570 likes | 760 Views
การจัดการสวนป่า (สวนไม้) อย่างยั่งยืน. หัวข้อบรรยายและบทปฏิบัติการ. 1. หลักการจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างมีส่วนร่วม หลักการจัดการทรัพยากรป่าไม้ และการจัดการอย่างมีส่วนร่วม 2. การมีส่วน ร่วม ของประชาชน 3. ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อการจัดการสวนไม้อย่าง ยั่งยืน และ
E N D
การจัดการสวนป่า (สวนไม้) อย่างยั่งยืน
หัวข้อบรรยายและบทปฏิบัติการหัวข้อบรรยายและบทปฏิบัติการ • 1. หลักการจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างมีส่วนร่วม • หลักการจัดการทรัพยากรป่าไม้และการจัดการอย่างมีส่วนร่วม • 2. การมีส่วนร่วมของประชาชน • 3. ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อการจัดการสวนไม้อย่างยั่งยืน และ • บทปฏิบัติการการวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
1.1 หลักการจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างมีส่วนร่วม • หลักการจัดการป่าไม้ • (Principle of Forest Management, FM) • “การประยุกต์เทคนิค (techniques) วิธีการ (method) ทางด้านวิทยาศาสตร์ (science) ในการบริหารจัดการต้นไม้ (tree) และหมู่ไม้ (plantcommunity) เพื่อให้ผลผลิตในรูปเนื้อไม้ (ไม้ซุง) เพื่อการใช้ประโยชน์อย่างต่อเนื่องและยาวนาน” • เป็นแนวคิดการจัดการในยุคเก่า • ผู้ดำเนินการส่วนใหญ่ ได้แก่ เจ้าหน้าที่ของรัฐ • มีการพัฒนาแนวคิดไปสู่การจัดการทรัพยากรป่าไม้
หลักการจัดการทรัพยากรป่าไม้ • (Principle of Forest Resources Management, FRM) • “กระบวนการ (process) ประยุกต์เทคนิควิธีการทางด้านวิทยาศาสตร์ในบริหารจัดการ (management) พืช (flora) และสัตว์ (fauna) รวมไปถึงดิน น้ำ อากาศ และทรัพยากรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยประโยชน์แก่สังคมภายใต้หลักการอนุรักษ์ (conservation)” • เป็นการพัฒนาแนวคิดให้กว้างขวางมากยิ่งขึ้น • ผู้ดำเนินการส่วนใหญ่ก็ยังเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ • มีการพัฒนาแนวคิดไปสู่การจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างมีส่วนร่วม
การจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างมีส่วนร่วมการจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างมีส่วนร่วม • (Participatory Forest Resources Management, PFRM) • “กระบวนการ (process) ทำงานร่วมกัน (collaboration) ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (stakeholder) ในการประยุกต์เทคนิควิธีการทั้งทางด้านวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์และแขนงอื่นๆ ในบริหารจัดการ (management) พืช (flora) และสัตว์ (fauna) รวมไปถึงดิน น้ำ อากาศ และทรัพยากรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่ออำนวยประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อมอย่างยั่งยืน (sustainable) ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ (economic) สังคม (social) และสิ่งแวดล้อม (environment)” • เป็นการพัฒนาแนวคิดการจัดการเพื่อการทำงานร่วมกัน • ให้ความสำคัญกับปฏิสัมพันธ์ (interaction) ของ stakeholder • กำหนดเป้าหมายสู่ความยั่งยืน คือ การมีใช้ตลอดเวลา และสม่ำเสมอ
การป่าไม้ชุมชน • (Community forestry / Social forestry / Joint management) • “การจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างมีส่วนร่วมโดยเน้นการทำงานของชุมชนเพื่อชุมชนในรูปของคณะกรรมการ (committee) โดยมีเจ้าหน้าที่ของรัฐให้การสนับสนุนและให้คำปรึกษา ทั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนให้ดีขึ้น (increasing livelihood / well being) ควบคู่กับการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ (conservation)” • ใกล้เคียงกับแนวคิดการจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างมีส่วนร่วม • เน้นการทำงานร่วมกันของชุมชนให้เกิดเป็นรูปธรรม • คือลักษณะของการกระจายอำนาจสู่ชุมชน (decentralization) • คำนึงถึงหลักการธรรมาภิบาล (governance) : โปร่งใส ยุติธรรม ตรวจสอบได้ และมีส่วนร่วม
การป่าไม้เอกชน(สวนป่าเพื่อ เศรษฐกิจ และ/หรือ อนุรักษ์) • (Private Forestry) • “การจัดการทรัพยากรป่าไม้ (forest resources management) ในที่ดินกรรมสิทธิ์ของเอกชน (private land) โดยเอกชน เพื่อเอกชน โดยมีเป้าหมายอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง เช่น เพื่อเศรษฐกิจ เพื่อสังคม หรือเพื่อสิ่งแวดล้อม” • คือแนวโน้มการป่าไม้ในอนาคต • เอกชนเป็นเจ้าของป่าดังเช่นประเทศที่พัฒนาแล้ว (Developed Countries) • เกิดอาชีพนักการป่าไม้ (forester) ในอนาคต
พัฒนาการของแนวคิดการจัดการป่าไม้พัฒนาการของแนวคิดการจัดการป่าไม้ • “จากอดีตสู่ปัจจุบันและแนวโน้มในอนาคต” อนาคต ปัจจุบัน อดีต
ขั้นตอนการจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างมีส่วนร่วมขั้นตอนการจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างมีส่วนร่วม PFRM
ทรัพยากรที่เกี่ยวข้องกับการจัดการทรัพยากรป่าไม้ ; • Goal is “Sustainability of economic, social and environment; การมีใช้อย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอทั้งในด้านคุณภาพและปริมาณตลอดทั้งความเข้มแข็งของชุมชนและการปรับปรุงสิ่งแวดล้อม” การจัดการ ทรัพยากรป่าไม้ อย่างมีส่วนร่วม
หัวข้อบรรยายและบทปฏิบัติการหัวข้อบรรยายและบทปฏิบัติการ • 1. หลักการจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างมีส่วนร่วม • หลักการจัดการทรัพยากรป่าไม้และการจัดการอย่างมีส่วนร่วม • 2. การมีส่วนร่วมของประชาชน • 3. ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อการจัดการสวนไม้อย่างยั่งยืน และ • บทปฏิบัติการการวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
2. การมีส่วนร่วมของประชาชน (People’s Participation); • Characteristic of activities (ลักษณะ) • Duration : always long-term of participate (เวลา) • Collaboration / Coordination (ทำงาน/ประสาน ร่วมกัน) • Related multi-stakeholder (ความสัมพันธ์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย) • Sharing resources; knowledge/skill/technology/cost & benefit (การแลกเปลี่ยน / แบ่งปัน)
Participation Dimension (มิติของการมีส่วนร่วม)
ดังนั้น ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียคือองค์ประกอบที่สำคัญของการมีส่วนร่วม People’s participation (การมีส่วนร่วมของประชาชน)
Participation is not easy; “เพราะต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน, ปฏิสัมพันธ์ในเชิงบวก (positive interaction), สร้างความเข้าใจที่ตรงกัน (consensus-building), การตัดสินใจร่วมกัน (decision-making), sharing resources and conflict resolution (แลกเปลี่ยน แบ่งปัน และหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง).”
การมีส่วนร่วมคือวิธีการเปลี่ยนประชาชนให้เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและผู้กล้าตัดสินใจ;การมีส่วนร่วมคือวิธีการเปลี่ยนประชาชนให้เป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและผู้กล้าตัดสินใจ; • การมีส่วนร่วมจะไม่เลือกปฏิบัติ เปิดโอกาสให้ทุกคนมีโอกาสที่เท่ากัน; • ประชาชนได้ร่วมงานอย่างเป็นรูปธรรม; • การมีส่วนร่วมคือความจำเป็นที่แสดงถึงความห่วงใยต่อทรัพยากรป่าไม้;
PFRM ควรเข้าใจผู้ร่วมกระบวนการในเรื่อง..; • In what people know Knowledge (ความรู้) • In what they think Attitude (ทัศนคติ) • In what they can do Skill (ทักษะ) • In what they actually do Motivation ( แรงกระตุ้น/แรงดลใจ)
Physiological or Basic needs Security or Safety needs Belonging or Affection needs Esteem or Ego needs Self- Actualisation needs Motivation of rural people (A.H. Maslow’s hierarchy of needs) • แรงกระตุ้นคือบางสิ่งบางอย่างที่ผลักดันไปสู่การได้รับซึ่งเป้าหมาย; • ประชาชนพิจารณาความสำคัญในแต่ละขั้นตอนของการจัดการแตกต่างกัน; • เพราะประชาชนมีความต้องการแตกต่างกัน; • A.H. Maslow has defined a hierarchy of human needs;
Adoption การจัดการที่ดีต้องได้รับการยอมรับจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง Trial Evaluation กระบวนการยอมรับของมนุษย์ (Human Adoption Process) Interest Awareness Everett M. Roger
PFRM is a continuous Process ความต้องการจะเป็น? Desirable situation (increase production) Gap = needs and interest of the community Present situation What is ?
Innovators 2.5% Early adopters 13.5% Early majority 34% Last majority 34% Laggards 13.5% Dogmatists 2.5% หัวไวใจสู้ เรียนรู้ว่องไว รอดูท่าที ศึกษารอบคอบ ชอบพะวงสงสัย ไม่ใคร่ยอมรับ ชอบดื้อรั้น
การมีส่วนร่วมของประชาชนการมีส่วนร่วมของประชาชน (People’s participation) • การมีส่วนร่วมเกี่ยวข้องกับประชาชน หรือ multi-stakeholder; • ประชาชนคือศูนย์ของการจัดการและการใช้ประโยชน์ทรัพยากรป่าไม้ (use and management of forest resources); • ประชาชนใช้ทรัพยากรป่าไม้เพื่อชีวิตความเป็นอยู่และความสบาย (livelihood and luxury); • ประชาชนต้องการทรัพยากรเพื่อตอบสนองความต้องการ; • ดังนั้น การมีส่วนร่วมของประชาชนจึงจำเป็นต้องเกิดขึ้นก่อนขั้นตอนของการจัดการ (people’s participation is a prerequisite PFRM).
การจัดการทรัพยากรป่าไม้ โดยใช้ชุมชนเป็นฐาน / บนพื้นฐานของชุมชน (community-based) คือรูปแบบหนึ่งของการมีส่วนร่วมของประชาชน (people’s participation FORM); Community-based forest resources management, CBFRM “CBFRMคือกลยุทธ์ (strategy) ของการจัดการที่นำมาซึ่งการพัฒนาทรัพยากรป่าไม้โดยให้ประชาชนเป็นศูนย์กลาง (people-centered development) ที่มุ่งเน้นกระบวนการตัดสินใจ (decision-making) โดยคำนึงถึงการใช้ประโยชน์ทรัพยากรป่าไม้อย่างยั่งยืน (sustainable use of forest resources) ตามแนวทางของประชาชนในชุมชน.” (B. Badadion, 1996) Community-based forest plantation management, CBFPM
ขั้นตอนการดำเนินการของ CBFPM มี 7 ขั้นตอน ดังนี้ • เลือกพื้นที่และทำงานร่วมกันกับชุมชน (Selection of site and collaborators; • ประเมิน/ตรวจสอบชุมชน (identify community) • วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของ stakeholder.
2. เสริมสร้างศักยภาพชุมชน (capacity-building); • ฝึกอบรมคณะทำงานเพื่อติดตามการมีส่วนร่วมของประชาชน (train collaborators); • ฝึกอบรมวิธีการจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างยั่งยืน (train in sustainable approaches. • 3. สร้างวิสัยทัศน์ให้กับชุมชน (Community visioning); • จัดกระบวนการกลุ่มเพื่อกำหนดวิสัยทัศน์ (vision) ของการจัดการร่วมกันระหว่างผู้นำชุมชน หน่วยงานรัฐ กลุ่มสตรี และเยาวชน.
4. ทำความเข้าใจกับสถานการณ์ปัจจุบัน (Understanding the situation); • ประเมินสถานการณ์ปัจจุบันของท้องถิ่นโดยการวิธีการประเมินอย่างมีส่วนร่วม (participatory appraisal method); • ศึกษาแผน นโยบาย ของรัฐบาล หรืออื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง. • 5. วางแผนอย่างมีส่วนร่วม (participatory planning); • ช่วยเหลือกลุ่มผู้นำชุมชนเพื่อกำหนดแผน; • ปรับแก้ ตรวจสอบความถูกต้องของแผนโดยการทำประชาวิจารณ์กับกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียมากที่สุดเท่าที่จะทำได้เช่น กลุ่มสตรี (women group) ผู้สูงวัย (elder group) เยาวชน (youth) คนพื้นเมือง (indigenous people) etc.
6. ดำเนินการตามแผน (implementation); • ทำงานร่วมกันกับกลุ่ม (collaborating group); • พยายามทำงานร่วมกับกลุ่มชุมชนท้องถิ่นมากที่สุดเท่าที่จะทำได้; • สร้างความมั่นใจให้ได้ว่าความเป็นเจ้าของโครงการถูกถ่ายโอนไปเป็นของชุมชน (ownership of the project is transferred to the community). • 7. การติดตามและประเมินผลอย่างมีส่วนร่วม (participatory monitoring and evaluation); • ดำเนินการติดตามอย่างสม่ำเสมอ; • สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้ร่วมโครงการอย่างสม่ำเสมอ เพื่อประเมินความสำเร็จหรือล้มเหลว(successes or fail).
หัวข้อบรรยายและบทปฏิบัติการหัวข้อบรรยายและบทปฏิบัติการ • 1. หลักการจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างมีส่วนร่วม • หลักการจัดการทรัพยากรป่าไม้และการจัดการอย่างมีส่วนร่วม • 2. การมีส่วนร่วมของประชาชน • 3. ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อการจัดการสวนไม้อย่างยั่งยืน และ • บทปฏิบัติการการวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย
สถานการณ์ปัจจุบันมีหลากหลายแนวคิดและการปฏิบัติต่อทรัพยากรป่าไม้ โดยส่วนใหญ่ประสบความล้มเหลวโดยเฉพาะแนวทางการทำงานจากบนสู่ล่าง หรือ เจ้านายกับลูกน้อง (top-down policy) ; • กระแสและแนวโน้มความต้องการของการจัดการอย่างมีส่วนร่วมมีบทบาทมากยิ่งขึ้น (Espaldon, Arances and Cubillas 2001 (พ.ศ. 2544)) ;
การจัดการทรัพยากรป่าไม้จึงจำเป็นต้องพิจรณาบทบาทของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระดับท้องถิ่น (local organizations) หน่วยงานของรัฐ (government organizations) เอกชน (private organizations) และ อื่นๆ (otherorganizations); • นี่คือเหตุผลที่การจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างมีส่วนร่วมมีความสำคัญขึ้นเรื่อยๆ; • การจัดการทรัพยากรป่าไม้อย่างมีส่วนร่วม (PFRM) เป็นการจัดการที่รวมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งที่ทำหน้าที่ผู้ปฏิบัติ (actors) และผู้ใช้ประโยชน์ (users) (Ashby 2003)
ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อการจัดการสวนไม้อย่างยั่งยืนผู้มีส่วนได้ส่วนเสียต่อการจัดการสวนไม้อย่างยั่งยืน • !! ทำไมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจึงสำคัญในการจัดการ // การมีส่วนร่วม ? • เป็นผู้ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ (experience) ความเข้าใจที่ลึกซึ้ง (insight) ตามลักษณะของงานว่าควรหรือไม่ควร เหมาะสมหรือไม่เหมาะสม; • วางแผนร่วมกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย สามารถเพิ่มคำมั่นสัญญา (commitment) ความเชื่อมั่น (confidence) ให้กับโครงการ; • ทำงานกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสามารถช่วยพัฒนาเทคนิค (techniques) และทักษะ (skill) การจัดการเพื่อสร้างโอกาสการค้าในอนาคต;
ทำงานร่วมกับพวกเขา (stakeholder) ช่วยเพิ่มทรัพยากรที่สามารถใช้กับโครงการได้(resources available); • ทำงานร่วมกับประชาชนในท้องถิ่น (local people) คือการนำมาซึ่งการเรียนรู้ของชุมชน ‘social learning’ เพื่อการวางแผนและแบ่งปันผลประโยชน์ (planning and beneficiaries. (World Bank, 1966). Etc.
What is stakeholder ?? • ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย คือ บุคคล / กลุ่มคน / หน่วยงาน / องค์กร / ที่เป็นทางการหรือไม่เป็นทางการ หรือผู้ที่ได้รับผลประโยชน์/ผลกระทบ หรือผู้ที่มีอำนาจในการตัดสินใจในสถานการณ์ของประเด็นและปัญหาเดียวกันเช่น โครงการจัดการสวนไม้อย่างยั่งยืน Siam Forestry.. • ในด้านการป่าไม้ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย อาจกล่าวได้ว่าเป็นกลุ่มคนที่มีความหลากหลายตั้งแต่คนที่อาศัยอยู่ในป่า (forest dwellers) คนเก็บหาของป่า (NTFPs collectors) ชุมชนต้นน้ำ (upstream community) ชุมชนปลายน้ำ (downstream community) หน่วยงานรัฐ เอกชน NGOs รวมไปถึงกลุ่มเยาวชนที่เป็นผู้สานแผนและนโยบายต่อไปในอนาคต (future generation) หรือ ผู้ที่เกี่ยวข้องกับขั้นตอนการผลิตและการค้าของโครงการฯ
International/Global ระดับของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย Level of stakeholder National Provincial/Regional Local off-site Local on-site โครงการจัดการ สวนไม้อย่างยั่งยืน Forestry Project
ระดับของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียระดับของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย นานาชาติ / ชาติ / ภูมิภาค / และ ท้องถิ่น :
ระดับของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียระดับของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย นานาชาติ /ชาติ/ ภูมิภาค / และ ท้องถิ่น :
ระดับของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียระดับของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย นานาชาติ / ชาติ /ภูมิภาค/ และ ท้องถิ่น :
ระดับของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียระดับของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย นานาชาติ / ชาติ / ภูมิภาค / และ ท้องถิ่น:
What is Stakeholder Analysis ? “วิธีการ (approach) หรือกระบวนการให้ได้มาซึ่งความเข้าใจต่อความสัมพันธ์ ความสนใจ ของผู้ที่เกี่ยวข้องในระบบใดระบบหนึ่ง โดยการประเมินความคาดหวัง (respective) ผลประโยชน์ (benefits) ของกลุ่มคนที่มีต่อโครงการจัดการสวนไม้อย่างยั่งยืน (system)”
Stakeholder Analysis • มีอยู่หลายเทคนิควิธีการ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่ต้องการจะวิเคราะห์
บทปฏิบัติการการวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียบทปฏิบัติการการวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย กรณีโครงการจัดการสวนไม้อย่างยั่งยืน ขั้นตอนการทำบทปฏิบัติการ 1) แบ่งกลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มมีสมาชิกที่เป็นตัวแทนของแต่ละ stakeholder ในที่นี้อนุโลมให้กลุ่มละ 5-7 คน 2) ฟังคำอธิบายการดำเนินงาน 3) เตรียมอุปกรณ์ และ ปฏิบัติการ 4) นำเสนอรายงาน 5) สรุปและข้อเสนอแนะ
การวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้สวนเสีย กรณี โครงการจัดการสวนไม้อย่างยั่งยืน 1. สมมติว่าทุกท่าน ณ ที่นี้ มีความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการจัดการสวนไม้อย่างยั่งยืนเป็นอย่างดี 2. ให้แต่ละกลุ่มสนทนากันเพื่อค้นหาผู้มีส่วนได้ส่วนเสียและบทบาทหน้าที่.. ที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ และบันทึกรายชื่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในแต่ละระดับที่เกี่ยวข้อง ลงในตาราง (10 นาที)
3. สนทนาภายในกลุ่มเพื่อศึกษาความสัมพันธ์ ตามการเป็นพันธมิตร (alliance) ซึ่งกันและกันของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และบันทึกข้อมูลในตาราง (5 นาที)
4. สนทนาภายในกลุ่มเพื่อศึกษาความขัดแย้ง (conflict) ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และบันทึกข้อมูลในตาราง (5 นาที)
5. สนทนาภายในกลุ่ม เพื่อจัดเรียงผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตามกลุ่มของความสำคัญ (importance) และ อิทธิพล (influence) ของแต่ละผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในโครงการฯ และบันทึกข้อมูล (5 นาที) ความสำคัญ: คือผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีผลต่อการดำเนินโครงการฯ อิทธิพล: คือผู้มีส่วนได้สวนเสียที่มีผลต่อการตัดสินใจให้สามารถดำเนินโครงการได้ หรือ ไม่ได้
6. สนทนาภายในกลุ่ม เพื่อจำแนกผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตามระดับความเกี่ยวข้องในหัวข้อต่าง ที่เกี่ยวข้องกับโครงการฯ ดังนี้ • Pre-existing rights (PR) = สิทธิความเป็นเจ้าของที่ดิน • Dependency degree (D) = ระดับของการพึ่งพาโครงการฯ • Economic knowledge (EK) = การมีความรู้ด้านเศรษฐศาสตร์และการตลาด • Local knowledge Owner (LKO) = ความเป็นเจ้าของในภูมิปัญญาท้องถิ่น หรือ การมีทักษะ • Forest/Culture Integration (FC) = การปฏิบ้ติที่กลมกลืนกับวัฒนธรรมท้องถิ่น หรือ มีการจัดการสวนไม้อย่างสอดคล้อกับสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลง • Proximity (PX) =ระดับความเหมาะสมของการปฏิบัติตัวที่เอื้อประโยชน์ต่อโครงการ หรือ การให้ความร่วมมือกับโครงการ • Level of Trust (LT) = ระดับความไว้วางใจที่ได้รับ พิจารณาจากการได้รับการยอมรับจากชุมชน • ให้คะแนนในแต่ละหัวข้อข้างต้น เป็น 3 ระดับ ได้แก่ low (ต่ำ) medium (กลาง) และ high (สูง) โดยแทนค่าระดับด้วยคะแนน ดังนี้ low = 1 คะแนน medium = 2 คะแนน และ high = 3 คะแนน และบันทึกข้อมูลในตารางพร้อมคำนวณค่าเฉลี่ยในคอลัมม์สุดท้าย (10 นาที)