รายชื่อสมาชิก (กลุ่ม 7)

1. รายชื่อสมาชิก (กลุ่ม 7) 1. นางสาวมานิตา สกุลวงศ์ใหญ่รหัส 4522110028 2. นางสาวอาภัสรา กฤษณะกลัศรหัส 4522110055 3. นายวิรัตน์ เลาหเจริญยศ รหัส 4522110298 4. นายศุภชัย จังเจริญจิตต์กุลรหัส 4522110304 5. นายปิยภรณ์ รัชตะประกรรหัส 4522110317 6. นายวัลชัย ศรีหะรัญรหัส 4522110368

2. รายชื่อสมาชิก (กลุ่ม 7) 7. นางสาวมานีทรัพย์สวัสดิ์กุลรหัส 4522110477 8. นางสาวปริญญาเพ็งปาน รหัส 4522110489 9. นายสุรชัยจงสถาพรพงศ์ รหัส 4522110777 10. นายชัยพฤกษ์พูลลาภอนุสรณ์รหัส 4522110861 11. นายสุรเดชรักษาชลรหัส 4522110929 12. นายวิกรานต์คงฉิมรหัส 4522111027

3. บทที่ 8 :: ระบบต้นทุนกิจกรรม ::เครื่องมือในการกำหนดกลยุทธ์และการตัดสินใจ

4. ABC ช่วยเสริม ระบบการคิดต้นทุนแบบเดิม ของเราได้ นายว่างัยติ่ง Activity Based Costing (ABC) ABC เป็นวิธีคิดต้นทุนโดยใช้ฐานของกิจกรรม มาคิดต้นทุนของสินค้าและบริการ เพื่อให้ข้อมูลแก่ผู้บริหาร นำมากำหนดกลยุทธ์และตัดสินใจ เห็นด้วยเก่ง

5. ลักษณะของระบบ ABC 1.เป็นต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับ สินค้า เริ่มตั้งแต่รับOrder จนกระทั่งขายให้กับลูกค้า 2.เป็นต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับ การตัดสินใจเพื่อขายจริง 3.เน้นกิจกรรมการผลิตและ ปันส่วนต้นทุนกิจกรรม ของผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด 4.การกำหนดกลุ่ม ต้นทุนกิจกรรมและ ตัวผลักดันกิจกรรม 5.ช่วยให้การคำนวณ ต้นทุนผลิตภัณฑ์ มีความถูกต้องยิ่งขึ้น

6. ระบบต้นทุนแบบเดิม ต้นทุนการผลิตทุกประเภทถือเป็นต้นทุนของสินค้าทั้งหมด ต้นทุนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการ ผลิตจะไม่นำมารวมกับสินค้า ในการคิด OH Rate จะมีการรวมกลุ่มๆเดียว ทำให้มี OH Rate เพียง Rate เดียว ระบบ ABC ต้นทุนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิต จะนำมารวมกับสินค้านั้นด้วย ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการผลิตจะไม่นำมารวมกับการตัดสินใจ OH Rate จะมีหลาย Rate ซึ่งแต่ละกลุ่มจะมี OH Rate ของตัวมันเอง ความแตกต่างระหว่างระบบ ABC และระบบบัญชีต้นทุนแบบเดิม

7. Activities Consumption of Resources Cost รูปแบบของระบบต้นทุนกิจกรรม Cost Objects (e.g., products and customers)

8. ขั้นตอนการออกแบบระบบบัญชีต้นทุนกิจกรรมขั้นตอนการออกแบบระบบบัญชีต้นทุนกิจกรรม • การแยกแยะและกำหนดกิจกรรม • สามารถแยกค่าใช้จ่ายเข้างาน และกลุ่มต้นทุนเป้าหมาย • การแยกต้นทุนเข้าไปไว้ในกลุ่มของต้นทุนที่จัดไว้ • การคำนวณอัตราค่าใช้จ่ายการผลิตแต่ละกิจกรรม • การกำหนดต้นทุนโดยการใช้ต้นทุนกิจกรรมและ ตัวผลักดันต้นทุน • จัดเตรียมรายงานการบริหาร

9. Unit-Level Activity Batch-Level Activity แยกต้นทุนการผลิต ออกเป็นต้นทุนของ แต่ละระดับกิจกรรม ซึ่งสามารถ พิจารณาออกเป็น 5 ระดับกิจกรรม Product-Level Activity Customer-Level Activity Organization-sustaining Activity  การแยกแยะและกำหนดกิจกรรม

10.  การแยกแยะและกำหนดกิจกรรม บริษัทClassic Brass, ได้เลือกกลุ่มต้นทุนกิจกรรม(activity cost pools)และ ตัวผลักดันให้เกิดกิจกรรม (activity measures)

11. $ $ $ $ $ $  การแยกแยะและกำหนดกิจกรรม กลุ่มต้นทุนกิจกรรม(Activity Cost Pool)คือ “ถัง” ซึ่งสะสมต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับตัวผลักดันกิจกรรม เพียงตัวเดียวในระบบต้นทุนกิจกรรม (ABC)

12.  การแยกแยะและกำหนดกิจกรรม • กลุ่มต้นทุนเกี่ยวกับ Order ลูกค้า – จะกำหนดต้นทุนตาม Order ที่ได้รับและส่งให้ลูกค้า โดยการนับครั้งที่เกิดขึ้นในการส่ง Bill ไปยังลูกค้า • กลุ่มต้นทุนในการออกแบบผลิตภัณฑ์-จะรวมต้นทุนทั้งหมดที่เกี่ยวกับ การออกแบบผลิตภัณฑ์ • กลุ่มต้นทุนขนาดของ Order - จะรวมต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับจำนวนหน่วยสินค้าที่ผลิต • กลุ่มต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า -จะรวมต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการรักษาลูกค้าเอาไว้ • กลุ่มต้นทุนอื่น ๆ – จะรวมต้นทุนที่ไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มต้นทุนทั้ง 4 ข้างต้น

13. แยกค่าใช้จ่ายเข้างาน และกลุ่มต้นทุนเป้าหมาย

14. การแยกต้นทุนเข้าไปไว้ในกลุ่มของต้นทุนที่จัดไว้การแยกต้นทุนเข้าไปไว้ในกลุ่มของต้นทุนที่จัดไว้ At Classic Brass the following distribution of resource consumption across activity cost pools is determined. **Not included because they are directly traced to customer orders.

15. การแยกต้นทุนเข้าไปไว้ในกลุ่มของต้นทุนที่จัดไว้การแยกต้นทุนเข้าไปไว้ในกลุ่มของต้นทุนที่จัดไว้ Indirect factory wages $500,000 Percent consumed by customer orders 25% $125,000

16. การแยกต้นทุนเข้าไปไว้ในกลุ่มของต้นทุนที่จัดไว้การแยกต้นทุนเข้าไปไว้ในกลุ่มของต้นทุนที่จัดไว้ Factory equipment depreciation $300,000 Percent consumed by customer orders 20% $ 60,000

17. การแยกต้นทุนเข้าไปไว้ในกลุ่มของต้นทุนที่จัดไว้การแยกต้นทุนเข้าไปไว้ในกลุ่มของต้นทุนที่จัดไว้

18. บทนี้ยังมีต่อกลุ่มต่อไปครับบทนี้ยังมีต่อกลุ่มต่อไปครับ See you next time Thank you