1.55k likes | 2.79k Views
บทที่ 4. การวิเคราะห์ต้นทุนรวม และการวิเคราะห์ต้นทุน ปริมาณ กำไร. งบกำไรขาดทุนแบบต้นทุนผันแปร. ขาย (หน่วยขาย X P / น) XXX หัก ต้นทุนผันแปร (หน่วยขาย X V / น) XXX กำไรส่วนเกิน ( หน่วยขาย X กำไรส่วนเกิน / น) XXX หัก ต้นทุนคงที่ XXX กำไรก่อนหักภาษี XXX
E N D
บทที่ 4 การวิเคราะห์ต้นทุนรวม และการวิเคราะห์ต้นทุน ปริมาณ กำไร
งบกำไรขาดทุนแบบต้นทุนผันแปรงบกำไรขาดทุนแบบต้นทุนผันแปร ขาย(หน่วยขาย X P / น) XXX หัก ต้นทุนผันแปร (หน่วยขาย X V / น)XXX กำไรส่วนเกิน (หน่วยขาย X กำไรส่วนเกิน / น) XXX หัก ต้นทุนคงที่ XXX กำไรก่อนหักภาษี XXX หัก ภาษีเงินได้ (%) XXX กำไรสุทธิXXX
คำศัพท์เกี่ยวข้อง ต้นทุนผันแปร (Variable Costs) หมายถึง ต้นทุนที่เปลี่ยนแปลงเป็นอัตราส่วนโดยตรงกับการเปลี่ยนแปลงของระดับกิจกรรม เช่น ในการผลิตสินค้า 1 หน่วย ใช้วัตถุดิบ 2 ชิ้น ชิ้นละ 3 บาท จะเป็นเงิน 6 บาท ถ้าผลิตสินค้า 3 หน่วย จะต้องใช้วัตถุดิบ 6 ชิ้น เป็นเงิน 18 บาท
คำศัพท์เกี่ยวข้อง ต้นทุนคงที่ (Fixed Costs) หมายถึง ต้นทุนที่ไม่เปลี่ยนแปลงตลอดช่วงหนึ่งของระดับกิจกรรม เช่น ค่าเช่าสถานที่ 1 ห้อง 1,000 บาท สำหรับการผลิตตั้งแต่ 0-5,000 หน่วย
คำศัพท์เกี่ยวข้อง ต้นทุนรวม (Mixed Costs) หมายถึง ต้นทุนที่มีทั้งส่วนที่คงที่และส่วนที่ผันแปรรวมอยู่ โดยส่วนที่คงที่เป็นต้นทุนอย่างน้อยของการให้บริหารและส่วนที่ผันแปรเป็นต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับระดับของกิจกรรม
การวิเคราะห์ต้นทุนรวมการวิเคราะห์ต้นทุนรวม ต้นทุนรวมประกอบไปด้วย ต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปร ซึ่งสามารถคำนวณหาต้นทุนรวมได้โดยใช้สมการ Y = a + bx โดยกำหนดให้ Y = ต้นทุนรวม a = ต้นทุนคงที่รวม b = อัตราต้นทุนผันแปรต่อหน่วย x = ระดับกิจกรรม
ตัวอย่างการหาต้นทุนรวมตัวอย่างการหาต้นทุนรวม โดยกำหนดให้ a =5,000 บาท b =40 บาทต่อหน่วย x = ผลิต 600 หน่วย Y = ? Y = a + bx Y = 5,000 + 40x
ตัวอย่างการหาต้นทุนรวม (ต่อ) Y = a + bx Y = 5,000 + 40(600) Y = 5,000 + 24,000 Y = 29,000
ตัวอย่างการหาต้นทุนรวม (ต่อ) เพราะฉะนั้น ถ้าผลิต 600 หน่วยเกิดต้นทุนเท่ากับ 29,000 บาท
ปัญหาจากข้อมูล ถ้าเดือน สิงหาคม ใช้ชั่วโมงเครื่องจักร 4,200 ชม. ต้นทุนรวม = ?
วิธีวิเคราะห์ต้นทุนรวม 1. วิธีวิเคราะห์ตามระดับกิจกรรมสูง - ต่ำ (The High-low Method) ตามวิธีนี้ จะคำนวณโดยใช้ข้อมูลของต้นทุนรวม ณ ระดับกิจกรรม 2 ระดับคือ ข้อมูลของต้นทุนรวม ณ ระดับกิจกรรมสูงสุดและข้อมูลของต้นทุนรวม ณ ระดับต่ำสุดและนำมาวิเคราะห์ตามขั้นตอนดังนี้
วิธีวิเคราะห์ต้นทุนรวม (ต่อ) ขั้นที่ 1 เปรียบเทียบผลต่างขางต้นทุนรวมและระดับกิจกรรมสูงสุดและต่ำสุด ขั้นที่ 2 คำนวณหาอัตราต้นทุนผันแปรต่อหน่วยโดยใช้สูตร ขั้นที่ 3 คำนวณหาต้นทุนคงที่โดยใช้สูตร ต้นทุนที่กิจกรรมสูงสุด – ต้นทุนที่กิจกรรมต่ำสุด กิจกรรมสูงสุด – กิจกรรมต่ำสุด ต้นทุนคงที่ = ต้นทุนรวม - ต้นทุนผันแปรรวม
ตัวอย่างที่ 1 บริษัท ปองคุณ จำกัด มีข้อมูลเกี่ยวกับชั่วโมงเครื่องจักร และต้นทุนการผลิตรวมตั้งแต่เดือนมกราคม ถึง เดือนกรกฎาคม ดังนี้
จากข้อมูลข้างต้นคำนวณหาต้นทุนผันแปรและต้นทุนคงที่ได้ ดังนี้ ขั้นที่ 1 เดือนที่กิจกรรมสูงสุด คือ เดือนมิถุนายน ส่วนเดือนที่กิจกรรมต่ำสุด คือ เดือน มีนาคม
จากข้อมูลข้างต้นคำนวณหาต้นทุนผันแปรและต้นทุนคงที่ได้ ดังนี้ ขั้นที่ 1 เดือนที่กิจกรรมสูงสุด คือ เดือนมิถุนายน ส่วนเดือนที่กิจกรรมต่ำสุด คือ เดือน มีนาคม
ขั้นที 2 การคำนวณหาต้นทุนผันแปรต่อหน่วยมีดังนี้ อัตราต้นทุนผันแปรต่อหน่วย =การเปลี่ยนแปลงในต้นทุน การเปลี่ยนแปลงในกิจกรรม =ต้นทุนที่กิจกรรมสูงสุด – ต้นทุนที่กิจกรรมต่ำสุด กิจกรรมสูงสุด – กิจกรรมต่ำสุด =196,000 – 148,000 บาท 4,000 – 2,500 ชั่วโมง =48,000 บาท 1,500 ชั่วโมง = 32 บาทต่อชั่วโมงเครื่องจักร
ขั้นที่ 3 อัตราต้นทุนผันแปรต่อหน่วย จากการคำนวณอัตราต้นทุนผันแปรต่อหน่วยได้เท่ากับ 32 บาท ต่อชั่วโมงเครื่องจักร การคำนวณหาต้นทุนผันแปรรวมจะใช้จุดกิจกรรมสูงสุดหรือกิจกรรมต่ำสุดก็ได้ สมมุติว่าถ้าเลือกจุดต่ำสุด ต้นทุนผันแปรรวม = ต้นทุนผันแปรต่อหน่วย X จำนวนชั่วโมง = 32 บาท ต่อ ชั่วโมง X 2,500 ชั่วโมง =80,000 บาท
ขั้นที่ 4 ต้นทุนคงที่ การคำนวณต้นทุนคงที่มี ดังนี้ ต้นทุนรวม = ต้นทุนผันแปรรวม + ต้นทุนคงที่รวม ต้นทุนคงที่รวม = ต้นทุนรวม – ต้นทุนผันแปรรวม ต้นทุนคงที่รวม = 148,000 – 80,000 ต้นทุนคงที่รวม=68,000 บาท จากการคำนวณข้างต้นจะได้สมการต้นทุน คือ Y = a + bx
สมการต้นทุนรวม Y = 68,000 + 32X
เดือนสิงหาคมใช้ 4,200 ชม. Y = 68,000 + 32(4,200) Y = 68,000 + 134,400 Y = 202,400 บาท
วิธีวิเคราะห์ต้นทุนรวม (ต่อ) 2. วิธีแผนภูมิกระจาย การจำแนกต้นทุนโดยวิธีนี้ แสดงโดยใช้กราฟ ให้นำค่าต้นทุนในระดับกิจกรรมต่าง ๆ ที่รวบรวมมาไปกำหนดจุดในกราฟ จากตัวอย่างที่ 1 การวิเคราะห์ตามวิธีแผนภูมิกระจายได้สมการต้นทุนรวม คือ Y = 60,000 + 35.20X
วิธีวิเคราะห์ต้นทุนรวม (ต่อ) 3.วิธีกำลังสองน้อยที่สุด (Simple Linear Regression) การจำแนกต้นทุนตามวิธีนี้ จะมีลักษณะคล้ายกับวิธีแผนภูมิกระจาย แต่จะแตกต่างกันตรงที่เส้นตรงที่จะลากผ่านจุดต่าง ๆ เป็นเส้นตรงที่ได้มาจากการคำนวณ และจากการวิเคราะห์ตามหลักคณิตศาสตร์จะได้สูตรในการคำนวณหาต้นทุนผันแปรต่อหน่วยและต้นทุนคงที่ได้ดังนี้
สูตรในการคำนวณ a = Y - bX (ต้นทุนคงที่) n b = nXY - XY (ต้นทุนผันแปรต่อหน่วย) nX2 - (X)2
จากตัวอย่างเดิมของบริษัท ปองคุณ จำกัด นำมาจำแนกเป็นต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปร โดยมีขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 คำนวณ x ,y ,xy และ x2 ดังนี้
ขั้นที 2 จากข้อมูลข้างต้นนำไปใส่สูตรเพื่อหาค่า b ดังนี้ b = nXY - XY (ต้นทุนผันแปรต่อหน่วย) nX2 - (X)2 b = 7(3,880,800,000) - (22,850)(1,174,000 ) 7(76,187,500) - (22,850)( (22,850) b = 339,700,000 111,900,000 b = 30.35746202 b = 30.36
ขั้นที่ 3 คำนวณผลที่ได้จากขั้นที่ 1 และ 2 มาคำนวณในสูตรเพิ่มหาค่า a a = Y - bX (ต้นทุนคงที่) n a = 1,174,000 – 30.36(22,850) 7 a = 68,610.57 บาท
สมการต้นทุนรวม Y = 68,610.57 + 30.36X
สรุปสมการต้นทุนรวมทั้ง 3 วิธี วิธี สูง-ต่ำ Y = 68,000 + 32X วิธี แผนภูมิ Y = 60,000 + 35.20X วิธี สมการถดถอย Y = 68,610.57 + 30.36X
แบบฝึกหัดท้ายบทที่ 4 ข้อ 1 กรณีไม่มีปัจจัยอื่นมาเกี่ยวข้อง ข้อ 2 กรณีมีปัจจัยอื่นมาเกี่ยวข้อง
ข้อ 1 วิธีวิเคราะห์ตามกิจกรรมสูงต่ำ b/น =ต้นทุนที่กิจกรรมสูงสุด – ต้นทุนที่กิจกรรมต่ำสุด กิจกรรมสูงสุด – กิจกรรมต่ำสุด b/น =33 – 15=18=2 บาท 12– 3 9 นำ b/น แทน ณ จุดกิจกรรมต่ำสุด a =ต้นทุนรวม - ต้นทุนผันแปร a = 15 - ( 3 X 2 ) =15 – 6 =9 บาท สมการต้นทุนรวม Y = 9,000 + 2,000X
ข้อ 1 วิธีวิเคราะห์ตามกิจกรรมสูงต่ำ b/น =ต้นทุนที่กิจกรรมสูงสุด – ต้นทุนที่กิจกรรมต่ำสุด กิจกรรมสูงสุด – กิจกรรมต่ำสุด b/น =33 – 15=18=2 บาท 12– 3 9 นำ b/น แทน ณ จุดกิจกรรมสูงสุด a =ต้นทุนรวม - ต้นทุนผันแปร a = 33 - ( 12 X 2 ) =33 – 24 =9 บาท สมการต้นทุนรวม Y = 9,000 + 2,000X
ข้อ 1 วิธีวิเคราะห์กำลังสองน้อยที่สุด จากข้อมูลสรุปได้ดังนี้ X= 50 Y= 163 XY= 1,266 X2= 408 n = 7
ขั้นที 2จากข้อมูลข้างต้นนำไปใส่สูตรเพื่อหาค่า b/นและ a ดังนี้ b/น = nXY - XY nX2 - (X)2 b/น = 7(1,266) - [(50)(163)]= 712 =2 7(408) - [(50)(50)] 356 a = Y - bX = 163 – 2(50) = 9 n 7 สมการต้นทุนรวม Y = 9,000 + 2,000X
สมการต้นทุนรวมข้อ 1 วิธี สูง-ต่ำ Y = 9,000 + 2,000X วิธีกำลังสองน้อยที่สุด Y = 9,000 + 2,000X
ข้อ 2 วิธีวิเคราะห์ตามกิจกรรมสูงต่ำ b/น =ต้นทุนที่กิจกรรมสูงสุด – ต้นทุนที่กิจกรรมต่ำสุด กิจกรรมสูงสุด – กิจกรรมต่ำสุด b/น =32 – 20=12=1.33 บาท 12– 3 9 OR นำ b/น แทน ณ จุดกิจกรรมต่ำสุด a =ต้นทุนรวม - ต้นทุนผันแปร a = 20 - ( 3 X 1.33) =20 – 3.99 =16.01 บาท สมการต้นทุนรวม Y = 16,010 + 1,330X
ข้อ 2 วิธีวิเคราะห์ตามกิจกรรมสูงต่ำ b/น =ต้นทุนที่กิจกรรมสูงสุด – ต้นทุนที่กิจกรรมต่ำสุด กิจกรรมสูงสุด – กิจกรรมต่ำสุด b/น =32 – 20=12=1.33 บาท 12– 3 9 นำ b/น แทน ณ จุดกิจกรรมสูงสุด a =ต้นทุนรวม - ต้นทุนผันแปร a = 32 - (12 X 1.33) = 32 – 15.96 =16.04 บาท สมการต้นทุนรวม Y = 16,040 + 1,330X
ข้อ 2 วิธีวิเคราะห์กำลังสองน้อยที่สุด จากข้อมูลสรุปได้ดังนี้ X= 50 Y= 169 XY= 1,291 X2= 408 n = 7
ขั้นที 2จากข้อมูลข้างต้นนำไปใส่สูตรเพื่อหาค่า b/นและ a ดังนี้ b/น = nXY - XY nX2 - (X)2 b/น = 7(1,291) - [(50)(169)]= 587 = 1.65 7(408) - [(50)( (50)] 356 a = Y - bX = 169 – 1.65(50) =12.36 n 7 สมการต้นทุนรวม Y = 12,360 + 1,650X
สมการต้นทุนรวมข้อ 2 วิธี สูง-ต่ำ Y = 16,010 + 1,330X หรือ Y = 16,040 + 1,330X วิธีกำลังสองน้อยที่สุด Y = 12,360 + 1,650X
การวิเคราะห์จุดคุ้มทุนการวิเคราะห์จุดคุ้มทุน (Break-even Point Analysis) การวิเคราะห์จุดคุ้มทุนเป็นเทคนิคการวางแผนการลงทุนที่วิเคราะห์ถึงความสัมพันธ์ของต้นทุนคงที่ ต้นทุนผันแปรและกำไรของกิจการ ซึ่งวิธีวิเคราะห์จุดคุ้มทุนสามารถทำได้ 3 วิธี คือ
การวิเคราะห์จุดคุ้มทุน (ต่อ) วิธีวิเคราะห์จุดคุ้มทุนสามารถทำได้ 3 วิธี คือ • 1.การคำนวณหาจุดคุ้มทุนโดยใช้สมการ • 2. การคำนวณหาจุดคุ้มทุนโดยใช้กราฟ • 3. การคำนวณหาจุดคุ้มทุนโดยใช้กำไร • ส่วนเกิน