190 likes | 297 Views
สภาพปัญหาและการวางแผนแก้ไขปัญหาน้ำ พื้นที่โดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิ. โดย ปราโมทย์ ไม้กลัด นายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. ลักษณะทางกายภาพเป็นปัญหาสำคัญพื้นฐานของพื้นที่. พื้นที่โดยรอบสนามบิน 700 กม 2 เป็น พื้นที่ลุ่มความลาดเอียงน้อย ค่อนข้างแบนราบ
E N D
สภาพปัญหาและการวางแผนแก้ไขปัญหาน้ำ พื้นที่โดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิ โดย ปราโมทย์ ไม้กลัด นายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ลักษณะทางกายภาพเป็นปัญหาสำคัญพื้นฐานของพื้นที่ลักษณะทางกายภาพเป็นปัญหาสำคัญพื้นฐานของพื้นที่ • พื้นที่โดยรอบสนามบิน 700 กม2 เป็นพื้นที่ลุ่มความลาดเอียงน้อย ค่อนข้างแบนราบ • พื้นที่มีระดับพื้นดินต่ำ ... บางแห่งต่ำกว่าระดับน้ำทะเลปานกลาง • ย่านสนามบินและใกล้เคียงเป็นแอ่งกระทะเป็นที่พักรวมน้ำหลาก ... เป็น “แก้มลิง” ตามธรรมชาติ • ลักษณะดินเป็นดินเหนียวอ่อน ... ขณะนี้มีการทรุดตัวเกิดขึ้นทุกปี • เมื่อมีการขยายตัวของชุมชนและการพัฒนาพื้นที่อย่างรวดเร็วไม่เป็นระบบ ...เกิดภาวะน้ำท่วมขังมากขึ้น การจัดการน้ำหลากระบายออกจากพื้นที่มีความยากลำบากยิ่งขึ้น เกิดน้ำเน่าเสียกระจายไปทั่ว
ปัญหาเรื่องน้ำ • ปัญหาการขาดแคลนน้ำ • ปัญหาน้ำเน่าเสีย • ปัญหาน้ำท่วม
ปัญหาการขาดแคลนน้ำ • ประชาชนจำนวนมากยังใช้น้ำบาดาล ... เกิดแผ่นดินทรุด • ต้องการความชัดเจนเรื่องแผนและมาตรการก่อสร้างระบบน้ำประปาให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆโดยเร็ว • บริหารการจัดการน้ำเพื่อการเกษตรและเพื่อกิจกรรมอื่นๆให้พอเพียงในฤดูแล้ง
ปัญหาน้ำเน่าเสีย • ปัจจุบันพบว่ามีน้ำเน่าเสียขังแช่ตามคลองและแอ่งที่ลุ่มทั่วไปเพราะระบายน้ำออกทิ้งไปได้ไม่หมดเนื่องจากเป็นแอ่งกระทะ • ต้องการระบบบำบัดน้ำเสียในทุกพื้นที่ -- ย่านธุรกิจ ย่านอุตสาหกรรม และที่อยู่อาศัย • มิฉะนั้นจะเกิดปัญหาเหมือนกรุงเทพมหานครในขณะนี้
ปัญหาน้ำท่วม • เป็นปัญหาที่สำคัญที่สุด เกิดมากบ้างน้อยบ้างทุกปี • การระบายน้ำออกสู่อ่าวไทยมีประสิทธิภาพต่ำ เพราะคลอง ระบายน้ำมีความลาดเทน้อย หรือไม่มีความลาดเอียงเลย ตื้นเขิน ถูกบุกรุก มีสิ่งกีดขวาง
เหตุการณ์น้ำท่วมในอดีตเหตุการณ์น้ำท่วมในอดีต ในรอบ 25 ปีที่ผ่านมา กรุงเทพมหานครและปริมณฑล (บริเวณนครสุวรรณภูมิ และพื้นที่ต่อเนื่องใกล้เคียง) เกิดน้ำท่วมรุนแรง ได้รับความเดือดร้อนและสูญเสียมาก 4ปี • พ.ศ. 2523 ฝนตกชุกทั่วประเทศ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล น้ำท่วมขังนาน • พ.ศ. 2526 เกิดอุทกภัยสร้างความเสียหายในเขต กรุงเทพมหานครและปริมณฑลด้านตะวันออก เป็นบริเวณกว้าง สภาพน้ำท่วมรุนแรงกว่าปี 2523 (พ.ศ.2527 เริ่มโครงการบรรเทาอุทกภัยกรุงเทพมหานครและปริมณฑล อันเนื่องมาจากพระราชดำริ)
พ.ศ. 2533 พายุโซนร้อน “อีร่า” ก่อตัวในทะเลจีนใต้ ขึ้นฝั่ง เวียดนามเป็นพายุดีเปรสชั่น (4 ต.ค.)เข้าไทยที่ อุบลราชธานี พาดผ่านภาคกลาง เกิดฝนตกหนัก ที่กรุงเทพมหานคร และทุกจังหวัดภาคกลาง • พ.ศ. 2538 กรุงเทพมหานครและปริมณฑลเกิดปัญหาอุทกภัย อย่างหนักเพราะมีพายุดีเปรสชั่นเข้าประเทศไทย หลายลูก พื้นที่ลุ่มบริเวณจะสร้างนครสุวรรณภูมิ น้ำ ท่วมลึก 1-2 เมตร คลองธรรมชาติในเขตพื้นที่และเครื่องสูบน้ำขนาด ใหญ่จำนวนมากที่มีไม่สามารถสูบน้ำระบายออกสู่ อ่าวไทยให้หมดโดยเร็ว สภาพน้ำท่วมรุนแรงกว่าปี 2533
นอกเหนือจากปีต่างๆที่กล่าวข้างต้น พื้นที่ลุ่มบริเวณต่างๆ เกิดน้ำท่วมขังอยู่เป็นประจำทุกปีจนถึงปัจจุบัน แต่ไม่รุนแรงเหมือน 4 ปีข้างต้น ในอนาคตจะเกิดฝนตกหนัก ไม่ปีใดปีหนึ่ง ขึ้นอยู่กับธรรมชาติ
พระราชดำริเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมพระราชดำริเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาน้ำท่วม • พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงห่วงใยปัญหาอุทกภัยน้ำท่วมขังพื้นที่ด้านตะวันออกของกรุงเทพมหานคร ได้พระราชทานพระราชดำริในปี พ.ศ. 2523, 2526, 2533, 2534, 2538 และ 2546 ให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการแก้ไขด้วยวิธีการต่างๆ (รายละเอียดอยู่ในเอกสารประกอบการเสวนา) • ส่วนที่เกี่ยวข้องกับสนามบินสุวรรณภูมิ ได้พระราชทานพระราชดำริไว้ดังนี้
พ.ศ. 2534 “เนื่องจากการก่อสร้างสนามบินในบริเวณพื้นที่ลุ่มซึ่งเป็นแนวทางระบายน้ำลงสู่อ่าวไทยทางด้านตะวันออก จะมีผลกระทบต่อการระบายน้ำในเขตพื้นที่ปริมณฑลด้านตะวันออกของกรุงเทพมหานคร ควรทำการศึกษาเรื่องการรับน้ำและการระบายน้ำอย่างละเอียด โดยทำการศึกษาในเรื่องการรับน้ำและการระบายน้ำทั้งหมด ... ควรศึกษาเรื่องนี้ทั้งหมดเพื่อดำเนินการต่อไปให้เหมาะสม”
พ.ศ. 2546 “หลังจากที่สนามบินสุวรรณภูมิเปิดใช้งานแล้ว เพราะสนามบินสร้างปิดคลองระบายน้ำลงสู่อ่าวไทย รวม 3 คลองด้วยกัน ควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ... ดำเนินการแก้ไขป้องกันน้ำท่วมพื้นที่บริเวณโดยรอบสนามบินดังกล่าว”
ระบบระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในปัจจุบันระบบระบายน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในปัจจุบัน • ดำเนินการตามลำดับถึงปัจจุบัน ประกอบด้วย • คลองระบายน้ำคลองธรรมชาติหลายสายที่มี ซึ่งวางตัวอยู่ตามแนว เหนือ-ใต้ ตั้งแต่คลองแสนแสบ ถึงคลองชายทะเล ทำหน้าที่ลำเลียงน้ำหลากจากตอนบนลงมาเพื่อ ระบายออกเมื่อน้ำทะเลลดต่ำหรือสูบออกอ่าวไทย • ประตูระบายน้ำชลหารพิจิตร (ปากคลองด่าน) ระบายน้ำออกอ่าวไทยเมื่อน้ำทะเลลดต่ำ • สถานีสูบน้ำสร้างที่ถนนสุขุมวิท รวม 6 สถานี ติดตั้งเครื่องสูบ น้ำความสามารถสูบน้ำได้เครื่องละ 3 ลูกบาศก์เมตร ต่อวินาที รวม 87 เครื่อง
รวมความสามารถระบายน้ำออกสู่อ่าวไทยได้สูงสุดประมาณ 26 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน กรณีปี 2533 และ 2538 ใช้เวลาระบายน้ำออกหมดนานเกือบ 1 เดือน สาเหตุเพราะคลองต่างๆ ไม่สามารถลำเลียงน้ำลงมาได้ทัน ต้องหยุดเครื่องสูบน้ำเป็นระยะๆ น้ำจึงรวมกองอยู่ในที่ลุ่มแอ่งกระทะอยู่นาน ปรากฏให้เห็นทุกปี
มาตรการแก้ปัญหาน้ำท่วมที่รัฐจะดำเนินการมาตรการแก้ปัญหาน้ำท่วมที่รัฐจะดำเนินการ มีอยู่ 2 แผน • แผนเร่งด่วน-- มาตรการจัดการน้ำหลากและการระบายน้ำบริเวณพื้นที่นครสุวรรณภูมิและพื้นที่ลุ่มต่ำที่ต่อเนื่อง โดย • การขุดคลองระบายน้ำสายใหม่เชื่อมจากคลองสำโรงลงมาถึงคลองชายทะเล ยาว 10 กม. ก้นคลองกว้าง 48 ม. ที่ปลายคลองสร้างสถานีสูบน้ำ มีเครื่องสูบน้ำได้สูงสุด 100 ม3/วินาที หรือประมาณ 8.6 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อวัน สูบออกอ่าวไทย เพื่อการลดระดับน้ำที่คลองสำโรงโดยตรง • ติดตั้งระบบโทรมาตรอุทกวิทยาเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำหลากและการทำงานของเครื่องสูนน้ำ (กรมชลประทานดำเนินการประกวดราคาแล้ว ยังเริ่มงานก่อสร้างได้ไม่เต็มที่ อาจสร้างไม่แล้วเสร็จครบถ้วนก่อนฤดูน้ำหลากปี พ.ศ. 2552)
แผนระยะสั้น • ปรับปรุงท่อลอดถนนและสะพานที่ถนนบางนา-ตราดรวม 22 แห่ง เพื่อให้น้ำไหลผ่านลงคลองสำโรงได้สะดวก • ปรับปรุงขุดลอกคลองระบายน้ำ (คลองธรรมชาติ) ที่มีในเขตพื้นที่ทุกสาย • ปรับปรุงเครื่องสูบน้ำที่สถานีสูบน้ำต่างๆที่มีให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ความเห็นโดยสรุป • หลังการเปิดใช้สนามบินอย่างเป็นทางการ พื้นที่โดยรอบสนามบินย่อมมีการพัฒนาเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว • มาตรการแก้ไขปัญหาน้ำที่วางไว้ -- ยังไม่ครบถ้วน • โครงข่ายระบบระบายน้ำสายรองและสายย่อยของพื้นที่ทั่วไป ควรมีอย่างสมบูรณ์เชื่อมโยงกับระบบหลัก • งานแก้ไขปัญหาน้ำทั้งหมดเป็นงานพื้นฐานสำคัญของพื้นที่ รัฐต้องเร่งดำเนินการให้เสร็จโดยเร็ว -- ไม่ว่าจะมีการจัดตั้งเป็นนครสุวรรณภูมิเขตปกครองพิเศษหรือไม่ก็ตาม