520 likes | 635 Views
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค. สำนักนายกรัฐมนตรี. นโยบายรัฐบาลด้านการคุ้มครองผู้บริโภค.
E N D
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักนายกรัฐมนตรี
นโยบายรัฐบาลด้านการคุ้มครองผู้บริโภค ส่งเสริมบทบาทขององค์กรภาคเอกชนและภาคประชาชนให้มีบทบาทควบคู่กับองค์กรภาคราชการในการพัฒนาศักยภาพของประชาสังคมและชุมชนท้องถิ่นเพื่อก่อให้เกิดการรวมกลุ่มที่มีความเข้มแข็ง สามารถพิทักษ์ปกป้องสิทธิและผลประโยชน์ของตนเองและสังคม สนับสนุนการกระจายอำนาจอย่างต่อเนื่องตามครรลองระบอบประชาธิปไตย เพื่อให้ท้องถิ่นสามารถพึ่งตนเองได้ตามเจตนารมณ์ของประชาชนในท้องถิ่น
พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522และแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 มาตรา 21ในกรณีที่กฎหมายว่าด้วยการใดได้บัญญัติเรื่องใดไว้โดยเฉพาะแล้วให้บังคับตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยการนั้น และให้นำบทบัญญัติในหมวดนี้ไปใช้บังคับได้เท่าที่ไม่ซ้ำหรือขัดกับบทบัญญัติดังกล่าว...
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภคกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภค
กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการอาหารละยา กรมควบคุมโรค กรมอนามัย และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ทำหน้าที่ในการคุ้มครองผู้บริโภคโดยใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องดังนี้ พระราชบัญญัติอาหาร พ.ศ. 2522 พระราชบัญญัติยา พ.ศ. 2510 พระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2535พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535
กระทรวงสาธารณสุข พระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. 2541 พระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. 2518 พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 พระราชกำหนดป้องกันการใช้สารระเหย พ.ศ. 2533
กระทรวงพาณิชย์ กรมการค้าภายในกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กรมการประกันภัย ทำหน้าที่ในการคุ้มครองผู้บริโภคโดยใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องดังนี้ (1) พระราชบัญญัติการค้าข้าว พ.ศ. 2489 (2) พระราชบัญญัติควบคุมเครื่องอุปโภคบริโภคและของอื่นในภาวะคับขัน พ.ศ. 2488 (3) พระราชบัญญัติราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 (4) พระราชบัญญัติชั่งตวงวัด พ.ศ. 2542 (5) พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้าพ.ศ. 2534(6) พระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 (7) พระราชบัญญัติควบคุมโภคภัณฑ์ พ.ศ. 2495
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมปศุสัตว์กรมวิชาการเกษตร ทำหน้าที่ในการคุ้มครองผู้บริโภคโดยใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องดังนี้ (1) พระราชบัญญัติควบคุมการฆ่าสัตว์และการจำหน่าย เนื้อสัตว์ พ.ศ. 2535 (2) พระราชบัญญัติควบคุมคุณภาพอาหารสัตว์ พ.ศ. 2525 (3) พระราชบัญญัติควบคุมการบำบัดโรคสัตว์ พ.ศ. 2535 (4) พระราชบัญญัติวัตถุอันตราย พ.ศ. 2535(5) พระราชบัญญัติปุ๋ย พ.ศ. 2518
กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ทำหน้าที่ในการคุ้มครองผู้บริโภคโดยใช้ พระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511
กระทรวงคมนาคม มีกรมการขนส่งทางบก ทำหน้าที่ในการคุ้มครองผู้บริโภคโดยใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องดังนี้ (1) พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 (2) พระราชบัญญัติขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 กฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้องมีดังนี้ (1) พระราชบัญญัติการเดินอากาศ พ.ศ. 2497 (2) พระราชบัญญัติการรับขนของทางทะเล พ.ศ. 2534
กระทรวงมหาดไทย กรมโยธาธิการและผังเมือง กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กรมที่ดิน ทำหน้าที่ในการคุ้มครองผู้บริโภคโดยใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องดังนี้ (1) พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 (2) พระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543
กระทรวงมหาดไทย (3) พระราชบัญญัติอาคารชุด พ.ศ. 2522 (4) พระราชบัญญัติโรงแรม พ.ศ. 2478 (5) พระราชบัญญัติลักษณะปกครองท้องที่ พ.ศ. 2457(6) พระราชบัญญัติควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง พ.ศ. 2493 (7) พระราชบัญญัติควบคุมการขายทอดตลาดและค้าของเก่า พ.ศ.๒๔๗๔
กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ทำหน้าที่ในการคุ้มครองผู้บริโภคโดยใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องดังนี้ พระราชบัญญัติหอพัก พ.ศ. 2507
กระทรวงการคลัง ทำหน้าที่ในการคุ้มครองผู้บริโภคโดยใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องดังนี้ (1) พระราชบัญญัติดอกเบี้ยเงินให้กู้ยืมของสถาบัน การเงิน (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2535 (2) พระราชบัญญัติการธนาคารพาณิชย์พ.ศ. 2505 (3) พระราชกำหนดการให้กู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527
สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ทำหน้าที่ในการคุ้มครองผู้บริโภคโดยใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องดังนี้ พระราชบัญญัติการประกอบกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.๒๕๔๔ พระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.๒๕๔๓
บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ การดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคในส่วนภูมิภาคระหว่างกระทรวงมหาดไทยและคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
บันทึกข้อตกลงข้อที่ ๑ สนับสนุนให้จังหวัดทุกจังหวัดเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภคทั้งภาครัฐและภาคเอกชน และภาคประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการคุ้มครองผู้บริโภค โดยการจัดตั้งกลุ่ม ชมรม สมาคม เพื่อให้การคุ้มครองผู้บริโภคภายในจังหวัดมีความเข้มแข็ง
บันทึกข้อตกลงข้อที่ ๒ สนับสนุนให้คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดทุกจังหวัด จัดให้มีศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อนจากการละเมิดสิทธิของผู้ประกอบธุรกิจ โดยคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดทุกจังหวัดต้องดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคภายในจังหวัดให้แล้วเสร็จตามบทบาทและหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค
บันทึกข้อตกลงข้อที่ ๓ สนับสนุนให้ทุกจังหวัดมีการเผยแพร่ให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค เพื่อให้ประชาชนผู้บริโภคได้รู้จักการใช้สิทธิเพื่อการคุ้มครองตนเองจากการถูกเอารัดเอาเปรียบและเป็นแนวร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภคภายในจังหวัด
บันทึกข้อตกลงข้อที่ ๔ สนับสนุนให้จังหวัดทุกจังหวัดมีการติดตามสอดส่องและตรวจสอบผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าที่ควบคุมฉลาก การโฆษณา การทำสัญญา การทำธุรกิจขายตรงและตลาดแบบตรง เพื่อคุ้มครองป้องกันประชาชนผู้บริโภคมิให้ถูกละเมิดสิทธิจากการกระทำของผู้ประกอบธุรกิจ
บันทึกข้อตกลงข้อที่ ๕ สนับสนุนให้คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดทุกจังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานอนุกรรมการ ดำเนินการตามบทบาทและหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค โดยให้มีการรายงานผลการดำเนินงานคุ้มครองผู้บริโภคภายในจังหวัดทุกจังหวัดต่อคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคและกระทรวงมหาดไทย ทุกๆ ๓ เดือน
พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 และแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค ( ฉบับที่ 2 ) พ.ศ. 2541
การคุ้มครองสิทธิผู้บริโภคตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522และแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2541 สิทธิผู้บริโภค ประการ 5 1.สิทธิที่จะได้รับข่าวสาร รวมทั้งคำพรรณนาคุณภาพ ที่ถูกต้องและเพียงพอเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ 2. สิทธิที่จะมีอิสระในการเลือกหาสินค้าหรือบริการ 3. สิทธิที่จะได้รับความปลอดภัยจากการใช้สินค้าหรือบริการ 4. สิทธิที่จะได้รับความเป็นธรรมในการทำสัญญา 5. สิทธิที่จะได้รับการพิจารณาและชดเชยความเสียหาย
องค์กรหลักของการคุ้มครองผู้บริโภคตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. 2522 คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค คณะกรรมการเฉพาะเรื่อง 3คณะ คณะกรรมการว่าด้วยฉลาก คณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณา คณะกรรมการว่าด้วยสัญญา
คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประกอบด้วยคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี ประธานกรรมการ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี กรรมการ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรรมการ ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กรรมการ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรรมการ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กรรมการ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กรรมการ ปลัดกระทรวงคมนาคม กรรมการ เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิอีกไม่เกิน 8 คนซึ่ง ครม.แต่งตั้ง กรรมการ เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค กรรมการและเลขานุการ
อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค 1. พิจารณาเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้บริโภค 2. ดำเนินการเกี่ยวกับสินค้าที่อาจเป็นอันตราย 3. แจ้งหรือโฆษณาข่าวสารเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายหรือเสื่อมเสียแก่สิทธิ ของผู้บริโภค ซึ่งจะระบุชื่อสินค้าหรือบริการ หรือชื่อของผู้ประกอบธุรกิจด้วยก็ได้
อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค 4. สอดส่องเร่งรัดพนักงานเจ้าหน้าที่ ส่วนราชการ หรือหน่วยงาน อื่นของรัฐให้ปฏิบัติตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด 5. พิจารณาดำเนินคดีแทนผู้บริโภค 6. เสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับนโยบาย และ มาตรการในการคุ้มครองผู้บริโภค และพิจารณาให้ความเห็น เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภคตามที่ คณะรัฐมนตรีหรือ รัฐมนตรีมอบหมาย
อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค 7. วางระเบียบเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ เฉพาะเรื่องและคณะอนุกรรมการ 8. รับรองสมาคม ตามมาตรา 40 9. ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายกำหนดไว้ให้เป็นอำนาจหน้าที่ ของคณะกรรมการ 10.ให้คำปรึกษาและแนะนำแก่คณะกรรมการเฉพาะเรื่อง และ พิจารณาวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งของคณะกรรมการเฉพาะเรื่อง
องค์คณะของคณะกรรมการเฉพาะเรื่ององค์คณะของคณะกรรมการเฉพาะเรื่อง คณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณา คณะกรรมการว่าด้วยฉลาก คณะกรรมการว่าด้วยสัญญา ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิในเรื่องที่เกี่ยวข้องตามที่คณะกรรมการแต่งตั้งขึ้น ไม่น้อยกว่า 7 คน แต่ไม่เกิน 13 คน โดยมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 2ปี
คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค คณะอนุกรรมการฝ่ายกฎหมาย คณะอนุกรรมการพิจารณากลั่นกรองเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้บริโภค คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ประจำจังหวัด (75 จังหวัด) คณะกรรมการว่าด้วยฉลาก คณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณา คณะอนุกรรมการติดตามสอดส่อง และวินิจฉัยการโฆษณา คณะอนุกรรมการผู้มีอำนาจเปรียบเทียบความผิดที่เกิดขึ้นในจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานคร คณะกรรมการว่าด้วยสัญญา คณะอนุกรรมการตรวจสอบแบบสัญญาหรือแบบหลักฐานการรับเงิน คณะอนุกรรมการศึกษาและพิจาณาข้อสัญญาและรายการในหลักฐานการรับเงิน
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักแผนและการพัฒนาการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักกฎหมายและคดี สำนักงานเลขานุการกรม กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านฉลาก กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านโฆษณา กองคุ้มครองผู้บริโภคด้านสัญญา กองเผยแพร่และประชาสัมพันธ์
สคบ. อำนาจหน้าที่ ของ รับเรื่องราวร้องทุกข์จากผู้บริโภค ติดตามและสอดส่องพฤติการณ์ของผู้ประกอบธุรกิจที่อาจมี ลักษณะเป็น การละเมิดสิทธิของผู้บริโภค และจัดให้มีการทดสอบหรือพิสูจน์สินค้าหรือบริการใด ๆ ตามที่เห็นสมควร และจำเป็น ส่งเสริม ,สนับสนุนให้มีการศึกษาแก่ผู้บริโภค ,สนับสนุนหรือทำการศึกษา วิจัยปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครองผู้บริโภค ดำเนินการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ ประสานงานกับส่วนราชการ หน่วยงานอื่นที่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับการควบคุม ส่งเสริม หรือกำหนดมาตรฐานของสินค้าหรือบริการ ปฏิบัติงานอื่นตามที่คณะกรรมการหรือคณะกรรมการเฉพาะเรื่องมอบหมาย
องค์กรคุ้มครองผู้บริโภคในส่วนภูมิภาคองค์กรคุ้มครองผู้บริโภคในส่วนภูมิภาค คณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัด ประกอบด้วย ที่ปรึกษาอนุกรรมการฯ 1. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประจำจังหวัด 2. ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีในเขตที่รับผิดชอบ
ประธานอนุกรรมการฯ ผู้ว่าราชการจังหวัด รองประธานอนุกรรมการฯ 1. รองผู้ว่าราชการจังหวัดที่ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้ง 2. นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด
อนุกรรมการ ประกอบด้วย 1. ปลัดจังหวัด 2. อัยการจังหวัด 3. ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด 4. พาณิชย์จังหวัด 5. เกษตรและสหกรณ์จังหวัด
อนุกรรมการ ประกอบด้วย 6. สาธารณสุขจังหวัด 7. อุตสาหกรรมจังหวัด 8. ขนส่งจังหวัด 9. เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด 10. ประชาสัมพันธ์จังหวัด
อนุกรรมการ ประกอบด้วย 11. ประธานหอการค้าจังหวัด12. ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัด 13. ผู้ทรงคุณวุฒิที่ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งจากภาคประชาชน 3คน (โดยให้เลือกจากกลุ่มเครือข่ายสื่อมวลชน สถาบันการศึกษา กลุ่มสตรี หรือกลุ่มอาสาสมัครคุ้มครองผู้บริโภคในจังหวัด) หัวหน้าสำนักงานจังหวัด อนุกรรมการและเลขานุการ ข้าราชการในจังหวัดที่ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้ง 2 คน อนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
อำนาจหน้าที่ 1. รับและพิจารณากลั่นกรองคำร้องทุกข์จากผู้บริโภคที่ได้รับความเดือดร้อนหรือเสียหายอันเนื่องมาจากการกระทำของผู้ผลิตหรือผู้ประกอบธุรกิจ ในเรื่องเกี่ยวกับการถูกเอารัดเอาเปรียบหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้า เครื่องอุปโภค บริโภค หรือบริการที่มีการซื้อขายกันในท้องตลาด เพื่อดำเนินการแก้ไขหรือนำเสนอต่อคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค พิจารณาใช้อำนาจดำเนินคดีเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค
อำนาจหน้าที่ 2. ติดตามและสอดส่องพฤติการณ์ของผู้ประกอบธุรกิจ ซึ่งกระทำการใด ๆ อันมีลักษณะเป็นการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค และอาจจัดให้มีการทดสอบหรือพิสูจน์สินค้าหรือบริการใด ๆ ตามที่เห็นสมควรและจำเป็นเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภค รวมทั้งให้มีอำนาจในการแต่งตั้งคณะทำงานเพื่อการนี้ ตามที่เห็นสมควร
อำนาจหน้าที่ 3.สั่งให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดส่งเอกสารหรือข้อมูลที่เกี่ยวกับเรื่องที่มีผู้ร้องทุกข์ หรือเรื่องอื่นใดที่เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิของผู้บริโภคมาพิจารณาได้ ในการนี้ จะเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงด้วยก็ได้ 4.ประสานงานกับส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจและหน้าที่ที่เกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค
อำนาจหน้าที่ 5.สอดส่องการปฏิบัติการตามอำนาจและหน้าที่ที่กฎหมายกำหนดของพนักงานเจ้าหน้าที่ ส่วนราชการ หรือหน่วยงานอื่นของรัฐ และแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาเร่งรัดพนักงานเจ้าหน้าที่ให้ปฏิบัติการตามอำนาจและหน้าที่ดังกล่าว
อำนาจหน้าที่ 6.การให้ความรู้ ความเข้าใจแก่ประชาชน และการสร้างเครือข่ายความเข้มแข็งของประชาชน เพื่อป้องกันการละเมิดสิทธิของผู้บริโภค 7.รายงานผลการปฏิบัติงานในรอบเดือนให้คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคทราบ
การเปรียบเทียบความผิดการเปรียบเทียบความผิด เป็นอำนาจของคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และผู้รับมอบอำนาจ ดังนี้ ส่วนกลาง - เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค - พนักงานสอบสวนงาน 4 กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจและเทคโนโลยี
คณะอนุกรรมการผู้มีอำนาจเปรียบเทียบความผิดที่เกิดขึ้นในจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานครคณะอนุกรรมการผู้มีอำนาจเปรียบเทียบความผิดที่เกิดขึ้นในจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานคร ● ผู้ว่าราชการจังหวัด ประธานอนุกรรมการ ● อัยการจังหวัด อนุกรรมการ ● ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด อนุกรรมการ ● ข้าราชการซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้ง เลขานุการ มีอำนาจเปรียบเทียบความผิดตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๒๒
การเปรียบเทียบความผิดที่เกิดขึ้นในจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานครการเปรียบเทียบความผิดที่เกิดขึ้นในจังหวัดอื่นนอกจากกรุงเทพมหานคร กรณีที่ต้องเปรียบเทียบความผิด กรณีฉลากเป็นเท็จ กรณีไม่ปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยฉลาก กรณีไม่ปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณา กรณีไม่ปฏิบัติตามคำสั่งคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา กรณีขัดหนังสือเรียก
พนักงานเจ้าหน้าที่ ในการปฏิบัติหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจดังต่อไปนี้ ๑. นับ ชั่ง ตวง วัด ตรวจสินค้า และเก็บหรือนำสินค้าในปริมาณพอสมควรไปเป็นตัวอย่างเพื่อทำการทดสอบ โดยไม่ต้องชำระราคาสินค้านั้น ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกำหนด ๒. ค้น ยึด หรืออายัดสินค้า ภาชนะหรือหีบห่อบรรจุสินค้า ฉลากหรือเอกสารอื่น ที่ไม่เป็นไปตาม พ.ร.บ.นี้ เพื่อประโยชน์ในการดำเนินคดี ในกรณีที่มีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระทำผิด
พนักงานเจ้าหน้าที่ ในการปฏิบัติหน้าที่ พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจดังต่อไปนี้ ๓. เข้าไปในสถานที่หรือยานพาหนะใดๆ เพื่อตรวจสอบการผลิตสินค้า การขายสินค้าหรือบริการ รวมทั้งตรวจสอบสมุดบัญชี เอกสารและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ๔. มีหนังสือเรียกให้บุคลใด ๆ มาให้ถ้อยคำ หรือส่งเอกสารและหลักฐานที่จำเป็นเพื่อประกอบการพิจารณา
ข้าราชการที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภคพ.ศ. ๒๕๒๒ ในส่วนภูมิภาค ได้แก่ ๑. ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ๒. หัวหน้าสำนักงานจังหวัดทุกจังหวัด ๓. ข้าราชการในจังหวัด ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งเป็นอนุกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการในคณะอนุกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคประจำจังหวัดทุกจังหวัด ๔. นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด ๕. อุตสาหกรรมจังหวัด ๖. เจ้าพนักงานที่ดินจังหวัด
๗. เกษตรจังหวัด ๘. พาณิชย์จังหวัด ๙. นายอำเภอทุกอำเภอ ๑๐. ปลัดเทศบาล ๑๑. ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดหรือรองผู้บังคับการ ตำรวจภูธรจังหวัด ๑๒. ผู้กำกับการหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอเมืองหรือรองผู้กำกับการหัวหน้าสถานีตำรวจภูธรอำเภอ ๑๓. เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีตำแหน่งสารวัตรหรือรองสารวัตร ที่ทำหน้าที่ด้านป้องกันและปราบปรามของทุกสถานีตำรวจ
๑๔. เจ้าหน้าที่ตำรวจที่มีตำแหน่งสารวัตรและรองสารวัตร ของกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวที่ทำหน้าที่ รับผิดชอบดูแลนักท่องเที่ยวในแต่ละเขตพื้นที่ ๑๕. นักวิชาการเกษตร เจ้าพนักงานการเกษตร และ เจ้าหน้าที่การเกษตรตั้งแต่ระดับ ๓ ขึ้นไป กรมวิชาการเกษตร ๑๖. นักวิชาการสาธารณสุข ตั้งแต่ระดับ ๓ ขึ้นไป ประจำกองทันตสาธารณสุข ๑๗. ทันตแพทย์ตั้งแต่ระดับ ๔ ขึ้นไป ประจำกองทันตสาธารณสุข