1 / 73

ระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ 2554

"บริหารการใช้จ่ายเงินของแผ่นดิน ให้เกิดประโยชน์สูงสุด". ระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ 2554. รชตะ อุ่นสุข. ระบบสวัสดิการในประเทศไทย. สิทธิประกันสังคม (1506). สิทธิกรมบัญชีกลาง ( 02 127 7000 ). สิทธิท้องถิ่น. สิทธิรัฐวิสาหกิจ. สิทธิองค์กรอิสระ.

Download Presentation

ระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ 2554

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. "บริหารการใช้จ่ายเงินของแผ่นดิน ให้เกิดประโยชน์สูงสุด" ระบบสวัสดิการรักษาพยาบาลข้าราชการ 2554 รชตะ อุ่นสุข

  2. ระบบสวัสดิการในประเทศไทยระบบสวัสดิการในประเทศไทย สิทธิประกันสังคม (1506) สิทธิกรมบัญชีกลาง (02 127 7000) สิทธิท้องถิ่น สิทธิรัฐวิสาหกิจ สิทธิองค์กรอิสระ สิทธิหลักประกัน สุขภาพแห่งชาติ (1330)

  3. คำนิยาม "สวัสดิการ" “สวัสดิการ” คือ ผลประโยชน์ที่รัฐจัดให้กับข้าราชการ ทั้งนี้ การเปลี่ยนแปลง เพิ่ม ลด สวัสดิการนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางการคลังของรัฐในขณะนั้นๆ กรมบัญชีกลางในฐานะหน่วยงานที่กำกับดูแลด้านสวัสดิการ จึงมีหน้าที่บริหารจัดการสวัสดิการให้มีประสิทธิภาพ โดยใช้งบประมาณอย่างเหมาะสม และเกิดประโยชน์สูงสุด

  4. แนวคิดหลัก การสร้างเสริมป้องกันโรค การสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค และการตรวจสุขภาพประจำปีที่จำเป็นและเหมาะสม การรักษาพยาบาล เพื่อให้ผู้ป่วยฟื้นคืนสภาพ หายจาก ความเจ็บป่วย โดยการรักษาพยาบาล ที่เป็นมาตรฐาน มิใช่การทดลอง/วิจัย

  5. ความเป็นมาการสร้างเสริมสุขภาพความเป็นมาการสร้างเสริมสุขภาพ กรมบัญชีกลางได้มีการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาเงินสวัสดิการเกี่ยวกับการรักษาพยาบาล พ.ศ. 2553 (มีผลบังคับใช้วันที่ 29 กันยายน 2553) โดยพระราชกฤษฎีกาดังกล่าวมีการเพิ่มสิทธิประโยชน์ด้านการ "สร้างเสริมป้องกันโรค" ให้ครอบคลุมผู้มีสิทธิ และบุคคลในครอบครัว

  6. สิทธิด้านการสร้างเสริมป้องกันในปัจจุบันสิทธิด้านการสร้างเสริมป้องกันในปัจจุบัน • ผู้มีสิทธิ : เหมือนเดิม • บุคคลในครอบครัว : ? • ผู้มีสิทธิ : ? • บุคคลในครอบครัว : ? ตรวจสุขภาพประจำปี สร้างเสริม ป้องกันโรค Package ใหม่

  7. ค่าตรวจสุขภาพประจำปีตามพระราชกฤษฎีกาเดิม)ค่าตรวจสุขภาพประจำปีตามพระราชกฤษฎีกาเดิม)

  8. ค่าตรวจสุขภาพประจำปี(อายุต่ำกว่า 35 ปี)

  9. ค่าตรวจสุขภาพประจำปี (อายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไป)

  10. ปัญหาข้อด้อยของระบบตรวจสุขภาพปัจจุบันปัญหาข้อด้อยของระบบตรวจสุขภาพปัจจุบัน 1. จำกัดเฉพาะผู้มีสิทธิ (ไม่รวมบุคคลในครอบครัวซึ่งมีความเสี่ยงสูงกว่า โดยเฉพาะกลุ่มบิดา มารดา) 3. ไม่เคยมีการพิจารณาประโยชน์ของการตรวจว่าช่วยส่งเสริมสุขภาพหรือลดอัตราตายหรือภาวะทุพลภาพได้จริง 2.การตรวจไม่มีเป้าหมายชัดเจนว่าต้องการตรวจอะไร เพื่ออะไร (too general) 4. ให้ความสำคัญน้อยกับการซักประวัติ และตรวจร่างกาย 5.ไม่ได้นำผลการตรวจมาใช้ส่งเสริมสุขภาพอย่างต่อเนื่อง

  11. วัตถุประสงค์ "Package การสร้างเสริมสุขภาพป้องกันโรค และการตรวจสุขภาพของผู้มีสิทธิ และบุคคลในครอบครัวที่จำเป็นและเหมาะสม อยู่บนพื้นฐานของการตรวจที่สมเหตุผลไม่ใช่การตรวจที่ฟุ่มเฟือย"

  12. แนวคิดหลัก (ด้านการรักษาพยาบาล)

  13. กฎหมายที่เกี่ยวข้อง

  14. ผู้มีสิทธิ และบุคคลในครอบครัว

  15. ผู้มีสิทธิ และบุคคลในครอบครัว ผู้มีสิทธิ เจ้าของสิทธิ / ผู้ทรงสิทธิ สิทธิเกิดจากบุคคลดังกล่าว รับราชการ หรือรับเบี้ยหวัดบำนาญ บุคคลในครอบครัว ผู้อาศัยสิทธิ ชอบด้วยกฎหมาย (มีหลักฐานทางราชการรับรอง) ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ บิดา มารดา ผู้รับเบี้ยหวัด ผู้รับบำนาญพิเศษเหตุทุพลภาพ ผู้รับบำนาญ คู่สมรส ลูกจ้างชาวต่างชาติ บุตร ( 3 คน )

  16. รับราชการ รับบำนาญ เกษียณ เสียชีวิต พักราชการ ไล่ออก ลาออก เสียชีวิต ตัวอย่าง 25 ปี 60 ปี 60 ปี 3เดือน 85 ปี

  17. บุคคลในครอบครัวที่ชอบด้วยกฎหมายบุคคลในครอบครัวที่ชอบด้วยกฎหมาย หลักฐานทางราชการ สูติบัตร (ผู้มีสิทธิ) ทะเบียนบ้าน (ผู้มีสิทธิ)

  18. บุคคลในครอบครัวที่ชอบด้วยกฎหมายบุคคลในครอบครัวที่ชอบด้วยกฎหมาย หลักฐานทางราชการ ทะเบียนสมรส (บิดา-มารดา) ทะเบียนรับรองบุตร (คร.11) คำสั่งศาล (แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว)

  19. บุคคลในครอบครัวที่ชอบด้วยกฎหมายบุคคลในครอบครัวที่ชอบด้วยกฎหมาย หลักฐานทางราชการ ทะเบียนสมรสไทย ทะเบียนสมรส ตปท.

  20. บุคคลในครอบครัวที่ชอบด้วยกฎหมายบุคคลในครอบครัวที่ชอบด้วยกฎหมาย หลักฐานทางราชการ สูติบัตร (บุตร) ทะเบียนบ้าน (บุตร)

  21. บุคคลในครอบครัวที่ชอบด้วยกฎหมายบุคคลในครอบครัวที่ชอบด้วยกฎหมาย หลักฐานทางราชการ ทะเบียนสมรส (ผู้มีสิทธิกับคู่สมรส) ทะเบียนรับรองบุตร (คร.11) คำสั่งศาล (แผนกคดีเยาวชนและครอบครัว)

  22. บุตรชอบด้วยกฎหมายลำดับที่ 1 - 3 เกิดสิทธิ "คลอด" หมดสิทธิ "บรรลุนิติภาวะ"

  23. เงื่อนไขของบุตรชอบด้วยกฎหมายเงื่อนไขของบุตรชอบด้วยกฎหมาย

  24. การรายงานข้อมูลและการเลือกสิทธิการรายงานข้อมูลและการเลือกสิทธิ

  25. การรายงานข้อมูลผู้มีสิทธิ และบุคคลในครอบครัว ให้ผู้มีสิทธิมีหน้าที่รายงานข้อมูลของตนเอง และบุคคลในครอบครัว ต่อส่วนราชการเจ้าสังกัด พร้อมรับรองความถูกต้องตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กระทรวงการคลังกำหนด(มาตรา 5 วรรค 2) หนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค 0422.2/ว 376 ลงวันที่ 30 กย. 53

  26. 15

  27. 16

  28. กรอกข้อมูลบุตรที่ต้องแก้ไข หรือเพิ่มเติมตามจริง (1 แผ่นต่อ 1 คน) 17

  29. การรายงานข้อมูลผู้มีสิทธิ และบุคคลในครอบครัว

  30. การเลือกสิทธิ และสิทธิซ้ำซ้อน สิทธิที่เกิดจากการเป็นบุคคลในครอบครัว (ผู้อาศัยสิทธิ) สิทธิที่เกิดจากตนเอง (เจ้าของสิทธิ) 22

  31. สิทธิซ้ำซ้อน 23

  32. สิทธิซ้ำซ้อน

  33. สิทธิซ้ำซ้อน

  34. การเลือกสิทธิของผู้มีสิทธิการเลือกสิทธิของผู้มีสิทธิ ผู้มีสิทธิเลือกว่าจะใช้สิทธิตามพระราชกฤษฎีกา หรือจากหน่วยงานอื่น(มาตรา 10 วรรค 1) บุคคลในครอบครัวไม่สามารถเลือกได้ ต้องใช้สิทธิหลักของตนเอง (มีสิทธิในฐานะเจ้าของสิทธิจากหน่วยงานอื่น) หนังสือกรมบัญชีกลาง ด่วนที่สุด ที่ กค 0422.2/ว 377 ลงวันที่ 30 กย. 53

  35. การเลือกสิทธิของผู้มีสิทธิการเลือกสิทธิของผู้มีสิทธิ

  36. รายการและอัตรา

  37. รายการและอัตรา เช่น ค่ารถ Refer เช่น ค่ากายภาพ

  38. ค่ายา • ค่ายา หลักเกณฑ์ ข้อยกเว้น มีคุณสมบัติในการรักษาโรค ไม่เสริมสวย ไม่ป้องกัน อยู่ในบัญชียาหลักแห่งชาติ ยานอกบัญชียาหลักแห่งชาติ เบิกได้หากคณะกรรมการแพทย์ ของสถานพยาบาลออกหนังสือรับรอง ยามะเร็ง 6 ชนิด ยากลุ่มโรครูมาติก และสะเก็ดเงิน ยาสมุนไพร และยาแผนไทย วิตามิน และแร่ธาตุ ยาควบคุม 9 กลุ่ม

  39. ยามะเร็ง 6 ชนิด • ค่ายา (ด่วนที่สุด ที่ กค.0417/ว. 37ลงวันที่ 3 กรกฎาคม 2550)

  40. ยามะเร็ง 6 ชนิด • ค่ายา

  41. ยารักษากลุ่มโรครูมาติก และสะเก็ดเงิน • ค่ายา (ด่วนที่สุด ที่ กค. 0422.2/ว. 124ลงวันที่ 2 เมษายน 2553)

  42. ยาสมุนไพร ยาแผนไทย • ค่ายา (ที่ กค. 0422.2/ว. 33 ลงวันที่ 11 เมษายน 2554)

  43. ยาสมุนไพร ยาแผนไทย 4 ประเภท • ค่ายา (ที่ กค. 0422.2/ว. 33 ลงวันที่ 11 เมษายน 2554) ตามบัญชียาหลักแห่งชาติ (ไม่รวมน้ำมันไพล เจลพริก) ยาสามัญประจำบ้านแผนโบราณตามประกาศ สธ. เภสัชตำรับ รพ. (รพ.ผลิตเอง) ยาที่ปรุงสำหรับผู้ป่วยเฉพาะราย • 1. แพทย์แผนปัจจุบัน • 2. แพทย์แผนไทย (มีใบประกอบโรคศิลปะ สาขาแพทย์แผนไทยประเภทเวชกรรมแผนไทย หรือสาขาแพทย์แผนไทยประยุกต์) • หมายเหตุ : การสั่งใช้ยาให้เป็น ไปตามการสั่งใช้ของ

  44. ค่าบริการฝังเข็ม และค่านวด • ค่ายา (ที่ กค. 0422.2/ว. 33 ลงวันที่ 11 เมษายน 2554)

  45. เงื่อนไขการให้บริการของสถานพยาบาลเงื่อนไขการให้บริการของสถานพยาบาล • ค่ายา (ที่ กค. 0422.2/ว. 33 ลงวันที่ 11 เมษายน 2554) แพทย์บันทึกข้อมูลการรักษา ในเวชระเบียนเพื่อการตรวจสอบ สถานพยาบาลออกใบเสร็จค่ายาสมุนไพรตามประเภทที่ กค. กำหนด (ประเภทที่ 1 - 4) ห้ามแพทย์ หรือ คกก.แพทย์ออกหนังสือรับรองยาสมุนไพรนอกเหนือจากที่ กค. กำหนด แพทย์ออกหนังสือรับรองประกอบการรักษา (นวด ประคบ อบสมุนไพร) เพื่อเป็นหลักฐานประกอบการเบิกจ่าย โดยระบุระยะเวลาเริ่ม-สิ้นสุดให้ชัดเจน

  46. วิตามิน และแร่ธาตุ • ค่ายา (ด่วนที่สุด ที่ กค. 0422.2/ว. 45 ลงวันที่ 11 มิถุนายน 2552)

  47. ค่ายา • ยาควบคุม 9 กลุ่ม ประกาศรายการยาที่ห้ามเบิกจ่าย (ยาลดข้อเข่าเสื่อมหรือ Glucosamine) ตามหนังสือ กรมบัญชีกลาง ที่ กค 0422.2/ ว 127 ลงวันที่ 24 ธันวาคม 2553 (มีผลบังคับใช้วันที่ 1 มกราคม 2554) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2554

  48. ว. 127 ว. 62 การดำเนินการ 1 มค. 2554 28 มิย. 2554

  49. ที่ กค 0422.2/ว 62ลว. 28 มิถุนายน 2554 เงื่อนไขการใช้ยากลูโคซามีน ซัลเฟต เฉพาะข้อเข่าเสื่อมจากความชรา ซึ่งมีอายุตั้งแต่ 56 ปีขึ้นไป ไม่สามารถเบิกในระบบเบิกจ่ายตรงได้ ผู้ป่วยต้องนำใบเสร็จไปเบิกต้นสังกัด พร้อมหนังสือรับรองการใช้ยา ผู้สั่ง : แพทย์เฉพาะทางสาขาอายุรแพทย์โรคข้อ สาขาเวชศาสตร์ฟื้นฟู หรือสาขาออร์โธปิดิกส์เท่านั้น ผู้ป่วยต้องมีพยาธิสภาพข้อเข่าเสื่อมระยะปานกลาง ผู้ป่วยต้องผ่านการรักษาอย่างอนุรักษ์นิยมอย่างเต็มที่ตามแนวเวชปฏิบัติของราชวิทยาลัยออร์โธปิดิกส์ สั่งได้ครั้งละไม่เกิน 6 สัปดาห์

More Related