1 / 42

สำนักเศรษฐกิจการเกษตรระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร 26 มกราคม 2555

AEC เรื่องใกล้ตัวเกษตรกร. สำนักเศรษฐกิจการเกษตรระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร 26 มกราคม 2555. อาเซียน ( ASEAN) สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้.

wiley
Download Presentation

สำนักเศรษฐกิจการเกษตรระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร 26 มกราคม 2555

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. AEC เรื่องใกล้ตัวเกษตรกร สำนักเศรษฐกิจการเกษตรระหว่างประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร 26 มกราคม 2555

  2. อาเซียน (ASEAN)สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สัญลักษณ์อาเซียน คือ ต้นข้าวสีเหลือง 10 ต้นมัดรวมกันไว้ หมายถึงประเทศสมาชิกรวมกันเพื่อมิตรภาพและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน สีน้ำเงิน หมายถึง สันติภาพและความมั่นคง สีแดง หมายถึง ความกล้าหาญและความก้าวหน้า สีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์ และ สีเหลือง หมายถึง ความเจริญรุ่งเรือง

  3. อาเซียน (ASEAN)สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ • อาเซียน หรือ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 8 สิงหาคม 2510 มีสมาชิกรวม 10 ประเทศ คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย บรูไน ลาว พม่า เวียดนาม และกัมพูชา • วัตถุประสงค์เพื่อสร้างสันติภาพ เสถียรภาพทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมในภูมิภาค 2540 2540 2510 2510 2538 2542 2527 2510 2510 2510 อาเซียน 6 สมาชิกใหม่ CLMV

  4. ความสำคัญของอาเซียน ที่มา:ASEAN Secretariat

  5. ประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) “One Vision, One Identity, One Community” • ปี 2546 ผู้นำอาเซียนเห็นพ้องกันว่า ภายในปี 2558 จะจัดตั้ง “ประชาคมอาเซียน” (ASEAN Community)ที่ประกอบด้วย 3 เสา คือ • ประชาคมการเมืองความมั่นคงอาเซียน (ASEAN Political security Community : APSC) • ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) • ประชาคมสังคมวัฒนธรรมอาเซียน (ASEAN Socio-Cultural Community : ASCC)

  6. ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community: AEC) AEC เป็นตลาดและฐานการผลิตร่วมกัน ลักษณะ วัตถุประสงค์ การเคลื่อนย้ายสินค้า บริการ การลงทุน แรงงานมีฝีมือ อย่างเสรี เพื่อสร้างความมั่นคง มั่งคั่ง และความสามารถในการแข่งขันของอาเซียน เคลื่อนย้ายเงินทุนอย่างเสรีมากขึ้น

  7. เป้าหมายของ AEC : ปี 2558

  8. ความตกลงสำคัญของอาเซียนในการเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียวความตกลงสำคัญของอาเซียนในการเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียว 1. ความตกลงการค้าสินค้าของอาเซียน (ASEAN Trade in Goods Agreement: ATIGA) 2. ความตกลงด้านการค้าบริการของอาเซียน 3. ความตกลงด้านการลงทุนของอาเซียน (ASEAN Comprehensive Investment Agreement: ACIA) 4. ความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมของอาเซียน (ความตกลงการค้า และการลงทุนเป็นเรื่องใกล้ตัวหรือเกี่ยวข้องกับเกษตรกร)

  9. เจาะลึก 2 ความตกลงของอาเซียน 1. ความตกลงการค้าสินค้า (ATICA) จาก อาฟต้า (AFTA ปี 2535-2553) สู่ อาติก้า (ATIGA ปี 2553 เป็นต้นไป) 2. ความตกลงด้านการลงทุน

  10. 1. ATIGA - ความตกลงด้านการค้าสินค้าอาเซียน • ครอบคลุมมาตรการด้านการส่งออกและนำเข้าสินค้าระหว่าง 10 ประเทศ • ตารางการลดภาษีตามพันธกรณีของอาฟตา (AFTA) • กำหนดให้ใช้มาตรการที่มิใช่ภาษี (NTMs) ได้เฉพาะเท่าที่จำเป็น • ส่งเสริมความสะดวกด้านการค้าสินค้าระหว่างกัน • หลักปฏิบัติด้านศุลกากรที่อ้างอิงหลักการของสากล • การปฏิบัติด้านเทคนิค กระบวนการตรวจสอบรับรองมาตรการสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช • มาตรการเยียวยาทางการค้า

  11. ปี 2553 ปี 2558 ภาษี 0% สินค้าในรายการลดภาษี ภาษี 0% อาเซียนเดิม เวียดนาม ลาว พม่า กัมพูชา การเปิดเสรีการค้าสินค้า ยกเว้น สินค้าในรายการสินค้าอ่อนไหว(Sensitive List)ภาษีไม่ต้องเป็น 0% แต่ต้อง <5% และสินค้าในรายการอ่อนไหวสูง (Highly Sensitive List)ลดภาษีลงในระดับที่ต้องตกลงกัน HSL มีสินค้า - ข้าวของอินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ - น้ำตาลของอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์

  12. พันธกรณีการเปิดเสรีสินค้าของไทยพันธกรณีการเปิดเสรีสินค้าของไทย • ต้องลดภาษีทุกรายการสินค้า • เหลือ 0 % ในปี 2553 • (ยกเว้น สินค้า SL คือ เมล็ดกาแฟ มันฝรั่ง ไม้ตัดดอก เนื้อมะพร้าวแห้ง ภาษีเหลือ 5%) • ต้องยกเลิกโควตาสินค้าเกษตร • 23 รายการหมดไปในปี 2553

  13. 2. ACIA – ความตกลงด้านการลงทุนของอาเซียน • ปรับปรุงมาจากความตกลงการเปิดเสรีการลงทุน (AIA) และ ความตกลงคุ้มครองการลงทุน • ครอบคลุมขั้นตอนของการลงทุน 4 ด้านได้แก่ ส่งเสริมการลงทุนอำนวยความสะดวก การเปิดเสรีเพื่อให้เข้ามาลงทุน และการคุ้มครอง การลงทุน • การเปิดเสรีการลงทุน ครอบคลุมภาคการผลิต เกษตร ประมง ป่าไม้ เหมืองแร่ และบริการที่เกี่ยวเนื่องกับทั้ง 5 สาขาการผลิต • เปิดโอกาสให้สมาชิกทำข้อสงวนสาขาที่ไม่ต้องการเปิดเสรีไว้ในตารางข้อผูกพันโดยไม่ต้องมีการเจรจาต่อรอง

  14. ข้อสงวนของไทยภายใต้ ACIA • สาขาที่ไทยไม่อนุญาตให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนโดยเด็ดขาด ได้แก่ การทำนา ทำสวน ทำไร่ เลี้ยงสัตว์ การแปรรูปไม้จากป่าธรรมชาติ การประมงในน่านน้ำไทย การสกัดพืชสมุนไพร (อยู่ในบัญชี 1 แนบท้าย พรบ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542) การผลิตน้ำตาลจากอ้อย (เว้นแต่ได้รับอนุญาตจาก ครม.) • สาขาที่ไทยห้ามต่างชาติถือหุ้นข้างมากเว้นแต่ ครม. อนุญาต ได้แก่ การเลี้ยงไหม การผลิตเส้นไหมไทย การทอผ้าไหม การทำนาเกลือ การแปรรูปไม้เพื่อทำเครื่องเรือน (อยู่ในบัญชี 2) • สาขาที่ไทยห้ามคนต่างชาติถือหุ้นข้างมาก เว้นแต่ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พณ. อนุญาต ได้แก่ การสีข้าว การผลิตไม้อัด (อยู่ในบัญชี 3 เป็นธุรกิจที่ไทยไม่พร้อมแข่งขัน)

  15. พันธกรณีของไทยภายใต้ ACIA • ภายใต้ความตกลงฯ เดิม ซึ่งมีผลบังคับตั้งแต่ปี 2541 ไทยผูกพันว่าจะเปิดเสรีการลงทุนภายในปี 2553 (ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2553 เป็นต้นไป) ใน 3 สาขา (อยู่ในบัญชี 3) ได้แก่ 1) การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 2) การทำไม้จากป่าปลูก 3) การเพาะ ขยาย และปรับปรุงพันธุ์พืช • ปัจจุบัน ACIA ยังไม่มีผลบังคับใช้ เนื่องจากประเทศสมาชิกยังให้สัตยาบันไม่ครบ • ไทยยังไม่พร้อมเปิดใน 3 สาขาและอาเซียนยอมให้ใช้วิธีการเปิดเสรีการลงทุนแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยแบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ ปี 2553 ปี 2555 และ ปี 2557 ( ทั้งนี้ไทยยอมให้เปิดเสรีได้ในการเลี้ยงกุ้งมังกรสายพันธุ์ไทยและการเลี้ยงปลาทูน่าในกระชังน้ำลึก และ เมล็ดพันธุ์หอมหัวใหญ่ ซึ่งรัฐสภาให้ความเห็นชอบแล้วเมื่อ พ.ย.54)

  16. ประเด็นการเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีของอาเซียนประเด็นการเคลื่อนย้ายแรงงานเสรีของอาเซียน อาเซียนได้จัดทำข้อตกลงยอมรับร่วมกัน (Mutual Recognition Arrangements: MRAs) ด้านคุณสมบัติในสาขาวิชาชีพหลัก เป็นการเคลื่อนย้ายเสรีเฉพาะ “แรงงานฝีมือ” และต้องมีคุณสมบัติตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ใน MRAs เท่านั้น ปัจจุบันอาเซียนได้จัดทำ MRAs ไว้แล้ว 7 สาขา คือ วิศวกรรม สถาปนิก แพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ นักบัญชี และการสำรวจ ส่วนสาขาอื่นๆ ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา (ไม่มีการเคลื่อนย้ายแรงงานเกษตรอย่างเสรี !!!)

  17. ผลกระทบต่อตลาดแรงงานของไทยผลกระทบต่อตลาดแรงงานของไทย ด้านบวก ตลาดแรงงานของอาเซียนขยายตัว จากการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากจีน และอินเดีย เพิ่มโอกาสการมีงานทำแก่แรงงานฝีมือของไทยมากขึ้น ด้านลบ มีการแข่งขันจากแรงงานในอาเซียนเพิ่มมากขึ้น เร่งพัฒนาทักษะฝีมือแรงงานมากขึ้น เสริมสร้างความรู้โดยเฉพาะภาษาต่างประเทศ เช่น ภาษาอังกฤษ มาลายู เป็นต้น

  18. ศักยภาพและความพร้อมของภาคเกษตรกรรมไทยศักยภาพและความพร้อมของภาคเกษตรกรรมไทย

  19. ภาพรวมการเกษตรไทยในปัจจุบันภาพรวมการเกษตรไทยในปัจจุบัน เกษตรกรรมเป็นกิจกรรมพื้นฐานของสังคมไทย เกษตรกรประกอบอาชีพเกษตรเป็นเวลานาน จนมีความเชี่ยวชาญและเป็นมืออาชีพ เกษตรกรมีความสามารถปรับตัวทางการผลิตค่อนข้างดี เกษตรกรมีการปรับตัว/ปรับเปลี่ยน การใช้ปัจจัยการผลิต เพื่อลดต้นทุนจากราคาปัจจัยการผลิตที่สูงขึ้น เช่น ปุ๋ยเคมี และยาปราบศัตรูพืช เป็นต้น เกษตรกรมีความสามารถในการปรับเปลี่ยนแผน และ/หรือเทคนิคในกระบวนการผลิตให้สอดคล้องกับความต้องการ ของตลาด

  20. จุดเด่นของสินค้าเกษตรไทยในปัจจุบันจุดเด่นของสินค้าเกษตรไทยในปัจจุบัน • การผลิตสินค้าที่มีคุณภาพและมาตรฐาน (สร้างความโดดเด่นและแตกต่างจากประเทศคู่แข่ง) • การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลายรองรับกลุ่มผู้บริโภค (กลุ่มประชาคมยุโรป เน้นอาหารปลอดสารหรือสินค้าอินทรีย์และอาหารฮาลาล สำหรับกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง กลุ่มประเทศมุสลิม) • สินค้าเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั่วโลก (ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา สินค้าเกษตรและอาหารขยายตัวโดยเฉลี่ยร้อยละ 10.7)

  21. ปัญหาด้านการเกษตรของไทยในปัจจุบันปัญหาด้านการเกษตรของไทยในปัจจุบัน ขาดแคลนแรงงานภาคเกษตรในอนาคต (อายุโดยเฉลี่ยของเกษตรกรเป็นผู้สูงวัย) เกษตรกรส่วนใหญ่มีการศึกษาน้อย (ความสามารถในการเรียนรู้และเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอยู่ในระดับต่ำ และขาดการรวมกลุ่มเพื่อสร้างอำนาจการต่อรอง) การผลิตที่พึ่งพาดินฟ้าอากาศเป็นสำคัญ (ความแปรปรวนของสภาพอากาศโลก ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการผลิตและรายได้ของเกษตรกร)

  22. สถานการณ์การค้าสินค้าเกษตรของไทยสถานการณ์การค้าสินค้าเกษตรของไทย

  23. สถานการณ์การค้าสินค้าเกษตรระหว่างไทยกับตลาดโลกสถานการณ์การค้าสินค้าเกษตรระหว่างไทยกับตลาดโลก ที่มา : กรมศุลกากร หมายเหตุ : สินค้าเกษตรพิกัดศุลกากรที่ 1-24

  24. ตลาดส่งออกหลักสินค้าเกษตรไทยตลาดส่งออกหลักสินค้าเกษตรไทย ที่มา : กรมศุลกากร หมายเหตุ : สินค้าเกษตรพิกัดศุลกากรที่ 1-24

  25. การค้าสินค้าเกษตรไทยกับประเทศในอาเซียน ปี 2553 หมายเหตุ: สินค้าเกษตรพิกัดศุลกากร 01-24

  26. การค้าสินค้าเกษตรไทยกับอาเซียน ปี 2554 (ม.ค. – พ.ย.)

  27. การค้าสินค้าเกษตรไทยกับอาเซียน ปี 2554 (ม.ค. – พ.ย.) การส่งออก - กลุ่มสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ ที่มีมูลค่าการส่งออกสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ • กลุ่มยางพาราธรรมชาติ • กลุ่มน้ำตาลและขนมที่ทำจากน้ำตาล • กลุ่มข้าวและธัญพืช • กลุ่มเครื่องดื่ม สุรา น้ำส้มสายชู • กลุ่มซอส และเครื่องปรุงรสต่างๆ • กลุ่มสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ ที่มีการขยายสัดส่วนปริมาณและมูลค่าการส่งออกมากขึ้น 5 อันดับแรก เมื่อเทียบกับปี 2553 ได้แก่ • กลุ่มวัตถุจากพืชที่ใช้จักสาน • กลุ่มเนื้อสัตว์และส่วนอื่นของสัตว์เพื่อบริโภค • กลุ่มหนัง เขา กระดูกสัตว์ • กลุ่มผลไม้ • กลุ่มเมล็ดพืชและผลไม้ที่มีน้ำมัน

  28. การนำเข้า - กลุ่มสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ ที่มีมูลค่าการนำเข้าสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กลุ่มปลาและสัตว์น้ำ กลุ่มไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ ของปรุงแต่งจากธัญพืช แป้ง นม กลุ่มซอส และเครื่องปรุงรสต่างๆ กลุ่มชา กาแฟ และเครื่องเทศ กลุ่มสินค้าเกษตรและผลิตภัณฑ์ ที่มีการขยายสัดส่วนปริมาณและมูลค่าการนำเข้ามากขึ้น5 อันดับแรก เมื่อเทียบกับปี 2553 ได้แก่ กลุ่มผลไม้ กลุ่มเนื้อสัตว์และชิ้นส่วนของสัตว์ ที่บริโภคได้ กลุ่มไขมันและน้ำมันจากพืชและสัตว์ กลุ่มอาหารปรุงแต่งจากเนื้อปลา ปลาและสัตว์น้ำ กลุ่มพืชผักเพื่อบริโภค การค้าสินค้าเกษตรไทยกับอาเซียน ปี 2554 (ม.ค. – พ.ย.)

  29. การใช้สิทธิส่งออกภายใต้ AFTA ปี 2554 (ม.ค. – ก.ย.) ที่มา : กรมการค้าต่างประเทศ หมายเหตุ: เป็นสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม

  30. การส่งออกภายใต้สิทธิ AFTA ของไทย แยกเป็นรายประเทศ ปี 2554 (ม.ค. – ก.ย.) ที่มา : กรมการค้าต่างประเทศ

  31. สัดส่วนการใช้สิทธิฯ ส่งออก • สัดส่วนการใช้ส่วนใหญ่เป็นสินค้าอุตสาหกรรม คิดเป็น ร้อยละ 88.16 ในขณะที่สินค้าเกษตร มีการ ใช้สิทธิส่งออก คิดเป็น ร้อยละ 11.84 • มูลค่าส่งออกสินค้าเกษตร (ม.ค. – ก.ย. 54) มีมูลค่า 1,419.25 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นร้อยละ 13.02 จากช่วงเดียวกันของปี 2553 • สินค้าที่มีการใช้สิทธิส่งออก AFTA สูง ได้แก่ สตาร์ชจากมันสำปะหลัง อาหารปรุงแต่งอื่นๆ น้ำตาลอื่นๆ ที่ได้จากอ้อย เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ซอส น้ำมันดิบ และผลไม้สดอื่นๆ เป็นต้น

  32. ผลต่อภาคเกษตรที่คาดว่าจะได้รับจากผลต่อภาคเกษตรที่คาดว่าจะได้รับจาก การเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

  33. ผลได้ -ไทยส่งออกสินค้าเกษตรได้มากขึ้น เนื่องจากภาษีที่ลดลง และอาเซียนเป็นตลาดใหญ่ที่มีประชากรเกือบ 600 ล้านคนซึ่งสำคัญสำหรับไทย (สินค้าส่งออกสำคัญ เช่นข้าว น้ำตาล นมและผลิตภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลัง ไก่แปรรูป อาหารแปรรูป สิ่งปรุงรสอาหาร เป็นต้น) - สินค้าวัตถุดิบนำเข้าราคาถูก ทำให้ลดต้นทุนการผลิตเพื่อส่งออก (เช่น ปลา และสัตว์น้ำ) - เกษตรกร/ ผู้ประกอบการ เกิดการปรับตัวทางการผลิต ทำให้สามารถแข่งขันได้

  34. ผลเสีย - เกษตรกรบางสาขาอาจได้รับผลกระทบด้านราคาตกต่ำเมื่อมีการนำเข้าสินค้าราคาถูก คุณภาพต่ำจากอาเซียน 9 ประเทศมากขึ้น เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ - สินค้าเกษตรที่มีประสิทธิภาพการผลิต/ผลผลิตต่อไร่ต่ำกว่าเพื่อนบ้านอาจแข่งขันไม่ได้ เช่น กาแฟ - มาตรการด้านสุขอนามัยและสุขอนามัยพืช (SPS) และความปลอดภัยด้านอาหารจะถูกหยิบยกมาเป็นเงื่อนไขในการค้ามากขึ้น

  35. แนวทาง และมาตรการเพื่อเตรียมความพร้อมของภาคเกษตรสู่การเป็น ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน

  36. เกษตรกร ควรปรับโครงสร้างการผลิตเพื่อการแข่งขัน (รัฐสนับสนุน) โดย • ผลิตสินค้าที่มีลักษณะเฉพาะพิเศษ และหลากหลาย • พัฒนาคุณภาพสินค้าให้ได้มาตรฐาน สม่ำเสมอ ปลอดภัย /เข้าสู่ระบบ GAP • เพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุนการผลิต เช่น ใช้พันธุ์ดี รวมกลุ่มเพื่อใช้ปัจจัยการผลิตร่วมกัน อาทิ ลานตาก เครื่องสูบน้ำ เป็นต้น

  37. เอกชน/ผู้ประกอบการ • สร้างความแตกต่างให้กับสินค้า และ เน้นคุณภาพเป็นหลัก • รุกและขยายตลาดสินค้าที่ไทยได้เปรียบ เช่น ข้าว ผลไม้ น้ำตาล • ลดต้นทุนการผลิต อาทิ ใช้วัตถุดิบนำเข้าราคาถูกจากสมาชิกอาเซียน • ปรับภาพลักษณ์บรรจุภัณฑ์ • ใช้เทคโนโลยีในการยืดอายุสินค้าเกษตรหลังเก็บเกี่ยว • สร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจ

  38. ภาครัฐ: การเปิดเสรีสินค้าเกษตร การป้องกันผลกระทบ (มาตรการเชิงรับ) 1. การบริหารการนำเข้า เพื่อป้องกันสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น กำหนดให้เป็นสินค้าที่ต้องขอหนังสือรับรองนำเข้าและกำหนดคุณสมบัติผู้นำเข้า • กำหนดมาตรฐานการผลิต เช่น ต้องมีใบรับรองปริมาณสารพิษตกค้าง • กำหนดมาตรการสุขอนามัย(SPS) ที่เข้มงวด เช่นต้องแสดงใบรับรองสุขอนามัย • จากหน่วยงานที่เชื่อถือได้ในประเทศต้นทาง (อย.) • ตรวจเข้มใบรับรองถิ่นกำเนิดสินค้า (กรมศุลกากร) • กำหนดด่านนำเข้า (ให้นำเข้าเฉพาะด่านอาหารและยาและด่านตรวจพืช) • กำหนดช่วงเวลานำเข้า 2. การปราบปรามการลักลอบนำเข้า/ การนำเข้าที่ผิดกฎหมาย 3. ใช้มาตรการปกป้องพิเศษ (เก็บค่าธรรมเนียมปกป้อง) จากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มจนผิดปกติ

  39. ภาครัฐ: การเปิดเสรีสินค้าเกษตร การเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน (มาตรการเชิงรุก) 1. ส่งเสริมการลดต้นทุนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพการผลิตแก่เกษตรกร (ระบบน้ำ/ระบบชลประทาน ปุ๋ย วิจัยและพัฒนาพันธุ์ดี) 2. ส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตรสู่สากล 3. สนับสนุนผู้ผลิตรายย่อยเข้าสู่ระบบมาตรฐาน 4. สนับสนุนการสร้างมูลค่าเพิ่มและผลิตสินค้าที่หลากหลายเพื่อเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลก 5. ถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีที่เหมาะสมให้กับเกษตรกร 6. สนับสนุนการปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตร โดยใช้เงินกองทุน FTA 7. ส่งเสริมการทำเกษตรตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้เกษตรกร

  40. มาตรการรองรับการเปิดเสรีการลงทุนมาตรการรองรับการเปิดเสรีการลงทุน • การศึกษาแนวทางการเปิดเสรีการลงทุนภายใต้ความตกลง ACIAของการลงทุนสาขาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำและสาขาการเพาะขยายและปรับปรุงพันธุ์พืชในช่วงต่อไป • เน้นผลการศึกษา • สาขาย่อยที่อาจได้รับผลกระทบหากเปิดเสรีการลงทุนให้อาเซียน • สาขาย่อยที่จะได้รับประโยชน์จากความตกลงการเปิดเสรีการลงทุนอาเซียน • ข้อเสนอแนะ+แนวทางในการกำหนดมาตรการรองรับการเข้ามา ลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ • มาตรการเยียวยาสำหรับผู้ได้รับผลกระทบ

  41. ส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนด้านการเกษตรในประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเพิ่มแหล่งวัตถุดิบในการแปรรูปเพิ่มมูลค่าของสินค้าเกษตร เผยแพร่ และให้ความรู้ภาษาและวัฒนธรรม โอกาสและข้อจำกัดของประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อประโยชน์ในการขยายการลงทุน สร้างโอกาส และช่องทางในการขยายการลงทุนในประเทศเพื่อนบ้าน โดยการต่อยอดจากโครงการความร่วมมือด้านการเกษตรระหว่างไทยกับประเทศต่างๆ มาตรการเชิงรุกการเปิดเสรีการลงทุน

  42. ขอบคุณ

More Related