750 likes | 1.05k Views
วิทยากร. นายวิจิตร แสงกุล นิติกร 7ว ส่วนกฎหมาย วุฒิ นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ประสบการณ์ นายตรวจฯ 6 ปี นิติกร 16 ปี . สี่เสาหลักกฎหมายภาคสนาม. ประมวลกฎมายแพ่งและพาณิชย์ ประมวลกฎหมายอาญา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา.
E N D
วิทยากร นายวิจิตร แสงกุล นิติกร 7ว ส่วนกฎหมาย วุฒิ นิติศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ประสบการณ์ นายตรวจฯ 6 ปี นิติกร 16 ปี
สี่เสาหลักกฎหมายภาคสนามสี่เสาหลักกฎหมายภาคสนาม • ประมวลกฎมายแพ่งและพาณิชย์ • ประมวลกฎหมายอาญา • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง • ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ 1 บทเบ็ดเสร็จทั่วไป • ไม่มีคำว่าไม่มีกฎหมายที่จะนำมาปรับแก่คดี - ม.4 การใช้กฎหมาย/การตีความ ต้องใช้กฎหมายตามตัวอักษรหรือใช้ตามความมุ่งหมายของบทบัญญัตินั้น และเมื่อไม่มีกฎหมายที่จะยกมาปรับแก่คดี ให้วินิจฉัยตามจารีตประเพณีแห่งท้องถิ่น ถ้าไม่มีจารีตประเพณี ให้เทียบเคียงกับกฎหมายที่ใกล้เคียงอย่างยิ่ง ถ้าไม่มีกฎหมายใกล้เคียง ให้วินิจฉัยตามหลักกฎหมายทั่วไป
กฎหมายแพ่งสันนิษฐานว่าทุกคนใช้สิทธิโดยสุจริตกฎหมายแพ่งสันนิษฐานว่าทุกคนใช้สิทธิโดยสุจริต • ม.5 ในการใช้สิทธิของตน ในการชำระหนี้ของตน บุคคลทุกคนต้องกระทำโดยสุจริต • ม.9 การอันใดกฎหมายบังคับให้ทำเป็นหนังสือ บุคคลผู้จะต้องทำเป็นหนังสือนั้นไม่จำเป็นจะต้องเขียนเอง แต่หนังสือนั้นต้องลงลายมือชื่อของบุคคลนั้น และการพิมพ์ลายนิ้วมือในเอกสารแทนการลงลายมือชื่อ หากมีพยานลงลายมือชื่อรับรองสองคน ถือเสมอกับลายมือชื่อ แต่การพิมพ์ลายนิ้วมือซึ่งทำต่อหน้าพนักงานเจ้าหน้าที่ไม่ต้องมีพยานรับรองก็ใช้ได้
ลักษณะ 2 บุคคล • ม.15 สภาพบุคคลธรรมดา เริ่มเมื่อคลอดแล้วรอดอยู่เป็นทารกและสิ้นสุดลงเมื่อตาย ทารกที่อยู่ในครรภ์มารดา ถ้าคลอดแล้วรอดอยู่ก็สามารถมีสิทธิต่างๆเช่นเดียวกับบุคคลธรรมดาอื่นๆ • ม.19 บุคคลย่อมพ้นจากผู้เยาว์และบรรลุนิติภาวะเมื่อมีอายุยี่สิบปีบริบูรณ์ • ม.20 ผู้เยาว์ ถ้าแต่งงานโดยชอบด้วยกฎหมาย ย่อมบรรลุนิติภาวะ • ม.21 ผู้เยาว์จะทำนิติกรรมใดๆให้มีผลตามกฎหมาย ต้องได้รับความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรมก่อน ถ้าไม่ได้รับความยินยอม เป็นโมฆียะคืออาจถูกบอกล้างได้ในภายหลัง
นิติบุคคล - ม.65,66,70 นิติบุคคลเกิดขึ้นได้โดยผลของกฎหมาย และมีสิทธิและหน้าที่ตามที่กำหนดไว้ในข้อบังคับ โดยแสดงเจตนา/ความประสงค์ของนิติบุคคลผ่านผู้แทนของนิติบุคคล
ลักษณะ 4 นิติกรรม - ม.149 คำว่านิติกรรม กฎหมายให้คำนิยามว่า การใดๆอันทำลงโดยชอบด้วยกฎหมาย และด้วยใจสมัคร มุ่งโดยตรงต่อการผูกนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคล เพื่อที่จะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ • ม.150 การใดมีวัตถุประสงค์ไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน การนั้นเป็นโมฆะ • ม.165 การขู่ว่าจะใช้สิทธิตามปกตินิยม ไม่ถือว่าเป็นการข่มขู่
บรรพ 2 ลักษณะ 1 หนี้ บทเบ็ดเสร็จทั่วไป - ม.194,213 ด้วยอำนาจแห่งมูลหนี้ เจ้าหนี้ย่อมมีสิทธิจะเรียกให้ลูกหนี้ชำระหนี้ได้ แต่ถ้าลูกหนี้ไม่ยอมชำระหนี้จะบังคับชำระหนี้เองไม่ได้ ต้องฟ้องศาลเพื่ออาศัยอำนาจของศาลในการบังคับคดี - ม.204 ถ้าถึงกำหนดนัดชำระหนี้ ลูกหนี้ยังไม่ชำระหนี้ นับแต่นั้นถือว่าลูกหนี้ผิดนัด ต้องใช้ค่าเสียหายจากการผิดนัด เช่น ต้องให้ดอกเบี้ยในการผิดนัด
ลักษณะ 2 สัญญา • ม.356 คำเสนอที่จะทำนิติกรรมต่อบุคคลที่อยู่เฉพาะหน้า ทำคำเสนอ ณ ที่ใด เวลาใด ก็สามารถที่จะสนองรับคำเสนอได้ ณ ที่นั้น เวลานั้น และความข้อนี้ให้ใช้ได้ถึงการทำคำเสนอไปยังบุคคลอีกคนหนึ่งทางโทรศัพท์ด้วย กล่าวคือ เมื่อคำเสนอ คำสนอง ถูกต้องตรงกัน ทำให้เกิดสัญญาขึ้น และสัญญาเป็นบ่อเกิดแห่งหนี้อีกแหล่งหนึ่ง ซึ่งจะทำให้คู่สัญญามีสิทธิและหน้าที่ต่อกัน
บรรพ 3 ลักษณะ 1 เอกเทศสัญญา • ม.453 สัญญาซื้อขายคือสัญญาซึ่งผู้ขายโอนกรรมสิทธิ์แห่งทรัพย์สินให้แก่ผู้ซื้อ และผู้ซื้อตกลงว่าจะใช้ราคาทรัพย์สินนั้นให้แก่ผู้ขาย • มาตรา 137 ทรัพย์ หมายความว่า วัตถุมีรูปร่าง • มาตรา 138 ทรัพย์สิน หมายความว่า ทรัพย์ และวัตถุไม่มีรูปร่างซึ่งอาจมีราคาและอาจถือเอาได้ • ม.458 กรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินที่ซื้อขายนั้นย่อมโอนไปยังผู้ซื้อตั้งแต่ขณะเมื่อได้ทำสัญญาซื้อขาย
เสาหลักที่ 2 ประมวลกฎหมายอาญา • ภาค 1 ลักษณะ 1 บทบัญญัติที่ใช้กับความผิดทั่วไป • ม.1 ในประมวลกฎหมายนี้ (1) โดยทุจริต หมายความว่า เพื่อแสวงหาประโยชน์ที่มิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมายสำหรับตนเองหรือผู้อื่น (3) สาธารณสถาน หมายความว่า สถานที่ใดๆ ซึ่งประชาชนมีความชอบธรรมที่จะเข้าไปได้ (4) เคหสถาน หมายความว่า ที่ซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัย เช่น เรือน โรง เรือหรือแพซึ่งคนอยู่อาศัย และให้หมายความรวมถึงบริเวณของที่ซึ่งใช้เป็นที่อยู่อาศัยนั้นด้วย จะมีรั้วล้อมหรือไม่ก็ตาม
หมวด 2 การใช้กฎหมายอาญา • ม.2 บุคคลจะต้องรับโทษในทางอาญาก็ต่อเมื่อกระทำการอันกฎหมายที่ใช้ในขณะกระทำนั้นบัญญัติเป็นความผิดและกำหนดโทษไว้ และโทษที่จะลงต้องเป็นโทษที่บัญญัติไว้ในกฎหมาย • ม.4 ผู้ใดกระทำความผิดในราชอาณาจักรต้องรับโทษตามกฎหมาย • ม.17 บทบัญญัติในภาค 1 แห่งประมวลกฎหมายอาญานี้ ให้ใช้ในกรณีแห่งความผิดตามกฎหมายอื่นด้วย เว้นแต่ กฎหมายนั้นจะได้บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น
หมวด 3 โทษและวิธีการเพื่อความปลอดภัย ส่วนที่ 1 โทษ • ม.18 โทษสำหรับลงแก่ผู้กระทำความผิดมีดังนี้ (1) ประหารชีวิต (2) จำคุก (3) กักขัง (4) ปรับ (5) ริบทรัพย์สิน
ม.28,29 ผู้ใดต้องโทษปรับ ผู้นั้นจะต้องชำระเงินตามจำนวนที่กำหนดในคำพิพากษาต่อศาล และถ้าไม่ชำระค่าปรับภายในสามสิบวันจะต้องถูกยึดทรัพย์สินมาใช้ค่าปรับ หรือมิฉะนั้นจะต้องถูกกักขังแทนค่าปรับ • ม.30 การกักขังแทนค่าปรับ ให้ถืออัตราสองร้อยบาทต่อหนึ่งวัน และไม่ว่าในกรณีความผิดกระทงเดียวหรือหลายกระทง ห้ามกักขังเกินหนึ่งปี เว้นแต่ ในกรณีที่ศาลพิพากษาให้ปรับตั้งแต่แปดหมื่นบาทขึ้นไป ศาลจะสั่งให้กักขังแทนค่าปรับเป็นระยะเวลาเกินกว่าหนึ่งปีแต่ไม่เกินสองปีก็ได้ • ม.31 ในกรณีที่ศาลพิพากษาให้ปรับผู้กระทำความผิดหลายคนในความผิดเดียวกัน ให้ปรับเรียงตามรายตัวบุคคล
หมวด 4 ความรับผิดในทางอาญา • ม.59 บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญาก็ต่อเมื่อได้กระทำโดยเจตนา เว้นแต่ กฎหมายบัญญัติให้ต้องรับผิดเมื่อได้กระทำโดยประมาทหรือกระทำโดยไม่มีเจตนา...ฯลฯ... • บุคคลจะต้องรับผิดในทางอาญา จะต้องกระทำครบองค์ประกอบความผิดที่กฎหมายบัญญัติไว้ • องค์ประกอบความผิดในทางอาญา ประกอบด้วย 1. องค์ประกอบภายนอก 2. องค์ประกอบภายใน
สิ่งที่บุคคลอาจอ้างว่าไม่ต้องรับผิดในทางอาญาได้สิ่งที่บุคคลอาจอ้างว่าไม่ต้องรับผิดในทางอาญาได้ 1. ไม่รู้ข้อเท็จจริงอันเป็นองค์ประกอบของความผิด(ม.59 ว3) 2. สำคัญผิดในข้อเท็จจริง(ม.62) • สิ่งที่บุคคลจะอ้างว่าไม่ต้องรับผิด(ทางอาญา)ไม่ได้ 1. อ้างว่าไม่รู้กฎหมาย(ม.65) 2. อ้างว่ากระทำผิดเพราะความมึนเมา(ม.66)
เด็กหรือผู้เยาว์ กระทำความผิด • ม.73 เด็กอายุยังไม่เกินสิบปี กระทำการอันกฎหมายบัญญัติเป็นความผิด เด็กนั้นไม่ต้องรับโทษ • ม.74 เด็กอายุกว่าสิบปีแต่ยังไม่เกินสิบห้าปีกระทำการอันกฎหมายบัญญัติเป็นความผิด เด็กนั้นไม่ต้องรับโทษแต่ให้ศาลมีอำนาจว่ากล่าวตักเตือนเด็กนั้นแล้วปล่อยตัวไป และจะเรียกบิดามารดาหรือผู้ปกครองที่เด็กนั้นอาศัยอยู่ด้วยมาตักเตือนด้วยก็ได้ • ม.78 ผู้ใดอายุตั้งแต่สิบแปดปีแต่ยังไม่เกินยี่สิบปี กระทำการอันกฎหมายบัญญัติเป็นความผิด ศาลจะลดมาตราส่วนโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นลงหนึ่งในสามหรือกึ่งหนึ่งก็ได้
เหตุบรรเทาโทษ • ม.78 เมื่อปรากฏเหตุบรรเทาโทษ ศาลจะลดโทษไม่เกินกึ่งหนึ่งของโทษที่จะลงแก่ผู้กระทำความผิดนั้นก็ได้ และเหตุบรรเทาโทษนั้นได้แก่ ผู้กระทำความผิดเป็นผู้โฉนดเขาเบาปัญญา ตกอยู่ในความทุกข์อย่างสาหัส มีคุณความดีมาแต่ก่อน รู้สึกผิดและพยายามบรรเทาผลร้ายแห่งความผิดนั้น หรือให้ความรู้แก่ศาลอันเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาคดี • ม.79 ในคดีที่มีโทษปรับสถานเดียว ถ้าผู้กระทำความผิดนำค่าปรับในอัตราอย่างสูงสำหรับความผิดนั้นมาชำระก่อนที่ศาลเริ่มต้นสืบพยาน ให้คดีนั้นเป็นอันระงับไป
หมวด 6 ตัวการและผู้สนับสนุน • ม.83 ในกรณีความผิดใดเกิดขึ้นโดยการกระทำของบุคคลตั้งแต่สองคนขึ้นไป ผู้ที่ได้ร่วมกระทำความผิดด้วยกันนั้นเป็นตัวการ ต้องระวางโทษตามที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น หมวด 7 การกระทำความผิดหลายบทหรือหลายกระทง • ม.90 เมื่อการกระทำใดอันเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ใช้กฎหมายที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษแก่ผู้กระทำความผิด • ม.91 เมื่อปรากฏว่าผู้ใดได้กระทำการอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ศาลลงโทษผู้นั้นทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป...ฯลฯ...
หมวด 9 อายุความ • มาตรา 95 ในคดีอาญา ถ้ามิได้ฟ้องและได้ตัวผู้กระทำผิดมายังศาลภายในกำหนดดังต่อไปนี้ นับแต่วันกระทำความผิดเป็นอันขาดอายุความ (1) ยี่สิบปี สำหรับความผิดโทษจำคุกยี่สิบปี หรือจำคุกตลอดชีวิต... (2) สิบห้าปี สำหรับความผิดโทษจำคุกกว่าเจ็ดปี แต่ไม่ถึงยี่สิบปี (3) สิบปี สำหรับความผิดโทษจำคุกกว่าหนึ่งปีถึงเจ็ดปี (4) ห้าปี สำหรับความผิดโทษจำคุกกว่าหนึ่งเดือนถึงหนึ่งปี (5) หนึ่งปี สำหรับความผิดจำคุกตั้งแต่หนึ่งเดือนลงมา หรือต้องระวางโทษอย่างอื่น
ภาค 2 ความผิด ลักษณะ 2 ความผิดเกี่ยวกับการปกครอง หมวด 2 ความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ • ม.149 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน... เรียก รับหรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดสำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่ง ไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือไม่ชอบด้วยหน้าที่ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ห้าปีถึงยี่สิบปีหรือจำคุกตลอดชีวิต และปรับตั้งแต่สองพันบาทถึงสี่หมื่นบาท หรือประหารชีวิต • ม.157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี...
เสาหลักที่ 3 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง • ภาค 1 บททั่วไป ลักษณะ 1 บทวิเคราะห์ศัพท์ หมวด 1 บทนิยาม • มาตรา 1 ถ้าข้อความมิได้แสดงให้เห็นเป็นอย่างอื่น (3) คำฟ้อง หมายความว่า กระบวนพิจารณาใดที่โจทก์ได้เสนอข้อหาต่อศาล ไม่ว่าจะเสนอด้วยวาจาหรือทำเป็นหนังสือ ไม่ว่าจะได้เสนอต่อศาลชั้นต้นหรือชั้นอุทธรณ์หรือฎีกา...ฯลฯ... (4) คำให้การ หมายความว่า กระบวนพิจารณาใดๆ ซึ่งคู่ความฝ่ายหนึ่งยกข้อต่อสู้เป็นข้อแก้คำฟ้อง... (11) คู่ความ หมายความว่า บุคคลผู้ยื่นคำฟ้องหรือถูกฟ้องต่อศาล และเพื่อประโยชน์แห่งการดำเนินกระบวนพิจารณาให้รวมถึงทนายความด้วย
ลักษณะ 2 ศาล หมวด 1 เขตอำนาจศาล • ม.2 ห้ามมิให้เสนอคำฟ้องต่อศาลใด เว้นแต่ (1) เมื่อพิจารณาถึงสภาพแห่งคำฟ้องและชั้นของศาลแล้วปรากฏว่าศาลนั้นมีอำนาจที่จะพิจารณาคดีนั้นได้ตามพระธรรมนูญศาลยุติธรรม (2) เมื่อได้พิจารณาถึงคำฟ้องแล้วปรากฏว่าคดีนั้นอยู่ในเขตศาลนั้นตามบทบัญญัติว่าด้วยศาลที่จะรับคำฟ้อง
ลักษณะ 3 คู่ความ • คดีแพ่งจะขึ้นมาสู่ศาลส่วนแพ่งได้จะต้องมีข้อโต้แย้งตามกฎหมายแพ่งเกิดขึ้นก่อน - มาตรา 55 เมื่อมีข้อโต้แย้งเกิดขึ้นเกี่ยวกับสิทธิหรือหน้าที่ของบุคคลใดตามกฎหมายแพ่ง หรือบุคคลใดจะใช้สิทธิทางศาล บุคคลนั้นชอบที่จะเสนอคดีของตนต่อศาลส่วนแพ่งที่มีเขตอำนาจศาลได้
ลักษณะ 5 พยานหลักฐาน • ต้องเป็นพยานหลักฐานในคดีและฝ่ายใดกล่าวอ้างฝ่ายนั้นนำสืบ • มาตรา 84 การวินิจฉัยปัญหาข้อเท็จจริงในคดีใด จะต้องกระทำโดยอาศัยพยานหลักฐานในสำนวนคดีนั้น เว้นแต่ (1) ข้อเท็จจริงซึ่งรู้กันอยู่ทั่วไป (2) ข้อเท็จจริงที่ไม่อาจโต้แย้งได้ (3) ข้อเท็จจริงที่คู่ความรับหรือถือว่ารับกันแล้วในศาล - มาตรา 84/1 คู่ความฝ่ายใดกล่าวอ้างข้อเท็จจริงเพื่อสนับสนุนคำคู่ความของตน ให้คู่ความฝ่ายนั้นมีภาระการพิสูจน์ข้อเท็จจริงนั้น...ฯลฯ...
หมวด 2 ว่าด้วยการมาศาลของพยานและการซักถามพยาน • มาตรา 112 ก่อนเบิกความ พยานทุกคนต้องสาบานตนตามลัทธิศาสนาหรือจารีตประเพณีแห่งชาติของตนว่าจะให้การตามความสัตย์จริงเสียก่อน เว้นแต่ (1) พระมหากษัตริย์ พระราชินี พระรัชทายาท... (2) บุคคลที่มีอายุต่ำกว่าสิบห้าปี... (3) พระภิกษุและสามเณรในพุทธศาสนา (4) บุคคลซึ่งคู่ความทั้งสองฝ่ายตกลงกันว่าไม่ต้องให้สาบาน - มาตรา 113 พยานทุกคนต้องเบิกความด้วยวาจาและห้ามมิให้พยานอ่านข้อความที่เขียนมา เว้นแต่ ศาลจะอนุญาต
การซักถามพยาน - มาตรา 117 คู่ความฝ่ายที่อ้างพยานชอบที่จะตั้งข้อซักถามได้ในทันทีที่พยานได้สาบานตนและแสดงตนแล้ว เมื่อซักถามเสร็จแล้วคู่ความอีกฝ่ายหนึ่งชอบที่จะถามค้านพยานนั้นได้ และเมื่อได้ถามค้านพยานเสร็จแล้ว คู่ความฝ่ายที่อ้างพยานชอบที่จะถามติงได้
ลักษณะ 6 คำพิพากษาและคำสั่ง หมวด 2 ข้อความและผลแห่งคำพิพากษาและคำสั่ง - มาตรา 145 ภายใต้บังคับแห่งกฎหมายว่าด้วยอุทธรณ์ ฎีกา.... คำพิพากษาหรือคำสั่งใดๆ ให้ถือว่า ผูกพันคู่ความในกระบวนพิจารณาของศาลที่พิจารณาหรือมีคำสั่ง นับตั้งแต่วันที่ได้พิพากษาหรือมีคำสั่ง จนถึงวันที่คำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นได้ถูกเปลี่ยนแปลง แก้ไข กลับหรืองดเสีย...
ภาค 3 อุทธรณ์และฎีกา • ลักษณะ 1 อุทธรณ์ • มาตรา 223 ...คำพิพากษาหรือคำสั่งของศาลชั้นต้น ให้ยื่นต่อศาลอุทธรณ์ เว้นแต่ คำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่นบัญญัติให้เป็นที่สุด • มาตรา 224 ในคดีที่ราคาทรัพย์สินหรือจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นอุทธรณ์ไม่เกินห้าหมื่นบาท... ห้ามมิให้อุทธรณ์ในข้อเท็จจริง... • มาตรา 229 อุทธรณ์นั้นให้ทำเป็นหนังสือยื่นต่อศาลชั้นต้นซึ่งมีคำพิพากษาหรือคำสั่งภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ได้อ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้น...
ลักษณะ 2 ฎีกา • มาตรา 247 ในกรณีที่ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาหรือมีคำสั่งในชั้นอุทธรณ์แล้ว ให้ยื่นฎีกาได้ภายในกำหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ได้อ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลอุทธรณ์...ฯลฯ... • มาตรา 248 ในคดีที่ราคาทรัพย์สินหรือจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทกันในชั้นฎีกาไม่เกินสองแสนบาท ห้ามมิให้คู่ความฎีกาในข้อเท็จจริง...ฯลฯ...
เสาหลักที่ 4 ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา • ภาค 1 ข้อความเบื้องต้น ลักษณะ 1 หลักทั่วไป • มาตรา 2 ในประมวลกฎหมายนี้ (2) ผู้ต้องหา หมายความถึง บุคคลผู้ถูกกล่าวหาว่าได้กระทำความผิดแต่ยังมิได้ถูกฟ้องต่อศาล (3) จำเลย หมายความถึง บุคคลซึ่งถูกฟ้องยังศาลแล้วโดยข้อกล่าวหาว่าได้กระทำความผิด (4) ผู้เสียหาย หมายความถึง บุคคลผู้ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระทำผิดฐานใดฐานหนึ่ง
มาตรา 2 ในประมวลกฎหมายนี้(ต่อ) (13) ที่รโหฐาน หมายความถึง ที่ต่างๆซึ่งมิใช่ที่สาธารณสถานดังบัญญัติไว้ในกฎหมายลักษณะอาญา (16) พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ หมายความถึง เจ้าพนักงานซึ่งกฎหมายให้มีอำนาจและหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชน ให้รวมทั้งพัศดี เจ้าพนักงานกรมสรรพสามิต กรมศุลกากร กรมเจ้าท่า พนักงานตรวจคนเข้าเมือง และเจ้าพนักงานอื่นๆ ในเมื่อทำการอันเกี่ยวกับการจับกุมปราบปรามผู้กระทำผิดกฎหมายซึ่งตนมีหน้าที่ต้องจับกุมปราบปราม
สิทธิของผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหาสิทธิของผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหา • มาตรา 7/1 ผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหา...มีสิทธิแจ้งหรือขอให้เจ้าพนักงานแจ้งให้ญาติ...ทราบถึงการถูกจับกุมกับสถานที่ที่ถูกควบคุมในโอกาสแรก และให้ผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหามีสิทธิดังต่อไปนี้ (1) พบและปรึกษาผู้ซึ่งจะเป็นทนายความเป็นการเฉพาะตัว (2) ให้ทนายความหรือผู้ซึ่งตนไว้วางใจเข้าฟังการสอบปากคำตนได้ในชั้นสอบสวน (3) ได้รับการเยี่ยมหรือติดต่อกับญาติได้ตามสมควร (4) ได้รับการรักษาพยาบาลโดยเร็วเมื่อเกิดการเจ็บป่วย ให้เป็นหน้าที่ของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจซึ่งรับมอบตัวผู้ถูกจับ หรือผู้ต้องหา มีหน้าที่แจ้งให้ผู้ถูกจับหรือผู้ต้องหาทราบในโอกาสแรก
สะพานเชื่อมระหว่างวิธีพิจารณาความอาญากับวิแพ่งสะพานเชื่อมระหว่างวิธีพิจารณาความอาญากับวิแพ่ง - มาตรา 15 วิธีพิจารณาใดซึ่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามิได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะ ให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาใช้บังคับเท่าที่พอจะใช้บังคับได้
ลักษณะ 2 อำนาจพนักงานสอบสวนและศาล หมวด 1 หลักทั่วไป • มาตรา 16 ...อำนาจของพนักงานอัยการและพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจในการที่จะปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ ต้องเป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับทั้งหลายอันว่าด้วยอำนาจและหน้าที่ของพนักงานอัยการหรือพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจนั้น ๆ หมวด 2 อำนาจสืบสวนและสอบสวน - มาตรา 17 พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ มีอำนาจทำการสืบสวนคดีอาญาได้
หมวด 3 อำนาจศาล • มาตรา 22 เมื่อความผิดเกิดขึ้น อ้างหรือเชื่อว่าได้เกิดขึ้นในเขตอำนาจของศาลใด ให้ชำระที่ศาลนั้น... ลักษณะ 3 การฟ้องคดีอาญาและคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา หมวด 1 การฟ้องคดีอาญา • มาตรา 28 บุคคลเหล่านี้ฟ้องคดีอาญาต่อศาลได้ (1) พนักงานอัยการ (2) ผู้เสียหาย - มาตรา 34 คำสั่งไม่ฟ้องคดี หาตัดสิทธิผู้เสียหายฟ้องคดีโดยตนเองไม่
การถอนฟ้องคดีอาญา • มาตรา 35 คำร้องขอถอนฟ้องคดีอาญา ถ้าเป็น (1) คดีความผิดต่อแผ่นดิน ถอนก่อนมีคำพิพากษาของศาลชั้นต้น (2) คดีความผิดต่อส่วนตัว ถอนก่อนคดีนั้นถึงที่สุด ศาลจะอนุญาตให้ถอนหรือมิอนุญาตให้ถอนก็ได้ แล้วแต่ศาลจะเห็นสมควร
คดีอาญาเลิกกัน และทำให้สิทธินำคดีมาฟ้องอีกย่อมระงับไป • มาตรา 37 คดีอาญาเลิกกันได้ดังต่อไปนี้ ...ฯลฯ.. (4) ในคดีซึ่งเปรียบเทียบปรับได้ตามกฎหมายอื่น เมื่อผู้ต้องหาได้ชำระค่าปรับตามคำเปรียบเทียบของพนักงานเจ้าหน้าที่แล้ว...ฯลฯ... • มาตรา 39 สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปดังต่อไปนี้ ...ฯลฯ... (3) เมื่อคดีเลิกกันตามมาตรา 37...ฯลฯ...
หมวด 2 หมายอาญา ส่วนที่ 3 หมายค้น • มาตรา 69 เหตุที่จะออกหมายค้นได้มีดังนี้ (1) เพื่อพบและยึดสิ่งของซึ่งจะเป็นพยานหลักฐานประกอบการสอบสวน (2) เพื่อพบและยึดสิ่งของซึ่งมีไว้เป็นความผิด...ฯลฯ... ลักษณะ 5 จับ ขัง จำคุก ค้น ปล่อยชั่วคราว • มาตรา 78 พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจจะจับผู้ใดโดยไม่มีหมายจับนั้นไม่ได้ เว้นแต่ (1) เมื่อบุคคลนั้นได้กระทำความผิดซึ่งหน้าดังบัญญัติไว้ในมาตรา 80 - มาตรา 80 ที่เรียกว่าความผิดซึ่งหน้าได้แก่ความผิดซึ่งเห็นกำลังกระทำ...
การจับของราษฎร • ปกติราษฎรจะจับใครไม่ได้ ที่จับได้เป็นข้อยกเว้นของกฎหมาย • มาตรา 79 ราษฎรจะจับผู้อื่นไม่ได้ เว้นแต่ จะเข้าอยู่ในเกณฑ์แห่งมาตรา 82 หรือผู้นั้นกระทำความผิดซึ่งหน้าและความผิดนั้นได้ระบุไว้ในบัญชีท้ายประมวลกฎหมายนี้ • มาตรา 82 เจ้าพนักงานผู้จัดการตามหมายจับจะขอความช่วยเหลือจากบุคคลใดใกล้เคียงเพื่อจัดการตามหมายจับนั้นก็ได้...ฯลฯ..
หน้าที่ของผู้จับหลังจากจับกุมแล้วหน้าที่ของผู้จับหลังจากจับกุมแล้ว • มาตรา 83 ในการจับนั้นเจ้าพนักงานหรือราษฎรผู้จับต้องแจ้งแก่ผู้ที่จะถูกจับว่าเขาต้องถูกจับและสั่งให้ผู้ถูกจับไปยังที่ทำการของพนักงานสอบสวนแห่งท้องที่ที่ถูกจับพร้อมด้วยผู้จับ...แต่ถ้าจำเป็นก็ให้จับตัวไป • มาตรา 84 ผู้ทำการจับต้องเอาตัวผู้ถูกจับไปยังที่ทำการของพนักงานสอบสวนแห่งท้องที่ที่ถูกจับทันที และส่งตัวผู้ถูกจับแก่พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจของที่ทำการของพนักงานสอบสวน...ฯลฯ...
การควบคุมผู้ถูกจับ • มาตรา 86 ห้ามมิให้ใช้วิธีควบคุมผู้ถูกจับเกินกว่าที่จำเป็นเพื่อป้องกันไม่ให้เขาหลบหนีเท่านั้น • มาตรา 87 ห้ามมิให้ควบคุมผู้ถูกจับไว้เกินกว่าจำเป็นตามพฤติการณ์แห่งคดี และในคดีความผิดลหุโทษจะควบคุมผู้ถูกจับไว้ได้เท่าเวลาที่จะถามคำให้การ และที่จะรู้ตัวว่าเป็นใคร และที่อยู่ของเขาอยู่ที่ไหนเท่านั้น...
หมวด 2 ค้น • มาตรา 92 ห้ามมิให้ค้นในที่รโหฐานโดยไม่มีหมายค้นหรือคำสั่งของศาล เว้นแต่พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจเป็นผู้ค้นและในกรณีดังต่อไปนี้...ฯลฯ... (2) เมื่อปรากฏความผิดซึ่งหน้ากำลังกระทำลงในที่รโหฐาน... (4) เมื่อมีพยานหลักฐานตามสมควรว่าสิ่งของที่มีไว้เป็นความผิด.......ได้ซ่อนหรืออยู่ในนั้น ประกอบกับทั้งต้องมีเหตุอันควรเชื่อว่าเนื่องจากเนิ่นช้ากว่าจะเอาหมายค้นมาได้สิ่งของนั้นจะถูกโยกย้ายหรือทำลายเสียก่อน
อำนาจค้นตามหมายค้น - มาตรา 94 ให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจที่ทำการค้นสั่งให้เจ้าของหรือคนที่อยู่ในที่ถูกค้นให้ยอมให้เข้าไปโดยมิหวงห้าม อีกทั้งให้ความสะดวกตามสมควร อีกทั้งให้พนักงานผู้นั้นแสดงหมาย/ ถ้าค้นโดยไม่มีหมายให้แสดงตำแหน่ง และถ้าเจ้าของ...ไม่ยินยอมให้เข้าไป เจ้าพนักงานมีอำนาจใช้กำลังเพื่อเข้าไป ในกรณีจำเป็นจะเปิดหรือทำลายประตูบ้าน ประตูเรือน หน้าต่าง รั้วหรือสิ่งกีดขวางอย่างอื่นทำนองเดียวกันนั้นก็ได้
ค้นไปพบความผิดซึ่งหน้าค้นไปพบความผิดซึ่งหน้า • มาตรา 98 การค้นในที่รโหฐานนั้นจะค้นได้แต่เฉพาะเพื่อหาตัวคนหรือสิ่งของที่ต้องการค้นเท่านั้น แต่มีข้อยกเว้นดังนี้ (1) ในกรณีที่ค้นหาสิ่งของโดยไม่จำกัดสิ่ง เจ้าพนักงานผู้ค้นมีอำนาจยึดสิ่งของใดๆ ซึ่งน่าจะใช้เป็นพยานหลักฐานเพื่อเป็นประโยชน์หรือยันผู้ต้องหาหรือจำเลยได้ (2) เจ้าพนักงานซึ่งทำการค้นมีอำนาจจับบุคคลอื่นหรือสิ่งของอื่นในที่ค้นนั้นได้เมื่อมีหมายอีกต่างหาก หรือในกรณีความผิดซึ่งหน้า
ภาค 2 สอบสวน ลักษณะ 1 หลักทั่วไป • มาตรา 121 พนักงานสอบสวนมีอำนาจสอบสวนคดีอาญาทั่วไป และถ้าเป็นคดีความผิดต่อส่วนตัวห้ามมิให้ทำการสอบสวน เว้นแต่ จะมีคำร้องทุกข์ตามระเบียบ • มาตรา 126 ผู้ร้องทุกข์จะถอนคำร้องทุกข์...เสียเมื่อใดก็ได้ และการถอนเช่นนั้น ย่อมไม่ตัดอำนาจพนักงานสอบสวนที่จะสอบสวน... ลักษณะ 2 การสอบสวน หมวด 1 การสอบสวนสามัญ - มาตรา 130, 131 ให้เริ่มการสอบสวนโดยมิชักช้า จะทำการในที่ใด เวลาใดแล้วแต่จะเห็นสมควร โดยผู้ต้องหาไม่จำเป็นต้นอยู่ด้วย และให้พนักงานสอบสวนรวบรวมหลักฐานทุกชนิดที่สามารถจะทำได้ เพื่อจะทราบข้อเท็จจริงและพฤติการณ์ต่างๆอันเกี่ยวกับความผิดที่ถูกกล่าวหา...
ภาค 3 วิธีพิจารณาในศาลชั้นต้น • ลักษณะ 1 ฟ้องคดีอาญาและไต่สวนมูลฟ้อง • มาตรา 157 การฟ้องคดีอาญาให้ยื่นต่อศาลใดศาลหนึ่งที่มีอำนาจ... ลักษณะ 2 การพิจารณา • มาตรา 172 การพิจารณาและสืบพยานในศาลให้ทำโดยเปิดเผยต่อหน้าจำเลย เว้นแต่ บัญญัติไว้เป็นอย่างอื่น....
ลักษณะ 3 คำพิพากษาและคำสั่ง • มาตรา 182 ให้อ่านคำพิพากษา...ในศาลโดยเปิดเผยในวันเสร็จการพิจารณาหรือภายในสามวันนับแต่วันเสร็จคดี ถ้ามีเหตุสมควรจะเลื่อนไปอ่านวันอื่นก็ได้ - มาตรา 185 ถ้าศาลเห็นว่าจำเลยมิได้กระทำผิด การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดก็ดี คดีขาดอายุความก็ดี มีเหตุตามกฎหมายที่จำเลยไม่ต้องรับโทษก็ดี ให้ศาลยกฟ้องโจทก์ปล่อยจำเลยไป... เมื่อศาลเห็นว่าจำเลยได้กระทำผิดและไม่มีเหตุยกเว้นโทษ ให้ศาลลงโทษแก่จำเลยความความผิด
ภาค 4 อุทธรณ์และฎีกา • ลักษณะ 1 อุทธรณ์ หมวด 1 หลักทั่วไป • มาตรา 193 คดีอุทธรณ์คำพิพากษาหรือคำสั่งศาลชั้นต้นในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ให้อุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ เว้นแต่ จะถูกห้ามโดยกฎหมายนี้หรือกฎหมายอื่น • มาตรา 193 ทวิ ห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงในคดีซึ่งมีอัตราโทษอย่างสูงที่กฎหมายกำหนดไว้ให้จำคุกไม่เกินสามปีหรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท เว้นแต่...ฯลฯ... (4) จำเลยต้องคำพิพากษาให้ลงโทษปรับเกินกว่าหนึ่งพันบาท... - มาตรา 198 อุทธรณ์ ให้ยื่นต่อศาลชั้นต้นที่มีคำพิพากษาภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันอ่านคำพิพากษาให้คู่ความที่อุทธรณ์ฟัง
ลักษณะ 3 ฎีกา • หมวด 1 หลักทั่วไป - มาตรา 126... คู่ความมีอำนาจคัดค้านคำพิพากษาหรือคำสั่งศาลอุทธรณ์ภายในหนึ่งเดือนนับแต่วันอ่านคำพิพากษาหรือคำสั่งนั้นให้คู่ความฝ่ายที่ฎีกาฟัง...ฯลฯ...