230 likes | 1.06k Views
พระสมนึก บุญมายอง. บทที่ 4 ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร . Number (ตัวเลข). ในภาษาอังกฤษมีตัวเลขอยู่ 2 กลุ่ม ได้แก่ Cardinal number (ตัวนับเลข) และ Ordinal number (ตัวเลขเรียงลำดับ)
E N D
พระสมนึก บุญมายอง บทที่ 4 ภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร
Number (ตัวเลข) • ในภาษาอังกฤษมีตัวเลขอยู่ 2 กลุ่ม ได้แก่ Cardinal number (ตัวนับเลข) และ Ordinal number (ตัวเลขเรียงลำดับ) • Cardinal number (ตัวเลขนับ) ได้แก่ one, two, three … ตัวอย่างเช่น I have two sister = ฉันมีพี่สาวน้องสาวจำนวน 2 คน • Ordinal number (ตัวเลขเรียงลำดับ) ได้แก่ first, second, third … ตัวอย่างเช่น My second brother is Tom = พี่ชายคนที่สองของฉันคือ ทอม
การทักทาย (Greeting) • Informal greeting (การทักทายอย่างไม่เป็นทางการ) • Hi, Hello, Hullo • How are you (doing) ? / Fine, thank you. And you ? • How’s everything ? (How’re things?) / All right. • Formal greeting (การทักทายอย่างเป็นทางการ) • Good Morning, afternoon, evening • How do you do ? • And how are you ? / I’m fine, thank you. And you ?
Informal Self Introductions (การแนะนำตนเองอย่างไม่เป็นทางการ) • Hi, My name is Robert. / Hi, I’m Edith • Hi, I’m Pat Winston. What’s your name ? / My name is Connie Francis. • Formal Self Introductions (การแนะนำตนเองอย่างเป็นทางการ) • I’d like to introduce myself. / How are you Mr…? • I’m Clark Peterson.(Name/job) / How do you do Mr..?
Preposition (คำบุรพบท) • On หมายถึง ข้างบน จะใช้นำหน้าชื่อถนน เช่น On Paholyothin Rd. และใช้บอกทิศทาง เช่น on the right. • In หมายถึง ข้างใน ใช้กับอาคารสิ่งก่อสร้าง เช่น in the building. • Across from หมายถึง ตรงข้าม เช่น across from the bank • Between หมายถึง อยู่ระหว่างสิ่งสองสิ่ง เช่น between the bank and the school • Next to หมายถึง ถัดไป เช่น next to the hospital
Grammar • คำถามที่ขึ้นต้นด้วย Wh- ในที่นี้ มี 3 คำ คือ • Where หมายถึง ที่ไหน เช่น where are they ? แปลว่า เขาทั้งหลายอยู่ที่ไหน ? คำตอบต้องเป็นสถานที่ เช่น they are in the post office. แปลว่า พวกเขาทั้งหลายอยู่ที่ไปรษณีย์ • What หมายถึง อะไร เช่น what is your occupation ? • Who หมายถึง ใคร เช่น who are they ? แปลว่า เขาทั้งหลายคือใคร ? คำตอบต้องเป็นชื่อคน
Present Simple Tense • Present simple Tense คือ ประโยคที่แสดงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ โดยมีกฎว่า • ประธาน (Subject) + กริยา ช่องที่ 1 (Verb1) + (กรรม, object) • ถ้าประธานเป็นเอกพจน์ ได้แก่ he, she, it หรือชื่อคนๆเดียว กริยาที่ตามมาต้องเติม s หรือ es เช่น He walks to the market. = เขาเดินไปตลาด • ถ้าประธานเป็นพหูพจน์ ได้แก่ I, we, you, they หรือชื่อคน 2 คนขึ้นไป กริยาที่ตามมาไม่ต้องเติม s หรือ esเช่น We play football.
Present Simple Tense ในรูปประโยคปฏิเสธ และคำถาม • ในรูปประโยคปฏิเสธ และคำถาม ต้องใช้ V. to do ซึ่งมี do และ does เข้าช่วย โดย do จะใช้กับประธานที่เป็นเอกพจน์ (He, She, It) ส่วน does ใช้กับประธานที่เป็นพหูพจน์ (I, You, We, They) • ประโยคคำถาม ให้นำ do, does ไว้หน้าประโยค ส่วนคำตอบจะต้องตอบ Yes หรือ No เท่านั้น ! • V. to have มีhave กับ has แปลว่า “มี” have ใช้กับประธานที่เป็นพหูพจน์ ส่วน has ใช้กับประธานที่เป็นเอกพจน์
Grammar (ไวยากรณ์) • การใช้ It’s สำหรับ วัน, วันที่, เวลา เช่น • It’s Monday. = มันเป็นวันจันทร์ • It’s June 2.2001. = มันเป็นวันที่ 2 เดือนมิถุนายน ปี 2001 • It’s 8:20. = มันเป็นเวลา 8:20 • การใช้ Is it…? ในการถามเรื่อง วัน, วันที่, เวลา เช่น • Is it Friday ? = มันเป็นวันศุกร์ใช่ไหม ? • Is it midnight ? = มันเป็นเวลาเที่ยงคืนใช่ไหม ? • *การตอบYes, it is. หรือ No, it isn’t. • การใช้ what time / when does..ประธาน....กริยา..? เช่น • What time = กี่โมง , When = เมื่อไร • การใช้ what time / when is ..ประธาน..? เช่น • What time is it ? = มันเป็นเวลากี่โมง ? • When is your class ? = ห้องเรียนของเธอเริ่มเมื่อใด • ข้อสังเกต ถ้ามี Verb (กริยา) ในประโยคคำถาม ให้ใช้ what time / when dos…?