1 / 41

การวางแผนกำลังคนด้านสุขภาพ

การวางแผนกำลังคนด้านสุขภาพ. นงลักษณ์ พะไกยะ วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดขอนแก่น. ความต้องการกำลังคนในอนาคต. กำลังคนรองรับในอนาคต. การเปลี่ยนแปลงบริบท. ปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง. กำลังคนปัจจุบัน. การบริหาร - สถานะการ จ้างงาน - แรงจูงใจการเงิน - และอื่นๆ - ระบบการสนับสนุนอื่นๆ.

Download Presentation

การวางแผนกำลังคนด้านสุขภาพ

An Image/Link below is provided (as is) to download presentation Download Policy: Content on the Website is provided to you AS IS for your information and personal use and may not be sold / licensed / shared on other websites without getting consent from its author. Content is provided to you AS IS for your information and personal use only. Download presentation by click this link. While downloading, if for some reason you are not able to download a presentation, the publisher may have deleted the file from their server. During download, if you can't get a presentation, the file might be deleted by the publisher.

E N D

Presentation Transcript


  1. การวางแผนกำลังคนด้านสุขภาพการวางแผนกำลังคนด้านสุขภาพ นงลักษณ์ พะไกยะ วิทยาลัยการสาธารณสุขสิรินธร จังหวัดขอนแก่น

  2. ความต้องการกำลังคนในอนาคตความต้องการกำลังคนในอนาคต กำลังคนรองรับในอนาคต การเปลี่ยนแปลงบริบท ปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง กำลังคนปัจจุบัน การบริหาร -สถานะการ จ้างงาน -แรงจูงใจการเงิน-และอื่นๆ -ระบบการสนับสนุนอื่นๆ ระบบบริการ กำลังคนจบใหม่ กำลังคนกลับจากศึกษาต่อ จำนวน ประเภท กำลังคนที่ต้องการปัจจุบัน CHANGE กำลังคนย้ายเข้า กำลังคนย้ายออก จำนวน ประเภท กำลังคนที่ต้องการในอาคต จะวางแผนกำลังคนอย่างไร? กำลังคนรองรับในอนาคต

  3. การวางแผนปฏิบัติการแผนยุทธศาสตร์กำลังคนการวางแผนปฏิบัติการแผนยุทธศาสตร์กำลังคน • 1. วิเคราะห์ความต้องการกำลังคน (Demand) • 2. วิเคราะห์กำลังคนรองรับ (Supply) • 3. matching ระหว่าง ความต้องการกำลังคน และ กำลังคนรองรับ • 4. วางแผนกำลังคน

  4. 1. การคาดประมาณความต้องการกำลังคน(HRH projection): สัดส่วนประชากร : Population Ratio Method การเปลี่ยนแปลงทางประชากร ขนาดประชากรในปัจจุบัน ขนาดประชากรในอนาคต การคาดการณ์ -เปรียบเทียบกับอดีต /ประเทศอื่น -ความเห็นผู้เชี่ยวชาญ อัตราส่วนกำลังคน:ประชากร ในปัจจุบัน อัตราส่วนกำลังคน:ประชากร ในอนาคต 4

  5. Population ratio • คำนวณความต้องการกำลังคนจากจำนวนประชากรโดยใช้มาตรฐานสัดส่วนประชากรต่อกำลังคน เช่น • แพทย์ 1 คน ต่อ ประชากร 10,000 คน พยาบาล 1 คนต่อประชากร 5,000 คน • อำเภอ ก มีประชากร 30,000 คน ต้องการแพทย์และพยาบาลเท่าไหร่ • ต้องการแพทย์ = 30000/10000 = 3 คน • ต้องการพยาบาล = 30000/5000 = 6 คน 5

  6. Population ratio • จุดแข็ง • สำหรับประเทศที่มีระบบสุขภาพที่ stable และทุกคน access to care • ง่าย ไม่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญในการวางแผน • จุดอ่อน • วางแผนแยกส่วนแต่ละวิชาชีพ ไม่สามารถหา skill mix • มีแนวโน้มต้องการกำลังคนมากกว่าความเป็นจริง • ไม่สามารถแก้ปัญหาการกระจายได้ • การปรับเปลี่ยนระบบบริการในอนาคตเป็นไปได้ค่อนข้างยาก 6

  7. ความต้องการด้านสุขภาพ (Health Need Method) ประเภท คุณภาพ ความถี่ และ ปริมาณของบริการที่จำเป็นเพื่อ บรรลุเป้าหมายด้านสุขภาพของประชาชน ปัญหาสุขภาพที่สำคัญ (ข้อมูลทางระบาดวิทยา) ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ แต่ละวิชาชีพ -การเข้าถึงบริการ -นโยบายที่เกี่ยวข้อง เป้าหมายบริการสุขภาพ ผลิตภาพของกำลังคน กำลังคนในแต่ละสายงานและเวลา ที่ใช้ในการให้บริการของบุคลากร แต่ละประเภท จำนวนกำลังคน แต่ละประเภท ที่ต้องการ 7

  8. Health Need Method • ใช้ข้อมูลทางระบาดวิทยา และความเห็นของวิชาชีพ วิเคราะห์การเจ็บป่วยตามกลุ่มอายุ และเพศ พร้อมวิเคราะห์การให้บริการและกำลังคน • จากนั้น นำ “ผลิตภาพกำลังคน- productivity” มาเปลี่ยนให้เป็นความต้องการกำลังคน • เช่น การดูแลด้านทันตกรรม 8

  9. ผลิตภาพกำลังคน • ผลิตภาพของแรงงานเป็นคำที่มีความหมายเชิงเปรียบเทียบ ระหว่างผลผลิตที่เกิดจากแรงงาน เช่น โรงงาน ก. จ้างคนงาน 12 คน ทำงานร่วมกับเครื่องจักร 1 เครื่อง ได้ผลผลิตรวมทั้งสิ้น 360 ชิ้นต่อวัน ผลิตภาพของตนงานแต่ละคนจะเป็น 360 หารด้วย 12 คน ซึ่งเท่ากับ 30 ชิ้นต่อคนต่อวันเป็นต้น การศึกษาผลิตภาพ/ค่ามาตรฐานการปฏิบัติงาน • ผลิตภาพ: จำนวน และ คุณภาพ • บุคลากรวิชาชีพหนึ่ง ปฏิบัติงาน ณ ระดับสถานบริการหนึ่ง จะสามารถปฎิบัติงานได้อย่างมีคุณภาพ ได้มากที่สุดเท่าไหร่ เช่น พยาบาล OPD ดูแลผู้ป่วยอย่างมีคุณภาพ ใช้เวลา 15 นาที

  10. การนำผลิตภาพกำลังคนมาใช้วิเคราะห์ความต้องการกำลังคนการนำผลิตภาพกำลังคนมาใช้วิเคราะห์ความต้องการกำลังคน • ค่ามาตรฐานการปฏิบัติงานของพยาบาล • พยาบาล OPD ดูแลผู้ป่วยอย่างมีคุณภาพ ใช้เวลา 15 นาที การวิเคราะห์ภาระงานด้านพยาบาล • OPD 30,000 รายต่อปี • Workload = 30,000 * (15/60) = 7,500 ชม (man hour) การวิเคราะห์ความต้องการกำลังคนด้านพยาบาล • เทียบ workload กับมาตรฐานการทำงานใน 1 ปี = 240 วัน *7 ชม = 1680 ชม /ปี • ความต้องการพยาบาล OPD =7,500/1680= 4.5 FTE 10

  11. Health Needs 11

  12. การใช้บริการ (HealthDemand Method) อัตราการใช้บริการสุขภาพ ในปัจจุบันและอดีต Forecasting technique • ตัวแปรด้านประชากรในปัจจุบันและอดีต • -ขนาด โครงสร้างอายุ และเพศ • - รายได้ -การย้ายถิ่น • - อาชีพ - ที่อยู่อาศัย • การประกันสุขภาพ • การศึกษา การเปลี่ยนแปลงด้านประชากร สังคมเศรษฐกิจ การเมือง นโยบาย Healthcare system design ผลิตภาพของกำลังคน จำนวน และทักษะของกำลังคนแต่ละประเภทที่ต้องการ อัตราการใช้บริการ สุขภาพในอนาคต 12

  13. Health Demand method • วิเคราะห์จากอัตราการใช้บริการในปัจจุบัน จากนั้นคาดการณ์การใช้บริการไปในอนาคต • จากนั้น นำ “ผลิตภาพกำลังคน” มาเปลี่ยนให้เป็นความต้องการกำลังคน • เช่น การให้บริการจ่ายยาของบุคลากรด้านเภสัชกรรม 13

  14. Health Demand • จุดแข็ง • สำหรับประเทศที่มีระบบสุขภาพที่มั่นคง stable และทุกคนเข้าถึงบริการ access to care • เหมาะสมกับสถานพยาบาลเอกชน หรือประเทศที่ private-dominated • จุดอ่อน • การวางแผนขึ้นอยู่กับอัตราการใช้บริการและความสามารถในการจ่าย • ไม่เหมาะสำหรับประเทศที่ inequity to care • เหมาะกับการคาดการความต้องการในด้านการรักษา (Curative-oriented) • หากจะใช้ นิยมใช้คู่กับ วิธี Health needs • มีแนวโน้มดำรงระบบบริการแบบเดิม ไม่ปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับอนาคต 14

  15. Services Target Method ผู้กำหนดนโยบาย • แนวโน้มในอดีต • ความจำเป็นด้านสุขภาพ • ความต้องการด้านสุขภาพ • นโยบายการพัฒนาระบบบริการ เป้าหมายในอนาคต - การบริการสุขภาพ - การพัฒนาสถานบริการ - การพัฒนาระบบบริการ ผู้เชี่ยวชาญ กรอบอัตรากำลัง ผลิตภาพของกำลังคน อัตราส่วน กำลังคน:ประชากร จำนวน ประเภท และทักษะ ของกำลังคนที่ต้องการ 15

  16. Service target approach • ใช้ข้อมูลประชากรและระบาดวิทยาในปัจจุบันและคาดการณ์บริการที่จะจัดในอนาคต • ใช้มาตรฐานกำลังคนคำนวณจำนวนกำลังคนด้านสุขภาพที่ต้องการ • จุดแข็ง • เหมาะกับประเทศกำลังพัฒนา เพราะสามารถคาดการณ์กำลังคนได้ตรงกับระบบบริการ • คาดการณ์ระบบบริการในอนาคตที่สัมพันธ์กับปัจจุบันได้ • เหมาะสำหรับการวางแผน skill mix • สำหรับวิชาชีพที่เกิดใหม่ • จุดอ่อน • ต้องการความเชี่ยวชาญในการวางแผน 16

  17. การวิเคราะห์ความต้องการกำลังคนด้านสุขภาพ (Full Time Equivalent-FTE)โดยใช้ภาระงาน

  18. จุดเด่นของการคาดการณ์กำลังคนโดยใช้ภาระงานจุดเด่นของการคาดการณ์กำลังคนโดยใช้ภาระงาน • เน้นการวิเคราะห์ความต้องการกำลังคนในระดับสถานบริการ สอดคล้องกับภาระงาน • เน้นการทำงานเป็นทีมของทุกวิชาชีพ • พื้นที่สามารถดำเนินการ/ ปรับปรุงสอดคล้องกับบริบทของพื้นที่ • สามารถแยกวิเคราะห์รายสถานพยาบาล ภาพรวมของจังหวัด ภาพรวมของเขต และประเทศ

  19. ขั้นตอน การวิเคราะห์ความต้องการกำลังคนโดยใช้ภาระงาน • 1. วิเคราะห์ภาระงานหลักของแต่ละวิชาชีพ พร้อมเก็บรวบรวมข้อมูลผลผลิตของแต่ละภาระงานหลัก • 2. ศึกษาผลิตภาพ- productivity การทำงานของแต่ละวิชาชีพ • 3. เปลี่ยนภาระงานให้เป็นชั่วโมงการทำงาน (man-hour) โดยใช้มาตรฐานเวลาที่แต่ละวิชาชีพใช้ในการให้บริการต่าง ๆ (จากข้อ 2) • 4. กำหนดเวลามาตรฐานการปฏิบัติงานของกำลังคน (staff norm) ใช้ตามเกณฑ์ของ กพร กำลังคนปฏิบัติงาน 7 ชั่วโมงต่อวัน จำนวน 240 วัน ต่อปี ดังนั้น staff norm การทำงานของกำลังคน 1,680 ชม ต่อปี

  20. ขั้นตอน การวิเคราะห์ความต้องการกำลังคนโดยใช้ภาระงาน (ต่อ) • 5. คิดภาระงานหลักที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการโดยตรง จึงหักสัดส่วนเวลาที่ทำกิจกรรมอื่น เช่น การอบรม บริหาร เช่น 20% ดังนั้น หลังจากวิเคราะห์ FTE cแล้ว จึงเพิ่มสำหรับงานอื่น 20% เช่น วิเคราะห์ได้ 10 FTE= 10 + 2(20%) • 6. คำนวนความต้องการกำลังคนโดยรวมทุกภาระงานของแต่ละวิชาชีพเข้าด้วยกัน และหารด้วย มาตรฐานการทำงานจากข้อ 5

  21. 1. วิเคราะห์ภารกิจหลัก และ ผลผลิต (outputs)

  22. 1. การวิเคราะห์ภาระงานหลัก (ต่อ) • แต่ละวิชาชีพ วิเคราะห์ภาระงานหลัก- อิงตามบทบาทหน้าที่ที่กำหนด • วิเคราะห์ ภาระงานหลัก ผลผลิต และแหล่งข้อมูล • ผลผลิต • เป็นผลที่เกิดขึ้นหลังจากกิจกรรมเสร็จสิ้น • เป็นรูปธรรม- สามารถวัดได้ • สัมพันธ์กับกิจกรรม

  23. การวิเคราะห์ภาระกิจหลักและผลผลิตการวิเคราะห์ภาระกิจหลักและผลผลิต • กรณีนับผลผลิต ได้ ให้นับผลผลิตที่เกิดขึ้นเป็นชิ้นงาน • กรณีเป็นภารกิจที่นับผลผลิตไม่ได้ เช่น งานวิชาการ (การสอน การอบรม อื่น ๆ) งานบริหาร (การประชุม บริหาร ประสานงาน) ใช้การคิดสัดส่วนงานเหล่านี้ และ top up ให้หลังการวิเคราะห์ FTE 23

  24. สัดส่วนเวลาบริหาร และวิชาการ สัดส่วนงานวิชาการและบริหาร = 7/35*100 = 20.0% 24

  25. 2. ศึกษาผลิตภาพกำลังคน • ผลลัพธ์ที่คาดหวัง • เวลามาตรฐานในการดำเนินภาระกิจหลัก • สัดส่วนเวลาในการให้บริการภาระกิจหลัก และภาระกิจอื่น ๆ • วิธีการในการศึกษาผลิตภาพ • ใช้มาตรฐานขององค์กรวิชาชีพ • จากการหาข้อตกลงกับผู้รู้และผู้มีประสบการณ์ • ศึกษาจากสถานบริการต้นแบบ

  26. การศึกษาผลิตภาพกำลังคนการศึกษาผลิตภาพกำลังคน • ผลิตภาพของแรงงานเป็นคำที่มีความหมายเชิงเปรียบเทียบ ระหว่างผลผลิตที่เกิดจากแรงงาน เช่น โรงงาน ก. จ้างคนงาน 12 คน ทำงานร่วมกับเครื่องจักร 1 เครื่อง ได้ผลผลิตรวมทั้งสิ้น 360 ชิ้นต่อวัน ผลิตภาพของตนงานแต่ละคนจะเป็น 360 หารด้วย 12 คน ซึ่งเท่ากับ 30 ชิ้นต่อคนต่อวันเป็นต้น การศึกษาผลิตภาพ/ค่ามาตรฐานการปฏิบัติงาน • ผลิตภาพ: จำนวน และ คุณภาพ • บุคลากรวิชาชีพหนึ่ง ปฏิบัติงาน ณ ระดับสถานบริการหนึ่ง จะสามารถปฎิบัติงานได้อย่างมีคุณภาพ ได้มากที่สุดเท่าไหร่ เช่น พยาบาล OPD ดูแลผู้ป่วยอย่างมีคุณภาพ ใช้เวลา 15 นาที

  27. การหาค่ามาตรฐานของผลิตภาพ(productivity)การหาค่ามาตรฐานของผลิตภาพ(productivity) • ตามมาตรฐานที่มีของแต่ละสภาวิชาชีพ • การตัดสินร่วมกันของกลุ่มวิชาชีพ/ผู้เชี่ยวชาญ • ใช้มาตรฐานของสถานพยาบาลที่ดีที่สุด • การศึกษาจากสถานบริการต้นแบบ ศึกษา/ สังเกต

  28. การหาค่ามาตรฐานของผลิตภาพ : • สภาวิชาชีพ/ ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ • ข้อดี: ง่าย เร็ว • ข้อเสีย: หากขาดงานวิจัยรองรับ อาจจะมีแนวโน้มใช้แนวคิดเดิม เช่น ต้องการมีกำลังคนเพิ่มขึ้น อาจจะสอดคล้องกับทฤษฎี แต่ละเลยความเป็นจริงในทางปฏิบัติ 28

  29. การหาค่ามาตรฐานของผลิตภาพ : สถานพยาบาลต้นแบบ • คัดเลือก “สถานพยาบาลต้นแบบ” มีผลงานดีเมื่อเทียบกับสถานพยาบาลอื่น ๆ • ข้อดี: : สอดคล้องกับการปฏิบัติจริง หากเก็บข้อมูลที่ละเอียดสามารถนำมาใช้ในการวางแผนและพัฒนากำลังคนได้ • ข้อเสีย: ใช้เวลาและงบประมาณในการเก็บข้อมูล ค่าของผลิตภาพสูงหรือต่ำ อาจจะขึ้นกับการบริหารจัดการภายใน ซึ่งอาจจะไม่สามารถเป็นตัวแทนที่เหมาะสมได้ 29

  30. การศึกษาผลิตภาพจากสถานบริการต้นแบบการศึกษาผลิตภาพจากสถานบริการต้นแบบ • 1. คัดเลือกสถานบริการต้นแบบ • 2. สังเกตการณ์ปฏิบัติงานทุกแผนกที่สนใจ หรือให้ทุกวิชาชีพที่สนใจบันทึก daily diary ประกอบด้วย ช่วงเวลา กิจกรรม และ ผลผลิต ประมาณ 2-4 สัปดาห์ • 3 วิเคราะห์เวลาเฉลี่ยของการดำเนินงานในแต่ละกิจกรรม • 4 วิเคราะห์สัดส่วนเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมอื่น ๆ ที่ไม่สามารถนับเชิงปริมาณได้

  31. การบันทึก daily diary ช่วงเวลา กิจกรรมหลัก และ ปริมาณผลผลิต 31

  32. วิเคราะห์เวลาเฉลี่ยต่อกิจกรรมวิเคราะห์เวลาเฉลี่ยต่อกิจกรรม

  33. สัดส่วนเวลาบริหาร และวิชาการ 33

  34. ขั้นตอน การวิเคราะห์ความต้องการกำลังคนโดยใช้ภาระงาน (ต่อ) • 3. เปลี่ยนภาระงานให้เป็นชั่วโมงการทำงาน (man-hour) โดยใช้มาตรฐานเวลาที่แต่ละวิชาชีพใช้ในการให้บริการต่าง ๆ (จากข้อ 2) • 4. กำหนดเวลามาตรฐานการปฏิบัติงานของกำลังคน (staff norm)ใช้ตามเกณฑ์ของ กพร กำลังคนปฏิบัติงาน 7 ชั่วโมงต่อวัน จำนวน 240 วัน ต่อปี ดังนั้น staff normการทำงานของกำลังคน 1680 ชม ต่อปี • 5. คิดภาระงานหลักที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการโดยตรง จึงหักสัดส่วนเวลาที่ทำกิจกรรมอื่น เช่น การอบรม บริหาร เช่น 20% • 6. คำนวนความต้องการกำลังคนโดยรวมทุกภาระงานของแต่ละวิชาชีพเข้าด้วยกัน และหารด้วย มาตรฐานการทำงานจากข้อ 5

  35. แผนก 1 ภาระงาน (ครั้ง/pt-day) 2 เวลา/บริการ (ชม) 3 รวม (man-hour) 1*2 ความต้องการแพทย์ 3/4 เพิ่มค่าสัดส่วนงานวิชาการบริหาร OPD 5,000 0.1 hr 500 5045/1680 = 3.0 FTE = 3.0 + 20% = 3.6 FTE OR 1,000 1.5 hr 1500 ER 2,500 0.45 hr 1125 Ward- Ped 300 0.4 hr 120 Ward-Med 2,000 0.4 hr 800 ICU ---- ---- 200 5 hr 1000 ตัวอย่าง ความต้องการแพทย์

  36. ความต้องการกำลังคนระดับทุติยภูมิของบริการต่าง

  37. ตัวอย่าง ความต้องการกำลังคนปฐมภูมิ

  38. ค่า FTE หมายถึงอะไร • FTE = ปริมาณงาน x ค่ามาตรฐานเวลาที่ใช้/ครั้ง มาตรฐานเวลาทำงาน 1680 ชม • FTE = 2.5 แต่มีกำลังคน 1 คน หมายความว่าอย่างไร คน 1 คน ทำงานหนักเทียบเท่ากับคน 2.5 คนเสมือน • การแก้ปัญหา อาจไม่ใช่การเพิ่มคนอย่างเดียว / อาจเป็นการสร้างแรงจูงใจให้คนหนึ่งคนทำงานมากขึ้น

  39. 2. การคาดประมาณอุปทานกำลังคน(HRH supply projection) การเพิ่มขึ้น - ลดลงของกำลังคนด้านสุขภาพ สูญเสีย Stocks เพิ่มขึ้นจาก เกษียณ ผู้จบการศึกษาใหม่ Active manpower supply in services เสียชีวิต กลับจากลาเรียน ลาศึกษาต่อ กลับเข้าทำงานใหม่ หลังจากออกไป ทำอาชีพอื่น/เกษียณ เปลี่ยนอาชีพ Inactive supply 39

  40. 3. Matching Supply & Demand • Supply Demand • แพทย์ 20 30 • พยาบาล 100 200 • นวก สาธารณสุข 100 50 • นักกายภาพบำบัด 50 100 • ทันตแพทย์ 40 30 จะแก้ปัญหาของการ mismatch นำไปสู่การแปลงแผนยุทธศาสตร์สู่การปฏิบัติ

  41. 4. การวางแผนปฏิบัติการกำลังคนด้านสุขภาพ • Supply ไม่สอดคล้องกับ demand ดำเนินการวางแผนที่มีส่วนร่วมจาก all stakeholders เพื่อแก้ปัญหาตามยุทธศาสตร์ 4 ด้าน • ระบบและกลไกการบริหารกำลังคนด้านสุขภาพ • การจัดการและการธำรงรักษากำลังคนด้านสุขภาพ • การผลิตและพัฒนากำลังคนด้านสุขภาพ • การสื่อสาร และภาคีเครือข่ายการจัดการกำลังคนด้านสุขภาพ

More Related