บทเรียนเชิงกลยุทธ์

1. บทเรียนเชิงกลยุทธ์ สิทธิเดช ลีมัคเดช www.thaibusinessmarket.com E-Mail: thaimarketonline@gmail.com

2. สมรรถนะ คู่แข่งรายใหม่ เทคโนโลยีที่เกิดนานแล้ว T1 T2 เวลา/การลงทุน เส้นกราฟรุ่น S-Curve

3. ฝ่ายรับ • ปรับตัวเข้าหาเทคโนโลยีใหม่ • พัฒนาเทคโนโลยีเดิมให้ดีขึ้น • ดำเนินธุรกิจเดิม และเริ่มต้นลงทุนในเทคโนโลยีใหม่

4. กรณีศึกษา IBM ค.ศ.1981 เริ่มผลิตคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ ค.ศ.2002 ขายสิทธิ์ตระกูล Think ให้กับบริษัท Lenovo โดยให้ใช้ชื่อ IBM ต่ออีก 5 ปี (ค.ศ.2007) เมื่อ IBM หันมาทำ PC เพื่อลูกค้าในตลาดคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล

5. ฝ่ายรุก • มุ่งเน้นไปที่ “สิ่งสำคัญ” เพียงอย่างเดียว ! • มันเกิดจากการปฏิเสธ 1,000 อย่าง เพื่อให้แน่ใจว่าเราไม่หลงทาง หรือพยายามทำมากเกินไป การปฏิเสธจะทำให้คุณจดจ่อกับสิ่งสำคัญที่แท้จริง

6. ความแตกต่างของ iPod คือการสร้าง iTunes เมื่อซื้อฮาร์ดแวร์แล้ว คุณก็ดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ได้ง่าย

7. ประโยชน์ของ S-Curve • องค์กรต้องพิจารณาว่าเทคโนโลยีหลักอยู่ตรงช่วงไหน ? • ปฏิบัติอย่างเดียวกับคู่แข่งหากเทคโนโลยีนั้นมีอนาคต! • วิเคราะห์ว่ากลยุทธ์ใดที่จะทำให้ประสบความสำเร็จ ? • ผู้นำองค์กรควรสร้างสภาพแวดล้อมซึ่งได้แก่ ความสามารถในการทำกำไร, ประสิทธิภาพการทำงาน และความสามารถในการคาดการณ์ได้

8. ตารางแสดงกลุ่มโครงการนวัตกรรมInnovation portfolio matrix สูง ความเสี่ยงและผลตอบแทนที่เป็นไปได้ที่เกี่ยวเนื่องกับความท้าทายด้านเทคนิคและการตลาด ต่ำ เติบโตเต็มที่ เกิดใหม่ ลักษณะของตลาด

9. แนวการปฏิบัติในการบริหารจัดการกลุ่มโครงการที่หลากหลายBest Practices in Portfolio Management • วิเคราะห์โครงการทั้งหมดในลักษณะองค์รวม • ประเมินโครงการทั้งกลุ่มในเชิงปริมาณที่วัดเป็นตัวเลขได้ • ค้นหาความสมดุลที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ • หารืออย่างปราศจากอคติในเรื่องความสำเร็จหรือล้มเหลวหากนำโครงการที่มีอยู่ไปทำให้เกิดขึ้นจริง • หาวิธีป้องกันความไม่แน่นอนทางด้านเทคโนโลยี

10. ความเสี่ยง • พฤติกรรมของลูกค้าและกระบวนการตัดสินใจ • ช่องทางการจัดจำหน่ายและกิจกรรมการขาย • คู่แข่ง (ทั้งของเดิมและหน้าใหม่) • ความสัมพันธ์กับลูกค้าปัจจุบัน • ความสามารถในการพัฒนาเทคโนโลยีของเรา • หน้าที่หรือการใช้งานหลักของสินค้าหรือบริการของเรา • ทรัพยากรที่ใช้

11. 3 องค์ประกอบของความคิดสร้างสรรค์ ความเชี่ยวชาญ ทักษะในการคิด แรงจูงใจ

14. Alex Tewนักค้าพิกเซล เริ่มต้นกิจการเมื่ออายุ 21 ปี • 20 นาที กระดาษเปล่า 1 ใบพร้อมหนี้สิน และถุงเท้าไม่ครบคู่ • ตั้งคำถามว่า “ฉันจะกลายเป็นเศรษฐีเงินล้านได้อย่างไร?” • Selling Pixels !?! • แบ่งหน้าเว็บออกเป็น 1 ล้าน พิกเซล แล้วขายในราคา 1 เหรียญต่อพิกเซล ขั้นต่ำสุดคือ 10X10 พิกเซล • 26 สค.2005 เว็บเพจชื่อMillion Dollar Homepage ก็มีเจ้าของสินค้าอินเทรนด์กว่า 2000 รายจับจอง • เหลืออีก 1 พันพิกเซลสุดท้าย เขาเอาไปประมูลในอีเบย์ได้เงิน 38,100 เหรียญ • “มันเป็นเรื่องศรัทธาในจิตใต้สำนึก ผมเขียนเป้าหมายก่อนแล้วค่อยลงมือคิดย้อนกลับว่าต้องทำอย่างไร ?” • เขาได้เงินจากการคิด 20 นาทีนี้ 1,037,100 เหรียญ หลังจากที่เคยได้ค่าจ้างจากเทสโก ชั่วโมงละ 5 ปอนด์!

16. Matt Wegrzynนักค้าโดเมนเนมเงินล้าน เริ่มต้นกิจการวัย 17 ปี • หลังจากล้มเหลวกับการจ้างคนมาพัฒนาเทมเพลตHTML • ด้วยความบังเอิญ เขาตัดสินใจซื้อชื่อโดเมน Htmltalk.com มาในราคา 120 เหรียญ หลังจากเสนอขายอยู่ 2 สัปดาห์ก็มีผู้ซื้อต่อไป 500 เหรียญ • เขาลุยตุนชื่อโดเมนเนมดีๆไว้ geekforums.com, lawforums.com, mysqlforums.com ฯลฯ • ปี 2007 เขาตั้งชื่อเว็บไซต์ตัวเองว่า bodis.com เป็นเว็บซื้อขายแลกเปลี่ยนโดเมนเนมในลักษณะ 3 อิน 1 คือ ซื้อ-ขาย-รับฝาก คือผู้ซื้อจากเขาไปแล้ว เขาจะช่วยขายโดยแบ่งเปอร์เซ็นต์กัน • โดเมนเนมที่เขาขายแล้วได้ราคา oy.com, stern.com, jf.com, xd.com, vd.com เพียงปีเดียวเขาก็มียอดขาย 1 ล้านเหรียญแล้ว • อย่าล้มเลิก ต่อให้มีอุปสรรคก็อย่าถอดใจ มุ่งมั่นค้นหาจนกว่าจะเจอสิ่งที่ใช่!

18. Maddie Bradshawรวยด้วยฝาจีบ เริ่มกิจการอายุ 10 ขวบ • ค้นเจอฝาขวดโค้กของลุง เลยเอามาพัฒนาเขียนลวดลายตกแต่งเป็นแม่เหล็ก • เริ่มต้นด้วยทุน 300 เหรียญ ตั้งบริษัท m3 Girl Designs, LLC ในปี 2006 เพื่อผลิตสินค้าที่เรียกว่า Snap Caps • ปี 2007 นำไปเปิดตลาดที่ Learning Express ปรากฏว่า 2 ชั่วโมงแรก สินค้า 50 ชิ้นของเธอขายเกลี้ยง • “อยากให้คนทุกๆ วัยทำตามความฝัน แต่ขอให้มั่นใจว่าคุณกำลังทำในสิ่งที่คุณรักจริงๆ”

19. การเพิ่มพูนความคิดสร้างสรรค์ให้ตนเอง(จาก หนังสือ The Innovator’s Toolkit) • แทนที่จะพิจารณาว่าเก่งอะไร แต่คิดใหม่ว่า งานนั้นตรงกับความสนใจในชีวิตที่อยู่ลึกๆ หรือเปล่า • จินตนาการถึงสถานการณ์ในอุดมคติ (จะทำอะไรจึงจะสร้างความพอใจให้ลูกค้าได้มากกว่านี้ ?) • ลงลึกถึงปัญหา (สมมุติตัวเองเป็นลูกค้า) • ทำให้แรงกระตุ้นของคุณมีอยู่ในงานหลายๆ ด้าน จงเป็นผู้เรียนรู้ตลอดชีวิต • สร้างโอกาสการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นอย่างไม่เป็นทางการ

20. การสร้างทีมงานความคิดสร้างสรรค์การสร้างทีมงานความคิดสร้างสรรค์ • มองหาคนที่มีมุมมองที่เต็มไปด้วยสติปัญญา แต่ต้องไม่ซ้ำกับศักยภาพที่มีอยู่เดิม • มองหาความสมดุลระหว่างความเชี่ยวชาญกับบุคลิกลักษณะส่วนบุคคล เช่น เป็นผู้มีความคิดริเริ่ม กับ ความสามารถในการเข้ากับผู้อื่น • มองหาคนที่ทำงานได้กับคนที่มีหน้าที่การงานนอกขอบเขตงานของตน • จงระบุหลักเกณฑ์สำหรับคนที่จ้างมาร่วมงานในทักษะที่ทีมงานขาดอยู่อย่างชัดเจน • ใช้ช่องทางใหม่ๆ เพื่อการรับสมัครคนทำงาน • พิจารณาผู้เกี่ยวข้องภายนอกองค์กรเข้ามาร่วมด้วย เช่น นักมานุษยวิทยา

21. องค์กรที่มีคุณลักษณะสนับสนุนนวัตกรรมองค์กรที่มีคุณลักษณะสนับสนุนนวัตกรรม • ผู้บริหารต้องกล้ารับความเสี่ยง • ยอมรับความคิดเห็นใหม่ และวิธีการใหม่ๆ • พนักงานสามารถเข้าถึงแหล่งความรู้ • ความคิดดีๆ ต้องได้รับการสนับสนุนจากผู้บริหาร • มีการให้รางวัลแก่ผู้สร้างนวัตกรรม • สร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการทำงานร่วมกัน เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่

22. ที่ทำงานของคุณควรปรับปรุงอย่างไรให้เป็นมิตรต่อความคิดสร้างสรรค์ ?