1 / 74

IP & Subnet & Routing

IP & Subnet & Routing. Part I: Subnetting IP Management Case Study Part II: Routing (Introduction). Today Topics. Part I: Subnetting IP Management Case Study Part II: Routing (Introduction) HW 4 Due Next Week. Decimal representation of Internet addresses. octet 1. octet 2. octet 3.

azra
Download Presentation

IP & Subnet & Routing

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. IP & Subnet & Routing Part I:Subnetting IP Management Case Study Part II: Routing (Introduction)

  2. Today Topics • Part I:Subnetting • IP Management Case Study • Part II: Routing (Introduction) • HW 4 Due Next Week

  3. Decimal representation of Internet addresses octet 1 octet 2 octet 3 Range of addresses Network ID Host ID 1.0.0.0 to Class A: 1 to 127 0 to 255 0 to 255 0 to 255 127.255.255.255 Network ID Host ID 128.0.0.0 to Class B: 128 to 191 0 to 255 0 to 255 0 to 255 191.255.255.255 Network ID Host ID 192.0.0.0 to Class C: 0 to 255 0 to 255 1 to 254 192 to 223 223.255.255.255 Multicast address Multicast address 224.0.0.0 to Class D (multicast): 224 to 239 0 to 255 0 to 255 1 to 254 239.255.255.255 240.0.0.0 to Class E (reserved): 240 to 255 0 to 255 0 to 255 1 to 254 255.255.255.255

  4. IP ไม่พอใช้งาน • การแก้ปัญหา • กำหนด Private IP ใช้ภายในองค์กร แต่ละองค์กรสามารถนำไปใช้ซ้ำกันได้ แต่ IP เหล่านี้จะต่อออก Internet โดยตรงไม่ได้ ต้องเปลี่ยนเป็น IP ที่ต่อออกได้ ผ่านอุปกรณ์ Network Address Translator (NAT) • RFC 1918 • 10.0.0.0 – 10.255.255.255 = 1 Class A • 172.16.0.0 – 172.31.255.255 = 16 Class B • 192.168.0.0-192.168.255.255 = 256 Class C • กำหนด Network ID ไม่เป็นตาม Class แต่จะแบ่งเท่าที่จำเป็นต่อการใช้งาน โดยเขียน IP Address คู่ไปกับ Subnet Mask เพื่อบ่งบอกส่วนของ Network ID

  5. Subnets and Subnet Masks • วิธีแก้ ไม่ใช้ Class ที่กำหนดให้ เราสามารถกำหนดขนาด Network ให้ใหญ่หรือเล็กตามที่เราต้องการ • แต่เราต้องบอกอุปกรณ์ (Router, PC) เองว่าส่วนใหนเป็น Network ID เพราะจะดูจากหมายเลข IP ในส่วนต้นเพื่อจะดูว่าเป็น Class ไหนไม่ได้แล้ว • ใช้ Subnet Mask กำหนด คือ Bit ที่เป็น 1 เริ่มจากซ้ายมือติดต่อกันจะกำหนดส่วนของ Network ID • วิธีนี้จะไม่มี Class เราเรียก Classless และการกำหนด IP Address จะใช้คู่กับ Subnet Mask เสมอ • เสมือนกับว่าเราแบ่ง IP Class เดิม ออกเป็น Subnetwork ย่อยๆ ดังนั้นบางครั้งเราใช้คำว่า Subnet แทนคำว่า Network และวิธีการนี้เรียกการทำ Subnetting

  6. Default Subnet Mask • สำหรับ Classful IP ที่กำหนดตามมาตรฐาน • Class A กำหนด 8 Bit แรกคือ NW ID อีก 24 Bit หลังคือ Host ID ดังนั้นค่า Default Subnet สำหรับ Class A คือ • 1111 1111 0000 0000 0000 0000 0000 0000 • หรือเขียนเป็น 255.0.0.0 หรือเขียนย่อเป็น /8 • Class B กำหนด 16 Bit แรกคือ NW ID อีก 16 Bit หลังคือ Host ID ดังนั้นค่า Default Subnet สำหรับ Class B คือ • 1111 1111 1111 1111 0000 0000 0000 0000 • หรือเขียนเป็น 255.255.0.0 หรือเขียนย่อเป็น /16 • Class C กำหนด 24 Bit แรกคือ NW ID อีก 8 Bit หลังคือ Host ID ดังนั้นค่า Default Subnet สำหรับ Class C คือ • 1111 1111 1111 1111 1111 1111 0000 0000 • หรือเขียนเป็น 255.255.255.0 หรือเขียนย่อเป็น /24

  7. การใช้ Subnet Mask • เสมือนกับเราแบ่ง NW Class เดิมออกเป็น Subnetwork ย่อย • ทำโดยเพิ่มบิตที่เป็น 1 ใน Subnet Mask • NW ID จะเปลี่ยนไป • Host ID จะปลี่ยน • Host ID Range จะเปลี่ยน • NW มีขนาดเล็กลง (เป็นกำลังของ 2) • จำนวน NW มีเพิ่มขึ้น • บิตที่เป็น 1 ใน Subnet Mask จะเริ่มจากซ้ายมือ และจะต้องติดต่อกัน จะคั่นด้วย 0 ไม่ได้ ส่วนบิตที่เป็น 0 จะเริ่มจากขวามือ และต้องติดต่อกันจะคั่นด้วย 1 ไม่ได้

  8. การอ่าน Subnet • ต้องใช้ IP Address คู่กับ Subnet Mask เสมอ • มีขั้นตอนดังนี้ • แปลง IP Address เป็นเลขฐาน 2 • แปลง Subnet Mask เป็นเลขฐาน 2 • ทำ Logical ‘AND’ ของ IP และ Subnet Mask • ผลที่ได้คือ NW ID • แปลง NW ID กลับในรูป IP Format • ส่วนของ Host ID คือ Bit ที่เหลือจาก NW ID

  9. วิธีการแปลงเลขฐาน 10 อย่างเร็ว • ตัวเลขฐานสองแต่ละ Octet คือ 8 บิต • มีน้ำหนักตามลำดับดังนี้ • 128 64 32 16 8 4 2 1 • ถ้าเลขมีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 128 ดังนั้น Bit แรกจะต้องเป็น 1 • นำ 128 มาหักลบกับเลขเดิม และทำต่อ • ถ้าเลขที่เหลือมีค่ามากกว่าหรือเท่ากับ 64 ดังนั้น Bit ที่สองต้องเป็น 1 • นำ 64 มาหักลบกับเลขเดิม และทำต่อ • ทำต่อไปเรื่อยๆ ใช้หลักการเดียวกัน • หักลบด้วย 62 16 ... ตามลำดับ • ถ้าค่าเหลือน้อยกว่า 16 เราสามารถใช้ตารางมาเปรียบเทียบในเลขฐานสอง 4 หลักหลังได้

  10. ข้อเสนอแนะ • ส่วน Octet ใน Net Mask ที่เป็น 255 • ทั้ง Octet จะเป็น NW ID ไม่มีความจำเป็นต้องแปลงเป็นฐาน 2 ให้เสียเวลา • ส่วน Octet ใน Net Mask ที่เป็น 0 • ทั้ง Octet จะเป็น Host ID ไม่มีความจำเป็นต้องแปลงเป็นฐาน 2 ให้เสียเวลา • แปลงเฉพาะส่วน Octet ใน NM ที่ไม่ใช่ 0 หรือ 255

  11. Example 1 • จงหาว่า IP 57.89.156.58 /18 กับ IP 57.89.173.126 /18 อยู่ใน Subnet เดียวกันหรือไม่ ? • 57. 89. 1001 1100 .58 • 255.255. 1100 0000 .0 [1111 1111 1111 1111 1100 0000 0000 0000] • NW ID: 57.89. 1000 0000 .0= 57.89.128.0 • 57. 89. 1010 1101 .126 • 255.255. 1100 0000 .0 • NW ID: 57.89. 1000 0000 .0= 57.89.128.0 • เมื่อมี NW ID เหมือนกัน ดังนั้นจะอยู่ใน Subnet เดียวกัน

  12. Question • จงหาว่า IP 57.89.174.58 /18 กับ IP 57.89.199.126 /18 อยู่ใน Subnet เดียวกันหรือไม่ ? • จงหาว่า IP 192.168.111.58 /26 กับ IP 192.168.111.66 /26 อยู่ใน Subnet เดียวกันหรือไม่ ?

  13. Address Range ของแต่ละ Subnet • ดูจาก Host Bit • เริ่มจาก เมื่อ Host Bit เป็น 0 ทั้งหมด (Address นี้จะไม่ใช้) • สิ้นสุดที่ Host Bit เป็น 1 ทั้งหมด (Address นี้คือ Broadcast Address ของ Subnet นี้) • จำนวน Host ที่มีได้ใน Subnet นี้คือ 2n- 2 • n คือจำนวน Bit ที่กำหนดเป็น Host ID

  14. Example 2 • กำหนด IP Address 192.168.247.239/28 จงหา Network ID และ Host ID Range ของ Network นี้ • 192.168.247. 11101111 • 255.255.255. 1111 0000 • 192.168.247. 11100000 • NW = 192.168.247.224, Host 0.0.0.15 • Host Range: • 192.168.247.1110 0000 – 192.168.247.1110 1111 • 192.168.247.1110 0001 – 192.168.247.1110 1110 • 192.168.247.225 – 192.168.247.238 • Note: IP Address ที่กำหนดในโจทย์ เป็น Broadcast Address ของ Subnet นี้

  15. การแบ่ง NW Class เดิมโดยทำ Subnet • เมื่อกำหนด IP ที่เป็น Classful หรือทำ Subnet มาแล้ว และเราต้องการแบ่ง Network ที่ได้รับเดิม ให้เป็น Network ย่อยลงไปอีก • หลักการ • เพิ่มจำนวนบิตของ NM เพิ่มขึ้น • เพิ่ม 1 บิต จะแบ่ง NW เดิมเป็น 2 Subnet เท่าๆกัน • เพิ่ม 2 บิต จะแบ่ง NW เดิมเป็น 4 Subnet เท่าๆกัน • . • เพิ่ม n บิต จะแบ่ง NW เดิมเป็น 2n Subnet เท่าๆกัน • NW ID ใหม่ที่ได้ ได้จาก NW ID เดิม บวกกับ บิต ที่เพิ่มขึ้น ( สลับค่า 0 และ 1 ) • NW ID ใหม่ที่ได้ ยังคงอยู่ใน NW เดิม แต่เมื่อใช้ NM ใหม่ที่เพิ่มบิต จะมองเห็นเป็นคนละ Network

  16. Example 3 • กำหนด NW 200.23.78.0 (Class C) จงหา Address Range ของ NW นี้ จากนั้นแบ่ง NW นี้ออกเป็น 8 ส่วน และหา Address Range, NM รวมทั้ง NW ID ของ NW ใหม่ที่ได้ • 200.23.78.0 /24 Class C • NM = 1111 1111. 1111 1111. 1111 1111. 0000 0000 • Address Range ก่อนทำ Subnet • 200.23.78.1 – 200.23.78.254 = 28 – 2 = 254 • แบ่งเป็น 8 ส่วน ต้องเพิ่ม NM อีก 3 บิต เป็น /27 • คือ 1111 1111. 1111 1111. 1111 1111. 1110 0000 • ดังนั้น NM = 255.255.255.224 • แต่ละ Subnet มี Host ได้ 25 – 2 = 30

  17. Example 3 • 200.23.78.0 • 200.23.78.0000 0000 • 255.255.255. 1110 0000 (255.255.255.240) • NW ใหม่จะเป็น • 200.23.78. 0000 0000 = 200.23.78.0/27 • 200.23.78. 0010 0000 = 200.23.78.32/27 • 200.23.78. 0100 0000 = 200.23.78.64/27 • 200.23.78. 0110 0000 = 200.23.78.96/27 • 200.23.78. 1000 0000 = 200.23.78.128/27 • 200.23.78. 1010 0000 = 200.23.78.160/27 • 200.23.78. 1100 0000 = 200.23.78.192/27 • 200.23.78. 1110 0000 = 200.23.78.224/27

  18. Example 3 • NW ใหม่จะเป็น • 200.23.78. 0000 0000 = 200.23.78.0/27 • IP Range: 200.23.78.0(1)-200.23.78.31(30) = 30 • 200.23.78. 0010 0000 = 200.23.78.32/27 • IP Range: 200.23.78.32(33)-200.23.78.63(62) = 30 • 200.23.78. 0100 0000 = 200.23.78.64/27 • IP Range: 200.23.78.64(65)-200.23.78.95(94) = 30 • 200.23.78. 0110 0000 = 200.23.78.96/27 • IP Range: 200.23.78.96(97)-200.23.78.127(126) = 30 • 200.23.78. 1000 0000 = 200.23.78.128/27 • IP Range: 200.23.78.128(129)-200.23.78.159(158) = 30 • 200.23.78. 1010 0000 = 200.23.78.160/27 • IP Range: 200.23.78.160(161)-200.23.78.191(190) = 30 • 200.23.78. 1100 0000 = 200.23.78.192/27 • IP Range: 200.23.78.192(193)-200.23.78.223(222) = 30 • 200.23.78. 1110 0000 = 200.23.78.224/27 • IP Range: 200.23.78.224(225)-200.23.78.255(254) = 30

  19. Example 7 200.23.78.0 200.23.78.0 200.23.78.0/27 200.23.78.31 200.23.78.32 200.23.78.32/27 200.23.78.63 200.23.78.64 200.23.78.64/27 200.23.78.95 200.23.78.96 200.23.78.96/27 200.23.78.127 200.23.78.128 200.23.78.0/24 200.23.78.128/27 200.23.78.159 200.23.78.160 200.23.78.160/27 200.23.78.191 200.23.78.192 200.23.78.192/27 200.23.78.223 200.23.78.224 200.23.78.224/27 200.23.78.255 200.23.78.255

  20. IP Address Management • การกำหนดหมายเลข IP ให้กับเครื่องใน Network • 2 ขั้นตอน แบ่ง Subnet กำหนด Network ID จากนั้นกำหนด Host ID โดยใช้ IP Range ใน Subnet นั้น • แบ่ง Network ออกเป็น Subnet เชื่อมต่อด้วย Router • แต่ละ Subnet จะต้องมี Network Address เดียว • PC ในแต่ละ Subnet จะต้องมี Network Address เหมือนกัน แต่ Host Address ต่างกัน • ส่วน Interface ของ Router จะเป็น Gateway สำหรับออกนอก Subnet ของ Subnet นั้น และจะต้องอยู่ใน Networkเดียวกันกับ Subnet นั้น • มี NW ID ของ Subnet นั้น และ Host ID ไม่ซ้ำกับเครื่องใน Subnet นั้น • การกำหนด Configuration ของ PC กำหนดด้วย IP, Subnet และ Gateway

  21. Example 4 • จงกำหนด Subnet และ IP Address ของแต่ละ PC รวมถึง Interface ของ Router สำหรับ NW ข้างล่าง กำหนดให้ใช้ 192.168.10.0/24 LAN 1 20 PC LAN 2 40 PC LAN 3 30 PC

  22. Example 4 • จงกำหนด Subnet และ IP Address ของแต่ละ PC รวมถึง Interface ของ Router สำหรับ NW ข้างล่าง กำหนดให้ใช้ 192.168.10.0/24 LAN 1 (20 PC) LAN 2 (40 PC) LAN 3 (30 PC) PC 1 PC 2 PC 20 PC 1 PC 2 PC 40 PC 1 PC 2 PC 30

  23. Example 4 • จงกำหนด Subnet และ IP Address ของแต่ละ PC รวมถึง Interface ของ Router สำหรับ NW ข้างล่าง กำหนดให้ใช้ 192.168.10.0/24 LAN 1 (20 PC) LAN 2 (40 PC) LAN 3 (30 PC) PC 1 PC 2 PC 20 PC 1 PC 2 PC 40 PC 1 PC 2 PC 30

  24. Example 4 • จงกำหนด Subnet และ IP Address ของแต่ละ PC รวมถึง Interface ของ Router สำหรับ NW ข้างล่าง กำหนดให้ใช้ 192.168.10.0/24 LAN 1 (20 PC) LAN 2 (40 PC) LAN 3 (30 PC) PC 1 PC 2 PC 20 PC 1 PC 2 PC 40 PC 1 PC 2 PC 30

  25. Example 4 • จงกำหนด Subnet และ IP Address ของแต่ละ PC รวมถึง Interface ของ Router สำหรับ NW ข้างล่าง กำหนดให้ใช้ 192.168.10.0/24 LAN 1 20 PC LAN 2 40 PC LAN 3 30 PC

  26. Example 4 • จงกำหนด Subnet และ IP Address ของแต่ละ PC รวมถึง Interface ของ Router สำหรับ NW ข้างล่าง กำหนดให้ใช้ 192.168.10.0/24 • 3 Subnet 20, 30 และ 40 PC บวก Gateway อีก Subnet ละหนึ่ง • ทำ Subnet • เพิ่ม 1 บิต แบ่งเป็น 2 Subnet แต่ละ NW มีได้ 126 IP • เพิ่ม 2 บิต แบ่งเป็น 4 Subnet แต่ละ NW มีได้ 62 IP • NM = /26 ดังนั้นจำนวน Bit สำหรับ Host = 6, 26=64 • เพิ่ม 3 บิต แบ่งเป็น 8 Subnet แต่ละ NW มีได้ 30 IP • เพิ่ม 4 บิต แบ่งเป็น 16 Subnet แต่ละ NW มีได้ 14 IP

  27. Example 4 • จงกำหนด Subnet และ IP Address ของแต่ละ PC รวมถึง Interface ของ Router สำหรับ NW ข้างล่าง กำหนดให้ใช้ 192.168.10.0/24 • 3 Subnet 20, 30 และ 40 PC บวก Gateway อีก Subnet ละหนึ่ง • ทำ Subnet เพิ่ม 2 บิต แบ่งเป็น 4 Subnet แต่ละ NW มีได้ 62 IP • NW 192.168.10.0/26; IP 192.168.10.0-63 • NW 192.168.10.64/26; IP 192.168.10.64-127 • NW 192.168.10.128/26; IP 192.168.10.128-191 • NW 192.168.10.192/26; IP 192.168.10.192-255 • อย่าลืมว่า IP แรกและสุดท้ายไม่ใช้

  28. Example 4 • NW 192.168.10.0/26; IP 192.168.10.0-63 • NW 192.168.10.64/26; IP 192.168.10.64-127 • NW 192.168.10.128/26; IP 192.168.10.128-191 • NW 192.168.10.192/26; IP 192.168.10.192-255 • อย่าลืมว่า IP แรกและสุดท้ายไม่ใช้ • Assign แต่ละ Subnet ให้กับแต่ละ LAN • Assign IP Address ตาม IP Range ของ Subnet ให้กับแต่ละ PC ใน Subnet และ Gateway

  29. Example 4 • จงกำหนด Subnet และ IP Address ของแต่ละ PC รวมถึง Interface ของ Router สำหรับ NW ข้างล่าง กำหนดให้ใช้ 192.168.10.0/24 LAN 1 20 PC 192.168.10.0 /26 LAN 2 40 PC 192.168.10.64 /26 LAN 3 30 PC 192.168.10.128 /26

  30. Example 4 • จงกำหนด Subnet และ IP Address ของแต่ละ PC รวมถึง Interface ของ Router สำหรับ NW ข้างล่าง กำหนดให้ใช้ 192.168.10.0/24 LAN 1 (20 PC) 192.168.10.0/26 LAN 2 (40 PC) 192.168.10.64/26 PC 1 PC 2 PC 20 PC 1 PC 2 PC 40 LAN 3 (30 PC) 192.168.10.128/26 PC 1 PC 2 PC 30

  31. Example 4 • จงกำหนด Subnet และ IP Address ของแต่ละ PC รวมถึง Interface ของ Router สำหรับ NW ข้างล่าง กำหนดให้ใช้ 192.168.10.0/24 LAN 1 (20 PC) 192.168.10.0/26 LAN 2 (40 PC) 192.168.10.64/26 192.168.10.65 192.168.10.1 192.168.10.129 PC 1 PC 2 PC 20 PC 1 PC 2 PC 40 LAN 3 (30 PC) 192.168.10.128/26 PC 1 PC 2 PC 30

  32. Example 4 • จงกำหนด Subnet และ IP Address ของแต่ละ PC รวมถึง Interface ของ Router สำหรับ NW ข้างล่าง กำหนดให้ใช้ 192.168.10.0/24 LAN 1 (20 PC) 192.168.10.0/26 LAN 2 (40 PC) 192.168.10.64/26 192.168.10.65 192.168.10.1 192.168.10.129 PC 1 PC 2 PC 20 PC 1 PC 2 PC 40 192.168.10.2 - .21 192.168.10.65 - .104 LAN 3 (30 PC) 192.168.10.128/26 PC 1 PC 2 PC 30 192.168.10.130 - .159

  33. Example 4 • Notes: • 1 มีเหลืออีก 1 Subnet ไม่ได้ใช้ สำหรับขยายในอนาคต • IP แต่ละ Subnet ยังมีเหลือ เผื่อไว้ขยายในอนาคต • บางกรณีมีหลายคำตอบในการแบ่ง Subnet LAN 1 (20 PC) 192.168.10.0/26 LAN 2 (40 PC) 192.168.10.64/26 192.168.10.65 192.168.10.1 192.168.10.129 PC 1 PC 2 PC 20 PC 1 PC 2 PC 40 192.168.10.2 - .21 192.168.10.65 - .104 LAN 3 (30 PC) 192.168.10.128/26 PC 1 PC 2 PC 30 192.168.10.130 - .159

  34. IP Management • เป็นการแบ่ง Subnet จากนั้นกำหนดหมายเลข IP ให้กับอุปกรณ์ของแต่ละหน่วยงานขององค์กร • ภายใน Subnet คือ LAN วงเดียวกัน เชื่อมต่อกันด้วย Switch Layer 2 หรือ Hub • ระหว่าง Subnet คือคนละ Network จะเชื่อมต่อกันได้ด้วยอุปกรณ์ Layer 3 คือ Router (หรือ Switch Layer 3) • การส่งข้อมูลภายใน Network หรือ LAN จะใช้ MAC Address • การส่งข้อมูลข้าม Network จะผ่าน Router โดยทิศทางการส่งข้อมูลจะดูจาก Net ID ที่อยู่ใน IP Address • ภายใน Router จะมี Routing Table

  35. IP Management • เป็นการแบ่ง Subnet จากนั้นกำหนดหมายเลข IP ให้กับอุปกรณ์ของแต่ละหน่วยงานขององค์กร • เนื่องจากองค์กรเป็น Hierarchy ดังนั้นการแบ่ง Subnet ควรจะทำเป็น Hierarchy ด้วย ตามโครงสร้างขององค์กร • ให้แน่ใจว่าแต่ละหน่วยงานย่อยท้ายสุดที่ต้องกำหนด IP Address จะมีหมายเลข Host เพียงพอต่อการใช้งาน

  36. IP Management a.b.c.d/20 a.b.c.d/22 a.b.c.d/24 a.b.c.d/26

  37. Case Study: IP Management • วิทยาลัยแห่งหนึ่งประกอบไปด้วย 4 อาคาร แต่ละอาคารประกอบด้วยหน่วยงานและจำนวนผู้ใช้งานคอมพิวเตอร์ดังนี้ • อาคาร 1 • ทะเบียน 15 คน • บุคคล 15 คน • การเงิน 15 คน • อาคาร 2 • เคมี 70 คน • คณิตศาสตร์ 50 คน • ฟิสิกค์ 40 คน • ชีววิทยา 50 คน

  38. Case Study • อาคาร 3 • บัญชี 100 คน • สังคมศาสตร์ 50 คน • มนุษยศาสตร์ 75 คน • อาคาร 4 • วิศวกรรม 80 คน • ไอที 100 คน • ศิลปกรรม 60 คน • วิทยาลัยต้องการแบ่ง Subnet ของแต่ละหน่วยงาน และจัดสรร IP จาก 150.23.192.0/18 ที่ได้รับมา จงเสนอวิธีการจัดสรร IP ดังกล่าว

  39. การคิด • จาก 150.23.192.0/18 ที่ได้ ทำ Subnet ในขั้นแรก เพิ่มอีก 2 บิตเป็น /20 เราได้ 4 subnet เพียงพอสำหรับอาคาร 1-4 • เราสามารถใช้ /21 ได้ 8 Subnet แต่ใช้แค่ 4 เหลือสำรองในอนาคตอีก 4 ก็ได้ • สมมุติว่าเราเลือก /21 เราจะได้ 8 Subnet ดังนี้

  40. 8 Subnet จาก 150.23.192.0/18 • 150.23. 1100 0000. 0 /21 • 150.23. 1100 1000. 0 /21 • 150.23. 1101 0000. 0 /21 • 150.23. 11011000. 0 /21 • 150.23. 1110 0000. 0 /21 • 150.23. 1110 1000. 0 /21 • 150.23. 1111 0000. 0 /21 • 150.23. 11111000. 0 /21

  41. 8 Subnet จาก 150.23.192.0/18 • สมมุติเราใช้ 4 Subnet แรก ที่เหลือเก็บไว้สำหรับการขยายในอนาคต ดังนี้ • 150.23. 1100 0000. 0 /21 ใช้กับ อาคาร 1 • 150.23. 1100 1000. 0 /21 ใช้กับ อาคาร 2 • 150.23. 1101 0000. 0 /21 ใช้กับ อาคาร 3 • 150.23. 11011000. 0 /21 ใช้กับ อาคาร 4

  42. 8 Subnet จาก 150.23.192.0/18 • สมมุติเราใช้ 4 Subnet แรก ที่เหลือเก็บไว้สำหรับการขยายในอนาคต ดังนี้ • 150.23. 1100 0000. 0 /21 ใช้กับ อาคาร 1 • อาคาร1 มีภายในอีก 3 หน่วยงาน เราแบ่ง Subnet ต่อ สมมุติใช้ /24 คือแบ่งเป็น 8 Subnet อีก แต่เราใช้แค่ 3 ที่เหลือสำหรับอนาคต • สังเกตว่า Host ที่มีได้ในแต่ละ Subnet ที่แบ่ง คือ /24 จะเท่ากับ 254 ซึ่งเพียงพอสำหรับแต่ละหน่วยงานย่อย • 150.23. 1100 0000. 0 /24 ให้กับ ทะเบียน • IP 150.23.192.0-150.23.192.255 • 150.23. 1100 0001. 0 /24 ให้กับ บุคคล • IP 150.23.193.0-150.23.193.255 • 150.23. 1100 0010. 0 /24 ให้กับ การเงิน • IP 150.23.194.0-150.23.194.255

  43. 8 Subnet จาก 150.23.192.0/18 • สมมุติเราใช้ 4 Subnet แรก ที่เหลือเก็บไว้สำหรับการขยายในอนาคต ดังนี้ • 150.23. 1100 1000. 0 /21 ใช้กับ อาคาร 2 • อาคาร2 มีภายในอีก 4 หน่วยงาน เราแบ่ง Subnet ต่อ สมมุติใช้ /24 คือแบ่งเป็น 8 Subnet อีก แต่เราใช้แค่ 4 ที่เหลือสำหรับอนาคต • สังเกตว่า Host ที่มีได้ในแต่ละ Subnet ที่แบ่ง คือ /24 จะเท่ากับ 254 ซึ่งเพียงพอสำหรับแต่ละหน่วยงานย่อย • 150.23. 1100 1000. 0 /24 ให้กับ เคมี • IP 150.23.200.0-150.23.200.255 • 150.23. 1100 1001. 0 /24 ให้กับ คณิตศาสตร์ • IP 150.23.201.0-150.23.201.255 • 150.23. 1100 1010. 0 /24 ให้กับ ฟิสิกค์ • IP 150.23.202.0-150.23.202.255 • 150.23. 1100 1011. 0 /24 ให้กับ ชีววิทยา • IP 150.23.203.0-150.23.203.255

  44. 8 Subnet จาก 150.23.192.0/18 • สมมุติเราใช้ 4 Subnet แรก ที่เหลือเก็บไว้สำหรับการขยายในอนาคต ดังนี้ • 150.23. 1101 0000. 0 /21 ใช้กับ อาคาร 3 • อาคาร3 มีภายในอีก 3 หน่วยงาน เราแบ่ง Subnet ต่อ สมมุติใช้ /24 คือแบ่งเป็น 8 Subnet อีก แต่เราใช้แค่ 3 ที่เหลือสำหรับอนาคต • สังเกตว่า Host ที่มีได้ในแต่ละ Subnet ที่แบ่ง คือ /24 จะเท่ากับ 254 ซึ่งเพียงพอสำหรับแต่ละหน่วยงานย่อย • 150.23. 1101 0000. 0 /24 ให้กับ บัญชี • IP 150.23.208.0-150.23.208.255 • 150.23. 1101 0001. 0 /24 ให้กับ สังคมศาสตร์ • IP 150.23.209.0-150.23.209.255 • 150.23. 1101 0010. 0 /24 ให้กับ มนุษยศาสตร์ • IP 150.23.210.0-150.23.210.255

  45. 8 Subnet จาก 150.23.192.0/18 • สมมุติเราใช้ 4 Subnet แรก ที่เหลือเก็บไว้สำหรับการขยายในอนาคต ดังนี้ • 150.23. 11011000. 0 /21 ใช้กับ อาคาร 4 • อาคาร4 มีภายในอีก 3 หน่วยงาน เราแบ่ง Subnet ต่อ สมมุติใช้ /24 คือแบ่งเป็น 8 Subnet อีก แต่เราใช้แค่ 3 ที่เหลือสำหรับอนาคต • สังเกตว่า Host ที่มีได้ในแต่ละ Subnet ที่แบ่ง คือ /24 จะเท่ากับ 254 ซึ่งเพียงพอสำหรับแต่ละหน่วยงานย่อย • 150.23. 11011000. 0 /24 ให้กับ วิศวกรรม • IP 150.23.216.0-150.23.216.255 • 150.23. 11011001. 0 /24 ให้กับ ไอที • IP 150.23.217.0-150.23.217.255 • 150.23. 11011010. 0 /24 ให้กับ ศิลปกรรม • IP 150.23.218.0-150.23.218.255

  46. Summary ทะเบียน 150.23.192.0/24 150.23.192.0/21 บุคคล 150.23.193.0/24 อาคาร 1 การเงิน 150.23.194.0/24 เคมี 150.23.200.0/24 คณิตศาสตร์ 150.23.200.0/21 150.23.201.0/24 ฟิสิกค์ 150.23.202.0/24 อาคาร 2 ชีววิทยา 150.23.203.0/24 150.23.192.0/18 บัญชี 150.23.208.0/24 150.23.208.0/21 สังคม 150.23.209.0/24 อาคาร 3 มนุษยศาสตร์ 150.23.210.0/24 วิศวกรรม 150.23.216.0/24 150.23.216.0/21 ไอที 150.23.217.0/24 อาคาร 4 ศิลปกรรม 150.23.218.0/24 แต่ละอุปกรณ์ใน Subnet สามารถกำหนดหมายเลข IP โดยใช้ IP Address ใน Range ที่หาได้ก่อนนี้

  47. Routing 150.23.208.134/24 GW:150.23.208.1 อาคาร 4 บัญชี 150.23.208.1/24 อาคาร 1 อาคาร 3 การเงิน 150.23.194.1/24 อาคาร 2 150.23.194.25/24 GW:150.23.194.1

  48. Introduction to Routing • Routing in Packet Switching Network • Circuit Switching Network จะไม่กล่าวถึง • จะเน้นเฉพาะใน IP Network • เป็นการหาทิศทางในการส่ง Packet ใน Network • VC จะดูจาก VC Number • Datagram ดูจาก Destination Address

  49. Performance Criteria • Used for selection of route • Router จะหาเส้นทางที่ดีที่สุดตาม Criteria ที่กำหนด • Minimum hop • Least cost

  50. Example Packet Switched Network

More Related