490 likes | 1.24k Views
บทที่ 5 ทฤษฎีการผลิต (Theory of Production). การผลิต (Production). เป็นการเปลี่ยนหรือแปรรูปปัจจัยการผลิตให้เป็นสินค้าและบริการ เป็นการสร้างอรรถประโยชน์ให้แก่ปัจจัยการผลิต. INPUT. PROCESS. OUTPUT. การผลิต (Production) (ต่อ). INPUT. PROCESS. OUTPUT. การผลิต (Production) (ต่อ).
E N D
บทที่ 5 ทฤษฎีการผลิต(Theory of Production)
การผลิต (Production) • เป็นการเปลี่ยนหรือแปรรูปปัจจัยการผลิตให้เป็นสินค้าและบริการ • เป็นการสร้างอรรถประโยชน์ให้แก่ปัจจัยการผลิต INPUT PROCESS OUTPUT
การผลิต (Production) (ต่อ) INPUT PROCESS OUTPUT
การผลิต (Production) (ต่อ) เป้าหมายของผู้ผลิตคือ กำไรสูงสุด (maximizing profit) ทำยังไงถึงจะได้กำไรสูงสุด? 1. ใช้ปัจจัยการผลิตน้อยที่สุด แต่ให้ผลผลิตเท่ากับวิธีอื่น (เน้นประสิทธิภาพทางเทคนิค: Technical Efficiency) 2. เสียต้นทุนต่ำสุด แต่ให้ผลผลิตเท่ากับวิธีอื่น (เน้นประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ: Economic Efficiency)
การผลิต (Production) (ต่อ) สรุป • การผลิตคือการเปลี่ยนหรือแปรรูปปัจจัยการผลิตให้เป็นสินค้าและบริการ • การผลิตถือเป็นการสร้างอรรถประโยชน์ให้แก่ปัจจัยการผลิต • สินค้าและบริการที่ผลิตได้ถือเป็นเศรษฐทรัพย์ • เป้าหมายของผู้ผลิตคือ กำไรสูงสุด (maximize profit)
ปัจจัยการผลิต มี 2 ชนิด • ปัจจัยคงที่ (Fixed Factors):ปัจจัยการผลิตที่ไม่เปลี่ยนแปลงตามปริมาณการผลิตที่เพิ่มขึ้น • ปัจจัยแปรผัน (Variable Factors):ปัจจัยการผลิตที่เปลี่ยนแปลงไปตามการผลิตที่เพิ่มขึ้น ถ้าผู้ผลิตต้องการผลิตเพิ่มขึ้น ผู้ผลิตต้องใช้ปัจจัยแปรผันเพิ่มขึ้น
ปัจจัยการผลิต (ต่อ) ผลผลิตเป็นข้าว 2 ถุง ที่นา 1 ไร่ ชาวนา 1 คน ปุ๋ย 1 ถุง ผลผลิตเป็นข้าว 3 ถุง ที่นา 1 ไร่ ชาวนา 2 คน ปุ๋ย 2 ถุง ที่นา 1 ไร่ ชาวนา 3 คน ปุ๋ย 3 ถุง ผลผลิตเป็นข้าว 5 ถุง
ระยะเวลาของการผลิต แบ่งเป็น 2 ระยะ 1. ระยะสั้น (short Run):ช่วงระยะเวลาที่จะต้องมีปัจจัยคงที่อย่างน้อยหนึ่งปัจจัย ดังนั้นการที่จะผลิตสินค้าเพิ่มขึ้นในระยะสั้นทำได้โดยการเพิ่มปัจจัยแปรผัน 2. ระยะยาว (Long Run):ช่วงระยะเวลาที่ไม่มีปัจจัยใดคงที่ ปัจจัยการผลิตทุกชนิดสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ปัจจัยการผลิตจะเป็นปัจจัยแปรผันทั้งหมด
ระยะเวลาของการผลิต (ต่อ) 1. ระยะสั้น (short Run): มีปัจจัยคงที่อย่างน้อย 1 ปัจจัย ผลผลิตเป็นข้าว 2 ถุง ที่นา 1 ไร่ ชาวนา 1 คน ปุ๋ย 1 ถุง ผลผลิตเป็นข้าว 3 ถุง ที่นา 1 ไร่ ชาวนา 2 คน ปุ๋ย 2 ถุง
ระยะเวลาของการผลิต (ต่อ) 1. ระยะยาว (Long Run): ไม่มีปัจจัยคงที่ มีแต่ปัจจัยแปรผัน ผลผลิตเป็นข้าว 2 ถุง ที่นา 1 ไร่ ชาวนา 1 คน ปุ๋ย 1 ถุง ที่นา 2 ไร่ ชาวนา 2 คน ผลผลิตเป็นข้าว 4 ถุง ปุ๋ย 2 ถุง
การผลิตในระยะสั้น (Short-Run Production) ฟังค์ชันการผลิต (Production Function) เป็นการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างปัจจัยการผลิตและจำนวนผลผลิตที่ผลิตได้ เมื่อ กำหนดเทคนิคการผลิตให้ ผลผลิต Q = fn (ปัจจัยการผลิต) Q = fn (x1,x2,x3,…,xn) INPUT PROCESS OUTPUT (x1,x2,x3,…,xn) Q Q = fn (x1,x2,x3,…,xn)
การผลิตในระยะสั้น (ต่อ) INPUT PROCESS OUTPUT Q (x1=ที่ดิน,x2=ปุ๋ย,x3=แรงงาน) ข้าว = fn (x1=ที่ดิน,x2=ปุ๋ย,x3=แรงงาน) Q = ข้าว 2 ถุง ที่นา 1 ไร่ ชาวนา 1 คน ปุ๋ย 1 ถุง Q = เป็นข้าว 4 ถุง ที่นา 1 ไร่ ชาวนา 2 คน ปุ๋ย 2 ถุง
การผลิตในระยะสั้น (ต่อ) ผลผลิตแบ่งออกเป็น 3 ประเภท • ผลผลิตรวม (Total Product : TP) ; ผลผลิตทั้งหมดที่ผู้ผลิตได้รับจากการใช้ปัจจัยการผลิตแบบแปรผันร่วมกับปัจจัยคงที่ • ผลผลิตเพิ่ม (Marginal Product : MP) ;จำนวนผลผลิตที่เพิ่มขึ้นเมื่อใช้ปัจจัยแปรผันการผลิตเพิ่มขึ้น 1 หน่วย • ผลผลิตเฉลี่ย (Average Product : AP) ;ผลผลิตทั้งหมดที่คิดเฉลี่ยต่อหน่วยปัจจัยแปรผัน MP = ∆TP/ ∆L หรือ MPn = TPn-TPn-1 AP = TP / L โดยที่ L = จำนวนปัจจัยแปรผันที่ใช้
การผลิตในระยะสั้น (ต่อ) ที่นา 1 ไร่ ชาวนา 1 คน ข้าว = fn (x1=ที่ดิน,x2=แรงงาน) ได้ข้าวสาร 10 ถุง TP = 10 ถุง ที่นา 1 ไร่ MP=14 ชาวนา 2 คน ได้ข้าวสาร 24 ถุง TP = 24 ถุง ที่นา 1 ไร่ MP=15 ชาวนา 3 คน ได้ข้าวสาร 39 ถุง TP = 39 ถุง MP=13 ชาวนา 4 คน ที่นา 1 ไร่ ได้ข้าวสาร 52 ถุง TP = 52 ถุง
การผลิตในระยะสั้น (ต่อ) กฎการลดน้อยถอยลงของผลผลิตเพิ่ม (Law of Diminishing Marginal Physical Products) • ถ้ามีปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งคงที่ การเพิ่มปัจจัยแปรผัน(L) ขึ้นเรื่อยๆ จะก่อให้เกิดการลดน้อยถอยลงของผลผลิตหน่วยสุดท้าย (MP)
การผลิตในระยะสั้น (ต่อ) กฎการลดน้อยถอยลงของผลผลิตเพิ่ม:ถ้ามีปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งคงที่ การเพิ่มปัจจัยแปรผัน(L) ขึ้นเรื่อยๆ จะก่อให้เกิดการลดน้อยถอยลงของผลผลิตหน่วยสุดท้าย (MP) ทำเอกสารได้วันละ 10 ชิ้น ทำเอกสารได้วันละ 500 ชิ้น ทำเอกสารได้วันละ 20 ชิ้น
การผลิตในระยะสั้น (ต่อ) ที่นา 1 ไร่ ชาวนา 1 คน ได้ข้าวสาร 10 ถุง TP = 10 ถุง . . . . . . . . . . . . . . . . …… ที่นา 1 ไร่ MP=40 ชาวนา 2 คน ได้ข้าวสาร 50 ถุง TP = 50 ถุง เพิ่มขึ้น MPmax=45 ลดลง ชาวนา 10,000 คน ที่นา 1 ไร่ MP=-20 ได้ข้าวสาร 2 ถุง TP = 2 ถุง
การผลิตในระยะสั้น (ต่อ)
การผลิตในระยะสั้น (ต่อ) TP, MP,AP 1. เมื่อ TP สูงสุด , MP = 0 2. ช่วงที่ AP เพิ่มขึ้น, MP จะมากกว่า AP เสมอ(MPL > APL) 3. ช่วงที่ AP ลดลง, MPL < APLเสมอ 4. เมื่อ AP สูงสุด จะมีค่าเท่ากับ MP เสมอMAX. AP = MP Max TP TP Max AP = MP AP MP = 0 ปัจจัยแปรผัน 0 MP
การผลิตในระยะสั้น (ต่อ) สรุปความสัมพันธ์ระหว่าง TP, MP, AP 1. เมื่อ TP สูงสุด , MP = 0 2. ช่วงที่ AP เพิ่มขึ้น, MP ของปัจจัยแปรผันจะมากกว่า AP ของปัจจัยแปรผันเสมอ(MPL > APL) 3. ช่วงที่ AP ลดลง, MPL < APLเสมอ 4. เมื่อ AP สูงสุด จะมีค่าเท่ากับ MP เสมอ MAX. AP = MP
การผลิตในระยะสั้น (ต่อ) สรุป เมื่อ MP=0 Max. TP
การผลิตในระยะสั้น (ต่อ) จาก Q = fn (x1,x2,x3,…,xn) ทำอย่างไรถึงจะเพิ่มผลผลิต (Q) ได้?
การผลิตในระยะสั้น (ต่อ) การเพิ่มปัจจัยแปรผันจะทำให้ผลผลิตเพิ่มแค่ในช่วงแรก เนื่องจากการผลิตในระยะสั้น มีปัจจัยคงที่ที่ไม่สามารถเพิ่มขึ้นตามได้
การแบ่งช่วงของการผลิต(Stages of Production) Max TP TP, MP,AP Stage 2 Stage 3 Stage 1 TP ช่วงการผลิตที่เหมาะสมคือ ต้องเลือกใช้ปัจจัยการผลิต แปรผันให้อยู่ในช่วงที่ 2 ของ การผลิต Max MP Max AP = MP AP MP = 0 ปัจจัยแปรผัน 0 MP
การแบ่งช่วงของการผลิต (ต่อ) ช่วงที่ 1 ช่วงที่ 2 Max. TP ช่วงที่ 3
การผลิตในระยะยาว (Long-Run Production) ไม่มีปัจจัยคงที่ในขบวนการผลิต ปัจจัยทุกชนิดเปลี่ยนแปลงได้
การผลิตในระยะยาว (ต่อ) ในระยะยาว (Long Run): ไม่มีปัจจัยคงที่ มีแต่ปัจจัยแปรผัน ผลผลิตเป็นข้าว 2 ถุง ที่นา 1 ไร่ ชาวนา 1 คน ปุ๋ย 1 ถุง ที่นา 2 ไร่ ชาวนา 2 คน ผลผลิตเป็นข้าว 16 ถุง ปุ๋ย 2 ถุง
การผลิตในระยะยาว (ต่อ) ผู้ผลิตต้องการผลผลิตสูงสุดโดยใช้ทุนที่มีอยู่ทั้งหมด เครื่องมือที่ใช้ในการหาระดับการผลิตที่ทำให้ได้กำไรสูงสุด • เส้นผลผลิตเท่ากัน (Isoquant Line) : IQ ใช้หาผลผลิตสูงสุด • เส้นต้นทุนเท่ากัน (Isocost Line) : IS ใช้แทนทุนที่มีอยู่ทั้งหมด
การผลิตในระยะยาว (ต่อ) 1. เส้นผลผลิตเท่ากัน (Isoquant Line) : IQ การใช้ปัจจัยการผลิต 2 ชนิดในสัดส่วนที่แตกต่างกัน แต่ให้ผลผลิตท่ากัน ................. ........... … คอม 1 เครื่อง 15 คน + Q=100 ชิ้น แรงงาน A 15 + คอม 2 เครื่อง 10 คน B 10 C IQ = 100 ถุง 8 8 Q=100 ชิ้น 0 คอมพิวเตอร์ 1 2 3 8 คน คอม 3 เครื่อง + Q=100 ชิ้น
การผลิตในระยะยาว (ต่อ) 1. เส้นผลผลิตเท่ากัน (Isoquant Line) : IQ เส้นที่แสดงการใช้ปัจจัยการผลิต 2 ชนิดในสัดส่วนที่แตกต่างกัน แต่ให้ผลผลิตท่ากัน ปัจจัย K A 15 B 10 C 8 IQ = 100 ปัจจัย L 0 1 2 3
การผลิตในระยะยาว (ต่อ) ถ้ามีเส้น IQ หลายเส้น เส้นที่อยู่นอกสุดจะมีปริมาณผลผลิตสูงสุด ปัจจัย K IQ1<IQ2<IQ3<IQ4 IQ4 IQ3 IQ2 IQ1 ปัจจัย L
ปัจจัย K A 15 B 10 C 8 IQ = 100 ปัจจัย L 0 การผลิตในระยะยาว (ต่อ) การใช้ปัจจัยการผลิตทดแทนกัน (Marginal Rate ofTechnical Substitution : MRST) • จำนวนปัจจัยการผลิตชนิดหนึ่งที่ลดลงโดยที่ปัจจัยการผลิตอีกชนิดหนึ่งเพิ่มขึ้นหนึ่งหน่วย เพื่อให้ได้ผลผลิตเท่าจำนวนเดิม • การใช้ปัจจัยการผลิต L เพิ่มขึ้นจากการลดปัจจัยการผลิต K • MRTSlk = -∆K /∆L (เช่น A B) • การใช้ปัจจัยการผลิต K เพิ่มขึ้นจากการลดปัจจัยการผลิต L • MRTSkl = -∆L /∆K (เช่น B A) 1 2 3
การผลิตในระยะยาว (ต่อ) การลดน้อยถอยลงของอัตราการใช้ปัจจัยการผลิตทดแทนกัน (Diminishing Marginal Rate of Technical Substitution) ค่า MRTS ของปัจจัยการผลิต 2 ชนิดจะลดลงเรื่อยๆ เมื่อใช้ปัจจัยการผลิตอีกชนิดหนึ่ง เพิ่มขึ้น และปัจจัยการผลิตอีกชนิดหนึ่งลดลง ปัจจัย K จาก A B MRSTlk=5 จาก B C MRSTlk=2 จาก C D MRSTlk=0.5 A 15 B 10 C D IQ = 100 8 7.5 ปัจจัย L 0 1 2 3
การผลิตในระยะยาว (ต่อ) 2. เส้นต้นทุนเท่ากัน (Isocost Line) : IS เส้นที่แสดงสัดส่วนของปัจจัยการผลิต 2 ชนิดที่แตกต่างกันที่สามารถซื้อได้ด้วย เงินทุนจำนวนเท่ากัน ปัจจัย K C/Pk Slope ของเส้น IS คือ Pl/Pk 0 ปัจจัย L C/Pl
การผลิตในระยะยาว (ต่อ) Ex. ถ้ามีเงินทุน 100 ล้านบาท และมีปัจจัยการผลิต 2 ชนิดคือ เครื่องจักรซึ่งมีราคา เครื่องละ 20 ล้านบาท และที่ดินซึ่งมีราคาไร่ละ 10 ล้านบาท ที่ดิน เส้นต้นทุนเท่ากัน IS 10 8 6 4 2 0 1 2 3 4 5 เครื่องจักร
การผลิตในระยะยาว (ต่อ) ดุลยภาพผู้บริโภค (Producer Equilibrium)คือ ปริมาณปัจจัยการผลิตที่ ทำให้ได้ผลผลิตสูงสุดจากทุนที่มีอยู่ทั้งหมด เงื่อนไขที่ทำให้เกิดดุลยภาพผู้บริโภค 1. ผลผลิตสูงสุด แสดงโดยเส้น IQ ที่อยู่นอกสุด 2. ทุนที่มีอยู่ทั้งหมด แสดงโดยเส้น IS
การผลิตในระยะยาว (ต่อ) 1. ผลผลิตสูงสุด ปัจจัย K IQ4 IQ3 IQ2 IQ1 ปัจจัย L
การผลิตในระยะยาว (ต่อ) 2. ทุนที่มีอยู่ทั้งหมด แสดงโดยเส้น IS ปัจจัย K A G C/ PK B N C ปัจจัย L C/ Pl
การผลิตในระยะยาว (ต่อ) จุดใดคือจุดดุลยภาพผู้ผลิต (ปริมาณของปัจจัยการผลิตที่ให้ได้ผลผลิตสูงสุด จากทุนที่มีอยู่) ปัจจัย K A B C IQ4 D E IQ3 IQ2 IQ1 ปัจจัย L
การผลิตในระยะยาว (ต่อ) จุด C คือ จุดดุลยภาพผู้ผลิต หรือเป็นจุดที่ทำให้ผู้ผลิตได้ผลผลิตสูงสุด ปัจจัย K เงื่อนไขที่ทำให้เกิดจุดดุลยภาพผู้ผลิต Slope of IQ = Slope of IS [MRSTlk = -∆K/∆L] = Pl/Pk C IQ ปัจจัย L
การผลิตในระยะยาว (ต่อ) การเปลี่ยนแปลงของเส้นต้นทุนเท่ากัน • เส้นต้นทุนเท่ากันจะเปลี่ยนแปลงได้ 2 กรณีคือ 1. ราคาปัจจัยการผลิตเปลี่ยน แต่เงินทุนคงที่ 2. ทุนการผลิตเปลี่ยน แต่ราคาปัจจัยคงที่
การผลิตในระยะยาว (ต่อ) 1. ราคาปัจจัยการผลิตเปลี่ยน แต่เงินทุนคงที่ ปัจจัย K C/Pk Pl แพงขึ้น Pl ถูกลง 0 ปัจจัย L C/Pl
การผลิตในระยะยาว (ต่อ) 2. ทุนการผลิตเปลี่ยน แต่ราคาปัจจัยคงที่ ปัจจัย K C/Pk ทุนลดลง ทุนเพิ่มขึ้น 0 ปัจจัย L C/Pl
การผลิตในระยะยาว (ต่อ) 2. ทุนการผลิตเปลี่ยน แต่ราคาปัจจัยคงที่ เส้นแนวทางการขยายผลผลิต (The Expansion Path) คือ เส้นที่แสดงสัดส่วน ของปัจจัยการผลิตที่เสียต้นทุนต่ำที่สุด Expansion Path ปัจจัย K C/Pk E1 15 10 E IQ2 8 IQ1 = 120 IQ0 0 ปัจจัย L 40 50 60 C/Pl
การผลิตในระยะยาว (ต่อ) กฎว่าด้วยผลได้ต่อขนาด (Law of Return to Scale) เมื่อปัจจัยการผลิตทุกชนิด (X) เพิ่มขึ้นในสัดส่วนเดียวกันจะทำให้ผลผลิต (Q) เพิ่มขึ้น 3 แบบ 1. ผลผลิตทั้งหมดเพิ่มขึ้นมากกว่าปัจจัยการผลิต (∆Q>∆X) หรือ Increasing Return to Scale: ผลได้ต่อขนาดเพิ่มขึ้นเนื่องจากการประหยัดเนื่องจากขนาด (Economies of Scale) 2. ผลผลิตทั้งหมดเพิ่มขึ้นเท่ากับปัจจัยการผลิต (∆Q=∆X) หรือ Constant Return to Scale:ผลได้ต่อขนาดคงที่ 3. ผลผลิตทั้งหมดเพิ่มขึ้นน้อยกว่าปัจจัยการผลิต (∆Q<∆X) หรือ Decreasing Return to Scale: ผลได้ต่อขนาดลดลง เนื่องจากการไม่ประหยัด