640 likes | 802 Views
ข้าวยากหมากแพง : สาเหตุ ผลกระทบ และทางแก้ไข นิพนธ์ พัวพงศกร คณบดี คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์. การสัมมนาเรื่อง “ข้าวยากหมากแพง” คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 22 พฤษภาคม 25 51. แนวโน้มและสาเหตุระยะยาวที่เกิดภาวะ “ข้าวยากหมากแพง” ทั่วโลก.
E N D
ข้าวยากหมากแพง : สาเหตุ ผลกระทบ และทางแก้ไขนิพนธ์ พัวพงศกรคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ การสัมมนาเรื่อง “ข้าวยากหมากแพง” คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 22พฤษภาคม 2551
แนวโน้มและสาเหตุระยะยาวที่เกิดภาวะ “ข้าวยากหมากแพง” ทั่วโลก 1.1 ราคาสินค้าเกษตรในปัจจุบันถีบตัวสูงจากแนวโน้มใน 100 ปี
ราคาข้าวแท้จริงสูงเป็นประวัติการณ์นับแต่ปี 2516 (รูป IRRI)
1.1 ราคาสินค้าเกษตรในปัจจุบันถีบตัวสูงจากแนวโน้มใน 100 ปี (ต่อ) • ภาวะราคาสินค้าอาหารแพง เกิดครั้งสุดท้ายในปี 2516-17 • เกิดความแตกตื่นเรื่อง “Limit to Growth” ตามแนวคิดของ Malthus เพราะหลังสงครามโลกอัตราตายลดลงขณะที่อัตราเกิดลดช้า • แต่เศรษฐกิจโลกมิได้ชะลอตัวดั่งคำพยากรณ์: (1) ปฏิวัติเขียว (2) เศรษฐกิจโลกเติบโตอย่างรวดเร็ว ทำให้ความต้องการอาหารเพิ่มช้า ขณะที่อัตราการเพิ่มประชากรเริ่มลดลง • ภาวะข้าวยากหมากแพงครั้งนี้ จะเป็นไปตามคำทำนายของ Malthus หรือไม่
1.2 สาเหตุระยะยาว 3 กลุ่มสาเหตุ • กลุ่มแรก: อุปสงค์เพิ่มขึ้น • (1) การเพิ่มของประชากร: แม้อัตราเพิ่มประชากรโลกจะเพิ่มเพียงปีละ 1.2%เทียบกับ 2% ในทศวรรษ 2510 • แต่ประชากรที่เพิ่มส่วนใหญ่ อยู่ในประเทศกำลังพัฒนา ซึ่งเพิ่มปีละ 78 ล้านคน • ดูตาราง 1
Projected Population Growth (U.N. medium projections, in millions) • Region 20072050 • World 6,671 9,191* + 38% • High Income 1,223 1,245 + 2% • Low Income 5,448 7,946 + 46% • Africa 965 1,998 +107% • Asia 4,030 5,266 + 31% • Latin America 572 769 + 34% • North America 339 445 + 31% • Europe 731 664 - 9% ______________ *The UN Population Office’s low and high projections of the world population in 2050 are 7.8 billion and 11.9 billion, respectively.
(2) การเติบโตของรายได้ทำให้ความยากจนในประเทศกำลังพัฒนาลดลง คนกว่าพันล้านคนมีอำนาจซื้อมากขึ้น • รายได้ 1-2 $ ต่อวัน (มี 2.7 ล้านคน) กินอาหารพวกคาร์โบไฮเดรตเพิ่ม • Engel law: คนรวย(รายได้ 2-10 $ ต่อวัน) จะกินอาหารลดลง โดยเฉพาะคาร์โบไฮเดรต • แต่คนที่รวยขึ้นในประเทศกำลังพัฒนากินเนื้อสัตว์เพิ่ม อุปสงค์ต่อธัญพืชเลี้ยงสัตว์เพิ่ม เนื้อวัว 1 ก.ก. ใช้ข้าวโพด 7 ก.ก. หมู 1 กก.ใช้ข้าวโพด 6.5 กก. ไก่1 กก.ใช้ข้าวโพด 2.6 กก. • คนรวยขึ้น กินผัก-ผลไม้เพิ่ม แย่งที่ดินเพาะปลูก • คนรวยขึ้นอีก (เกิน 10 $) กินอาหารแปรรูปที่มากับบรรจุภัณฑ์และบริการ และใช้เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้ามากขึ้น...แย่งที่ดิน
Huge Growth in Food Consumption Expected from Economic Growth Source: World Bank. World Development Indicators database
การคาดคะเน World Food Demand โดย WB • ความต้องการอาหารจะเพิ่มอีกเท่าตัวในปี 2050 -50% เกิดจาก การเพิ่มประชากรในประเทศกำลังพัฒนา -50% เกิดจาก การเพิ่มรายได้ในประเทศกำลังพัฒนา • ในประเทศกำลังพัฒนา ประชากรในครัวเรือนที่มีรายได้ 16,000$ จะเพิ่มจาก 352 ล้านคนในปี 2006 เป็น 2.1 พันล้านคนในปี 2030 • จำนวนคนจนที่ลดลงจะเป็นตัวแปรสำคัญที่สุดในการกำหนดความต้องการอาหารในอนาคต
1.2 สาเหตุระยะยาว 3 กลุ่มสาเหตุ (ต่อ) • 1.3 )กลุ่ม 2อุปทานเพิ่มไม่ทัน • (1) ผลผลิตต่อไร่ เริ่มทางตัว (เติมรูป 3 ผลผลิต/ไร่) • รัฐบาล องค์กรระหว่างประเทศลดการลงทุนภาคเกษตร หลังจากปฏิวัติเขียวที่มีผลให้ราคาอาหารลดลง • ธนาคารโลกลดเงินให้กู้ภาคเกษตรจาก 30%ในปี 1980 เหลือ 12% ในปี 2007 • ODA ภาคเกษตรปัจจุบันมีเพียง 4% • บริษัทข้ามชาติเน้นวิจัย GMO ที่ลดการใช้ยาฆ่าแมลง และเกษตรกรต้องซื้อเมล็ดพันธุ์ทุกฤดูการเพาะปลูก
ผลผลิตต่อไร่ ข้าวนาปี และ นาปรัง ของไทย
แนวโน้มพื้นที่เพาะปลูกและผลผลิตของไทยแนวโน้มพื้นที่เพาะปลูกและผลผลิตของไทย ●แนวโน้มพื้นที่เพาะปลูกข้าวรวมค่อนข้างคงที่ประมาณ 67 ล้านไร่ ●แต่แนวโน้มของผลผลิตมีเพิ่มขึ้นจาก 23 ล้านตันในปี 2539 เป็น 29 ล้านตันในปี 2549 และ 30 ล้านตันในปี 2550 ●ผลผลิตข้าวที่เพิ่มขึ้นนั้นเป็นผลจากการขยายตัวของพื้นที่นาปรัง โดยเฉพาะการปรับเปลี่ยนพื้นที่นาน้ำท่วมซึ่งเดิมปลูกข้าวพันธุ์พื้นเมืองมาปลูกข้าวพันธุ์ไม่ไวแสง ซึ่งสามารถปลูกได้ 2 ครั้งต่อปีและให้ผลผลิตที่สูงกว่าปลูกข้าวพันธุ์พื้นเมืองทำให้ปริมาณผลผลิตขยายตัวเพิ่มขึ้น ที่มา : สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, 2549
1.2 สาเหตุระยะยาว 3 กลุ่มสาเหตุ (ต่อ) • (2) Stock ธัญพืชลดลงทั่วโลก • รูปที่ 4.....stock ข้าว ข้าวสาลี ข้าวโพด • รัฐบาลพัฒนาหลายประเทศเริ่มใช้วิธีจ่ายเงินสดช่วยเหลือเกษตรกร แทนการสต๊อคธัญพืชที่มีต้นทุนสูง ตัวอย่าง สหรัฐอเมริกา ยุโรป • แม้แต่ จีน และ อินเดีย ก็ลด stock เพราะหาซื้อได้ง่ายในตลาดโลก • (3) พื้นที่ว่างเปล่ามีน้อยมาก และการเจริญเติบโต ทำให้เกิดปัญหาทรัพยากรเสื่อมโทรมจนเกิดผลกระทบต่อผลผลิตภาคเกษตร
ภาพรวมด้านอุปทาน อุปสงค์ และราคาข้าวในตลาดโลก อุปทาน อุปสงค์ และราคาข้าวในตลาดโลก ปี 2540-2549 ที่มา : World Market & Trade, USDA (Jan 2008) และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
STOCK ข้าวสาลี และ ข้าวโพด
2. สาเหตุระยะกลาง / ระยะ สั้นที่ราคาอาหารถีบตัวสูงอย่างรวดเร็ว 2.1 สาเหตุหลัก: stock ธัญพืชลดลง เมื่อเกิดปัญหาด้านดินฟ้าอากาศทำให้ผลผลิตโลกลดลง รัฐบาลในประเทศผู้ส่งออกตื่นตระหนก จึงเริ่มใช้มาตรการจำกัดการส่งออก ผู้นำเข้าก็แตกตื่น รับสั่งซื้อข้าวจำนวนมาก ส่วนปัจจัยอื่นๆ (เช่น การเก็งกำไรตลาด commodity)มีส่วนกระพือให้ราคาพุ่งสูงผิดปกติจนกลายเป็น “ราคาฟองสบู่” - กรณีข้าว ตลาดโลกบางมาก การค้าแค่ 6.5 % ของการผลิต 425.3 ล้านตันในปี 2550
2.2 SUPPLY: ปัญหาฝนแล้ง/น้ำท่วมในปี 2550 • ธัญญพืช: ออสเตรเลียผู้ส่งออกข้าวสาลีอันดับ 2 ประสบปัญหาแล้ง 2 ปี ยุโรปต.อ.แล้ง • อากาศไม่ดีในแคนาดา ยุโรป และยูเครน • ทำให้หลายประเทศต้องหันมาซื้อธัญญพืชจากสหรัฐอเมริกา • ผล: เป็นอีกสาเหตุที่ stock ข้าวสาลีลดต่ำเป็นประวัติการณ์
2.2 SUPPLY: ปัญหาฝนแล้ง/น้ำท่วมในปี 2550 (ต่อ) • ข้าว • เวียดนามน้ำท่วมปี 2550 • บังคลาเทศประสบภัยน้ำท่วม 2 ครั้ง ไซโคลน 1 ครั้งในปี 2550 • ภาวะลานินยา ทำให้ผลผลิตอาหารลดลงในอาฟริกาลาตินอเมริกา และแคริเบียน
2.3 SUPPLY: ผลของราคาพลังงานที่สูงขึ้นมาก • (ก) รบ.ทั่วโลกมีนโยบายพัฒนา bio-fuel เพราะเป็นห่วงเรื่อง energy security - ทำให้ผลผลิตเกษตรถูกนำไปผลิตพลังงาน ราคาเกษตรสูงขึ้น
Targets of some governments on biofuels • US : • 2006: 4.0 billion gallons (16 MTs) • 2012: 7.5 billion gallons (30 MTs) • 2017: 35 billion gallons • EU : • 2006: 2% of transport fuels • 2010: 5.8% of transport fuels • 2020: 10% of transport fuels • Brazil: • 2006: 20 billion liters (5 billion gallons) • 2012: 36 billion liters (7+ billion gallons) • 2020: 20% of transportation fuels • Australia: • 2006: 120–150 million liters • 2010: 350 million liters • Despite these ambitious targets, bio-fuel production will account for less than 5-8 percent of total energy needs in the next decade • California’s governor … Arnold … also has committed my state to go “big time” into biofuels and other alternative energy forms …
Targets and policies of China on biofuels • “Bio-ethanol … law” issued in 2004: • E10 (10% of ethanol + 90% of gasoline) products have been used in transportation sector in 27 cities over 4 provinces. • Current production • Maize-ethanol:3 plants (capacity: 900,000 tons) • Wheat-ethanol: 1 plant (capacity: 300,000 tons) • Cassava, sugarcane, and sorghum: on trial basis • Biodiesel: 100,000 tons • Plans for the future • Ethanol: 4 MT (or 1 billion gallons) by 2010 • Biodiesel: under planning … • Incentive policies • Waived 5% consumption tax on bioethanol for E10 program • Refunded the value added tax on bioethanol production • Provided subsidy to bioethanol plants (the level of subsidy is associated with average production cost over all plants).
Targets of Thailand and biofuel policy • 8% for substitute energy by 2011 • 3% is bio-fuel • Ethanol 4.0 million liters / day by 2005 • Bio-Diesel (B10) 8.5 million liters / day by 2012 • Supply side • Investment policy to promote ethanol / bio-diesel plants • Investment privilege • Liberalization of alcohol production • Credit Support
ทุกประเทศใช้ระบบแรงจูงใจคล้ายกันทุกประเทศใช้ระบบแรงจูงใจคล้ายกัน • ยกเว้น/ลดหย่อนภาษีชนิดต่างๆ • ใช้กำแพงภาษี/ NTB คุ้มครองผู้ผลิตในประเทศ • (ก) นโยบายชีวพลังงาน ทำให้สหรัฐฯใช้ข้าวโพด 20%ผลิต ethanol - ข้าวโพดแย่งพท.พืชน้ำมัน ธัญญพืช ฝ้าย …ราคาสูงขึ้น - ข้าวโพดที่ถูกแย่งไป ยังผลให้การส่งออกของสหรํฐฯลดลง - สหรํฐฯส่งออก 18%ของผลผลิต= 60 % ของการค้าข้าวโพด ทั่วโลก
(ก) ผลของนโยบายชีวพลังงาน ทำให้สหรัฐฯใช้ข้าวโพด 20%ผลิต ethanol ข้าวโพดแย่งพท.พืชน้ำมัน ธัญญพืช ฝ้าย …ราคาสูงขึ้น - ข้าวโพดที่ถูกแย่งไป ยังผลให้การส่งออกของสหรํฐฯลดลง - สหรํฐฯส่งออก 18%ของผลผลิต= 60 % ของการค้าข้าวโพด ทั่วโลก
The U.S. Is a Large Trading Country in Many Commodity Markets (2002-05) Source: Congressional Research Service
(ข) ค่าขนส่งทางเรือถีบตัวสูง ทำให้ต้นทุนอาหารแพงขึ้น ดัชนีค่าขนส่งธัญพืชและดัชนีขนส่งสินค้า Baltic Dry
2. 4 รัฐบาลประเทศต่างๆใช้มาตรการแทรกแซงตลาดจนทำให้ภาระการปรับตัวของกลไกราคาตกอยู่ในประเทศที่เหลือ • หลายประเทศจำกัดการส่งออก เช่น จีน อินเดีย เวียดนาม • ผู้นำเข้ายึดดำรงภาษีนำเข้าสูง • ใช้นโยบายควบคุมราคาอาหารทำให้เกิดผลเสียต่อเกษตรกร • ฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นผู้นำเข้าข้าวรายใหม่ของโลกประกาศซื้อข้าวจำนวนมโหฬาร หลายระลอกทำให้ราคาพุ่งขึ้นทันที
สาเหตุรองอื่นๆในระยะสั้น / ระยะกลาง • ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนตัว มีผล 2 อย่าง -2.5) ค่าเงินทำให้ราคาพืชผลแพงทั่วโลก เพราะสหรัฐฯเป็นผู้ส่งออกเกษตรรายใหญ่ของโลก - 2.6) การเก็งกำไรในตลาด commodity
(2.6) การเก็บกำไรในตลาด Commodity • ราคาข้าวสาลี กระโดดจาก $ 1.0 ในต้นปีเป็น $2.4 ในปลายเดือน ก.พ. 2551 • ปริมาณการซื้อขายในตลาด commodity futures และ options ในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้น 32%จากปี 2550 • นักวิเคราะห์ของ Standard C. Bernstem คาดว่าระหว่างปี 2544-48 มีเงินลงทุนใน commodity-linked index ถึง 1.75-2.0 แสนล้านแหรียญ • เฉพาะช่วงต้นปี 2551 กองทุน commodity exchange traded funds มีเงินลงทุน 3 หมื่นล้านเหรียญเพิ่มขึ้น 90%จากปีก่อน
การเก็งกำไรมีมานานแล้ว แต่เกิดอะไรขึ้นจึงมีเงินเก็งกำไรเพิ่มขึ้นในตลาด commodity • การลดค่าเงินสหรัฐฯ มีส่วนสำคัญทำให้นักลงทุนต้องหาแหล่งลงทุนใหม่ๆ เช่นน้ำมัน commodity ทำให้ราคาอาหารทั่วโลกแพงขึ้น 2 เด้ง • นวัตกรรมทางการเงินที่เรียกว่า index-based commodity หรือ exchange-traded fund (ETF) ซึ่งทำให้นักลงทุนเลือกซื้อสินค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเหมือนกองทุนต่างๆ ที่มีระดับความเสี่ยงต่างกันตามองค์ประกอบของหุ้น • แต่ตลาด commodity เป็นตลาดที่ค่อนข้างเล็ก • นักลงทุนคาดว่ากองทุน ETF มีเม็ดเงินลงทุนสูงถึง 25% ของเม็ดเงินในตลาด commodity • สัญญา ETF ที่ซื้อขายขาวสาลีมีมูลค่า 2 เท่าของปริมาณข้าวสาลี (soft red winter wheat) ที่สหรัฐจะผลิตได้ทั้งปี
2.7 สื่อมวลชนกระพือข่าวร้าย เช่น ข่าวจราจลในหลายประเทศ.....เกิดภาวะแตกตื่นทั่วโลก (ประเด็นนี้เป็นหัวข้อวิจัยที่น่าสนใจ) • สรุปสาเหตุ: ตลาดข้าวอยู่ในสภาพ “ไร้ดุลยภาพ” • ตลาดข้าวเป็นตลาดที่บางมาก (thin market) ปริมาณซื้อขายทั่วโลกปี 2550 เท่ากับ 31 ล้านตันข้าวสารหรือเพียง 6.5 %ของปริมาณการผลิต: ปีนี้มีshocksหลายอย่างในตลาด ราคาจึงไหวตัวอย่างรุนแรง และเป็น “ ราคาฟองสบู่”เพราะอุปทานมีความยืดหยุ่นต่อราคาต่ำมาก • แต่ FAO คาดว่าราคาที่พุ่งสูงในปีนี้ จะทำให้ผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 12 ล้านตันหรือ 1.8%(ถ้าอากาศปรกติ) ซึ่งน่าจะช่วยบรรเทาภาวะขาดแคลนข้าวลงได้บ้าง: ราคามีสูงขึ้น ก็ต้องมีลง เหมือนหลังปี2516 ที่ประเทศพัฒนาเพิ่มเงินอุดหนุน & คุ้มครอง…..แต่ครั้งนี้ ราคาอาจสูงอีกหลายปี
3. ราคาอาหารจะอยู่ในระดับสูงอีกนานเพียงใด 3.1 ราคาข้าวเป็นราคาฟองสบู่ คงจะลดลง แต่ยังจะทรงตัวระดับสูง 3.2 การทดลอง simulation โดยให้รัฐบาลมีนโยบายด้านชีวพลังงานตามที่ประเทศ และมีข้อสมมุติว่าอุปสงค์เพิ่มขึ้นในประเทศกำลังพัฒนา ขณะที่อุปทานเพิ่มช้า • ระหว่างปี 2548-58 ราคาข้าวแท้จริงเพิ่ม 20 % • ราคาถั่วเหลือง เพิ่ม • ราคาข้าวใน เพิ่ม • รูป 9 Modeling
ผลพยากรณ์: ระหว่างปี 2548-2558 ราคาข้าวแท้จริงเพิ่ม 20% • FAO พยากรณ์ราคาข้าวจะเพิ่มขึ้นเกือบ 30%ใน 10 ปีข้างหน้า
3.3 Malthus hypothesis ถูกไหม • หวังว่าจะพยากรณ์ผิด • นิตยสาร Economist ให้เหตุผลว่า Malthus คงพยากรณ์ผิด เพราะ (ก) มีเทคโนโลยีด้านเพิ่มผลิตอยู่แล้ว แต่ถูกระแสต่อต้าน (ข) เมื่อพลเมืองโลกรวยขึ้น (รายได้เกินวันละ 10$) การบริโภคอาหารทุกชนิดจะลดลง
4. ผลกระทบ : การคาดคะเน 4.1 ภาวะเงินเฟ้อ และการขาดแคลนอาหารทำให้เกิดการประท้วงในหลายประเทศ ตั้งแต่อียิปต์ ไฮติ คาเมรูน เซเนกัล ฯลฯ - รัฐบาลในหลายประเทศตอบสนองด้วยนโยบาย protectionist ดังกล่าวแล้ว
4.1 ทำไมไทยต้องห่วงเรื่องข้าวแพง ทั้งๆ ที่ไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับหนึ่งของโลก • เงินเฟ้อมีผลกระทบต่อคนยากจนในประเทศ • ถ้าราคาอาหารแพงขึ้น 10%มีผลทำให้รายจ่ายครัวเรือนยากจนเพิ่นขึ้น 5%หรือเดือนละ 200 บาท สำหรับครัวเรือนที่มีรายได้ 8,000 บาท • สาเหตุ: คนจนที่สุดมีรายจ่ายอาหารสูงถึง 50%ของรายได้
10% ที่จนที่สุด 10% ที่รวยที่สุด รายจ่ายต่อเดือน 36,100 บาท รายจ่ายต่อเดือน 6,400 บาท
4.2 ผลกระทบต่อ welfare ของประเทศต่างๆ • IMF คาดว่ามีทั้งประเทศที่ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ • ผู้ส่งออก ขายข้าวราคาดีขึ้น รายได้สูงขึ้น • ผู้นำเข้า ขาดดุลการค้า • ในโลกนี้มีประเทศนำเข้าสุทธิธัญญพืชมากกว่าประเทศส่งออกสุทธิถึง 4 เท่าตัว
ประเทศที่ได้ประโยชน์ (% ของ GDP)
ประเทศที่เสียประโยชน์ประเทศที่เสียประโยชน์ • ครัวเรือนชนบทยากจนจะเสียมากกว่าได้ • แต่ในประเทศไทยยังไม่มีการศึกษา...ตอบไม่ได้
รัฐประเทศต่างๆดำเนินนโยบายอะไรบ้างรัฐประเทศต่างๆดำเนินนโยบายอะไรบ้าง • ฟิลิปปินส์ : ห้ามนำที่ดินเกษตรไปสร้างบ้าน ทำสนามกอลฟ์ให้ร้านอาหารฟาสท์ฟูดลดปริมาณข้าว • หลายประเทศใช้มาตรการห้าส่งออกและขึ้นภาษีส่งออก เช่น อินเดีย อียีปต์ • 18 ประเทศให้การอุดหนุนผู้บริโภค และคุมราคาข้าว • หลายประเทศเริ่มเจรจาการค้าทวิภาคีกับประเทศผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ เช่น อียิปต์กับบราซิล อูแกนดากันอินเดีย จีนกับนิวซีแลนด์และออสเตรเลีย และยูเครนยอมให้ลิเบียปลูกข้าวสาลี แลกกับโครงการก่อสร้างและแก๊ส
4.3 ผลกระทบต่อ terms of trade : ไทยดีขึ้น • International TOT และ domestic TOT ดีขึ้น • ต้องวิเคราะห์ผลกระทบจาก CGE/Macro model
4.4 ผลต่อความยากจน : ดีขึ้น • ความจนส่วนใหญ่อยู่ในภาคเกษตร • แรงงานไร้ที่ดินน้อยกว่าผู้มีที่ดิน • ถ้า GDP และราคาสินค้าเกษตรเพิ่มขึ้นความยากจนลดลง
1.3 Agricultural development and poverty reduction (cont.) –Agricultural prices are the second most important factor affecting poverty incidence after economic growth Figure 9