500 likes | 1.57k Views
สารสนเทศกับเครื่องมือทางภูมิศาสตร์. ครูสมเรียน วงค์สัมพันธ์. 1.ความหมายของ “ สารสนเทศ ”. 1.1 สารสนเทศ ( Information) หมายถึง ข้อมูลต่างๆทั้งทีบันทึกด้วยตัวอักษรตัวเลข หรือรูปภาพ โดยสามารถนำมาใช้อ้างอิงได้ เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่ผ่านการศึกษาวิเคราะห์มาแล้ว. 1.ความหมายของ “ สารสนเทศ ”.
E N D
สารสนเทศกับเครื่องมือทางภูมิศาสตร์สารสนเทศกับเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ครูสมเรียน วงค์สัมพันธ์
1.ความหมายของ “สารสนเทศ” • 1.1 สารสนเทศ (Information) หมายถึง ข้อมูลต่างๆทั้งทีบันทึกด้วยตัวอักษรตัวเลข หรือรูปภาพ โดยสามารถนำมาใช้อ้างอิงได้ เพราะเป็นข้อเท็จจริงที่ผ่านการศึกษาวิเคราะห์มาแล้ว
1.ความหมายของ “สารสนเทศ” • 1.2 แหล่งสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ ได้แก่ แผนที่ เอกสารทางวิชาการ หนังสือตำรา วารสารภาพถ่ายทางอากาศ และข้อมูลจากเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เป็นต้น
2.ประโยชน์ของสารสนเทศทางภูมิศาสตร์2.ประโยชน์ของสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ • 2.1 ด้านตำแหน่งที่ตั้ง สารสนเทศทางภูมิศาสตร์ช่วยให้ทราบถึงตำแหน่งที่ตั้งของสถานที่สำคัญ เช่น เขื่อน เกาะ อุทยานแห่งชาติ และแหล่งทรัพยากรป่าไม้ แร่ธาตุ แหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เป็นต้น
2.ประโยชน์ของสารสนเทศทางภูมิศาสตร์2.ประโยชน์ของสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ • 2.2 ด้านการศึกษา เป็นข้อมูลพื้นฐานในการศึกษาของนักวิชาการในสาขาอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น นักวิชาการป่าไม้ นักธรณีวิทยา นักวิชาการการเกษตร นักวิชาการด้านอุตุนิยมวิทยา เป็นต้น
2.ประโยชน์ของสารสนเทศทางภูมิศาสตร์2.ประโยชน์ของสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ • 2.3 ด้านการวางแผน ฝ่ายปกครองของบ้านเมืองใช้ข้อมูลสารสนเทศที่มาจากดาวเทียม ช่วยทราบข้อมูลอย่างรวดเร็วและทันต่อเหตุการณ์ โดยเฉพาะข้อมูลเกี่ยวกับสภาพลมฟ้าอากาศ เช่น การก่อตัวของเมฆและแนวโน้มการเกิดพายุฝน ทำให้สามารถเตือนภัยล่วงหน้าและป้องกันภัยธรรมชาติได้ทัน
3.เครื่องมือทางภูมิศาสตร์3.เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาข้อมูลทางภูมิศาสตร์ แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ 3.1 ประเภทให้ข้อมูล ได้แก่ แผนที่ รูปถ่ายทางอากาศ ภาพจากดาวเทียม และอินเตอร์เน็ต
3.เครื่องมือทางภูมิศาสตร์3.เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ • 3.2 ประเภทเครื่องมือและอุปกรณ์ ได้แก่ เข็มทิศ เครื่องมือวัดพื้นที่ เทปวัดระยะทาง เครื่องย่อขยายแผนที่ กล้องวัดระดับ กล้องสามมิติ กล้องสามมิติแบบพกพา และเครื่องมือวัดลักษณะอากาศแบบต่างๆ เช่น เทอร์โมมิเตอร์ บาโรมิเตอร์ และเครื่องวัดน้ำฝน เป็นต้น
4. แผนที่ • 4.1 แผนที่ (Map) เป็นเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ขั้นพื้นฐานอย่างหนึ่ง โดยการย่อข้อมูลต่างๆที่ปรากฏบนพื้นโลกให้มีขนาดเล็กลงตามมาตราส่วน และแสดงข้อมูลดังกล่าวด้วยสัญลักษณ์ลงบนวัสดุต่างๆ เช่น กระดาษ ผ้า แผ่นพลาสติก ฯลฯ
4. แผนที่ • 4.2 ข้อมูลที่แสดงในแผนที่ มี 2 ชนิด (1) ข้อมูลด้านกายภาพ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ เช่น แม่น้ำ ภูเขา ชายฝั่งทะเล เกาะ และป่าไม้ เป็นต้น (2) ข้อมูลด้านวัฒนธรรม เป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น ถนน เขื่อน ที่ว่าการอำเภอ โรงเรียน สถานีอนามัย ฯลฯ
5.รูปถ่ายทางอากาศ • 5.1รูปถ่ายทางอากาศ (Aerial Photography) เป็นรูปภาพแสดงภูมิประเทศที่ปรากฏบนพื้นผิวโลกถ่ายโดยใช้กล้องถ่ายรูปติดไว้กับเครื่องบิน • 5.2หน่วยราชการที่จัดทำรูปถ่ายทางอากาศ คือ กรมแผนที่ทหาร กระทรวงกลาโหม
5.รูปถ่ายทางอากาศ • 5.3การนำไปใช้ประโยชน์ • ทำให้ทราบถึงความเปลี่ยนแปลงในลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ต่างๆ โดยเปรียบเทียบจากรูปถ่ายในระยะเวลาแตกต่างกัน • การวางแผนพัฒนาการใช้ที่ดิน • การอนุรักษ์พื้นที่ป่าไม้
5.รูปถ่ายทางอากาศ • 5.4 การศึกษาข้อมูลจากรูปถ่ายทางอากาศ ทำได้ 2 วิธี คือ ศึกษาด้วยตาเปล่าและศึกษาด้วยกล้องสามมิติ เนื่องจากรูปถ่ายทางอากาศไม่มีคำอธิบายใดๆ ดังนั้น จึงควรศึกษาควบคู่กับแผนที่ด้วยจะทำให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น
6. ภาพจากดาวเทียม • 6.1 ภาพจากดาวเทียม (Satellite Imagery) ให้ประโยชน์อย่างมากในการศึกษาข้อมูลเพื่อสำรวจแห่งทรัพยากรธรรมชาติ ในปัจจุบัน ประเทศไทยมีสถานีรับสัญญาณภาพดาวเทียมลาดกระบัง ทำให้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายน้อยกว่าที่เคยพึ่งพาต่างประเทศ
6. ภาพจากดาวเทียม • 6.2 การทำงานรับภาพของดาวเทียม เรียกว่า กระบวนการรีโมทเซนซิงโดยดาวเทียมจะเก็บข้อมูลของวัตถุหรือพื้นที่เป้าหมายบนพื้นโลก จากรังสีที่สะท้อนขึ้นไปจากผิวโลกหรือจากอุณหภูมิของวัตถุนั้นๆบนพื้นผิวโลก
6. ภาพจากดาวเทียม • 6.3 ภาพจากดาวเทียมให้ประโยชน์ในการศึกษาทางภูมิศาสตร์ คือ นำมาใช้จัดทำแผนที่แสดงภูมิประเทศของพื้นที่ต่างๆ ซึ่งจะให้รายละเอียดของตำแหน่งต่างๆ บนพื้นโลกชัดเจนยิ่งขึ้น
7.อินเตอร์เน็ต • 7.1 อินเตอร์เน็ตหรือไซเบอร์สเปซ คือ ระบบการสื่อสารด้วยเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมโยงระหว่างผู้ใช้งานทั่วโลกเข้าด้วยกัน ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และความรู้ด้านต่างๆ อย่างสะดวกและรวดเร็ว จนทำให้โลกในปัจจุบันเข้าสู่ยุค “การสื่อสารไร้พรมแดน”
7.อินเตอร์เน็ต • 7.2 บริการในอินเตอร์เน็ต (World Wind Web : WWW) จะให้บริการข้อมูลในรูปแบบต่างๆ ทั้งตัวอักษร รูปภาพ เสียง หรือ ภาพยนตร์ ข้อมูลเหล่านี้ เรียกว่า “เว็บเพ็จ” (Web Page) มีการเชื่อมโยงถึงกันทั่วโลกคล้ายใยแมงมุม
8.อุปกรณ์ทางภูมิศาสตร์8.อุปกรณ์ทางภูมิศาสตร์ • อุปกรณ์ทางภูมิศาสตร์ หมายถึงอุปกรณ์ที่ใช่วัดหรือเก็บข้อมูลทางภูมิศาสตร์ในด้านต่างๆ เช่น ทิศระยะทาง ความสูง ตำแหน่งที่ตั้ง อุณหภูมิของอากาศ และปริมาณฝน เป็นต้น สรุปได้ดังนี้
8.อุปกรณ์ทางภูมิศาสตร์8.อุปกรณ์ทางภูมิศาสตร์ • 8.1 เข็มทิศ เป็นเครื่องมือบอกทิศอย่างง่ายๆ โดยจะทำปฏิกิริยากับแม่เหล็กโลกและแสดงค่าของมุมบนหน้าปัด วิธีใช้เข็มทิศ คือ วางทิศในแนวระนาบ ปรับหมุนหน้าปัดให้เข็มบอกค่าบนหน้าปัดอยู่ในตำแหน่งที่หันไปทางทิศเหนือแม่เหล็กโลก
8.อุปกรณ์ทางภูมิศาสตร์8.อุปกรณ์ทางภูมิศาสตร์ • 8.2 เครื่องมือวัดพื้นที่ (Planimeter) มีลักษณะคล้ายไม้บรรทัดทำด้วยโลหะยาวประมาณ 1 ฟุต ใช้สำหรับวัดพื้นที่ในแผนที่ โดยเครื่องจะคำนวณให้ทราบค่าของพื้นที่แสดงค่าบนหน้าปัด
8.อุปกรณ์ทางภูมิศาสตร์8.อุปกรณ์ทางภูมิศาสตร์ • 8.3 เทปวัดระยะทาง ใช้สำหรับวัดระยะทางของพื้นที่ เมื่อลงไปสำรวจหรือเก็บข้อมูลภาคสนาม เทปวัดระยะทางมี 3 ชนิด ได้แก่ เทปที่ทำด้วยผ้า เทปที่ทำด้วยโลหะ และเทปที่ทำด้วยโซ่
8.อุปกรณ์ทางภูมิศาสตร์8.อุปกรณ์ทางภูมิศาสตร์ • 8.4 เครื่องย่อขยายแผนที่ (pantograph) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้จัดทำแผนที่อย่างหนึ่ง เพื่อย่อหรอขยายแผนที่ให้ได้ขนาดหรือมาตราส่วนตามที่ต้องการ
8.อุปกรณ์ทางภูมิศาสตร์8.อุปกรณ์ทางภูมิศาสตร์ • 8.5 กล้องวัดระดับ (Telescope) เป็นอุปกรณ์วัดระดับความสูงจากพื้นดิน เพื่อสำรวจพื้นที่สร้างถนน โดยจะช่วยกำหนดระดับแนวถนนได้ตามที่ต้องการ
8.อุปกรณ์ทางภูมิศาสตร์8.อุปกรณ์ทางภูมิศาสตร์ • 8.6 กล้องสามมิติ หรือสเตริโอสโคป (Stereoscope) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ดูรูปถ่ายทางอากาศ เพื่อพิจารณาความสูงต่ำของลักษณะภูมิประเทศ ในพื้นที่นั้นๆ
9.เครื่องมือวัดลักษณะอากาศ9.เครื่องมือวัดลักษณะอากาศ • 9.1 เทอร์โมมิเตอร์ (Thermometer) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้วัดอุณหภูมิของอากาศ โดยทั่วไปนิยมใช้แบบหลอดแก้วที่บรรจุปรอทหรือแอลกอฮอล์ไว้ภายใน ค่าของอุณหภูมิ 2 ระบบ ดังนี้ (1)ระบบเซลเซียส (0-100 องศา C) (2)ระบบฟาเรนไฮต์(32-212 องศา F)
9.เครื่องมือวัดลักษณะอากาศ9.เครื่องมือวัดลักษณะอากาศ • 9.2 บารอมิเตอร์ (Barometer) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้วัดความกดอากาศ มี 2 ชนิด คือ (1) แบบปรอท (2)แบบแอนิรอยด์
9.เครื่องมือวัดลักษณะอากาศ9.เครื่องมือวัดลักษณะอากาศ • 9.3 แอโรเวน(Aerovane)เป็นอุปกรณ์สำหรับวัดทิศทางและความเร็วของลม แยกตามลักษณะการใช้งานได้ 2 ชนิด ดังนี้ (1) แอนนิโมมิเตอร์ (Anemometer) ใช้วัดความเร็วของลม (2) วินเวน (Wind Vane) ใช้วัดทิศทางของลม
9.เครื่องมือวัดลักษณะอากาศ9.เครื่องมือวัดลักษณะอากาศ • 9.4 เครื่องวัดน้ำฝน (Rain Gauge) ทำด้วยโลหะทรงกระบอกซ้อนกัน 2 ชั้น
9.เครื่องมือวัดลักษณะอากาศ9.เครื่องมือวัดลักษณะอากาศ • 9.5 ไฮโกรมิเตอร์ (Hygrometer)ใช้วัดความชื่นของอากาศ โดยมีเส้นผมเป็นอุปกรณ์สำคัญ ถ้าอากาศมีความชิ้นสูงจะทำให้เส้นผมยืดตัว แต่ถ้ามีความชื้นน้อยเส้นผมจะหดตัว
9.เครื่องมือวัดลักษณะอากาศ9.เครื่องมือวัดลักษณะอากาศ • 9.6 ไซโครมิเตอร์ (Psychrometer) เป็นอุปกรณ์ใช้วัดความชื้นของอากาศอีกแบบหนึ่ง ประกอบด้วยเทอร์โมมิเตอร์ 2 อัน คือ เทอร์โมมิเตอร์ปรอท ( เทอร์โมมิเตอร์ตุ้มแห้ง ) และเทอร์โมมิเตอร์ที่ใช้ผ้ามัสลินหล่อน้ำให้เปียกอยู่ตลอดเวลา (เทอร์โมมิเตอร์ตุ้มเปียก)