆ ซึ่งจะถูกส่งมอบผ่านทาง World Wide Web. • พัฒนา application system เพื่อสนับสนุนกระบวนการ ผลิตภัณฑ์ และการให้บริการต่าง ๆ ทั้งหมดที่ถูกระบุอยู่ใน electronic commerce strategy. • ควบรวม application system เข้ากับ bank’s existing enterprise resource planning system. • Sample Scope Statement – Work outside the scope boundary • การตรวจประเมิน เทคโนโลยีและองค์กรในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน • Customer resource management and data mining components

  25. Project Scope Definition • Project-Oriented Scope • สิ่งที่ต้องส่งมอบซึ่งสนับสนุน project management และ IT development processes ที่ถูกกำหนดไว้ใน Information Technology Project Methodology (ITPM). ตัวอย่างเช่น • Business case, project charter and project plan, etc. • Product-Oriented Scope • โครงร่าง (Feature) และฟังก์ชัน (Functional) ในระดับสูงของ application system • เป็นการนิยามถึงความต้องการฉบับแรกซึ่งถูกนำมาใช้เพื่อทำรายละเอียดให้มากขึ้นในขั้นตอน systems development life cycle (SDLC) ตัวอย่างเช่น • เพิ่มลูกค้าใหม่ ตรวจสอบลูกค้าเดิมที่เหลืออยู่ พิมพ์รายงานการขายรายวันของแต่ละพื้นที่ ฯลฯ

  26. Project Scope Definition • Project-Oriented Scope Definition Tools • Deliverable Definition Table (DDT) • Deliverable Structure Chart (DSC)

  27. Deliverable Definition Table

  28. Deliverable Structure Chart

  29. Project Scope Definition • ขอบเขตอันแสดงถึงรายละเอียดของโครงสาร (Product-Oriented Scope) • เครื่องมือต่าง ๆ ที่ใช้กำหนด Product-Oriented Scope ได้แก่ • ผังแสดงการไหลของข้อมูล (Data Flow Diagrams (DFD)) • Use Case Diagram • Joint Application development (JAD)

  30. Context Level Data Flow Diagram

  31. Use Case Diagram

  32. Project Scope Verification Check List • MOV • Project’s MOV ได้ถูกนิยามไว้ชัดเจนหรือไม่ และทุกคนเห็นด้วยหรือไม่ ? การที่ไม่เป็นดังกล่าวมาข้างต้น จะส่งผลให้มีการเปลี่ยนแปลง scope ในภายหลัง ซึ่งนำไปสู่ การทำงานเพิ่มขึ้นอันส่งผลกระทบต่อ project’s schedule and budget. • Deliverables (สิ่งที่ต้องส่งมอบ) • สิ่งที่ต้องส่งมอบเป็น tangible และ ตรวจได้ใช้หรือไม่? • และสิ่งข้างต้นสนับสนุน project’s MOV หรือไม่ ? • Quality Standards (มาตรฐานที่เกี่ยวข้อกับคุณภาพต่าง ๆ) • มีการควบคุมใด ๆ ในที่นั้น ๆ ที่ทำให้มั่นใจว่า งานที่แล้วเสร็จนั้นตรงตามมาตรฐานที่กำหนด?

  33. Scope Verification Check List • Milestones (ตัวชี้วัดระดับขั้นของความสำเร็จ) • มีสิ่งที่สำคัญ (ใช้เป็นเครื่องหมาย)อันแสดงถึงการยอมรับสิ่งที่ส่งมอบ (deliverable) และ ทำให้ project manager และ team ได้รับการอนุมัติเพื่อเริ่มต้นทำงานเพื่อให้ได้next deliverable พูดสั้น ๆ ว่า milestones จะบอกเราว่า deliverable ไม่เพียงแต่เสร็จสิ้นแล้วเท่านั้น แต่ยังผ่านการทวนสอบและยอมรับแล้ว • Review and Acceptance (การทวนสอบและการยอมรับ) • สุดท้าย Project’s scope จะต้องถูกทบทวนและยอมรับโดย project stakeholders ดังนั้น Project sponsor จะต้องยอมรับอย่างเป็นทางการในด้าน boundary, product to be produced และ the project-related deliverables ในทางกลับกัน Project team ต้องยอมรับและเห็นอย่างชัดเจนว่าอะไรที่ต้องส่งมอบ

  34. Scope Verification and Scope Change Control • มันเป็นเรื่องยากในการสร้างgood scope statement และ WBS ให้กับโครงการหนึ่ง ๆ • และเป็นเรื่องที่ยากมากกว่าในการตรวจสอบขอบเขตของโครงการ (verify project scope) และ ลดการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆของเขตให้ต่ำที่สุด (minimize scope changes) • หลาย ๆ โครงการของ IT เจ็บปวดกับสิ่งที่หลุดลอดออกไปจากการกำหนดเอาไว้ในขอบเขต (scope creep) และ ทำการตรวจสอบขอบเขตได้ไม่ดี ( poor scope verification) • FoxMeyer Drug filed for bankruptcy after scope creep on a robotic warehouse • Engineers at Grumman called a system “Naziware” and refused to use it • 21st Century Insurance Group wasted a lot of time and money on a project that could have used off-the-shelf components

  35. Factors Causing IT Project Problems

  36. Scope Change Control • ต้องมั่นใจว่า การเปลี่ยนแปลงใด ๆ ที่เกี่ยวกับขอบเขตของโครงการจะต้องเป็นไปเพื่อช่วยให้โครงการบรรลุถึง MOV ที่กำหนดไว้ • จะต้องรักษาให้ “triple constraint” อยู่ในสภาพที่สมดุล • นั่นคือ ทำการเพิ่ม scope อาจจำเป็นต้องเพิ่ม project’s schedule และ budget. Schedule Scope Budget

  37. Scope Change Control • การควบคุมการเปลี่ยนแปลงขอบเขตของโครงการ จะเกี่ยวข้องกับ • Scope grope (grope = คลำ, ค้นหา) เช่น การนิยามไม่ชัดเจน • Scope creep (creep = หลุดเล็ดรอด) เช่น เพิ่ม Feature เข้าไปเรื่อย ๆ • Scope leap (leap = กระโดด ปรับ) เช่น การเปลี่ยนทิศทางของโครงการ หรือ เปลี่ยน MOV ของโครงการ

  38. Scope Change Control • ความลึกลับของการบริหารขอบเขต (Myths of Scope Management) • การมีส่วนร่วมของผู้ใช้จะให้ผลลัพธ์ที่ได้จาก IS project เป็นจริงตรงตามความต้องการของธุรกิจ • Scope statement จำต้อกำหนดอย่างชัดเจนว่าโครงการจะทำอะไร • หลังจากกำหนดแล้ว ทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องถือตามนั้นเพราะว่าความผันแปรใด ๆ ที่เบี่ยงเบนออกไปจากแผนเริ่มต้นคือเครื่องหมายที่แสดงถึงโครงงานเริ่มออกจากการควบคุม • ฟังก์ชันของคณะทำงานเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของขอบเขตต้องแสดงถึงความต้องการของผู้ใช้ในการเพิ่ม features หรือ functionality หลักจากเกิด original project charter แล้ว • การประชุมตามกำหนดหรือบ่อย ๆ กับ senior management จะทำให้มั่นใจได้ว่า จะได้รับข้อมูลที่ทันสมัยและจะทำให้ได้รับผลและการสนับสนุนที่ดี

  39. Scope Change Control ProceduresScope Change Request Form

  40. Scope Change Control ProceduresScope Change Request Log

  41. Benefits of Scope Control • ทำให้ project manager ยังสามารถควบคุมโครงการได้ • ทำให้ project manager ควบคุม project’s schedule และ budget ได้ • ทำให้ project team มามุ่งเน้นในเรื่องที่ควรทำและทำเรื่องที่ควรทำ

  42. Scope Management Process

  43. Suggestions for Improving User Input • พัฒนา good project selection process และช่วย sponsors ให้ได้ข้อมูลมาจากผู้ใช้ในองค์กร • การมีผู้ใช้อยู่ใน project team ถือเป็นเรื่องที่สำคัญและควรทำ • มีการประชุมเป็นประจำ (ตามที่กำหนดเอาไว้) • มีการส่งมอบบางสิ่งบางอย่างให้กับผู้ใช้ต่าง ๆและ sponsors ตามที่กำหนดไว้ • ร่วมมือกับผู้ใช้ในพื้นที่นั้น ๆ เพื่อทำการพัฒนา

  44. Suggestions for Reducing Incomplete and Changing Requirements • พัฒนาและติดตามกระบวนการบริหารตามความต้องการ (requirements management process) • ใช้ prototyping, use case modeling, และ JAD เพื่อให้ได้รับความร่วมมือจากผู้ใช้ • Document requirements และ keep them current • จัดทำการทดสอบอย่างพอเพียงและทำการทดสอบตลอด project life cycle • ทวนสอบการเปลี่ยนแปลงจากมุมมองเชิงระบบ (systems perspective) • การเน้นที่ completion dates จะช่วยมุงเน้นว่า อะไรสำคัญที่สุด • การเคลื่อนย้ายทรัพยากร โดยเฉพาะอย่างยิ่งhandling change requests/ enhancements ต้องระมัดระวัง

  45. จบหัวข้อ 5 • คำถาม ………..

More Related