กลุ่มที่ 1

1. ชนิดพันธุ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชป่าที่มีการลักลอบค้าชนิดพันธุ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชป่าที่มีการลักลอบค้า กลุ่มที่ 1

2. ชนิดพันธุ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชป่าที่มีการลักลอบค้าชนิดพันธุ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืชป่าที่มีการลักลอบค้า • สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม (ช้าง, เสือโคร่ง, เก้ง, กวาง, หมี, เสือดาว, ลิง, ลิ่นชวา, บ่าง, กระจง, ตุ่น) • นก (นกปรอดหัวโขน, นกกระติ๊ดขี้หมู, นกต่างประเทศ, ไก่ป่า, ไก่ฟ้า, นกยูง, นกเอี้ยงสาริกา) • สัตว์เลื้อยคลาน (เหี้ย, ตะกวด, เต่าปูรู, เต่าบก, เต่าน้ำ ,งูเห่า, งูจงอาง, งูสิง, งูสวยงาม, จระเข้, ตุ๊กแกป่า) • สัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก (กบ, เขียด) • ปลา (ปลาตะพัด, ปลาการ์ตูน, ปลาสวยงาม) • พืชป่า ( ไม้พะยูง, ไม้ชิงชัน, ไม้กฤษณา, ไม้สัก, ไม้ประดู่, กล้วยไม้ป่า,กระบองเพชรเห็ดป่า)

3. ลำดับความสำคัญของชนิดพันธุ์ที่พบว่ามีการลักลอบค้าลำดับความสำคัญของชนิดพันธุ์ที่พบว่ามีการลักลอบค้า

4. แนวทางป้องกันและความร่วมมือแนวทางป้องกันและความร่วมมือ 1. ทำความเข้าใจกับคนในท้องที่ให้เข้าใจถึงผลดีและผลเสียหรือผลกระทบจากการทำลายทรัพยากรธรรมชาติ • บังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด • แก้ไขบทลงโทษให้มีโทษปรับที่สูงขึ้น โดยการกำหนดอัตราโทษขั้นต่ำเอาไว้ และหากไม่มีเงินค่าปรับให้ยึดทรัพย์ ( อัตราโทษเกิน 5 ปี พนักงานเจ้าหน้าที่ต้องสืบประกอบ ซึ่งอาจทำให้เจ้าหน้าที่มีภาระที่เพิ่มขึ้น) • แก้ไขระเบียบให้รัฐสามารถใช้ประโยชน์จากของกลางได้ • ส่งเสริมด้านการเพาะเลี้ยงสัตว์ป่า และปลูกพืชป่าเศรษฐกิจ

5. แนวทางป้องกันและความร่วมมือแนวทางป้องกันและความร่วมมือ 6. ออกระเบียบเรื่องสินบนนำจับ ในกรณีคดีที่เกิดขึ้นภายในประเทศ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ (หมายเหตุ กรณีที่เป็นความผิดเกี่ยวกับการนำเข้า-ส่งออกให้กล่าวโทษตาม พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2469 เพิ่มเติม เนื่องจากตาม พ.ร.บ. ศุลกากร พ.ศ. 2469 ได้มีบทบัญญัติให้จ่ายสินบนรางวัลนำจับ) 7. แก้ไขกฎหมายให้สามารถริบอุปกรณ์ที่ใช้ในการกระทำความผิด เช่น รถยนต์ ( ณ ปัจจุบัน เรื่องกรรมสิทธิ์ตามกฎหมายแพ่งนั้น รถยนต์ที่มีการเช่าซื้อ และนำมาใช้ในการกระทำความผิดนั้น เป็นเรื่องยากที่จะให้ริบ) 8. ประชาสัมพันธ์ให้ผู้บริโภคเนื้อสัตว์ป่า ทราบถึงโรคระบาดของสัตว์และสารพิษที่ตกค้างในเนื้อสัตว์ป่า เช่น ฟอร์มาลีน 9. ปลูกและปลุกจิตสำนึกของเจ้าหน้าที่ ให้มีจิตใจรักในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ สัตว์ป่าและพืชป่า