1 / 183

Photoshop

Photoshop. Adobe Photoshop. เป็นโปรแกรมสำหรับการจัดการ และการตกแต่งภาพ ที่ได้รับความนิยมโปรแกรมหนึ่ง จากหลายๆ โปรแกรม วันนี้จะเน้นการทำ เวิร์คช็ อป หลากหลายรูปแบบให้ได้ลงมือทำกัน เปิดโปรแกรมโดยดับเบิ้ลคลิกที่ ไอคอน .

silver
Download Presentation

Photoshop

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. Photoshop

  2. Adobe Photoshop เป็นโปรแกรมสำหรับการจัดการ และการตกแต่งภาพ ที่ได้รับความนิยมโปรแกรมหนึ่ง จากหลายๆ โปรแกรม วันนี้จะเน้นการทำเวิร์คช็อป หลากหลายรูปแบบให้ได้ลงมือทำกัน เปิดโปรแกรมโดยดับเบิ้ลคลิกที่ ไอคอน

  3. 1.Menu Bar และ Option Barคือ แถบที่รวบรวมคำสั่งหลักทุกคำสั่งในการใช้งานโปรแกรม และแถบตัวเลือกของเครื่องมือ ซึ่งปรากฏขึ้นเมื่อเลือกใช้เครื่องมือในกล่องเครื่องมือ (Toolbox) ใช้กำหนดคุณสมบัติของเครื่องมือที่เลือกทำงานอยู่ในขณะนั้น

  4. กล่องเครื่องมือ (Toolbox)คือกล่องเก็บเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในการทำงาน เช่น เครื่องมือเกี่ยวกับการเลือกและแก้ไข

  5. 3.พาเลท (Palette)คือกลุ่มของหน้าต่างที่รวบรวมคุณสมบัติการทำงานของเครื่องมือ ช่วยควบคุมรายละเอียดปลีกย่อยในขั้นตอนการทำงาน

  6. Marquee Tool(คีย์ลัด M) ใช้สำหรับสร้าง Selection ลักษณะการทำงานจะเป็นการสร้างเส้นประเพื่อกำหนดขอบเขตสิ่งที่เราจะใช้งาน ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ต้องใช้บ่อยมาก โดยมี 2 ลักษณะ คือ สร้างขอบเขตแบบสี่เหลี่ยม กับวงกลม โดยสามารถเลือกได้โดยการกดคลิกขวาที่ Marquee Tool

  7. 2. Lasso Tool (คีย์ลัด L) ใช้สำหรับสร้าง Selection เหมือนกันแต่จะแตกต่างกับ Marquee Tool ตรงลักษณะการกำหนดขอบเขตโดยเมื่อคลิกขวาที่ Lasso Tool จะมีให้เลือกการใช้งาน 3 แบบ- แบบแรก คือ การนำเมาส์วาดขอบเขตที่เราต้องการ- แบบที่ 2 Polygonal Lasso Tool จะเป็นการกำหนดขอบเขตแบบทีละจุดซึ่งจะได้เส้นประที่เป็นเส้นตรงเสมอ- แบบที่ 3 Magnetic Lasso Tool จะเป็นการกำหนดขอบเขตโดยเครื่องมือจะใช้เกณฑ์ในการวาดจากความต่างของสี (นิยมใช้ในการตัดต่อ)

  8. 3. Eraser Tool (คีย์ลัด E) ดูจากรูปก็สามารถสามารถได้แล้วว่าคือยางลบไว้สำหรับลบสิ่งที่ไม่ต้องการออกไป4. Hand Tool (คีย์ลัด H แต่ใช้การกด Spacebar ค้างไว้ และใช้เมาส์ลากที่หน้าจอจะสะดวกกว่า)

  9. 5. Move Tool (คีย์ลัด V)ใช้สำหรับเคลื่อนย้ายสิ่งที่เราต้องการโดยการคลิกเมาส์ซ้ายค้างลากและปล่อย6. Magic Wand Tool (คีย์ลัด W)ใช้สำหรับสร้าง Selection ในลักษณะการคลิกเพียงครั้งเดียวโดย Selection ที่ได้จะเป็นโทนสีเดียวกันกับที่เราคลิก7. Brush Tool (คีย์ลัด B)ใช้สำหรับวาดภาพปกติ แต่สามารถเปลี่ยนหัวแปรงได้ โดยในเว็บทั่วไปมีให้โหลดมากมาย ซึ่งจะได้ Brush ที่สวยๆ ในการสร้างลายต่างๆ ไม่จำเป็นต้องวาดรูปเก่งเลย

  10. 8. Gradient Tool (คีย์ลัด G)ใช้สำหรับไล่สีในพื้นที่ที่ต้องการมี option ให้ปรับสีที่ต้องการไล่โดยเมื่อคลิกขวาที่ Gradient Tool จะมีอีกเครื่องมือคือ Paint Bucket Tool ใช้สำหรับเทสีลงใน Selection ที่เราทำไว้9. Dodge Tool & Burn Tool (คีย์ลัด O) Dodge Tool ใช้สำหรับระบายส่วนที่ต้องการให้สีเกิดความสว่าง ส่วน Burn Tool ใช้สำหรับระบายส่วนที่ต้องการให้สีเกิดความเข้ม

  11. 10. Horizantal type Tool (คีย์ลัด T)เป็นเครื่องมือสำหรับพิมพ์ตัวอักษร โดยสามารถพิมพ์ตรงส่วนไหนก็ได้ (สามารถเพิ่ม Font เพื่อใช้งานได้)11. Eyedropper Toolใช้สำหรับดูดสีบริเวณที่ต้องการเพื่อนำมาใช้Note:แต่ ส่วนตัวผมจะใช้ Brush อยู่และกด Alt ค้างไอคอน Brush จะกลายเป็นไอคอน Eyedropper และคลิกบริเวณที่ต้องการสีนั้นๆ เมื่อปล่อยเมาส์ก็จะกลับเป็น Brush เช่นเดิม

  12. 12. Zoom Tool (คีย์ลัด Z)ใช้สำหรับซูมเข้า-ออกในงานที่ทำอยู่Note:ขณะใช้ Zoom Tool อยู่จะอยู่ในสถานะซูมเข้า แต่ถ้ากด Alt ค้างจะเป็นสถานะซูมออก13. Foreground Color & Background Colorเป็นที่สำหรับเลือกสีที่ต้องการในการใช้งานNote: กด X จะเป็นการสลับสีระหว่าง Foreground และ Background ในการใช้งาน

  13. กล้องฟรุ้งฟริ้ง

  14.   แพงมาก ไม่จำเป็นต้องซื้อ มาหัดแต่งภาพด้วย Photoshop ดีกว่าขั้นตอนไม่ยาก

  15. paraweesri.wordpress.com/photo

  16. 1. เลือกภาพมาแต่งโปรดเลือกภาพที่มีแสงพอเหมาะไม่มืดจนดำนะ มันจะปรับไม่ค่อยสวยสักเท่าไร

  17. 2. ก่อนอื่นเลย ปรับแสงของภาพให้พอเหมาะ กด Ctrl+M

  18. 3.เมื่อปรับแสงเสร็จแล้ว ก็กดเพิ่ม Layer นะ ตั้งชื่อว่า "ผิว"

  19. เลเยอร์LAYER เรียกว่าเป็นชั้นของสิ่งที่ใส่เข้าไปในชิ้นงาน เพราะหลักการทำงานของ Photoshop นั้น คือการนำชั้นต่างๆ เหล่านี้เข้ามาผสมกันเพื่อปรับแต่งให้ภาพออกมาสวยงาม

  20. สามารถทำอะไรกับเลเยอร์(What're we can do with Layer)  แสดงหรือซ่อน (Show or Hide Layer) การคลิกที่รูปดวงตาแต่ละครั้ง จะเป็นการเปิดเพื่อแสดง หรือปิดเพื่อซ่อนสิ่งที่อยู่ในเลเยอร์ เช่น ถ้าไม่ต้องการให้แสดงภาพของเลเยอร์ใด ก็ทำการปิด หรือซ่อนไป

  21. สามารถทำอะไรกับเลเยอร์(What're we can do with Layer)  คัดลอก และ ทำซ้ำเลเยอร์ (Copy and Duplicate Layer) แบ่งเป็น การคัดลอก เลเยอร์ จากชิ้นงานหนึ่งไปยังอีกชิ้นงานหนึ่ง ทำได้หลายวิธี คลิกเลเยอร์ที่ต้องการ ใช้โปรแกรมเมนู Edit เลือก Copy หรือกดปุ่ม Ctrl C คลิก Tab ของชิ้นงานที่เราต้องการจะให้เลเยอร์นั้นมาวางไว้แล้วคลิก Edit เลือก Paste หรือกดปุ่ม Ctrl V  

  22. สามารถทำอะไรกับเลเยอร์(What're we can do with Layer)  คลิกเลเยอร์ที่ต้องการ คลิกขวาที่เม้าส์ เลือก Duplicate Layer จะได้หน้าต่างตามภาพ ใส่ชื่อในช่อง Destination ให้เป็นชื่อชิ้นงานที่ต้องการนำเลเยอร์นี้ไปไว้

  23. การคัดลอกเลเยอร์ในชิ้นงานเดียวกันการคัดลอกเลเยอร์ในชิ้นงานเดียวกัน 1. คลิกที่เลเยอร์ ใช้โปรแกรมเมนู Layer เลือก Duplicate Layer จะมีหน้าต่างแสดง แต่ช่อง Destination ไม่ต้องกำหนดชื่อชิ้นงานอื่น 2. คลิกที่เลเยอร์ ใช้โปรแกรมเมนู Layer เลือก New เลือก Layer via Copy (คีย์ลัด Ctrl + J) 3. คลิกที่เลเยอร์นั้น และกดคีย์ Alt พร้อมกับลากเลเยอร์ไปยังตำแหน่งใน Panel ที่ต้องการวาง ปล่อยเม้าส์

  24. เพิ่มเลเยอร์(Add Layer) คลิกไอคอน Create a new Layer ซึ่งอยู่ด้านล่างของ Layer Panel ติดกับรูปถังขยะ หรือ ใช้คำสั่งจากเมนูโปรแกรม เลือก Layer เลือก New เลือก Layer ตั้งชื่อ และ Enter

  25. ลบเลเยอร์(Delete Layer) ทำโดย คลิกที่เลเยอร์ที่ต้องการลบ กดปุ่ม Backspace หรือใช้โปรแกรมเมนู Layer เลือก Delete เลือก Layer หรือโดยการคลิกที่เลเยอร์แล้วลากมาที่รูปถัง

  26. การล็อค และ ปลดล็อคเลเยอร์(Lock and Unlock Layer) การล็อคเลเยอร์ ทำได้โดย คลิกที่เลเยอร์ที่ต้องการล็อค แล้วคลิกที่รูปกุญแจ ส่วนการปลดล็อคก็เพียงทำซ้ำขั้นตอนเดียวกัน

  27. การปลดล็อคเลเยอร์Backgroundการปลดล็อคเลเยอร์Background วิธีปลดล็อคทำได้โดย ดับเบิ้ลคลิกที่เลเยอร์ จะมีหน้าต่างดังภาพขึ้นมา จะตั้งชื่อเลเยอร์ใหม่หรือไม่ก็ได้ เลเยอร์นั้นก็จะปลดล็อคเป็นเลเยอร์ธรรมดา

  28. ตั้งชื่อเลเยอร์ (Name Layer) วิธีตั้งชื่อให้กับเลเยอร์ ทำโดย ดับเบิ้ลคลิกที่ชื่อบนเลเยอร์นั้น และพิมพ์ชื่อ เสร็จแล้ว Enter

  29. 4. เลือก Eye dropper 5. เลือก foreground

  30. 5.เลือกสีโทนชมพูๆ หรือโทนสีอื่นตามชอบ

  31. 6.เลือก brush tool

  32. 7. ตรง Normal เลือกเปลี่ยนเป็น soft light

  33. 8. เอาแปรงไปทาตรงส่วนผิวของเรา เพื่อผิวที่อมชมพู

  34. 9.สามารถปรับเพื่อความเนียนของผิวได้ตรง Opacity  เพื่อไม่ให้ชมพูเกินจริง

  35. 10. เลือกยางลบเพื่อลบสีที่ไปเกินตรงส่วนตาและคิ้ว

  36. 11.กดเพิ่มเลเยอร์ ชื่อ "ปาก"  เพื่อปรับสีปาก

  37. 12.แต่งเติมสีปาก ให้ชมพูกว่าผิวทำเหมือนผิวเลย

  38. การบันทึกงานแต่ละประเภท (Saving) การบันทึกงานแบ่งออกได้หลายแบบ เช่น บันทึกเป็นไฟล์งาน Photoshop (PSD),  TIFF, PNG, JPEG เพื่อให้เหมาะสมกับงานแต่ละประเภทจะนำไปใช้ต่อไป

  39. บันทึกงานเป็นไฟล์ PSD การทำงานใน โปรแกรมจะมีการปรับแต่งหลายแบบ เมื่อทำการบันทึก ต้องให้แน่ใจว่าได้เลือกสิ่งที่ปรับแต่งไว้ในงานประเภทต่างๆ อย่างครบถ้วน เช่น  Layer, Alpha channel และ อื่นๆ แต่อย่าลืมดูให้แน่ใจว่าช่อง As a copy จะต้องไม่ถูกเลือก

  40. และเพื่อประหยัดเนื้อที่ของฮาร์ดดิสก์ ไม่ต้องทำเครื่องหมายเลือกที่ช่อง Maximize compatibility ถ้าแน่ใจว่าไม่ได้นำไฟล์นี้ไปใช้กับ Photoshop ตระกูลอื่นเช่น Photoshop Lightroomเป็นต้น

  41. บันทึกงานเป็นไฟล์ TIFF (สำหรับงานพิมพ์) ก่อนบันทึกงาน ให้ทำการรวมเลเยอร์ให้เป็น Flat Layer ก่อน เพื่อลดขนาดไฟล์ เพราะไฟล์ประเภทนี้จะมีขนาดค่อนข้างใหญ่ แต่อย่าลืมขณะบันทึกต้องแน่ใจว่าได้เลือกที่ช่อง Layer ไว้ด้วย กรณีนี้จะสามารถเปิดไฟล์เพื่อมาแก้ไขในโปรแกรม Photoshop ได้อีก

  42. แต่ถ้าแน่ใจว่าไม่ต้องการกลับมาแก้ไขอีก ให้บันทึกโดยไม่ต้องเลือกช่อง Layer และให้กำหนดค่าใน TIFF Option แทนเพื่อให้เหมาะกับความต้องการ

  43. บันทึกงานเป็นไฟล์ PNG การบันทึกงาน ประเภทนี้จะมีขนาดไฟล์ที่ค่อนข้างเล็ก แต่ไม่สามารถเรียกกลับมาแก้ไขใน Photoshop ได้อีก เหมาะกับงานประเภทที่ใช้แสดงผลบนเว็ปไซต์

  44. บันทึกงานเป็นไฟล์ JPEG ไฟล์ประเภท นี้จะให้ภาพที่ค่อนข้างสวยงาม แต่ก็จะมีขนาดของไฟล์ใหญ่พอสมควร ก่อนที่จะบันทึกก็ลองปรับค่าคุณภาพของภาพตามประเภทของงานที่จะนำไปใช้ต่อไป สามารถปรับได้ตั้งแต่ 0 - 12 เรียงจากความละเอียดของภาพจากน้อยไปหามาก

More Related