310 likes | 527 Views
โครงการศึกษาข้อมูลท้องถิ่น. บ้าน พังคี ตำบลขามเรียน อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม. ประวัตความเป็นมา.
E N D
โครงการศึกษาข้อมูลท้องถิ่นโครงการศึกษาข้อมูลท้องถิ่น บ้านพังคี ตำบลขามเรียน อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม
ประวัตความเป็นมา เมื่อปี พ.ศ.2440 มีพ่อใหญ่หาญชนะ หนูแก้ว อพยพออกมาจากบ้านหนองบัวแปะ มาอยู่ที่หัวไร่ปลายนาของตนเอง ต่อมามีผู้อพยพเข้ามาเรื่อยๆ พ่อใหญ่หาญชนะ จึงมอบที่นาส่วนหนึ่งเป็นที่ลุ่มประมาณ 25 ไร่ มีต้นพังคีขนาด 10 เมตร วัดรอบลำต้น 3.15 เมตร ให้เป็นที่สาธารณะประโยชน์ ให้กับราษฎรผู้อาศัยอยู่ จำนวน 15 ครอบครัว เพื่อได้ใช้น้ำสำหรับอุปโภค บริโภค ส่วนด้านการปกครองรวมกันกับบ้านหนองบัวแปะ ซึ่งมีนางพรมมา ประภาสพงษ์ เป็นผู้ใหญ่บ้านดูแลความสุขของราษฎรที่อยู่ห่างไกลกันพอสมควร สภาพทั่วไปพื้นที่เป็นที่ราบเหมาะสำหรับทำการเกษตร มีหนองน้ำเรียกว่าหนองพังคี ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2516 ได้ขอแยกหมู่บ้านใหม่ มีจำนวน 27 ครัวเรือน ใช้ชื่อว่าบ้านพังคี และได้เลือกนางพา พิมภาสร้อย เป็นผู้ใหญ่บ้านคนแรก ต่อมา ปี 2533 ได้เลือกตั้งนายสง่า โคตรภูมี แทนและครบวาระ 60 ปี วันที่ 11 เม.ย. 2549 และ ได้เลือกผู้ใหญ่บ้านคนใหม่ คือ นายดวงสมพงษ์ หลุนบูชา และดำรงตำแหน่งจนถึงทุกวันนี้
สถานที่ตั้ง บ้านพังคี หมู่ที่ 9 ตำบลขามเรียน อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม ตั้งอยู่ทางทิศใต้ของ อำเภอยางสีสุราช ห่างจากตัวอำเภอยางสีสุราช 9 กิโลเมตร อยู่ห่างจากองค์การบริหารส่วนตำบลขามเรียนไปทางทิศตะวันออก เป็นระยะทาง 100 เมตร ทิศเหนือ ติดต่อกับ บ้านหนองเหล็ก ตำบลดงเมือง อำเภอยางสีสุราช ทิศใต้ ติดต่อกับ บ้านหนองบัวแปะ ตำบลขามเรียน ทิศตะวันออก ติดต่อกับ บ้านหนองบัวน้อย ตำบลขามเรียน ทิศตะวันตก ติดต่อกับ บ้านสร้างแซ่ง ตำบลขามเรียน
แหล่งทรัพยากรชุมชน บ้านพังคีมีแหล่งน้ำธรรมชาติ 1 แห่ง คือ หนองพังคี อยู่ทางทิศตะวันตกของหมู่บ้านเนื้อที่ 25 ไร่ และมีแหล่งน้ำที่สร้างขึ้น คือ บ่อบาดาลมีอยู่ 2 แห่ง อยู่ภายในหมู่บ้านปัจจุบันใช้การไม่ได้ โอ่งแดง จำนวน 126 ใบ ขนาดบรรจุประมาณ 1,500 ลิตร โอ่งมังกร จำนวน 105 ใบ ขนาดบรรจุประมาณ 130 ลิตร และถังน้ำ คสล. จำนวน 1 แห่ง ขนาดบรรจุประมาณ 20,000 ลิตร
สภาพเศรษฐกิจ อาชีพเกษตรกร ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพทำนาปี ปลูกข้าวหอมมะลิ และข้าวเหนียว มีพื้นที่ทำนา 714 ไร่ อาชีพเลี้ยงสัตว์ เป็นอาชีพที่ทำกันมาแทบทุกครัวเรือน เช่น เลี้ยงโค-กระบือ เป็ด ไก่ กบ ปลา สุร เลี้ยงเพื่อจำหน่าย และบริโภคในครัวเรือน เป็นอาชีพที่อยู่คั่นมากับอาชีพการเกษตร นับตั้งแต่บรรพบุรุษเป็นต้นมา ส่วนหนึ่งทำสวนปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ทอผ้าไหมพื้นเมือง และขายเส้นไหม ขายดักแด้ ทั้งทำส่วนตัวและรวมกลุ่ม ประชาชนบางส่วนไปทำงานรับจ้างในกรุงเทพมหานคร หรือต่างจังหวัดและต่างประเทศ งานโรงงาน งานก่อสร้าง และงานช่างฝีมือต่าง ๆ
วัฒนธรรม บ้านพังคี หมูที่ 9 เป็นสังคมเกษตรกรรมทำนาเป็นอาชีพหลักประชาชนส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธควบคู่กับการนับถือผีวิญญาณ มีการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ มากมายทั้งพิธีกรรมความเชื่อในชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายความเชื่อเกี่ยวกับศาสนาพุทธในรอบปีที่เรียกกันทั่วไปว่า ฮีต 12 มีการจัดงานประเพณีประจำเดือน
ขนบธรรมเนียมประเพณี เดือนอ้าย ทำบุญเข้ากรรม เดือนยี่ ทำบุญคูณลาน เดือนสาม บุญข้าวจี่ เดือนสี่ บุญพระเวส เดือนห้า บุญสงกรานต์ เดือนหก บุญบั้งไฟ เดือนเจ็ด บุญเบิกบ้าน เดือนแปด บุญข้าวพรรษา เดือนเก้า บุญข้าวประดับดิน เดือนสิบ บุญข้าวสาก เดือนสิบเอ็ด บุญกระถิน เดือนสิบสอง ลอยกระทง
สถานที่สำคัญของหมู่บ้านสถานที่สำคัญของหมู่บ้าน รูป วัดบ้านพังคี
ปราชญ์ชาวบ้าน คุณตาทองพูลเชาระกำ อายุ64ปี เป็นหมอชาวบ้านรักษาด้วยวิธีการเป่าคาถา รักษาได้หลายอย่าง เช่น งูสวัด คางทูม ก้างติดคอ ขาหักแขนหัก เป็นต้น ก่อนจะมารักษาต้อง ยกครูก่อน คือ ขันธ์ห้า กับเงินหกสลึง ถ้าไม่สะดวกที่จะเข้ามารักษาก็สามารถเป่าโดยโทรมาบอก ชื่อและวันเกิด ได้
อาชีพ บ้านพังคี มีอาชีพหลัก คือ ทำนาและอาชีพเสริม คือ ตกแต่งพลอย เจียระไนพลอย ปลูกหม่อนเลี้ยงไหม รับจ้างทั่วไป เลี้ยงโค กระบือ ไก่ เป็ด สุกร กบและปลา ซึ่งเลี้ยงเอาไว้ขายเพื่อเป็นรายได้เสริมและเอาไว้บริโภคในครัวเรือนเป็นบางส่วน หลังฤดูเก็บเกี่ยวก็เจียระไนพลอยทั้งในชุมชนและไปทำงานที่ต่างจังหวัด
การตกแต่งไนพลอย การตกแต่งพลอยของ นายทรงพล และนางสังวาร บุตรโคตร บ้านเลขที่ 45 บ้านพังคี หมู่ 9 ตำบลขามเรียน อำเภอยางสีสุราช จังหวัดมหาสารคาม เดิมเคยไปรับจ้างทำเจียระไนพลอยที่จังหวัดจันทบุรี และได้ทำงานจนเป็นที่วางใจของนายจ้าง จึงได้ให้นำพลอยมาทำที่บ้านโดยมีพ่อค้าคนกลางจะมารับละมาส่งพลอยที่บ้านรายได้เฉลี่ย ต่อวัน ประมาณ 600 บาท
อุปกรณ์ในการตกแต่งพลอยอุปกรณ์ในการตกแต่งพลอย
1. แพน อุปกรณ์ในตกแต่งพลอย
1.นำแชลแลคมาติดกับไม้ทวนเพื่อจะนำไปติดกับเม็ดพลอย1.นำแชลแลคมาติดกับไม้ทวนเพื่อจะนำไปติดกับเม็ดพลอย
2.เอาเม็ดพลอยใส่ตะแกรงแล้วนำมาเผาบนตะเกียงนำไม้ทวนที่ติดกับแชลแลคไว้แล้วมาติดกับเม็ดพลอย2.เอาเม็ดพลอยใส่ตะแกรงแล้วนำมาเผาบนตะเกียงนำไม้ทวนที่ติดกับแชลแลคไว้แล้วมาติดกับเม็ดพลอย
3.เมื่อติดเม็ดพลอยแล้วก็นำมาตกแต่งขนาดและรูปร่างพลอยโดยการใช้เครื่องตกแต่ง3.เมื่อติดเม็ดพลอยแล้วก็นำมาตกแต่งขนาดและรูปร่างพลอยโดยการใช้เครื่องตกแต่ง
4.เมื่อตกแต่งขนาดรูปร่างของพลอยเสร็จแล้วก็นำพลอยมาล้างโดยเทแอลกอฮอล์ลงในภาชนะใส่พลอยเป็นขั้นตอนสุดท้าย4.เมื่อตกแต่งขนาดรูปร่างของพลอยเสร็จแล้วก็นำพลอยมาล้างโดยเทแอลกอฮอล์ลงในภาชนะใส่พลอยเป็นขั้นตอนสุดท้าย
นางสังวาร บุตรโครตสมาชิคกลุ่มแตกแต่งพลอยบ้านพังคี ผู้ให้สัมภาษณ์ นายทองพูลเชาระกำ ปราชญ์ชาวบ้านบ้าพังคี
นายตันติกร ดอนเหนือ 524312110