1 / 103

Communication Media

Communication Media. เนื้อหา. สื่อประเภทเหนี่ยวนำ ( Conducted Media ) สายเกลียวคู่ (Twisted-Pair Cable) สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) สายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic). เนื้อหา. สื่อประเภทไร้สาย ( Wireless Media ) คลื่นวิทยุ ( Broadcast Radio ) ไมโครเวฟ ( Microwave )

naif
Download Presentation

Communication Media

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. Communication Media

  2. เนื้อหา • สื่อประเภทเหนี่ยวนำ (Conducted Media) • สายเกลียวคู่ (Twisted-Pair Cable) • สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) • สายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic)

  3. เนื้อหา • สื่อประเภทไร้สาย (Wireless Media) • คลื่นวิทยุ (Broadcast Radio) • ไมโครเวฟ (Microwave) • ดาวเทียม (Satellite) • แสงอินฟราเรด (Infrared) • บลูทูธ (Bluetooth)

  4. เนื้อหา • การเลือกสื่อ • ประเภทของการเชื่อมต่อสายสื่อสาร • อุปกรณ์เชื่อมต่อเทอร์มินอล (Terminal Interface)

  5. การสื่อสารข้อมูล (Data Communication) • การแลกเปลี่ยนข้อมูลกันระหว่างอุปกรณ์หรือเครื่องคอมพิวเตอร์ อย่างน้อย 2 เครื่อง • ผ่านสื่อกลางชนิดต่างๆ • ข้อมูลที่แลกเปลี่ยน อาจอยู่ในรูปของ ตัวอักษร ตัวเลข ข้อมูลเสียง รูปภาพ เป็นต้น

  6. สื่อกลางในการสื่อสารข้อมูล (Communication Media) • สื่อประเภทเหนี่ยวนำ (Conducted Media) • อาศัยวัสดุที่จับต้องได้เป็นตัวนำพาสัญญาณ • เช่น สายทองแดง, ใยแก้วนำแสง • สื่อประเภทกระจายคลื่น (Radiated Media) • ไม่ต้องอาศัยวัสดุใดๆในการนำพาสัญญาณ • เช่น คลื่นวิทยุ

  7. เนื้อหา • สื่อประเภทเหนี่ยวนำ (Conducted Media) • สายเกลียวคู่ (Twisted-Pair Cable) • สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) • สายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic)

  8. สายเกลียวคู่ (Twisted-Pair Cable) • สายทองแดงจับคู่พันเกลียว เพื่อลดสัญญาณรบกวน • ยิ่งบิดเกลียวหนาแน่น -> ลดสัญญาณรบกวนได้ดีกว่า • สาย 1 คู่หมายถึงช่องสัญญาณ 1 ช่องทาง • มีกว่าร้อยชนิด จำนวนคู่สายตั้งแต่ 1 - 4200 คู่ให้เลือกใช้ • แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ • Unshielded Twisted-Pair (UTP) • Shielded Twisted-Pair (STP)

  9. Unshielded Twisted-Pair (UTP) • ไม่มีฉนวน (shield) หุ้ม แต่ใช้เปลือกพลาสติกแทน • ถูกสัญญาณรบกวนได้ง่าย ส่งได้ไกลสุด 100 m. • ความเร็วตั้งแต่ 10-1000 Mbps • มีตั้งแต่ 1,2,3 คู่ (สายโทรศัพท์ ; ใช้ connectorRJ-11) ถึง 4 คู่ (สาย LAN แบบ Ethernet; ใช้ connectorRJ-45) • นิยมใช้มากที่สุด • ข้อดี ราคาต่ำ และมีประสิทธิภาพดีพอสมควร

  10. Unshielded Twisted-Pair (UTP)

  11. Shielded Twisted-Pair (STP) • สายเกลียวคู่ที่มีฉนวน Teflon หุ้มลวดทองแดงอยู่เรียกว่า ‘Cladding’ • ลดการรบกวนจากสายข้างเคียง • ชั้นนอกหุ้มด้วยตาข่ายโลหะ • ป้องกันการรบกวนสัญญาณจากภายนอกเพิ่มอีกชั้น • หนา,ทนทาน และกันสัญญาณรบกวนได้ดีกว่า UTP

  12. Shielded Twisted-Pair (STP) • อัตราเร็วในการส่งสัญญาณเท่ากับ UTP แต่มีราคาสูงกว่า • เหมาะสำหรับสถานที่ที่มีสัญญาณรบกวนมากกว่าปกติ • หรือกรณีที่ต้องนำสายสัญญาณจำนวนมากมัดรวมกัน

  13. Shielded Twisted-Pair (STP)

  14. Twisted-Pair Cable • ประเภทของสาย Twisted-Pair เรียก Category (Cat.) ในปัจจุบัน แบ่งออกเป็น 6 ประเภท คือ • Category 1 Category 2 • Category 3 Category 4 • Category 5 Category 5e • Category 6 Category 6e • Category 7

  15. Twisted-Pair Cable • Category 1 : ใช้ในระบบโทรศัพท์ ส่งได้เฉพาะสัญญาณ Analog ความเร็วต่ำ 1 Mbps • Category 2 : ใช้กับระบบเครือข่ายแบบ Token Ring ของ IBM ส่งสัญญาณ Digital ความเร็ว 4 Mbps • Category 3: ใช้กับระบบเครือข่าย LAN แบบ Ethernet ส่งสัญญาณ Digital ความเร็ว 10 Mbps (10Base-T)

  16. Twisted-Pair Cable • Category 4 : ใช้กับระบบเครือข่ายแบบ Token Ring ส่งสัญญาณ Digital ความเร็ว 16 Mbps • Category 5: ใช้กับระบบเครือข่าย LAN แบบ Fast Ethernet ส่งสัญญาณ Digital ความเร็ว 100 Mbps(100Base-T)

  17. Twisted-Pair Cable • Category 5e (enhanced) : รองความเร็ว 100, 1000 Mbps (1 Gbps) ใช้ในระบบเครือข่ายแบบ Gigabit Ethernet (GigE) • Category 6 : เป็นมาตรฐานใหม่ ติดตั้งใช้งานในระบบเครือข่ายแบบ Gigabit Ethernet (GigE) รองรับ Bandwidth ที่สูงขึ้น (250 MHz)

  18. Twisted-Pair Cable • Category 6e : เพิ่ม Bandwidth เป็น 500 MHz เหมาะสำหรับเครือข่ายแบบ 10GBase-T • Category 7: มีการเพิ่ม Bandwidth ขึ้นเป็น 600 MHz เพื่อให้สามารถรองรับอุปกรณ์และเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่นการทำงานแบบมัลติมีเดีย แต่ยังอยู่ในช่วงของการวิจัยและพัฒนายังไม่ได้กำหนดให้เป็นมาตรฐานอย่างเป็นทางการ

  19. สายเกลียวคู่ (Twisted-Pair Cable) • ข้อดี • ราคาถูก • ง่ายต่อการนำไปใช้

  20. สายเกลียวคู่ (Twisted-Pair Cable) • ข้อเสีย • มีความเร็วในการส่งข้อมูลต่ำเมื่อเทียบกับสื่อประเภทอื่น • ใช้ได้ในระยะทางสั้นๆ • สัญญาณไม่ชัดเจน มีสัญญาณรบกวน(Noise) (โดยเฉพาะ UTP)

  21. เนื้อหา • สื่อประเภทเหนี่ยวนำ (Conducted Media) • สายเกลียวคู่ (Twisted-Pair Cable) • สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) • สายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic)

  22. สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) • นิยมเรียกว่า “สายโคแอก” • ส่วนมากมี 4 ชั้นจากใน->นอก ดังนี้ • Inner Conductor - ตัวนำที่มักทำด้วยทองแดงเป็นแกนกลาง ใช้ในการถ่ายทอดสัญญาณ • Insulating Shell - ฉนวนพลาสติกเพื่อป้องกันกระแส

  23. สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) • Braided Copper Shield- ลวดทองแดงถักเพื่อเป็นชีลด์อีกชั้น • Jacket - ยางหรือพลาสติกที่มีความทนทาน สามารถเดินสายใต้พื้นดินได้ • ตัวอย่างเช่น สายเคเบิลทีวี, สายสัญญาณโทรทัศน์

  24. Coaxial Cable

  25. สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) • ประเภทของสายโคแอกที่ควรรู้จัก • สาย RG8: มีขนาดใหญ่กว่า ใช้ในเครือข่ายแบบ Thicknet หรือ 10Base5 • สาย RG58 : มีขนาดบางกว่า ใช้ในเครือข่ายแบบ Thinnet หรือ 10Base2 • สาย RG6 : ใช้กับเครื่องรับโทรทัศน์, เคเบิลทีวี

  26. สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) • ชนิดของหัวต่อ : BNC (thinnet) , AUI/DIX (thicknet) • ความยาวสูงสุด: 185 m. (thinnet) (10Base-2), 500 m. (thicknet) (10Base-5) • Transfer Rate: 10 - 100 Mbps • Topology : Bus (Twist-Pair, Topology : Star)

  27. T-connector BNC connector

  28. สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) • สายโคแอกเชียลสามารถถ่ายทอดสัญญาณได้ 2 แบบ คือ • บรอดแบนด์ (Broadband Transmission) • เบสแบนด์ (Baseband Transmission)

  29. Broadband Transmission • แบ่งสายสัญญาณออกเป็นช่องส่งสัญญาณขนาดเล็กจำนวนมาก • มีช่องสัญญาณกันชน (Guard Band) ป้องกันการกวนกัน • แต่ละช่องสัญญาณสามารถรับ-ส่งข้อมูลได้พร้อมกัน • ใช้กับสัญญาณ Analog • ใช้ในการส่งสัญญาณโทรทัศน์ได้หลายร้อยช่อง • ตัวอย่าง Cable TV

  30. Broadband Transmission

  31. Baseband Transmission • มีเพียงช่องสัญญาณเดียว • มีความกว้างของช่องสัญญาณมาก • การส่งสัญญาณเป็นแบบ Half-duplex • ใช้ในระบบ LAN ส่งสัญญาณแบบ Digital • อุปกรณ์มีความซับซ้อนน้อยกว่าแบบแรก

  32. Baseband Transmission

  33. สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) • ข้อดี • เชื่อมต่อได้ในระยะทางไกล (สูงสุด 500 เมตร - Thicknet) • ลดสัญญาณรบกวนจากภายนอกได้ดี • คุณภาพของสัญญาณดีกว่า • ป้องกันการสะท้อนกลับ (Echo) ได้ดี

  34. สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) • ข้อเสีย • ราคาแพง • สายมีขนาดใหญ่ • ติดตั้ง Connector ยาก

  35. เนื้อหา • สื่อประเภทเหนี่ยวนำ (Conducted Media) • สายเกลียวคู่ (Twisted-Pair Cable) • สายโคแอกเชียล (Coaxial Cable) • สายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic)

  36. สายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Cable) • ประกอบด้วยเส้นใยแก้วขนาดเล็ก ที่ทำจากแก้วบริสุทธิ์หรือวัสดุใยแก้ว (Silica, Plastic) • ใช้ในการนำสัญญาณแสง เรียกว่า core • อาจมี 1 หรือหลายเส้น • แต่ละเส้นหุ้มด้วยวัสดุสะท้อนแสง (Cladding) • อาจมีฉนวนหุ้มอีก 1-2 ชั้น เรียกว่า Buffer • ชั้นนอกสุดช่วยเพิ่มความแข็งแรง เรียก Jacket

  37. สายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Cable) • ใช้แสงเป็นตัวส่งข้อมูล โดยต้นกำเนิดแสงคือ LED (Light Emitting Diode) หรือ ILD (Injection Laser Diode) • ปลายทางมีตัวรับสัญญาณ เรียก Photo Diode • ใช้หลักการสะท้อนของแสงในมุมที่แตกต่างกัน • ความเร็วของการส่งสัญญาณจะเท่ากับความเร็วแสง

  38. สายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Cable) • Connector Type: FC, FDDI, SC, LC, MT • Maximum Length: 100 Km. • Transfer Rate: 2 Gbps • Topology: Bus

  39. Maximum Cable Distance For Ethernet* * 1ตm = 1 micron, 1nm = 1 nanometer wavelength

  40. สายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Cable) • แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ตามวิธีการส่งสัญญาณ • Multimode Mode(MMF)ใช้การส่งข้อมูลแบบหลายลำแสง โดยสะท้อนแสงไปตาม core ด้วยองศาที่ต่างกัน • แบ่งเป็น 2 ประเภทตามลักษณะการหักเหแสง 1. Step Index 2. Grade Index • Single Mode(SMF)ไม่ใช้การสะท้อนแสง แสงเดินทางเป็นเส้นตรง

  41. สายใยแก้วนำแสง (Fiber Optic Cable) • Multimode Step Index :การสะท้อนของลำแสงแต่ละเส้นไม่เท่ากัน ทำให้สัญญาณเดินทางถึงที่หมายด้วยความเร็วต่างกัน • Multimode Grade Index :ใช้เทคนิคการหักเหแสงทำให้แสดงเดินทางอยู่กึ่งกลางของใยแก้ว ทำให้แสงทุกเส้นเดินทางถึงที่หมายพร้อมกัน

More Related